เรื่องมันเริ่มเมื่อปีที่แล้วค่ะ เรากับเพื่อนคนนึง นามสมมติว่าAนะคะ เรากับAสนิดกันมากไปไหนมาไหนด้วยกัน มีเรื่องอะไรเราก็เล่าให้เค้าฟังตลอด ด้วยความที่รร.เรามันเป็นรร.หญิงล้วนอ่ะค่ะ พวกเราทุกคนส่วนใหญ่ก็จะสกินชิพกันเป็นพิเศษ จนมาวันนึงเราเริ่มรู้สึกดีกับเพื่อนคนนึงนามสมมติว่าBนะคะ เราเริ่มรู้สึกชอบBมาก ตอนแรกๆที่เรารู้ตัวเราก็เริ่มกลัวๆนะคะ แต่เราอึดอัดอยากระบายให้ใครซักคนฟัง เราเลยบอกให้Aฟังค่ะ (ความสัมพันธ์ของAกับBตอนนั้นก็เป็นเพื่อนที่สนิดกันมากหน่อยค่ะแบบนอนกอดกันบ่อยๆซึ่งมันเป็นเรื่องปกติของกลุ่มเราอยู่แล้วค่ะที่จะนอนกอดกัน ด้วยความที่เป็นหญิงล้วน) เราบอกกับAเกริ่นๆว่าประมาณ “แก เราเหมือนเราจะชอบเพื่อนว่ะ”แล้วหลังจากที่AฟังAก็ทำเหมือนไม่อยากฟังค่ะ ตอนนั้นเราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะว่าทำไม เราเลยบอกAไปเลยค่ะว่าเราชอบB ที่เราอยากบอกAเพราะเรามีอะไรเราก็อยากจะปรึกษาAด้วยค่ะ แต่ผลลัพธ์ไม่เป็นอย่างที่คิด หลังจากที่เราบอกAไป Aก็เริ่มไม่คุยกับเรา เราก็เลยไม่เข้าใจว่าทำไม เราเลยไปลองถามBดูค่ะ Bก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรมากนะคะ เพราะเราก็คิดว่าA อาจจะมีเรื่องเครียดรึเปล่า เราลองชวนAคุยหลายรอบแล้วแต่Aก็ไม่พูดกับเราเลยค่ะ เราเลยคิดว่าAอาจจะอยากอยู่คนเดียวเลยปล่อยAไปก่อน พอวันต่อๆมาAก็ยังไม่คุยกับเราเหมือนเดิมค่ะ เราเลยเริ่มเครียดแล้ววลองปรึกษากับเพื่อนคนอื่นดูค่ะ แล้วตอนนั้นเหมือนได้ยินเพื่อนคนนึงพูดมาว่า“มีคนบอกว่าAชอบBรึเปล่า”(เรื่องที่เราชอบBมีแค่เพื่อนบางคนที่รู้นะคะ) พอถึงตอนนั้นเราก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยค่ะ แต่มีความเป็นไปได้ค่ะ เพราะว่าถ้าAชอบBจริง นั่นก็สามารถอธิบายเหตุผลที่Aไม่คุยกับเราได้แล้วค่ะ จนวันนึงเราเลยทักไปถามAตรงๆ ว่าทำไมถึงต้องไม่คุยกันด้วย แต่ก็จบไม่สวยค่ะ เพราะเขาน่าจะไม่ชอบให้เราอยู่ใกล้ๆB(คหสต.นะคะ) เราเลยค่อยๆปลีกตัวออกมาจากกลุ่มนั้นอย่างช้าๆค่ะช่วงนั้นก็แอบทรมานมากเลยค่ะ เพราะด้วยความที่เราเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบอยู่คนเดียว แต่ก็ต้องปลีกตัวมาอยู่คนเดียว แล้วช่วงนั้นร้องไห้บ่อยมากค่ะ แทบจะไม่อยากไปโรงเรียนเลย แต่โชคดีที่มันเป็นช่วงปิดเทอมพอดีค่ะ เอาจริงๆเราก็เศร้านะคะ ด้วยความที่Aเป็นเพื่อนคนแรกกที่มาเล่นที่บ้านเราด้วยค่ะ เราก็เลยคิดว่า“พวกเราน่าจะสนิดกัน แต่ทำไมถึงมาทำแบบนี้เหตุผลแค่นี้เอง” มันมีคำถามเต็มไปหมดเลยค่ะ จนพอมันผ่านไปเรื่อยๆเราก็เริ่มชินกับการอยู่คนเดียวแล้วค่ะ แล้วก็ได้เจอกลุ่มใหม่ แต่ก็เป็นกลุ่มที่ไลฟสไตล์คนละแนวอยู่ดีค่ะ เราอาจจะแย่ไปนิดนึงนะคะ แต่เราก็ไม่รู้สึกว่าเพื่อนกลุ่มใหม่เป็นเพื่อนจริงๆเลยค่ะ น่าจะด้วยความที่เราให้ใจAไปเต็ม100 แล้วพอเจอแบบนี้ ก็คงเป็นผลกระทบแหละมั้งคะ แล้วAกับBก็ใกล้ชิดกันมากขึ้น จุ๊บแก้มกันบ่อยด้วยค่ะ แล้วด้วยความที่เรายังชอบBอยู่เหมือนเดิม บางครั้งเราก็ชอบหันไปแอบมองBค่ะ แต่BกับAก็นั่งอยู่ข้างกัน แล้วเราหันไปชอบเห็นตอนที่พวกเค้าจุ๊บแก้มกันตลอดเลยค่ะ เราก็เข้าใจนะคะ แต่เราก็แอบนอย จิงๆแหละค่ะ ด้วยความที่AกับBติดสกินชิพกันหนักมาก จนเพื่อนในห้องหลายๆคนยังแอบคิดเลยนะคะ
แต่พอผ่านไปปีนึงก็มาถึงวันที่เราได้กลับมาคุยกันอีกครั้งค่ะ แต่ เราคิดว่า เราน่าจะเปลี่ยนไปเยอะอยู่ค่ะ ด้วยความที่เจออะไรมาหนักๆ(สำหรับเรานะคะเพราะเราไม่เคยเจอมาก่อน)จนเราเริ่มเรียนรู้ที่จะปล่อยวางอะไรเยอะๆแล้วค่ะ แต่ก็ไม่ได้ปล่อยวางได้หมดซะทีเดียว มันเป็นวันที่เรานัดไปเที่ยวกับBแล้วก็เพื่อนคนอื่นอีกคน2คน แล้วBก็ชวนAมาด้วยค่ะเอาจิงๆตอนนั้นเราก็หนักใจนะคะแต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันค่ะ แต่พอมาแล้วAก็คุยกับเราเหมือนปกติมากเลยนะคะ อาจมีเกรงๆอยู่บ้าง เอาจิงๆเราก็แอบดีใจนะคะที่เราได้คุยกัน แล้วเราก็ได้อยู่ใกล้กันมากขึ้น เริ่มจะกลับไปสนิดกับAอีกครั้ง แต่ในเรื่องดีก็มีเรื่องแย่เหมือนกันค่ะ เพราะเค้าสกินชิพกันไม่พักเลยค่ะ เราเห็นแล้ววเราก็ปวดใจเป็นเหมือนกันนะคะ เราก็เลยแกล้งๆทำเป็นไม่เห็นค่ะ แล้วก็แกล้งทำเป็นว่ามูฟออนได้ตั้งนานแล้วค่ะ แต่พอผ่านมาเรื่อยๆเค้าก็สกินชิพกันเยอะมากๆ เราไม่ชอบเลยค่ะ แต่เราจะไปบอกเค้ามันก็ไม่ได้ เราพยายามปล่อยวางแล้วนะคะ ช่วงแรกๆมันก็ดี แต่หลังๆ ยิ่งพยายามไม่คิดอะไรมันก็เริ่มทรมานค่ะ เราไม่รู้จะทำไงดี เอาจิงๆเค้า2คนก็เริ่มรู้แล้วนะคะ ว่าเรายังมูฟออนไม่ได้ แต่เค้าก็ยังไม่ลดสกินชิพกันเลยค่ะ เช่นอยู่กัพอน3คน เค้า2คนก็จะจุ๊บกันตลอด พอเราเจออะไรแบบนี้บ่อยๆมันก็เริ่มจิตตกนะคะ เราควรทำยังไงดีคะ
เรากับเพื่อนแอบชอบเพื่อนคนเดียวกัน
แต่พอผ่านไปปีนึงก็มาถึงวันที่เราได้กลับมาคุยกันอีกครั้งค่ะ แต่ เราคิดว่า เราน่าจะเปลี่ยนไปเยอะอยู่ค่ะ ด้วยความที่เจออะไรมาหนักๆ(สำหรับเรานะคะเพราะเราไม่เคยเจอมาก่อน)จนเราเริ่มเรียนรู้ที่จะปล่อยวางอะไรเยอะๆแล้วค่ะ แต่ก็ไม่ได้ปล่อยวางได้หมดซะทีเดียว มันเป็นวันที่เรานัดไปเที่ยวกับBแล้วก็เพื่อนคนอื่นอีกคน2คน แล้วBก็ชวนAมาด้วยค่ะเอาจิงๆตอนนั้นเราก็หนักใจนะคะแต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันค่ะ แต่พอมาแล้วAก็คุยกับเราเหมือนปกติมากเลยนะคะ อาจมีเกรงๆอยู่บ้าง เอาจิงๆเราก็แอบดีใจนะคะที่เราได้คุยกัน แล้วเราก็ได้อยู่ใกล้กันมากขึ้น เริ่มจะกลับไปสนิดกับAอีกครั้ง แต่ในเรื่องดีก็มีเรื่องแย่เหมือนกันค่ะ เพราะเค้าสกินชิพกันไม่พักเลยค่ะ เราเห็นแล้ววเราก็ปวดใจเป็นเหมือนกันนะคะ เราก็เลยแกล้งๆทำเป็นไม่เห็นค่ะ แล้วก็แกล้งทำเป็นว่ามูฟออนได้ตั้งนานแล้วค่ะ แต่พอผ่านมาเรื่อยๆเค้าก็สกินชิพกันเยอะมากๆ เราไม่ชอบเลยค่ะ แต่เราจะไปบอกเค้ามันก็ไม่ได้ เราพยายามปล่อยวางแล้วนะคะ ช่วงแรกๆมันก็ดี แต่หลังๆ ยิ่งพยายามไม่คิดอะไรมันก็เริ่มทรมานค่ะ เราไม่รู้จะทำไงดี เอาจิงๆเค้า2คนก็เริ่มรู้แล้วนะคะ ว่าเรายังมูฟออนไม่ได้ แต่เค้าก็ยังไม่ลดสกินชิพกันเลยค่ะ เช่นอยู่กัพอน3คน เค้า2คนก็จะจุ๊บกันตลอด พอเราเจออะไรแบบนี้บ่อยๆมันก็เริ่มจิตตกนะคะ เราควรทำยังไงดีคะ