เพจดังสวน ‘หมอพรทิพย์’ ยันมีป้ายเตือนห้ามเหยียบทุ่งลาวามอส ยกเคส ‘จัสติน บีเบอร์’ ไอซ์แลนด์เตือนแรง
https://www.matichon.co.th/social/news_4208903
 
 
เพจดังสวน ‘หมอพรทิพย์’ ยันมีป้ายเตือนห้ามเหยียบทุ่งลาวามอส ยกเคส ‘จัสติน บีเบอร์’ ไอซ์แลนด์เตือนแรง
 
จากกรณีพญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว. โพสต์เฟซบุ๊ก ชี้แจงกรณีที่โพสต์ภาพนอนบนลาวามอส  ด้วยข้อความว่า เรื่องการถ่ายภาพบนลาวามอส ถือเป็นความผิดพลาดที่ไม่ได้ศึกษากฎระเบียบให้ชัดเจน ในบริเวณที่ลงถ่ายไม่มีป้ายจึงทำไม่ถูกระเบียบ แจ้งมาก็เพื่อให้รู้ว่าหมอผิดพลาดเอง และแก้ไขทันทีที่ทราบทันที จึงลบออกตั้งแต่ยังไม่กลับมา แต่ก็ไม่ทันสำหรับคนที่เกลียดชังนำไปขยายผล” นั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์(มก.) ได้โพสต์ภาพชาวต่างชาติที่ถ่ายบนลาวามอส พร้อมแคปชั่นสั้นๆ แค่ว่า “อึม”
 
ขณะที่เพจดัง “Drama-addict” โพสต์ถึงเรื่องเดียวกัน ระบุว่า  
 
ภาพจากคลิปของจัสติน บีเบอร์ ตอนปี 2018 ที่เขาไปถ่ายคลิปที่ mossy lava field ที่ Eldhraun ไอซ์แลนด์ ซึ่งในคลิปจะมีฉากจัสตินขึ้นไปนอนกลิ้งบนมอส ซึ่งหลังจากเผยแพร่คลิปออกไป ก็มีชาวไอซ์แลนด์วิพากษ์วิจารณ์มากมาย
 
Dr.Snorri Baldursson ประธานองค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไอซ์แลนด์ ให้สัมภาษณ์สื่อว่า การทำแบบนั้น เป็นอันตรายกับมอสมาก ทั้งการไปกลิ้ง ไปกระโดดบนมอส เพราะมอสที่นั่น จัดเป็นระบบนิเวศที่เปราะบางมาก เมื่อมีคนขึ้นไปเหยียบมอส รอยเท้าของคนๆนั้นก็จะคงอยู่บนมอส ตลอดฤดูนั้นเลย นี่แค่เหยียบนะ ลองนึกภาพคนขึ้นไปนอนกลิ้งหรือกระโดดใส่มอสดูว่าจะเป็นยังไง ผลของมันคือจะทำให้มอสชั้นบนๆถูกทำลาย และยากมากที่จะฟื้นฟู เพราะต้องใช้เวลานานมากๆนับสิบปี แล้วถ้านักท่องเที่ยวคนอื่นๆ มากลิ้ง มาเหยียบตาม ก็บรรลัยแน่นอน ดังนั้น ขอให้นักท่องเที่ยวทุกท่านโปรดดูแต่ตา มืออย่าต้อง เพื่ออนุรักษ์ทุ่งลาวามอสที่มีแห่งเดียวในโลกนี้ไว้นานๆ
 
พร้อมระบุว่าในปัจจุบันมีการตั้งป้ายเตือนห้ามเหยียบทุ่งลาวามอสแล้ว
 
https://www.facebook.com/DramaAdd/posts/850327063138232
  

---

‘โรม’ แนะ ถกหาจุดสมดุล ปม ‘หมอพรทิพย์’ ถูกไล่กลางร้านอาหาร ชี้ ไม่มีใครอยากโดน
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4208767
 
‘รังสิมันต์’ เผย ปม ‘หมอพรทิพย์’ ถูกไล่กลางร้านอาหาร ไม่มีใครอยากโดนแบบนั้น บอก เข้าใจความรู้สึก ปชช.ถูกหักเจตนารมณ์ เพราะเป็นราคาที่นักการเมืองต้องจ่าย แนะ ต้องถกเพื่อหาจุดสมดุลทั้ง 2 ฝั่ง คาด อาจมีกระบวนการดิสเครดิตโยงก้าวไกลเอี่ยวเรื่องนี้

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีปรากฏคลิป พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว. ถูกไล่กลางร้านอาหารในต่างประเทศจากกลุ่มที่เห็นต่างทางการเมือง มองว่าเรื่องนี้เป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไปหรือไม่ ว่า ตนคิดว่าถ้ายืนอยู่บนสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ก็คงไม่มีใครอยากถูกไล่เวลาไปที่ไหน ไม่มีใครชอบที่จะโดนกระทำ แต่อีกด้านตนก็เข้าใจความรู้สึกโกรธของประชาชนที่มีต่อการกระทำของ ส.ว. ที่มีการใช้เงินภาษีของประชาชน แต่กลับไม่ได้แสดงออกหรือเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นตามเจตนารมณ์ของประชาชน สุดท้ายตนคิดว่าต้องหาจุดสมดุลให้ได้ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศไอซ์แลนด์ ไม่แน่ใจว่าการกระทำเช่นนี้ตามมาตรฐานของประเทศดังกล่าวเป็นอย่างไร แต่หากมีข้อสุ่มเสี่ยงทางกฎหมายก็ต้องรับผลตามกระบวนการ แต่อีกด้านก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่า การที่นักการเมืองแสดงออกโดยไม่เคารพเสียงประชาชน ก็มีราคาที่จะเกิดขึ้น ดังนั้น การกระทำแบบไหนที่ทำได้ หรือไม่ควรทำก็ต้องหาจุดสมดุล
 
เมื่อถามว่า อยากฝากอะไรถึงกลุ่มคนที่มีความเห็นต่างทางการเมืองอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้ซ้ำรอยขึ้นอีก นายรังสิมันต์กล่าวว่า การพูดคุยด้วยเหตุผลเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เป็นสิ่งที่สร้างความยอมรับได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม ต้องฝากถึงนักการเมืองว่า เราก็มีบทเรียนเช่นกันว่า เราต้องเคารพเสียงของประชาชนด้วย เป็นบทเรียนของทุกฝ่าย อย่างฝ่ายที่แสดงออกด้วยท่าทีที่โมโหต่อ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ เขาก็โดนวิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน ไม่ใช่ทุกคนจะเห็นด้วย
 
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเข้าใจว่ามีกระบวนการดิสเครดิตทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มที่ไปต่อว่า พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โดยกล่าวหาว่า นี่ไงด้อมส้มเป็นอย่างนี้ บ้างก็โยงมาถึงพรรค ก.ก. ทั้งที่พรรคไม่น่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ กระบวนการดิสเครดิตนี้เป็นการทำให้สังคมยิ่งไปสู่ความขัดแย้ง ให้ร้าวลึกมากขึ้น จะเห็นว่าคนที่สนับสนุนพรรค ก.ก. มีขนาดใหญ่ขึ้นมาก ซึ่งอาจมีบางคนที่ไม่เห็นตรงกับเรา พยายามใช้ทุกความเป็นไปได้ทำลายชื่อเสียง อาจเป็นสิ่งที่เราต้องพิจารณาด้วยความระมัดระวังว่าจะมีกระบวนการเช่นนี้เกิดขึ้น
 

---

 
ภาคธุรกิจท่องเที่ยววอนรัฐแก้ปัญหาน้ำมันแพงกระทบต่อท่องเที่ยว
https://siamrath.co.th/n/481409

ภาคธุรกิจท่องเที่ยวเมืองสามหมอกวอนรัฐแก้ปัญหาน้ำมันแพงกระทบต่อท่องเที่ยว เนื่องจากต้นทุนท่องเที่ยวมาจากราคาน้ำมันที่แพงที่สุดของประเทศขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่ใช้รถส่วนตัวท่องเที่ยวเมื่อประสบปัญหาราคาน้ำมันที่แพงเว่อร์ ทำให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวที่ใกล้ ๆ แทนมาท่องเที่ยวในแม่ฮ่องสอน
 
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2566 นายภานุเดช ไชยสกูล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ปัญหาของแม่ฮ่องสอน คือเรื่องราคาน้ำมันที่แพงที่สุดของประเทศไทย ซึ่งราคาน้ำมันที่แพง ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของแม่ฮ่องสอนโดยตรง สืบเนื่องปัจจุบัน นักท่องเที่ยวขาวไทย ส่วนใหญ่ จะนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ด้วยการใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นพาหนะในการเดินทาง เมื่อประสบกับปัญหาราคาน้ำมันที่แพง ย่อมทำให้กระทบต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยวในแม่ฮ่องสอน โดยตรง เนื่องจากเมื่อนักท่องเที่ยวมีแผนที่จะต้องท่องเที่ยว ย่อมคิดเรื่องงบประมาณเป็นหลัก หากจะมาเที่ยวแม่ฮ่องสอน ระยะทางที่ไกลและราคาน้ำมันที่แพงที่สุดในประเทศ ย่อมทำให้มีการเปลี่ยนแผนไปท่องเที่ยวในพื้นที่ ที่ประหยัดงบประมาณได้มากกว่า
 
นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว ฯ กล่าวต่อไปว่า จากปัญหาราคาน้ำมันดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของแม่ฮ่องสอนและทั่วประเทศไทยโดยรวม จึงอยากเสนอให้ทางรัฐบาล มุ่งเน้นไปที่การลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อทำให้ต้นทุนธุรกิจต่าง ๆ ลดลง และส่งผลดีต่อภาคธุรกิจ ที่กำลังประสบกับปัญหาในปัจจุบันนี้ ด้วย
 
วันนี้ ( 1 ต.ค. 2566 ) ราคาน้ำมันหน้าปั๊ม ปตท.ในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน มีตัวเลขราคาน้ำมัน ดังนี้ น้ำมันดีเซล B7 ซุปเปอร์พาวเวอร์ ราคาลิตรละ 41.64 บาท , น้ำมันดีเซล B7 ธรรมดา ราคาลิตรละ 31.34 บาท , น้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล E20 ราคาลิตรละ 38.54 บาท , น้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล 91 ราคาลิตรละ 40.58 บาท , น้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล 95 ราคาลิตรละ 40.85 บาท
 
ในขณะที่ราคาน้ำมันที่กรุงเทพมหานคร ราคาวันนี้ อยู่ที่ -แก๊สโซฮอล์ 95 : ราคา 39.45 บาท/ลิตร-ดีเซล B7 : ราคา 29.94 บาท/ลิตร -ดีเซล ราคา : 29.94 บาท/ลิตร -แก๊สโซฮอล์ 91 : ราคา 39.18 บาท/ลิตร -แก๊สโซฮอล์ E20 ราคา 37.14 บาท/ลิตร -แก๊สโซฮอล์ E85 ราคา 36.79 บาท/ลิตร -ดีเซล B7 : ราคา 29.94 บาท/ลิตร -ดีเซล ราคา : 29.94 บาท/ลิตร -ดีเซลหมุนเร็ว B20 : ราคา 29.94 บาท/ลิตร -ดีเซล พรีเมี่ยม  : ราคา 40.24 บาท/ลิตร
 
สำหรับจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดที่ประชากรมีฐานะยากจนที่สุดของประเทศไทย และราษฎรได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันมากที่สุด เนื่องจากสินค้าทุกชนิด รวมไปถึงข้าวสาร ต้องนำมาจากจังหวัดเชียงใหม่และจากภาคกลาง ราคาน้ำมันส่งผลให้ราคาสินค้ามีมูลค่าสูงมาก กระทบต่อประชาชนโดยรวม ขณะที่การท่องเที่ยวของจังหวัด จะมีเพียงช่วงไฮซีซั่น คือช่วง ตุลาคม ไปจนถึงเดือนมกราคมของปีถัดไป ระยะเวลาเพียงช่วง 3 เดือนที่จะมีรายได้หลักจากการท่องเที่ยว หากรัฐบาลไม่หาแนวทางปรับลดราคาน้ำมัน ย่อมส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่อย่างหนัก