รีวิวตัดผมที่เกาหลีมาแล้วจ้า 
เมื่อจิตวิญญาณออนนี่เข้าสิงร่างอาตั่วเจ้อย่างเรา ไปเที่ยวเกาหลีทั้งที 
ก็ขอลองปันใจจากซาลอนที่ไทย ไปลองฝีกรรไกรแดนกิมจิดูบ้าง 
จะเป็นยังไง ติดตามอ่านรีวิวได้เลยจ้า...



หลังจากซึมซับความเกาหลีเกาใจผ่านการดูซีรีส์มานานหลายปี ไถฟีดไปแต่ละวันก็หนีไม่พ้นความเกาหลี 
ตั้งแต่หน้าดารา นักร้อง ศิลปิน ของกิน ข้าวของเครื่องใช้ ยาวไปถึงงานบิวตี้แนวเกาเกา 
รู้ตัวอีกทีก็ถลำลึกไปฟอลโล่ว์ IG ซาลอนชื่อดังแห่งนึงของเกาหลี ชื่อว่า CHAHONG 
หลายคนอาจจะเคยผ่านหูผ่านตา หรืออาจจะเคยเห็นบรรดาบิวตี้บล็อกเกอร์
หิ้วเครื่องม้วนผมสีขาวงานมินิมอลของซาลอนนี้กลับมารีวิวกันอยู่พักนึง 
แต่วันนี้เราไม่ได้มารีวิวเครื่องม้วนผมนะ เพราะรู้ว่าถึงซื้อมาก็ขี้เกียจทำผมเองอยู่ดี 555 

เราจะมาแชร์ประสบการณ์การไปทำผมที่ร้าน CHAHONG ROOM เกาหลี ให้อ่านกันจ้า
เผื่อว่าใครกำลังสนใจหรืออาจจะกำลังลังเลว่าไปลองดีมั้ยนะ ลองอ่านรีวิวนี้เป็นตัวช่วยตัดสินใจดูนะคะ 

CHAHONG เค้าเป็นซาลอนสไตล์มินิมอลที่มีหลายสาขามากๆ และเหมือนจะมีโรงเรียนสอนทำผมด้วย 
จากที่ฟอล IG ร้านเค้าอยู่เป็นปีๆ เราชอบดูคลิปที่เค้าสอนเซ็ทผม สอนตัดผมม้า สอนตัดลูกผมเนียนๆ 
ซึ่งถามว่าดูเค้ามาเป็นปี ทำตามได้หรือยัง…ก็ยัง แต่ก็ยังชอบดูไปเรื่อย (ใครเป็นเหมือนเราบ้าง5555) 
คือ เราประทับใจในการสื่อสารของเค้า ที่ให้ตัวแบบเป็นคนทำผมเอง 
ในคลิปจะเป็นเหมือนการเซลฟี่โชว์วิธีการตัดแต่งเล็มผมด้วยตัวเอง 
ซึ่งมันทำให้เราดูแล้วรู้สึกว่าการตัดผมตัวเองไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่ามันง่ายมากที่จะพลาด55555 
ถ้าลองตัดเองแบบเค้าแล้วผมหน้าม้าแหว่งไปจะต้องใช้เวลาอีกกี่ปีจะยาวเท่าเดิม 
คิดแล้วก็ไม่กล้าลองจนถึงทุกวันนี้ มันก็เลยเป็นอะไรที่คาใจสุดๆ เลยเกิดเป็นความคิดติดหัวว่า
ครั้งนึงในชีวิตจะต้องไปลองที่ซาลอนแล้วแหละ 
อยากรู้ว่าเค้าตัดผมยังไงให้เหมือนมีลมพัดเบาๆอยู่ในผมตลอดเวลา โคนผมตั้งหน่อยๆ 
หน้าม้าดูยุ่งนิดๆ มีลูกผมประปรายแบบไม่ตั้งใจ (แต่เค้าโคตรตั้งใจทำให้มันมี) 
คืออยากรู้ว่ามันแค่ภาพสวยๆใน IG รึเปล่านะ ถ้าตัดออกมาใช้ชีวิตจริงจะเป็นยังไง

สุดท้ายก็ตัดสินใจไปลอง?
อย่างที่เล่าไปตอนต้นว่า ความคิดที่จะไปตัดผมที่เกาหลีก็ติดอยู่ในหัวมานานมากแล้ว
แต่ก็ลังเลสองจิตสองใจมาตลอด ทั้งกลัวราคามันจะแรงไม่ไหว
ราคาแรงยังไม่กลัวเท่าทำออกมาไม่ถูกใจ หรือถ้าลองแล้ว เบ้าหน้าชั้นไม่เข้ากับทรงผมสไตล์เกาหลีล่ะ
แล้วทำไมต้องเสียเวลาเที่ยวไปอยู่ในซาลอนหลายชั่วโมง แอบเกรงใจคุณสามีเหมือนกันนะ
เอ…เอาไงดี ลอง ไม่ลอง 

แต่พอย้อนคิดถึงช่วงที่โควิดระบาด ไปเที่ยวเมืองนอกไม่ได้เป็นปีๆ 
มันก็ทำให้รู้สึกว่าอะไรก็ไม่แน่ไม่นอน ถ้าอยากทำอะไร อยากลองอะไร ถ้ามันไม่เกินตัวเกินไป 
ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน มีโอกาสเข้ามาในช่วงชีวิตที่ยังทำได้ ก็ทำเถอะ 
ดีกว่าเสียดายทีหลัง และวันนี้ก็มาถึง เป็นช่วงที่คลายlockdownกันเกือบทุกประเทศแล้ว 
การบินไปต่างประเทศเริ่มกลับมาเป็นปกติ ก็เลยมีโอกาสได้กลับไปเที่ยวเกาหลีเป็นครั้งที่สอง (เคยไปครั้งแรกเมื่อปี 2019)
รอบนี้ไปหลายวันเลยคุยกับสามีว่าอยากจะลอง เค้าก็ไม่ได้ห้ามอะไร แถมเชียร์ให้ลองด้วยซ้ำ
แต่ไม่รับประกันนะว่าตัดออกมาจะได้ออนนี่หรืออาจุมม่า5555  เลยเอาวะ ลองดูซักครั้งจะได้ไม่คาใจ 

ต้องจองก่อนมั้ย?
หลังจากที่ตัดสินใจได้แล้วว่าจะลองตัดผมที่เกาหลี 
ก็เริ่มรีเสิร์ชกันนิดหน่อย กลัวไปแบบ walk-in แล้วจะพลาด 
ก็พยามหาข้อมูล ดูตามรีวิวจากคนที่เคยไป ก็พบกว่าควรจะจองก่อนเข้าไป 
แต่บางคนก็บอก walk-in ช่วงร้านเปิดได้ คนไม่เยอะ 
ลองเสิร์ชต่อ เจอเวบ CHAHONG ซึ่งตอนนั้นเค้ากำลังปรับปรุง ข้อมูลต่างๆยังไม่สมบูรณ์ดี 
มีข้อมูลรูปของแต่ละสาขา แต่ยังไม่มีให้จอง online ซึ่ง ณ ตอนนั้นเค้าให้โทรจอง 
แล้วฉันจะโทรอย่างไรน้อ… ตัวอยู่ไทยจะโทรโรมมิ่งข้ามประเทศเพื่อจองทำผมก็ใช่เรื่อง เลยข้ามไปก่อน 
ลองทักไปใน IG ร้านดูซิ ผ่านไปเป็นสัปดาห์ก็ไม่มีใครตอบ… 
เอาละ นี่แค่เริ่ม ทำไม่ดูยากจัง เลยลองเสิร์ชละเอียดๆอีกที 
พบว่าเค้าเปิดให้จองผ่าน แอพ NAVER ของ LINE ซึ่งดูเหมือนจะใช้ง่าย แต่ไอ้เราก็งงเอง
เพราะในแอพมันเป็นภาษาเกาหลีล้วน (ตอนนั้นก็ลืมคิดไปว่าถ้าเปิดผ่าน Chrome ยังใช้การแปลแบบ autoได้) 
สรุป สุดท้ายเลย ไม่รู้จะจองยังไง เลยไปลุ้นเอาหน้างาน 
กะว่าไปช่วงร้านเปิดน่าจะยังไม่มีคนเยอะ มาลุ้นกันต่อค่ะ

ราคาแรงมั้ย?
ร้าน CHAHONG เหมือนเค้าจะมีแบ่ง 2เกรด คือ CHAHONG ARDOR กับ CHAHONG ROOM 
ความแตกต่างอันนี้ก็ไม่แน่ใจนะคะ แต่เท่าที่ดูๆเหมือน ARDOR จะมีสาขาน้อยกว่า 
เป็นร้านใหญ่เหมือนทั้งตึกเป็นของเค้าเลย และมีร้านที่เป็น Flagship ด้วย (คิดเองว่าน่าจะแพง) 
ส่วน CHAHONG ROOM จะเป็นร้านเล็กที่แฝงตัวอยู่ตามตึกต่างๆ 
ดูมีสาขากระจายทั่วเกาหลี ดูแมสกว่า น่าจะเข้าถึงง่ายกว่าแหละ 
เรื่องราคาค่าตัดผมอันนี้เป็นของ CHAHONG ROOMนะคะ  
เรทตัดผมอย่างเดียวกับช่างระดับDesigner จะอยู่ที่ประมาณห้าหมื่น++วอน (ราวๆ 1,500บาท) 
ซึ่งราคาก็อยู่ที่ระดับของช่างด้วย ว่าเป็นเลเว่ลไหน 
สถ้าไต่ขึ้นไปถึงระดับ Manager - Director สูงสุด 88,000 วอน
ซึ่งราคานี้เราถ่ายไว้ช่วง เมษา 2023 ใครจะไปก็ลองเช็คราคากันอีกทีนะคะ 



ถามว่าพันห้าแพงมั้ย อันนี้เราว่ามันขึ้นกับความพึงพอใจกับสิ่งที่ได้ 
และขึ้นกับความรู้สึกของแต่ละคนด้วย และก็อยู่ที่ว่าเอาไปเทียบกับอะไร 
ส่วนตัวเคยตัดผมมาหลายที่ ถ้าเฉพาะที่ไทยก็ตัดตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพัน 
สุดท้ายจบที่ช่างคู่ใจพันกว่านี่แหละ เพราะพี่เค้าตัดละเอียด รู้ใจว่าชอบแนวไหน 
ตัดทีเดียวทรงอยู่ได้นานเกือบปี เรียกได้ว่าตัดผมเฉลี่ยปีละสองครั้ง จ่ายครั้งละพันห้าก็รู้สึกว่าคุ้ม 
อันนี้ก็แล้วแต่คนด้วยเนอะ แล้วพอมาเจอราคาเกาหลีพันห้า เลยรู้สึกว่าโอเค 
รับได้กับการลองดูสักครั้ง ถือว่าซื้อประสบการณ์

ไปลองแล้วเป็นยังไง?
เราไปที่สาขาอัปกุจอง CHAHONG ROOM APGUJEONG BRANCH 


credit รูปภาพจาก chahongsalon.com

เราเข้าไปช่วงเช้าเวลาประมาณร้านเพิ่งเปิดเลยจ้า ร้านอยู่ชั้นบน 
เดินตามป้ายไป หน้าร้านมีป้ายราคาติดอยู่ ไม่มีภาษาอังกฤษไม่เป็นไร ใช้ Google Lens ช่วยแปลเอา 
เดินเข้าประตูเล็กๆเข้าไปเจอโซน reception ซึ่งพนักงานต้อนรับสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้เลย 
เราเลยใชั google translate ช่วย แล้วก็ชี้ๆในเมนูว่าจะตัดผมกับช่าง designer 
เค้าก็หาช่างที่พูดอังกฤษได้มาให้เรา
หลังจากนั้นเค้าก็จะให้ฝากกระเป๋าแล้วเดินตามเค้าเข้าไปด้านใน


credit รูปภาพจาก chahongsalon.com

ร้านตกแต่งสไตล์ไม้ๆมินิมอลๆ บรรยากาศเหมือนนั่งใน Muji 
พนักงานเยอะมว๊ากกกกกก แล้วลูกค้าก็เริ่มมาเรื่อยๆ โชคดีที่เรามาไวเลยได้ทำเลย 
เค้าก็ให้มานั่งที่โต๊ะทำผม แล้วช่างที่จะตัดผมให้เราก็เดินมาทักทาย 
เราก็ยื่นรูปในมือถือให้เค้าดูว่าอยากได้แนวๆนี้….


credit รูปภาพจาก IG: chahong_official

คือผมเดิมเรายาวมากถึงกลางหลัง ผมด้านหน้าสไลด์ยาวประมาณคางแต่มันเริ่มยาวแล้ว
ปกติจะไม่ชอบเซ็ทผมเลย ถ้าไม่ได้ออกงานจริงๆ จะไม่ทำอะไรกับผมเลย สระแล้วเป่าพัดลมสางๆจบ 
พวกอุปกรณ์ต่างๆที่ซื้อมาคือนอนคาตู้หมด ไดสงไดสัน แอล้งแอแร๊พ พ่ายแก่ความขี้เกียจของนี่หมดจ่ะ 55555
และเป็นคนที่ผมเส้นเล็ก ตรงมาก และมีความฟีบแบน 
ก็เลยโดนตกด้วยทรงผมที่โคนเค้าดูยกนิดๆ มีความพองฟูหน่อยๆ 
(ก็รู้แหละว่ามันอยู่ที่การเซ็ทผม นี่เลยกะมาถึงร้านให้เค้าสอนหน่อย อิอิ)

หลังจากที่อธิบายทรงที่อยากได้ให้คุณช่างไปเรียบร้อย เค้าก็ดีนะ พยามสื่อสาร 
พยามอธิบายเราว่า ทรงที่เลือกมามันต้องตัดผมม้านะ ผมข้างหน้าจะถูกแบ่งออกมาเราโอเคมั้ย 
พอทำความเข้าใจตรงกัน ก็จะมีน้องพนักงานถือเสื้อคลุมมาให้สวม เป็นชุดเดรสกระดุมหน้า 
ใส่ทับชุดไปเลย แล้วก็พาไปสระผม ขั้นตอนการสระผมก็คล้ายๆกับที่ไทยนี่แหละ 
แต่เค้าจะไม่เกา มีนวดๆเป็นการสระผมที่ผ่อนคลายดีมาก

สระผมเสร็จก็กลับมานั่งที่โต๊ะ ใส่ผ้าคลุมลื่นๆทับอีกชั้นนึง 
แล้วก็มีเอาบาล์มมานวดๆที่ท้ายทอย นวดบ่าเบาๆพอหอมปากหอมคอ 
แล้วช่างก็จะเข้ามาเริ่มตัดผม

สเต็ปการตัดผมที่เกาหลีเค้าก็ดูคล้ายๆกับที่ไทย มีความละเอียดในการเก็บรายละเอียด 
แต่เราเองก็ไม่ได้เป็นช่างนะ เลยดูไม่ออกเท่าไหร่ว่าเค้าตัดเหมือนกันเป๊ะเลยมั้ย 
แต่ผลที่ได้ก็คือเค้าตัดออกมาก็เป็นทรงที่ดูโอเคอยู่นะ 
แต่ไม่แน่ใจว่าถ้ากลับไปสระเองแบบโง่ๆ ไม่เซ็ทผม จะยังได้ทรงเหมือนตอนเดินออกจากร้านหรือเปล่า

หลังจากตัดทรงเสร็จแล้ว เค้าก็จะเข้ามาเป่าผมให้แห้ง และมีการตัดเก็บรายละเอียดอีกรอบ
มีการตัดซอยลูกผมหลอกเบาๆ ซึ่งเนียนอยู่นะ ว่าไม่ได้
พอตัดเก็บเรียบร้อยก็ถึงขั้นตอนการเซ็ทผม มีการใช้แกนร้อนม้วนผมลอนคลายๆ 
ใช้ไดร์กับแปรงกลมยกโคนผม กับเซ็ทผมม้า ดูเหมือนทำง่ายนะ 
แต่มาถึงวันนี้ยังทำแบบเค้าไม่ได้เลย 55555



สิ่งที่เราคิดว่ามีความต่างและเป็นเอกลักษณ์สุดๆของการตัดผมที่ CHAHONG 
นั่นคือขั้นตอนการซอยลูกผมหลอกๆ กับเซ็ทผมเค้ายืนหนึ่งมาก เทคนิคแพรวพราวสุด
ขั้นตอนเยอะ ละเอียด และที่สำคัญเค้าพยามสอนเราแบบละเอียดมาก
เช่น การยกโคนผม เค้าก็จะมีทริคใช้แปรงกลมดันโคนย้อนขึ้นไปแล้วเอาไดร์จ่อ
การม้วนผมให้ดูเป็นธรรมชาติเวลาม้วนแกนร้อนให้ตั้งแกนขึ้น มันก็จะได้ลอนคลายๆ อะไรแบบนี้
ซึ่งตอนเค้าสอนเราก็ตั้งใจดูอยู่นะ แต่พอเอากลับมาลองทำเองที่บ้าน มันก็ทำไม่ได้แบบเค้าซักที 55555 

และนี่คือทรงผมที่ได้หลังจากทำเสร็จสดๆร้อนๆ

ออนนี่มาแล้วจ้า…


ได้ทรงคล้ายรูปเรฟอยู่นะ เกาหลีฝุดๆ มีหน้าม้ายาว เซ็ทมาเป็นลอนเบาๆ 
โคนผมมีความยกตัวขึ้นเหมือนโคนผมตั้งมาแต่กำเนิด 
ชอบความโคนผมดูยกตัวเบาๆ ไม่เหมือนร้านทั่วไปที่เน้นเซ็ทลอนเฉยๆ
แต่พอเดินเที่ยว เจอลมแรงๆพัดตลอดทางเท่านั้นแหละ…อะไรก็เอาไม่อยู่จ้า
หน้าม้าลอนๆก็ดูกระเซิง โคนผมที่ดูยกขึ้นก็แฟบแบนลงได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง เศร้าแท้
ไม่เป็นไร ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ มาลุ้นกันดีกว่า ว่าถ้าสระแล้วไม่ได้เซ็ทเลย 
แล้วปล่อยไปตามธรรมชาติ ทรงจะเป็นยังไง…



อ่ะ พอไม่เซ็ทปุ๊บ… ผมม้าฉัน…มันหายไป 
ตัดมาเหมือนยังไม่ได้ตัด เอ๊า ทรงเดิมเฉย 55555555
เลยพยามหาทางเซ็ท ไปซื้อแกนม้วนผมอันจิ๋วๆใน Olive Young มาลองเซ็ทเอง 
ผมม้ามันก็จะโผล่ออกมาให้เห็นนิดหน่อย 
แต่พอไม่ได้ใช้แปรงกลมกับไดร์แบบที่ร้าน ความพองฟูของโคนผม มันก็ทำไม่ได้แบบเค้า



แต่อย่างน้อยก็เห็นผมม้าแล้วนะ แหะๆ

และหลังจากกลับมาถึงไทย ลองเซ็ทเองที่บ้านอีกซักที 
ผลที่ได้คือ …..



โอเค ยอม 555

(มีต่อใน comment)