Kafka on the shore ในมิติของการศึกษา

ถ้าพูดถึงงานเขียนของ Murakami  เล่ม Kafka on the shore ผมให้คะแนน 11 เต็ม 10 ครับ

เป็นวรรณกรรมที่แทรกประเด็นสำคัญๆไว้หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการ Respect Responsibility Empahty และ  Diversity

เป็นการเล่าสองเรื่องที่เป็นคู่ขนาน เรื่องราวของเด็กชายวัย 15 และอีกเส้นเป็นเรื่องราวของคุณตาวัย 60  Space และ time น่าสนใจมาก ในแง่ของการออกเดินทาง ตามหาชิ้นส่วนของชีวิตอีกครึ่ง เพื่อมาเติมเต็มในส่วนที่ไม่สมบรูณ์แบบ

หนึ่งในหลายๆประเด็นที่ทับซ้อนกัน ผมในฐานะที่เป็นผู้สนใจในวงการการศึกษา มีประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ คือเส้นของคุณตาคานาตะ คุณตาที่ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนโง่ สมองประมวลข้อมูลยากๆไม่ได้ ถ้าได้ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ช้ามาก ความสามารถเดียวที่คุณตาทำได้ดี คือการคุยกับแมว จึงทำให้คุณตามีอาชีพตามหาแมวที่หลงทาง แต่คุณตาจะเล่าเสมอว่า สมัยเด็กๆคุณตาเคยเป็นคนฉลาด หัวดีที่สุดในห้อง แต่หลังจากเหตุการณ์อุบัติเหตุในช่วงสงครามโลก คุณตาหมดสติ และพอฟื้นขึ้นมา คุณตากลายเป็นคนโง่…

เหตุการณ์แปลกประหลาดในกลุ่มเด็กนักเรียน พอสาวเรื่องในลงลึกใต้ภูเขาน้ำแข็ง เราถึงได้ทราบจากจดหมายของอดีตคุณครูที่เคยดูแลกลุ่มนักเรียนของคานาตะ เธอได้สารภาพผิดผ่านจดหมายว่า ตัวเองเคยตบตีดช.คานาตะจนสลบ แล้วกลุ่มเพื่อนของคานาตะได้เห็นในเหตุการณ์ในครั้งนั้นทุกคนก็สลบตามกันเป็นอุปทานหมู่ไปด้วย เมื่อทุกคนฟื้น กลับจำเรื่องราวต่างๆไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น รวมถึงตัวของคานาตะเองก็เช่นกัน และเหตุการณ์ในวันนั้นส่งผลต่อชีวิตของดช.คานาตะไปตลอดกาล จากจดหมายของคุณครูเราจึงได้ทราบข้อเท็จว่า เรื่องในวันนั้นกลายเป็นตราบาปที่ติดเธอไปตลอดเช่นกัน เธอทำโทษเด็กชายวัย 9 ขวบโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอทำโทษจนเกินเลย กลายเป็นความรุนแรงในกลุ่มเปราะบาง เธอทำโทษเพียงเพราะดช.คนนั้น ซนและไร้เดียงสาในแบบฉบับของเด็ก

เพราะคุณครูคนนี้ จึงทำให้คุณตาคานะตะกลายเป็นคนที่สูญเสียความทรงจำในอดีต และเชื่อว่า ตัวของเขาเองคือคนที่โง่ที่สุด และคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง จนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง  เขาเลยคุยกับแมวแทน…

แล้วเรื่องก็ดำเนินต่อไป ในเส้นทางของคุณตาคานาตะ คุณตาออกไปทางเดิน เช่นเดียวกันเส้นทางของดช.คาฟกาวัย 15 ที่มีรางกายแข็งแรง แต่กลับมีจิตใจที่อ่อนแอจากสภาพปัญหาในครอบครัว เขาเลือกหนีออกจากบ้าน… เพื่อตามหาบ้านอีกหลังที่มากกว่าเป็นที่ซุกหัวนอน…

สิ่งที่ผมกำลังสื่อคือ คำพูดร้ายๆกับการทำร้ายทางกายภาพ ก็ร้ายๆพอกัน ผู้ถูกกระทำกลายเป็นสิ่งของที่ชำรุด กว่าจะซ่อมแซ่มรักษาให้หายปกติ อาจจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิต กว่าจะปลดปล่อยตัวเองจากห้องคุมขังที่ตัวเองไม่ได้ก่อ…

-ริฎวาน ศอลิห์วงศ์สกุล-

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่