คำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวไทยที่มาญี่ปุ่นนะคะ

สวัสดีค่ะ วันนี้จะแนะนำนักท่องเที่ยวไทยทุกท่าน เกี่ยวกับมารยาทต่างๆ และการใช้ชีวิตในญี่ปุ่นนะคะ
หลังจากเหตุการณ์โควิดผ่านไป ทุกคนคงคิดถึงญี่ปุ่นกันมาก พอเปิดประเทศ นทท ไทยก็เข้ามาไม่ขาดสาย
แต่ ...อยากให้ทุกคนช่วยรักษามารยาท เท่าที่จะทำได้ เมื่อมาเที่ยวที่นี่หน่อยนะคะ
 
เรื่องแรก การต่อคิว
เราเข้าใจค่ะว่า บางที่อธิบายวิธีต่อคิวเป็นภาษาญี่ปุ่น หากผิดบ้างคงไม่เป็นไร แต่ ถ้าเป็นตามร้านสะดวกซื้อ
จะมีสัญลักษณ์บอกชัดเจนนะ ซึ่งแต่ละที่จะแตกต่างกันไปค่ะ เช่น
①ต่อเป็นแถวเดียวแล้วรอ เพื่อแยกไปเข้าช่องเช็คบิลค่ะ เช่นเดียวกันกับต่อคิวเข้าห้องน้ำ
②ต่อตามช่องได้เลย ช่องใครช่องมัน
วิธิสังเกตคือที่พื้นจะมีสัญลักษณ์ให้ยืนรอ สังเกตง่ายๆ ไม่ยากเลยยย ไปยืนรอได้เลยค่ะ
 
สำหรับการต่อคิวขึ้นรถไฟ จะมีสัญลักษณ์บอกชัดเจน ซึ่งควรรอข้างประตูค่ะ (ขนาบสองข้างได้)
รอคนข้างในออกมาหมดก่อนแล้วค่อยเข้าไปค่ะ 
 
เรื่องที่สอง การสั่งอาหาร
ที่ญี่ปุ่นมีวิธีสั่งหลายแบบ แต่ที่เจอบ่อยๆ คือ 
①สั่งกับพนักงาน 
ร้านอาหารญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะให้สั่งเครื่องดื่มก่อน พอเค้ารับออเดอร์เครื่องดื่มไปแล้ว
คุณสามารถใช้เวลากับการเลือกอาหารได้ ก่อนเรียกพนักงานมารับออเดอร์นะคะ
②สั่งจากตู้หยอดเหรียญก่อนยื่นให้ทางร้าน
เนื่องจากบางร้านคนเยอะ จึงไม่ควรยืนกดคูปองอาหารนานเกินไป หากพิจารณแล้วว่าใช้เวลานาน
แนะนำให้ถ่ายรูปเมนูที่ตัวเครื่อง แล้วออกมาเลือกก่อนไปกดอีกครั้งค่ะ 
สำหรับร้านที่ต้องต่อแถวนาน ถ้าไม่ได้อ่านรีวิว หรือดูเพจร้านไปก่อน อาจจะใช้เวลานาน
หรือทำการบ้านมาแล้ว แต่หาเมนูไม่เจอ หรืออ่านไม่ออก แต่แนะนำให้ขอความช่วยเหลือจากพนักงานค่ะ 
เอารูปให้เค้าดู หรือเตรียม Google translate ไว้ให้พร้อมค่ะ
 
ที่ญี่ปุ่นอาจจะมีร้านอาหารบางแห่งที่ไม่รับนักท่องเที่ยวนะคะ ถ้าหากเจอก็ไม่ต้องเสียใจ
เค้าไม่ได้เหยียด ไม่ได้อะไรเราหรอกค่ะ เค้าแค่กังวลว่าจะบริการไม่ดีพอ อาจจะพูดได้แค่ภาษาญี่ปุ่นล้วนเลยกังวลค่ะ
บางร้านก็มีแค่คุณลุงคุณป้า เป็นเจ้าของ แกก็กลัวจะสื่อสารกันไม่รู้เรื่องค่ะ
 
เรื่องที่สาม ต่อเนื่องจากข้อสอง คือการจ่ายเงินในร้านอาหาร
หากเป็นร้านที่จ่ายก่อนกิน ทานแล้ว ออกได้เลย 
แต่ถ้าเป็นร้านที่จ่ายทีหลัง จะมีสองแบบค่ะ 
①ถ้ามีบิล ใบออเดอร์ หรือถาดจดออเดอร์ วางไว้ที่โต๊ะ ให้นำไปจ่ายเงินได้ที่แคชเชียร์ค่ะ
ข้อนี้ฮามาก บางทีเราหาไม่เจอ อยู่ข้างโต๊ะบ้าง อยู่ใต้โต๊ะบ้าง ก็ยังหน้าแตกบ่อยๆค่ะ ฮ่าๆ
②ถ้าไม่มีอะไรวางไว้ สามารถเรียกพนักงานเพื่อแจ้งเก็บเงินได้ค่ะ
 
เรื่องที่สี่ เคารพกฎ กติกา ที่มีการตั้งไว้ และรักษามารยาทในที่สาธารณะ
เช่น การซื้อของที่ดองกี้ เรื่องนี้เราเจอบ่อยค่ะ คือสินค้าบางอย่าง กำหนดให้ซื้อได้จำกัดชิ้น
ก็จะมีคนไปโวยวายพนักงานว่า ไม่ได้ ชั้นอยากจะซื้อมากกว่านี้ ทางร้านช่วยไมได้นะคะ ไม่ได้ก็คือไม่ได้ค่ะ ต้องยอมรับนะคะ
 
นอกจากนี้ยังไม่ควรคุยโทรศัพท์มหรือส่งเสียงดังบนขนส่งสาธารณะ ไม่ว่าจะบัส หรือรถไฟ
อีกทั้งควรจะปิดเสียงโทรศัพท์ หรือเปิดเป็นระบบสั่นไว้แทนค่ะ
หากมีเรื่องด่วนจริงๆ รีบรับ แล้วรีบวางค่ะ อาจจะแจ้งว่าเดี๋ยวโทรกลับก็ได้เนอะ
ถ้าเป็นชินคันเซน จะมีโซนที่คุยโทรศัพท์ได้ หรือไปคุยตรงบริเวณที่คั่นโบกี้ได้ค่ะ
 
นอกจากบนรถขนส่งสาธารณะแล้ว ก็ไม่ควรเสียงดังเกิน ไม่ว่าจะที่ไหนๆค่ะ 
คือความที่คนญี่ปุ่นเงียบมาก บางที เราเสียงดังปกติ แต่พอมาอยู่ที่นี่เลยดังมากขึ้นค่ะ 55555555
ยกเว้นพวกอิซากายะ ร้านเหล้า คอนเสิร์ต สวนสนุก งี้ก็ดังได้ ไม่ได้เครียดมากหรอกค่ะ แค่อยากให้ระวังเรื่องระดับเสียงก็พอ
 
การข้ามถนนนะคะ ควรรอสัญญาณไฟให้เป็นสีเขียวก่อน ค่อยข้าม ถ้าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น มันไม่คุ้มค่ะ
เพิ่มเติมนะคะ ถ้าข้ามถนนแยกใหญ่ๆ เนี่ย ส่วนใหญ่จะไม่ต้องกดอะไร แค่รอสัญญาณไฟได้เลย
แต่บางที เจอแยกเล็กๆ รอไปเถอะ ไม่ได้ข้ามสักที เพราะไม่ได้กดปุ่มขอข้าม ฮ่าๆ 
ซึ่งอันนี้ บางทีก็มีภาษาอังกฤษ บางทีก็ไม่มีค่ะ แถมบางทีมีสองปุ่ม ปุ่มนึงขอข้าม ปุ่มนึงสำหรับคนแก่ ฮ่าๆ 
 
ถ้าเจอแยกที่ไม่มีสัญญาณไฟก็มองซ้าย มองขวา ก่อนข้ามถนนทุกครั้งนะคะ
คนญี่ปุ่นมีวินัยในการขับรถมาก ส่วนมากจะจอดให้คนข้ามถนนก่อนเสมอค่ะ
 
เรื่องการขึ้นบันไดเลื่อน
ถึงแม้ว่าญี่ปุ่นจะมีกฎออกมาว่าห้ามเดินบนบันไดเลื่อน แต่ก็ยังมีคนเดินอยู่ ทั้งญี่ปุ่นและต่างชาติ
ดังนั้นไม่ได้เคร่งมากในเรื่องนี้ แต่ ถ้าหากมีคนหยุดยืน ก็ต้องหยุดเหมือนกันค่ะ 
เราเคยโดนคุณป้าว่าครั้งนึง เพราะแกยืน เราก็ขอทาง แกบอกว่า เค้าไม่ให้เดินบนบันไดเลื่อนแล้ว
เราก็ขอโทษ และหยุดเดินค่ะ
 
ฝั่งในการยืนนะคะ คันโต หรือโซนโตเกียวมักจะยืนชิดซ้ายค่ะ
แต่ทางฝั่งคันไซ หรือโซนโอซาก้ามักจะยืนฝั่งขวาค่ะ
 
เรื่องการขึ้น-ลง รถแท็กซี่ 
ก่อนขึ้นสังเกตตรงประตู หรือกระจกก่อนนะคะ ถ้ามีเขียน Auto หรือ 自動 ต่างๆ แปลว่ามันอัตโนมัติเปิดปิดค่ะ
ถ้าไม่แน่ใจ ให้รอสักพัก ถ้าประตูไม่เปิด ค่อยเปิดเองค่ะ ถ้าไปฝืนเปิดประตูออโต้เค้าจะเสียไวค่ะ สงสารโชเฟอร์ ฮ่าๆ
เพื่มเติมสำหรับสายดื่ม สายช้อปดึกนะคะ กลางคืนค่าแท็กซี่มีเพิ่ม 20% 30% ด้วยน้า แล้วแต่บริษัท ดูดีๆนะคะ
มักจะเริ่มคิดเพิ่มประมาณ 4-5 ทุ่ม คือปกติก็แพงอยู่แล้วววว ฮืออ แนะนำ บางทีใช้ครั้งแรกตามแอพจะมีส่วนลดค่ะ
พวก Go, Japan taxi อะไรพวกนี้ เราก็ไม่ค่อยได้ขึ้นซะด้วยยยย

เพิ่มเติมสำหรับคนสูบบุหรี่นะคะ จริงๆแล้ว ญี่ปุ่นเคร่งครัดเรื่องที่สูบบุหรี่มาก 
ห้ามเดินไปสูบไป เดินสูบกลางถนนหนทางนี่เสี่ยงโดนตำรวจเรียกได้นะคะ
แต่ก็ยังมีอยู่ พวกที่หลบซอกตึกสูบบ้าง กลางคืนคนเมาสูบกันเพียบค่ะ 
ถ้าอยากให้ถูกต้องจริงๆ แนะนำหา Smoking area/ room มีเยอะค่ะ
ตามห้างก็จะมีเป็นห้อง ตามที่สาธารณะจะมีเป็นโซนให้สูบเลย
หรือว่าตามหน้าร้านสะดวกซื้อ ถ้ามีที่เขี่ยบุหรี่ตั้งอยู่ก็สูบได้เลย

ช่วงนี้แม้แต่บุหรี่ยังโดนเหยียด คือบางทีห้ามสูบบุหรี่มวน สูบได้แต่ไฟฟ้า/ iqos
เคยเห็นหลายที่ สงสารคนสูบบุหรี่มวนมาก ต้องไปหาสูบเอาที่อื่น
มีป้ายติดค่ะ ส่วนใหญ่เป็นภาษาญี่ปุ่น และอังกฤษ ไม่ต้องกลัวน้า
 
ตอนนี้นึกออกเท่านี้ ใครอยากทราบอะไรถามได้นะคะ ถ้าพอตอบได้จะตอบให้ค่า
สุดท้ายนี้ไม่ได้อยากให้ทุกคนเครียดเวลามาเที่ยว แต่อยากให้คิดซะว่าเป็นการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันนะคะ
ขอให้ทุกท่านสนุกสนานกับการมาเที่ยวญี่ปุ่นค่าาาาาา 
เพี้ยนเพลีย
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่