สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์การโดนล้วงกระเป๋าขโมยโทรศัพท์ไปครั้งแรก
เรื่องมีอยู่ว่า
เสาร์ที่ 23 กันยายน 2566
วันที่ไปทำธุระที่สยาม เสร็จระหว่างทางกลับบ้าน ไปแวะซื้อของที่เดอะมอลท่าพระ ซื้อของปกติเสร็จ โอนเงินสเเกนจ่าย เดินออกจากห้าง อยู่ตรงบันไดสะพานลอย หยิบโทรศัพท์ทักหาแฟนที่มารอรับอยู่แถวตลาดกระต่าย เสร็จเก็บเข้ากระเป๋า(ตอนนั้นส่วนหนึ่งเกิดจากความประมาททสะพายกระเป๋าข้างหลังและไม่ได้ปิดซิปให้เรียบร้อย บวกกับถือของพะรุงพะรัง ตอนนั้นเอง จขกท ก็มีความรู้สึกเหมือนมีคนมองแต่ไม่ได้สนใจอะไร) เเชทเสร็จเก็บเข้ากระเป๋า เดินข้ามสะพานลอยไป อยู่ที่ตลาด กำลังจะหยิบโทรหาแฟน ณ ตอนนั้นรู้ตัวว่าโทรศัพท์หายไปแล้ว (ระยะเวลาไม่ถึง 10 นาที)
ไอ้เราก็เป็นคนขี้ลืมประมาณหนึ่ง ก็เลยค้นหากระเป๋าดูไม่มี เอ๊ะลืม หรือ ทำตกไว้ที่เคาเตอร์หรือเปล่า เลยรีบเดินไปหา ประชาสัมพันธ์ ให้ช่วยประกาศหา สักพัก ให้พี่พนักงานช่วยโทร ยังโทรติดอยู่ 3 สายแรก เริ่มสังหรณ์ไม่ดี ให้พี่พนักงานช่วยต่อไวไฟให้ (วันนั้นพกไอแพดไปด้วย ซึ่งใส่ไว้ในช่องในของกระเป๋า)
ทักหาแฟน บอกว่าโทรศัพท์หาย แฟนโทรดู ปรากฏว่าโทรไม่ติด ตอนนั้นรู้เเจ่มแจ้งว่าไม่น่าจะใช่การทำตกแล้ว มีคนขโมยไปแน่ๆ แฟนซึ่งไวกว่าเราตอนนั้นกด Lost Mode ในไอแพดให้เเล้ว (การกด Lost Mode ทำให้ต่อให้เราตั้งรหัส หรือไม่มีรหัสก็ล้อกไว้ให้เข้าได้ยุ่งยากมากขึ้น บวกกับถ้าเครื่องถูกเปิดอีกมันจะเเจ้งเตือนในแอพให้
https://support.apple.com/th-th/guide/icloud/mmfc0f0165/icloud)
เนื่องจากโทรศัพท์เราเป็นรุ่นเก่า find my phone จึงไม่อัพเดท โลเคชั่นที่โชว์ในไอแพด คือโลเคชั่นสยาม (ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ทั้งๆที่โทรศัพท์รายเดือนเปิดเน็ตไว้ตลอดเวลา)
พอรู้แน่ชัดจึงรุดหน้าไปแจ้งความ ตำรวจบอกคนแถวนั้นโดนกันเยอะ ต่อให้มีภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นหน้าก็จับได้ยาก
(ถ้าให้ดีหาเลข imei, serial number ไปให้ตำรวจด้วย ตำรวจจะบันทึกในใบแจ้งความ)
ด้วยความสงสัยจึงไปขอดูกล้องวงจรปิดห้าง สรุปตรงนั้นกล้องวงจรปิดไปไม่ถึง เพราะเลยเขตห้างไปแล้ว
รุดเลยไปสอบถามร้านโทรศัพท์ละแวกนั้นว่ามีคนเอาเครื่องมาล้างไหม พี่คนขายเลยเล่าให้ฟังว่าที่นี่มีคนโดนบ่อยมากๆ บวกกับแนะนำว่าตรงหน้าป้ายรถเมล์สามารถไปติดต่อขอดูกล้องวงจรปิดได้ เปิดรูปหน้าคนร้ายให้ดูด้วย บอกว่าคนนี้แหละ
แล้วก็กลับบ้านมาโทรเข้าคอลเซนเตอร์ระงับแอพธนาคารทุกแบงค์ก่อน รวมทั้งโทรแจ้งเครือข่ายโทรศัพท์ให้ระงับสัญญาณ เปลี่ยนรหัสผ่าน apple id และทุกอีเมลล์
(ตอนนั้นใจหาโทรศัพท์อย่างเดียว จริงๆอยากบอกทุกคนว่าควรโทรให้ธนาคารระงับการททำธุรกรรมออนไลน์ก่อนให้เร็วที่สุด และควรตั้งรหัสแอพธนาคารให้แตกต่างจากรหัสหน้าจอ โชคดีที่ของเราเงินอยู่ครบ และเราก็ไม่มีบัตรเครดิตหรือเดบิตด้วย)
อาทิตย์ 24 กันยายน 2566
เอาใบเเจ้งความพร้อมบัตรประชาชนเข้ายื่นเรื่องกับทรูช็อป พอถามว่าจะติดตามเรื่องอย่างไร พนักงานบอกว่าให้โทรเข้าคอลเซนเตอร์
พร้อมทำซิมใหม่เบอร์เดิม
จันทร์ 25 กันยายน 2566
ไปทำงานปกติ ประมาณบ่าย 4 ได้รับข้อความว่าโทรศัพท์ของคุณถูกเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
(แฟนบอกว่าโจรส่งมาด้วยลิงก์ที่สร้างจาก api ไม่สามารถส่งตอบไปได้ ไม่ใช่การส่งจาก sms ปกติ จะเห็นว่าพวกนี้เป็นแก๊งมิจฉาชีพ ที่ทำมาแล้วหลายครั้ง)
ไอเราเห็นแล้วไม่ได้กดเข้า ไม่ได้คิดว่าเป็นมิจฉาชีพ แต่คิดว่า รู้แล้วจะไปตามยังไง ทำงานอยู่ แล้วจะไปคนเดียวเกิดโลเคชั่นไปโผล่ในที่แปลกๆน่ากลัวๆ เราจะไปคนเดียวมันปลอดภัยเหรอ หรือ จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาด้วย แต่ท่าจะยากแฮะ คิดไปคิดมา ก็ปล่อยไปไม่ได้กดอะไร
ส่งให้แฟนดูว่านี่มันมีแบบนี้เข้ามานะ
แฟนร้อนใจมากรีบโทรมา ประกอบกับตอนนั้นยุ่งกับงานมากๆ แต่แฟนโทรถี่จัดเลย ต้องรับแล้วแอบออกมาคุย แฟนร้อนใจมาก พูดว่าเราเป็นช็อตๆ ตอนนั้นสติสตังไปหมด กดลิ้งเข้าไปใส่รหัสผ่านเรียบร้อย รู้ตัวตอนแฟนไลน์มาบอกว่าลิงก์นั้นใส่รหัสให้โจรนะ ตอนนั้นรีบเปลี่ยนรหัสผ่าน apple id เลย วันนั้นแพนิคมาก เปลี่ยนไปสามรอบได้
(มานั่งวิเคราะห์กันแฟนทีหลังว่า พวกนี้อาจจะจงใจส่งในวันธรรมดาในเวลาำงานตอนยุ่งๆ)
(ในรูปคือเราเอาโทรศัพท์เครื่องเก่ากึ้ก iphone5)
จันทร์ 26 กันยายน 2566
ตอนตื่นมาตอนเช้า เจอแจ้งเตือนจากแอพ find my phone ว่าเจอโทรศัพท์เราแบบนี้
กับอีเมลล์หน้าตาแบบนี้ (ให้ทุกคนเปรียบเทียบของจริงของปลอม)
สรูปโลเคชั่นอยู่ ปอยเปตจ้าาาาา
วันนี้อยากรู้ต่อเลยโทรตามเรื่องกับทรู
ไม่ประทับใจเลย
โทรเข้าฝ่ายร้องเรียน ฝ่ายร้องเรียนให้ติอต่อ 1242
โทร 1242 บอกว่าต้องรู้สาขาที่เข้าไปทำธุรกรรม แล้วเจ้าหน้าที่ทำได้แค่ประสานงานให้ แล้วให้ขอเบอร์ของสาขานั้นไว้ (แต่ตอนยื่นเรื่องี่ทรูช็อป พนักงานบอกว่าติดตามเรื่องให้โทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ สรุปพูดแบบนี้เรื่องน่าจะปลิว ไปแล้ว อาจจะไม่ได้ถูกททำดำเนินต่อหรือเปล่า ต้องรอดูต่อไป)
ถ้ามีความคืบหน้าจะมาอัพเดทให้ต่อนะคะ
อยากมาแชร์เป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคนในการระวังตัว
อุทาหรณ์โดนล้วงโทรศัพที่กรุงเทพฯ โลเคชั่นไปโผล่ปอยเปต
เรื่องมีอยู่ว่า
เสาร์ที่ 23 กันยายน 2566
วันที่ไปทำธุระที่สยาม เสร็จระหว่างทางกลับบ้าน ไปแวะซื้อของที่เดอะมอลท่าพระ ซื้อของปกติเสร็จ โอนเงินสเเกนจ่าย เดินออกจากห้าง อยู่ตรงบันไดสะพานลอย หยิบโทรศัพท์ทักหาแฟนที่มารอรับอยู่แถวตลาดกระต่าย เสร็จเก็บเข้ากระเป๋า(ตอนนั้นส่วนหนึ่งเกิดจากความประมาททสะพายกระเป๋าข้างหลังและไม่ได้ปิดซิปให้เรียบร้อย บวกกับถือของพะรุงพะรัง ตอนนั้นเอง จขกท ก็มีความรู้สึกเหมือนมีคนมองแต่ไม่ได้สนใจอะไร) เเชทเสร็จเก็บเข้ากระเป๋า เดินข้ามสะพานลอยไป อยู่ที่ตลาด กำลังจะหยิบโทรหาแฟน ณ ตอนนั้นรู้ตัวว่าโทรศัพท์หายไปแล้ว (ระยะเวลาไม่ถึง 10 นาที)
ไอ้เราก็เป็นคนขี้ลืมประมาณหนึ่ง ก็เลยค้นหากระเป๋าดูไม่มี เอ๊ะลืม หรือ ทำตกไว้ที่เคาเตอร์หรือเปล่า เลยรีบเดินไปหา ประชาสัมพันธ์ ให้ช่วยประกาศหา สักพัก ให้พี่พนักงานช่วยโทร ยังโทรติดอยู่ 3 สายแรก เริ่มสังหรณ์ไม่ดี ให้พี่พนักงานช่วยต่อไวไฟให้ (วันนั้นพกไอแพดไปด้วย ซึ่งใส่ไว้ในช่องในของกระเป๋า)
ทักหาแฟน บอกว่าโทรศัพท์หาย แฟนโทรดู ปรากฏว่าโทรไม่ติด ตอนนั้นรู้เเจ่มแจ้งว่าไม่น่าจะใช่การทำตกแล้ว มีคนขโมยไปแน่ๆ แฟนซึ่งไวกว่าเราตอนนั้นกด Lost Mode ในไอแพดให้เเล้ว (การกด Lost Mode ทำให้ต่อให้เราตั้งรหัส หรือไม่มีรหัสก็ล้อกไว้ให้เข้าได้ยุ่งยากมากขึ้น บวกกับถ้าเครื่องถูกเปิดอีกมันจะเเจ้งเตือนในแอพให้ https://support.apple.com/th-th/guide/icloud/mmfc0f0165/icloud)
เนื่องจากโทรศัพท์เราเป็นรุ่นเก่า find my phone จึงไม่อัพเดท โลเคชั่นที่โชว์ในไอแพด คือโลเคชั่นสยาม (ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ทั้งๆที่โทรศัพท์รายเดือนเปิดเน็ตไว้ตลอดเวลา)
พอรู้แน่ชัดจึงรุดหน้าไปแจ้งความ ตำรวจบอกคนแถวนั้นโดนกันเยอะ ต่อให้มีภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นหน้าก็จับได้ยาก
(ถ้าให้ดีหาเลข imei, serial number ไปให้ตำรวจด้วย ตำรวจจะบันทึกในใบแจ้งความ)
ด้วยความสงสัยจึงไปขอดูกล้องวงจรปิดห้าง สรุปตรงนั้นกล้องวงจรปิดไปไม่ถึง เพราะเลยเขตห้างไปแล้ว
รุดเลยไปสอบถามร้านโทรศัพท์ละแวกนั้นว่ามีคนเอาเครื่องมาล้างไหม พี่คนขายเลยเล่าให้ฟังว่าที่นี่มีคนโดนบ่อยมากๆ บวกกับแนะนำว่าตรงหน้าป้ายรถเมล์สามารถไปติดต่อขอดูกล้องวงจรปิดได้ เปิดรูปหน้าคนร้ายให้ดูด้วย บอกว่าคนนี้แหละ
แล้วก็กลับบ้านมาโทรเข้าคอลเซนเตอร์ระงับแอพธนาคารทุกแบงค์ก่อน รวมทั้งโทรแจ้งเครือข่ายโทรศัพท์ให้ระงับสัญญาณ เปลี่ยนรหัสผ่าน apple id และทุกอีเมลล์
(ตอนนั้นใจหาโทรศัพท์อย่างเดียว จริงๆอยากบอกทุกคนว่าควรโทรให้ธนาคารระงับการททำธุรกรรมออนไลน์ก่อนให้เร็วที่สุด และควรตั้งรหัสแอพธนาคารให้แตกต่างจากรหัสหน้าจอ โชคดีที่ของเราเงินอยู่ครบ และเราก็ไม่มีบัตรเครดิตหรือเดบิตด้วย)
อาทิตย์ 24 กันยายน 2566
เอาใบเเจ้งความพร้อมบัตรประชาชนเข้ายื่นเรื่องกับทรูช็อป พอถามว่าจะติดตามเรื่องอย่างไร พนักงานบอกว่าให้โทรเข้าคอลเซนเตอร์
พร้อมทำซิมใหม่เบอร์เดิม
จันทร์ 25 กันยายน 2566
ไปทำงานปกติ ประมาณบ่าย 4 ได้รับข้อความว่าโทรศัพท์ของคุณถูกเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
(แฟนบอกว่าโจรส่งมาด้วยลิงก์ที่สร้างจาก api ไม่สามารถส่งตอบไปได้ ไม่ใช่การส่งจาก sms ปกติ จะเห็นว่าพวกนี้เป็นแก๊งมิจฉาชีพ ที่ทำมาแล้วหลายครั้ง)
ไอเราเห็นแล้วไม่ได้กดเข้า ไม่ได้คิดว่าเป็นมิจฉาชีพ แต่คิดว่า รู้แล้วจะไปตามยังไง ทำงานอยู่ แล้วจะไปคนเดียวเกิดโลเคชั่นไปโผล่ในที่แปลกๆน่ากลัวๆ เราจะไปคนเดียวมันปลอดภัยเหรอ หรือ จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาด้วย แต่ท่าจะยากแฮะ คิดไปคิดมา ก็ปล่อยไปไม่ได้กดอะไร
ส่งให้แฟนดูว่านี่มันมีแบบนี้เข้ามานะ
แฟนร้อนใจมากรีบโทรมา ประกอบกับตอนนั้นยุ่งกับงานมากๆ แต่แฟนโทรถี่จัดเลย ต้องรับแล้วแอบออกมาคุย แฟนร้อนใจมาก พูดว่าเราเป็นช็อตๆ ตอนนั้นสติสตังไปหมด กดลิ้งเข้าไปใส่รหัสผ่านเรียบร้อย รู้ตัวตอนแฟนไลน์มาบอกว่าลิงก์นั้นใส่รหัสให้โจรนะ ตอนนั้นรีบเปลี่ยนรหัสผ่าน apple id เลย วันนั้นแพนิคมาก เปลี่ยนไปสามรอบได้
(มานั่งวิเคราะห์กันแฟนทีหลังว่า พวกนี้อาจจะจงใจส่งในวันธรรมดาในเวลาำงานตอนยุ่งๆ)
(ในรูปคือเราเอาโทรศัพท์เครื่องเก่ากึ้ก iphone5)
จันทร์ 26 กันยายน 2566
ตอนตื่นมาตอนเช้า เจอแจ้งเตือนจากแอพ find my phone ว่าเจอโทรศัพท์เราแบบนี้
กับอีเมลล์หน้าตาแบบนี้ (ให้ทุกคนเปรียบเทียบของจริงของปลอม)
สรูปโลเคชั่นอยู่ ปอยเปตจ้าาาาา
วันนี้อยากรู้ต่อเลยโทรตามเรื่องกับทรู
ไม่ประทับใจเลย
โทรเข้าฝ่ายร้องเรียน ฝ่ายร้องเรียนให้ติอต่อ 1242
โทร 1242 บอกว่าต้องรู้สาขาที่เข้าไปทำธุรกรรม แล้วเจ้าหน้าที่ทำได้แค่ประสานงานให้ แล้วให้ขอเบอร์ของสาขานั้นไว้ (แต่ตอนยื่นเรื่องี่ทรูช็อป พนักงานบอกว่าติดตามเรื่องให้โทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ สรุปพูดแบบนี้เรื่องน่าจะปลิว ไปแล้ว อาจจะไม่ได้ถูกททำดำเนินต่อหรือเปล่า ต้องรอดูต่อไป)
ถ้ามีความคืบหน้าจะมาอัพเดทให้ต่อนะคะ
อยากมาแชร์เป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคนในการระวังตัว