เรามีเพื่อนคนนึงนิสัยดีและใจเย็นมาก แต่พอเพื่อนเราเรื่องทำงานพาร์ทไทม์ให้ฟังแล้วรู้สึกว่านี่หรอสิ่งที่เพื่อนฉันเจอ

สวัสดีค่ะ เรามีเรื่องของเพื่อนอยากจะเล่าให้ฟังค่ะ ตอนนี้เราเรียนอยู่มหาลัยปี1ค่ะ เรามีเพื่อนคนนึงนางบอกเราว่านางทำงานพาร์ทไทม์อยู่ที่นึง(ตอนนั้น ขอไม่บอกนะคะว่าที่ไหน) เราเคยถามนางว่าเราขอไปทำด้วยได้ไหม เพราะตอนนั้นเราก็กำลังหางานพาร์ทไทม์ทำอยู่เหมือนกันค่ะ นางบอกว่ากฏระเบียบมันเยอะน้าาา แล้วเราก็ย้อมสีผมอยู่ด้วยค่ะ นางบอกว่างานพาร์ทไทม์ที่นางทำห้ามย้อมสีผม เราก็เซ็งๆนิดนึงแต่ไม่เป็นไรค่ะ

เข้าเรื่องเลยนะคะ มีอยู่ครั้งนึงวันนั้นเป็นวันจันทร์เรามีเรียนตอนเช้า ส่วนนางมีเรียนตอนเที่ยง นางก็มามหาลัยตามปกติเราบอกนางว่าเราอยู่โรงอาหาร นางก็มาหาเราที่โรงอาหาร แต่สภาพที่เราเห็นนางคือนางดูเหนื่อยมาก(เหมือนไปวิ่งรอบสนามมา10รอบ) เราถามนางว่าเดินมาจากไหนเนี่ยทำไมดูเหนื่อยจัง นางบอกว่าข้างนอกม.มันร้อนสภาพเลยเป็นแบบนี้แล้วนางก็หัวเราะ(ในเสียงหัวเราะของนางมันดูมีอะไรเราสัมผัสได้) มีอยู่ครั้งนึงวันนั้นเป็นวันศุกร์พวกเราเลิกเรียนเสร็จประมาณบ่ายสามโมงครึ่ง แล้วแก๊งเราก็ไปนั่งกินข้าวที่โรงอาหาร พอกินข้าวเสร็จก็จะแยกย้ายกันกลับบ้านแล้วนางก็พูดขึ้นมาว่า ไม่อยากกลับเลย อยากนั่งอยู่ที่มหาลัยเรื่อยๆ ทั้งๆที่เพื่อนคนอื่นในแก๊งเราดูมีความสุขที่พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์(ตอนนั้น)แต่นางก็หันมายิ้มแห้งๆให้กับเพื่อนๆแล้วสุดท้ายก็แยกย้ายกันกลับบ้าน มีอยู่ครั้งนึงเราเห็นนางโพสต์สตอรี่ไอจีแปลกๆนางโพสต์เหมือนประชดชีวิตยังไงไม่รู้แต่เรารู้สึกว่ามันแปลกๆค่ะ นางโพสต์รูปที่นางถ่ายกับเพื่อนแล้วดูมีความสุขเหมือนประชดชีวิตแล้วก็ใส่เพลงแปลกๆลงสตอรี่ไอจีค่ะเราเห็นแล้วเรารู้สึกว่ามันแปลกๆ พอวันถัดมาเราก็เลยถามนางว่าชีวิตตอนนี้มีความสุขดีใช่ไหม นางบอกว่าก็มีความสุขดีนะทำไมหรอแล้วนางก็หัวเราะ เราเลยบอกนางไปว่าเราเห็นนางโพสต์สตอรี่ไอจีแล้วดูมีความสุขแบบแปลกๆยังไงไม่รู้ นางก็พูดว่าแปลกยังไงแล้วนางก็หัวเราะ แล้วเราก็ถามนางว่างานพาร์ทไทม์ที่ทำอยู่เป็นไงบ้าง นางบอกว่าก็ปกติดีนะ(พอเราถามนางเรื่องงานนางดูเหมือนไม่ค่อยอยากเล่าให้ฟังเท่าไหร่) จากนั้นเราก็ไปกินข้าวด้วยกัน แล้วนางก็ถามเราว่า ถ้าเกิดว่านางไม่ใช่คนดีอย่างที่เราคิดเราจะยังเป็นเพื่อนกับนางอยู่ไหม เราก็สงสัยนะว่าทำไมนางถึงถามแบบนี้ เราก็ตอบนางไปว่านางคือเพื่อนเราไม่ว่านางจะเป็นคนแบบไหนเราก็จะไม่ทิ้งนาง แล้วเราก็ถามนางว่าทำไมถึงถามแบบนี้ นางบอกเราว่านางรู้สึกว่านางพยามปรับทัศนคติพยามมองโลกในแง่ดีพยายามปรับปรุงตัวเองทุกอย่างพยามพูดแต่สิ่งดีๆอยู่นิ่งๆไม่ยุ่งกับใครเวลาที่นางเจอเรื่องไม่ดีหรือมีใครว่านาง นางก็จะคิดว่าสงสัยเขาคงไปเจอเรื่องที่ไม่ดีมามั้ง นางบอกว่านางก็จะช่างมันจะไม่เก็บมาคิดให้รกสมอง นางบอกว่าทุกอย่างมันเกือบจะดีแล้ว แต่นางบอกว่าไม่รู้มันเกิดอะไรขึ้น อยู่ดีๆนางก็มีความรู้สึกหมันไส้เพื่อนร่วมงานแต่นางไม่สามารถพูดออกไปได้ นางมีความรู้สึกว่าทำไมรอบข้างถึงปฏิบัติกับเพื่อนร่วมงานนางไม่เหมือนกับนางบลาๆๆ(มีหลายเรื่องที่นางพูดแต่ว่าเราขอไม่เล่านะคะ) นางบอกว่านางเลยปล่อยตัวเองไปเลยจากที่พยายามมองโลกในแง่ดีพยายามพูดแต่สิ่งดีๆก็กลายเป็นพูดจาหยาบคายเลิกแคร์คนอื่นเวลารู้สึกไม่พอใจก็จะทำเสียงแข็งออกมาเอง นางบอกว่านางรู้ตัวนะคะแต่นางไม่สามารถห้ามตัวเองได้แต่เป็นเฉพาะเสียงค่ะ แต่นางบอกว่าทุกครั้งที่นางพูดอะไรออกไปด้วยโทนเสียงแข็งๆหลังจากนั้นนางจะเงียบแล้วพยายามเดินหนีทันทีเพราะนางบอกว่านางกลัวว่านางจะทำอะไรที่ไร้สติโดยไม่รู้ตัว นางบอกว่านางทำตัวแบบนี้เฉพวะเวลาไปทำงานเท่านั้น นางบอกว่าต่อให้เราพยายามปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นมากแค่ไหนถ้าเกิดเขาไม่ชอบก็คือไม่ชอบ เราก็เลยบอกว่าให้นางเลิกทำเถอะ ไม่ต้องไปแล้วนะ เราไม่รู้ว่าเราแนะนำนางแบบนี้จะดีไหม แต่จากที่เราเห็นนางและฟังนางเล่ามาทั้งหมดเรารู้สึกว่าเราไม่อยากให้นางทำงานที่นั่นจริงๆนะคะ จากนั้นนางบอกเราว่านางไม่ทำแล้วนะ เราถามนางว่านางโอเคดีใช่ไหม นางบอกว่าโอเครู้สึกเบาสมองขึ้นมาเลย พอเราเห็นนางดีขึ้นกว่าที่ผ่านมาเราก็ดีใจค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่