อยากให้แม่เลิกโฟกัสกับสมบัติของปู่ย่า ควรพูดกับท่านยังไงดีคะ

คุณแม่เป็นแม่เลี้ยงของเราค่ะ แต่ท่านก็เลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็กๆ เราขอเรียกท่านว่าคุณแม่นะคะจะได้ไม่งง

ปู่กับย่าเราอายุมากแล้วค่ะ ช่วงปีสองปีที่ผ่านมาท่านกำลังแบ่งมรดกให้ลูกๆซึ่งก็แบ่งเสร็จไปมากกว่า 90% แล้ว 
ทีนี้มันมีที่ดินอยู่ 1 ส่วนที่เป็นที่ดินประเภทที่ต้องส่งต่อให้เฉพาะทายาทที่เป็นเกษตรกรเท่านั้น (เราไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย ซึ่งอันนี้เล่าตามที่แม่เล่ามา) ซึ่งในตอนแรกบรรยาลูกๆของปู่ย่า (ก็คือลุง ป้า น้า อา ของเรานั่นแหละ) ตกลงกันว่าจะโอนเป็นชื่อของพ่อเรากับอาอีกคน แต่ถึงวันโอนปรากฎว่าไม่สามารถทำได้ เพราะอามีชื่อขึ้นในระบบประกันสังคม ซึ่งพ่อเราก็เสนอความคิดไปว่างั้นใส่ชื่อพ่อคนเดียวไหม แต่พี่น้องคนอื่นไม่ยอม วันนั้นก็โอนไม่สำเร็จไป

พออีกวันปรากฏว่าลุงคนโตไปขอย่าว่าให้ใส่ชื่อลุงคนเดียว ย่าก็ยอม สุดท้ายก็โอนเป็นชื่อของลุงไป แม่ก็เลยไม่พอใจเพราะรู้สึกเหมือนว่าโดนทำร้าย ตั้งแต่วันนั้นจนผ่านมาเป็นเดือนแล้วแม่ก็ไม่มูฟออน ทุกครั้งที่เราโทรไปหาก็จะพูดแต่เรื่องนี้ บางครั้งพูดวนเป็นชั่วโมงๆ แม่จะพูดประมาณว่าพ่อเสียใจ พี่น้องไม่น่ามาทำร้ายกันแบบนี้ พ่ออับอายชาวบ้าน แต่เราไปถามพ่อด้วยตัวเองพ่อบอกว่าพ่อไม่ได้เสียใจ ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ได้แค่นั้นเอง 

เดือนหน้าแม่ต้องเข้าผ่าตัด เราไม่อยากให้แม่เครียดเพราะกลัวว่าจะกระทบกับสุขภาพแล้วจะกระทบกับการผ่าตัดด้วย เราพยายามบอกให้แม่มูฟออน เราบอกว่าใครอยากได้ใจเขาก็เป็นทุกข์ ใครที่ไม่อยากได้ใจก็ไม่เป็นทุกข์ แต่เหมือนท่านจะไม่ฟังเท่าไร

เราเข้าใจในมุมของแม่ว่าพ่อกับแม่ดูแลปู่กับย่าทุกเรื่องมาตลอด ดูแลมากกว่าลูกทุกคนรวมกันและในการแบ่งทรัพย์สินทุกอย่างพ่อเราได้น้อยที่สุด บางอย่างก็ต้องซื้อเอาถึงจะได้มาปู่กับย่าไม่ได้ให้ฟรีๆเหมือนลูกคนอื่น แม่คิดว่าปู่กับย่าน่าจะเห็นความดีของพ่อบ้าง แต่ในความคิดเราคือก็เขาไม่ให้ คิดไป เครียดไปก็เท่านั้น เราปล่อยวางแล้วมาใช้ชีวิตของเราดีกว่าเพราะทุกวันนี้ครอบครัวเราไม่เคยต้องขอความช่วยเหลือจากพี่น้องพ่อเลย มีแต่พี่น้องพ่อมาขอความช่วยเหลือตลอด

ขอคำแนะนำในการคุยกับแม่ให้แม่ปล่อยวางและทำใจให้สบายหน่อยค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำล่วงหน้าค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่