A glimpse into the heart of Italy
Italy จ๋า ฉันมาแล้ว
————————————
 
หลังจากจบ Hong Kong 2023 ไปไม่นานนี้ แล้วก็ห่างหายไปนานมากสำหรับกระทู้ในpantip ก็เปิดปฐมฤกษ์บทใหม่เลยทันที นั่นคือประเทศอิตาลี ประเทศรวยทรัพย์ รวยสถาปัตยกรรม รวยธรรมชาติและรวยมิจ 55 จริงๆถือว่าเป็นการมายุโรปครั้งแรกของแอดเลย บอกตามตรงว่าจิตตกอยู่เพราะกลัวมิจนี่แหละ เลยทำให้ต้องเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี จริงๆภารกิจหลักของการมาเยือนอิตาลีก็คือการมาpresent วิจัย Oral Presentation ของ ERS และการอัพเดตความรู้ ส่วนเรื่องเที่ยวถือว่าเป็นภารกิจรองมากกว่าแต่ว่าแพลนแน่นมาก เพราะไหนๆก็มาแล้ว ก็เอาให้คุ้ม เพราะไม่รู้ว่าจะได้มาอีกเมื่อไหร่ โดยcontent ปฐมบทจะเป็นการปูพื้นฐาน overviewก่อน โดยจะแยกcontentท่องเที่ยวออกไปเป้นแต่ละ chapter รวมไปถึงการเตรียมตัวตั้งแต่ขอวีซ่าและวิธีป้องกันตัวเองและรับมือกับคุณมิจ การจองตั๋วรถไฟให้ได้คุ้มมากที่สุด (แอดจองช้า ยังเสียดายเงินไม่หาย) contentย่อยๆ อาจจะเยอะนิดนึงนะเพราะว่ามาอยู่ 1อาทิตย์เลย แต่รับรองว่าน่าติดตามและมีประโยชน์ทุกอัน (partของการเตรียมตัวก่อนมา พวก visa อุปกรณ์กันมิจ หรือว่าapplicationช่วยชีวิต เดี๋ยวขอแยกไว้อีกcontentนะ เพราะม้วนบวมแล้วจ้า)


การเตรียมตัวการขอวีซ่าและการเตรียมตัวป้องกันมิจ: ข้ามไปก่อนนะ ไว้ในรายละเอียดหน้า
Applicationช่วยชีวิต
1.Google map ขาดไม่ได้เด็ดขาดทุกการเดินทาง ถ้ามีสปอนเข้าได้ 55 บอกละเอียดยันการเดินทางรอบรถไฟ
2.Rome2rioหรือ Omio จะเป็นapplication ที่ช่วยวางแผนการเดินทางแล้วเลือกrouteที่ถูกที่สุดให้ แต่แอดว่าไม่เสมอไป จองเองผ่านwebsite อาจจะได้ราคาดีกว่า (รอติดตามตอนต่อไป)
3.Freenow appไว้เรียก taxi ตัดผ่านบัตรเลย บอกว่าถูกกว่า Uber (แต่ก็ใช้ Uberอยู่ดี เอ่างงไปอีก)

ที่พัก

อันนี้สำหรับกลุ่มของแอดอย่างที่บอกว่า เรามีภารกิจหลักคือการpresentวิจัยนะ เราเลยจะปักหลักนอนที่ Milan เป็น base แล้ววันไหนที่ต้องออกเดินทางท่องเที่ยว ก็ลงทุนตื่นเช้าหน่อย มันมีข้อดีคือ เราไม่ต้องย้ายกระเป๋าไปตามเมืองต่างๆ ไม่ต้องแบกกระเป๋าขึ้นรถไฟ ก็จะได้เบาสายตาของเหล่าพี่มิจสักหน่อย แต่ข้อเสียคือบางวันคือตื่นเช้ามาก แบบมากๆๆ แล้วก็ยังเก็บไม่ครบlandmarkทั้งอิตาลีนะ ที่พักก็คือราคาแรงมากในอิตาลี ต้องทำใจ แต่แอดนอนที่ Mita Milano Garden บอกเลยว่าดีมากๆ เพราะใกล้metro แล้วก็ใกล้งานประชุมที่แอดและผองเพื่อนสามารถเดินเท้าเปล่าไปได้ แต่อาจจะไม่ได้อยู่ตรงcenter ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวมาก นอกจากนี้เจ้าของห้องก็ดูแลดีมากๆ ได้ห้องใหญ่ 2ห้องเลย แบบมีห้องนั่งเล่นด้วย(ใครสนใจสามารถหลังไมค์มาถามเรื่องที่พักได้)

จองตั๋วก่อนได้เปรียบ
1.ตั๋วรถไฟที่ขึ้น high speed train ยิ่งจองก่อนล่วงหน้า ก็จะได้ราคาดีมากๆ ประหยัดไปได้เยอะ (เดี๋ยวมีcontentแยกอีกที)
Train ticket ที่แอดใช้จองคือของ Trenitalia -> https://www.trenitalia.com/en.html
Cinque Terre pass -> www.parconazionale5terre.it
2.Italy เป็นเมืองแห่งแฟชั่น พิพิธภัณฑ์และสภาปัตยกรรม หากจะเข้าชมอะไรสักอย่าง เราควรจองตั๋วมาก่อนเลย จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาต่อคิว แล้วไม่รู้ว่าตั๋วจะหมดด้วยหรือเปล่า
Duomo di Milano -> https://ticket.duomomilano.it/en/biglietti/
  สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
แอดlistขึ้นมาเอง ตามความชอบและความอยากส่วนตัว โดยแทบจะไม่ได้ขอความเห็นจากเพื่อนเลย แค่บอกเพื่อนว่า เอ่อ กุจะไปอันนี้นะ 55 ทำให้บางวันเราต้องแหกขี้ตาแต่เช้ามืดเพื่อไปขึ้นรถไฟ แต่แอดว่ามันก็คุ้มแหละ มาทั้งที แต่ถ้าใครจะไปจัดทริปตาม แอดแนะนำว่า หาข้อมูลอันอื่นประกอบด้วยนะ อย่าลอกแอดหมดเพราะบางทริปจัดไปก็ทรมานสังขารตัวเอง 55 (อันนี้ก็ต้องขอขอบคุณ evidenceและreviewต่างๆ จากreviewer และเพื่อนๆพี่น้องที่รู้จัก ที่แอดเอาแพลนมาmixเป็นของตัวเอง)

Day1:
Milan based เนื่องจากมาถึงวันแรกก็ขอลองใช้ชีวิต City lifeก่อน เลยอยู่ที่แค่ Milan ไป
-Duomo di Milano, Duomo rooftopและ museumซึ่งถือว่าเป็น landmark ของ Milan ที่ทุกคนต้องมา

-Santa Maria delle Grazie มาดูที่อยู่ของภาพวาดของ Leonardo Da Vinci ชื่อดังนั่นคือ the last supper แต่ได้อยู่แค่ด้านนอกนะ เพราะว่าตั๋วหมด จองออนไลน์มาไม่ทัน TT

-Castello Sforzesco ปราสาทเก่าแก่กลาง Milan

-Parco Sempione สวนสาธารณะบริเวณข้างๆกันเลย

-Arco della Pace ประตูชัยที่สร้างเป็นเกียรติแห่งชัยชนะของนโปเลียนอยู่บริเวณเดียวกันทั้งหมดกับ Castello Sforzesco เดินๆต่อมาได้

-Galleria Vittorio Emanuele II สำหรับ Window shopping และไปหมุนเท้าที่อัณฑะวัวเพื่อขอให้ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง : )
พอละสำหรับวันนี้เพราะว่าพรุ่งนี้คือตื่นเช้ามากแล้วก็jet lagด้วยส่วนหนึ่ง แต่ก็คือเดินเยอะมาก

Day2:
Pisa-Cinque Terre ทริปทรหด ตื่นเช้ามาก ออกจาก Milan ตี5 เพื่อไปดู 1ใน 7 Wondersยุคกลาง (แต่ตัวเมือง Pisa ไม่ค่อยมีอะไรมาก ครึ่งวันก็พอแล้ว) ส่วน Cinque Terreก็คือสนองneed ตัวเอง เพราะอยากมาเห็นด้วยตาของตัวเองจริงว่า หมู่บ้านบนหน้าผาริมทะเลทั้ง5 จะสวยเหมือนกับรูปภาพที่เคยเห็นหรือเปล่า คือแอบเป็น dream destination ของแอดเลย จริงๆมี5 หมู่บ้าน แต่แอดไปแค่4 เพราะว่าอีกหนึ่งหมู่บ้านไม่ติดทะเลแล้วค่อนข้างทรหดในการเดินขึ้น ก็เลยไม่ได้ไป เสร็จแล้วก็เดินทางกลับ Milan แบบ one day tripเลย
-Pisa: leaning tower of Pisa, Duomo di Pisa

-Cinque Terre: Riomaggiore, Manarola, Vernazza, Monterosso al Mare dream destination ที่ต้องมาสักครั้งในชีวิต



Day3: 
Como Lake มาชมทะเลสาบที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Hallstatt of Italyเลย แล้วก็เดินทางเพียงแค่ประมาณ 50นาทีจาก Milan มาชมเมืองริมทะเลสาบ ทั้ง Varenna และ Bellagio แค่2เมืองพอ 55 เพราะมีเวลาแค่ครึ่งวัน บรรยากาศดีแต่ร้อนมาก เดินแปบเดียว เลิกเลย
-Varenna
-Bellagio เดินทางระหว่างสองเมืองโดยเรือเฟอร์รี่


Day4: 
ภารกิจหลัก presentวิจัยและตั้งใจเรียนแบบทั้งวันใน ERS congress หลังจากเลิกเราก็hoppingเล่นใน Milanนี่แหละ กลับไปเดินเล่น Duomo และ Galleriaอีกรอบเพื่อชมแสงเย็นของ Duomo

Day5:
Milan based เช่นกัน เพราะว่าวันนี้ก็ต้องเข้างานประชุม ก็เลยเดินเล่นเรื่อยเปื่อยใน Milanนี่แหละ ไป window shopping ที่ Via Montenapoleone fashion district ถนนสายshopping เส้นใหญ่ที่สุดเส้นหนึ่งของ Milanเลย, Starbucks Roastery Reserve มากินกาแฟใส่น้ำแข็งหลังจากที่โหยหากาแฟดำใส่น้ำแข็งมานาน


Day6:
Venezia, Queen of the adriatric แบกร่างออกจาก Milanแต่เช้าเพื่อไปหาราชินีแห่งอเดรียติก ที่ถือว่าเป็น dream destinationของใครหลายคน จริงๆมีเวลา one day trip แอดคิดว่าก็น่าจะโอเคแล้วสำหรับ Venice แต่ก็อาจจะไปได้ไม่ครบทุกจุดมาก(แต่ก็คือเกือบครบนะ เดินขาลากเลย)