สวัสดีค่ะ เราชื่อแบม ในวันนี้เราอยากจะมาเล่าเรื่องราวความรักครั้งแรกของเราให้ทุกคนไเ้มาอ่านกัน
เรื่องราวของความรักระหว่างเรากับเพื่อนของลูกพี่ลูกน้องเรา แถมเป็นรักครั้งแรกด้วย เรารู้สึกอยากเก็บเรื่องราวนี้ไว้เป็นความทรงจำ แม้ว่าตอนจบจะจบในรูปแบบไหนก็ตาม แล้วก็อยากแชร์ประสบการณ์ที่หลากหลายอารมณ์ของความสัมพันธ์แบบนี้ด้วย...
มาเริ่มกันดีกว่าค่ะ...
เรื่องมีอยู่ว่าเราเป็นนักศึกษาพยาบาลปีสามอายุ21ปี เราไม่เคยมีแฟนแบบจริงๆจัง หรือมีความรักจริงๆจังๆเลยสักครั้ง เคยมีก็แต่ความรักแบบเด็กๆเมื่อนานมาแล้ว เราเรียนหญิงล้วนมาตลอดตั้งแต่ประถมยันมัธยม ทำให้เพื่อนผู้หญิงเราเยอะมาก แล้วก็ไม่เคยมีเพื่อนผู้ชายเลยแม้แต่คนเดียว ผู้ชายที่รู้จักหรือสนิทที่สุดก็มีแต่น้องชาย พ่อ แล้วก็ญาติๆเท่านั้นเอง แล้วเราก็ค่อนข้างมีอคติกับผู้ชายนิดหน่อยเพราะคนรอบตัวที่เป็นเพื่อนเราโดนผู้ชายทำเรื่องแย่ๆใส่มา มันทำให้เรามองผู้ชายในแง่ลบไปพอสมควร แต่ถามว่าอยากมีแฟนไหม อยากมีนะ คืองี้เราบ้าผู้ชายในมังงะมากกก อ่านมังงะ อ่านนิยายอะไรแบบนี้ทุกที เป็นต้องอยากมีคงามรักอยู่ตลอด แต่ก็อยากมีที่เป็นแบบพระเอกนิยาย ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าในชีวิตจริงจะมีแบบนี้ไหมด้วยซ้ำ
เรากับเพื่อนมัธยมเราสนิทกันแบบสุดๆ แต่พอขึ้นมหาลัยต่างคนต่างก็แยกย้ายไปคนละทิศคนละทาง คนละสังคม ทำให้เราคุยกันน้อยลง แค่เราก็เป็นเพื่อนสนิทกันและคุยกันเหมือนเดิมนะ เราติดต่อกับเพื่อนในกลุ่มตลอดก็เลยเห็นว่าเพื่อนไปสถานที่ต่างๆที่เราไม่เคยไป อย่าง ผับ บาร์ อะไรแบบนี้ แล้วเพื่อนก็รู้จักคนใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ มีประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งต่างจากเราที่เป็นพวกเปิดใจยาก อยู่แต่เซฟโซนของตัวเอง จริงๆแล้วเราก็อยากออกนะ แต่แค่เราไม่มีความกล้าพอเท่านั้นเอง
เพื่อนสนิทที่สุดของเราชื่อว่า 'เม' ตั้งแต่เข้ามหาลัยมาเมก็เที่ยวบ่อยขึ้นแล่วชวนเราไปด้วยอยู่ตลอด แต่เราก็ปฏิเสธที่จะไปผับหรือบาร์ทุกครั้ง มันมีหลายเหตุผล 1.เรายังไม่กล้าไป เลยคิดว่าเรียนจบก่อนแล้วค่อยไปดีกว่า 2.ช่วงนั้นช่วงโควิท แล้วเรามีฝึกงานขึ้นวอร์ดเราเลยไม่อยากเสี่ยงแล้วไปคิดคนไข้ เลยปฏิเสธเมไป แต่ก็เสียดายมากเหมือนกัน พอได้เห็นเพื่อนในกลุ่มมีโมเม้น มีประสบการณ์ใหม่ๆ เราก็เริ่มอยากมีบ้าง แล้วช่วงนั่นเพื่อนในกลุ่มเราคนนึงชื่อว่ายูก็มีแฟนด้วย เราก็เลยเหงาเป็นพิเศษเลยแหละ...
เวลาผ่านไปไม่กี่อาทิตย์ก็ถึงวันเกิดเรา เราเป็นคนชอบเข้าวัดทำบุญมาก วันนั้นเลยไปขอพรที่วัด และวันนั้นก็เป็นครั้งแรกที่เราตัดสินใจขอพรเรื่องความรักเป็นอันดับ1 เราขอพรท่านว่า "เราขอให้เจอใครสักคนที่ทำให้เราใจเต้น ทำให้เรารู้สึกดีเหมือนเป็นนางเอกในนิยาย" ตอนนั้นเราไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นจริงไหม จนกระทั้งหลังวันเกิดเรา1วันเท่านั้น...
เราไม่ค่อยเล่นไอจี ไม่ค่อยลงรูปเท่าไหร่ เป็นคนintrovert ตัวมัม แต่วันนั้นอะไรดลใจให้เข้าไอจีก็ไม่รู้ แล้วก็ไปเห็นสตอรี่ของ 'พี่คนนึงที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง ชื่อว่า พี่พรีม' ที่ไม่ได้เจอกันมาสามปี เมื่อก่อนเราสนิทกันมาก แต่ก็เคยมีช่วงทะเลาะกันหนักเหมือนกัน แต่นั่นก็นานมาแล้ว พอเรากดเข้าไปดูในสตอรี่ ก็เห็นว่าพี่พรีมอยู่ในผับมีดนตรี มีแสงสีมากมาย แล้วก็ ไปเจอผู้ชายคนนึง...
เอาจริงๆครั้งแรกที่เห็นผู้ชายคนนั่น เรารู้สึกไม่ค่อยถูกชะตาเท่าไหร่เลย หน้าตาเข้มๆ ตัวใหญ่ๆใส่ชุดสีดำกางเกงดำเหมือนพวกแบดบอยไม่มีผิด แถมเต้นอย่างเมามันส์ในผับอีกต่างหาก แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรต่อมากมาย เพราะเราโฟกัสกับสถานที่ที่พี่พรีมถ่ายซะมากกว่า ว่าอยากไปมากๆ ช่วงนั่นเพิ่งฝึกงานเสร็จพอดี กำลังอยู่ช่วงปิดเทอมเลยด้วย แถมยังเหงาเอามากๆ ความตั้งใจที่ว่าจะไปหลังเรียนจบก็ขาดสะบั้น เราเลยตัดสินใจทักพี่พรีมไปว่าอยากไปผับด้วย ซึ่งพี่พรีมก็ยินดีพาเราไปมากๆแล้วตกลงกันว่าค่อยไปกันอาทิตย์หน้า เราก็ฝากฝังให้พีาพรีมช่วยดูแลเราด้วยเพราะเราก็ไม่เคยไปสถานที่แบบนี้เลย แถมชุดเราก็ไม่มีชุดไหนเข้าผับได้เลยซักชุด เราเลยตัดสินใจเอาเสื้อครอปสีเขียวเรืองแสงไปแล้วกัน กับกระโปรงสีดำที่สั้นๆหน่อย เผื่อมันจะเข้าผับได้บ้างล่ะวะ...
พอถึงวันที่นัดกันพี่พรีมก็ขับรถมารับเราไปที่คอนโดพี่เขาก่อนเพื่อแต่งตัวและเตรียมตัวไปผับต่อ ตอนนั้นพี่พรีมเห็นชุดที่เราเอามา พี่เขาก็จัดการเปลี่ยนเสื้อให้เราเลย เป็นสายเดี่ยวกับมีเสื้อคลุม เราตกใจมากที่ให้เราใส่สายเดี่ยว เพราะเราไม่เคยใส่ชุดสายเดี่ยวมาก่อน แล้วหน้าอกเรามันก็ไม่ใช่เล็กๆ พอใส่แล้วก็รู้สึกว่ามันโป๊มาก รับแทบไม่ได้ แต่ยังดีที่ยังมีเสื้อคลุม เราเอาเสื้อคลุมนั่นติดกระตุมให้มิดชิดเลย จนพี่เราบอกให้เราเปิด แต่เราก็ยังไม่พร้อมเปิด แล้วบอกว่าเดี๋ยวค่อยเปิดตอนเข้าผับ แต่เอาจริงๆเราก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นจะกล้าเปิดมั้ยอยู่ดี...
ตอนที่กำลังเปลี่ยนเสื้ออยู่ เพื่อนพี่ๆเราก็เข้ามากันเยอะแยะมาก เราค่อนข้างตกใจเพราะสังคมพี่เขากับสังคมเรามันแตกต่างกันมาก ทั้งเรื่องที่พูดคุยกัน ทัศนคติหรือความคิด หรือ ทั้งเรื่องที่สูบบุหรี่กันในห้อง เราไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไร เพราะเราคิดว่ามันก็คงเป็นเรื่องปกติที่เราก็เจอได้ทั่วไปจากสังคมอื่น แต่เราก็ตกใจไม่น้อย ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน แต่รวมๆก็ยังโอเคนะ สนุกอีกแบบเหมือนกัน
พอทุกคนเตรียมตัวกันเสร็จ พี่พรีมก็พาเรากับเพื่อนไปด้านล่างคอนโดเพื่อรอเพื่อนผู้ชายอีกคนมา คนนี้เป็นคนที่อยู่คอนโดเดียวกันกับพี่พรีม ตอนนั้นรู้ประหม่าไม่น้อยเลยเพราะไม่รู้จะทำตัวยังไง จะคุยได้ไหมเพราะเป็นเพื่อนผู้ชาย แต่เราก็พยายามทำใจให้สบายว่าเราอยู่กับเพื่อนพี่เขาคนอื่นก็ได้ ยังพอคุยกันได้อยู่เพราะเป็นผู้หญิงทั้งนั่น เราคิดได้ไม่นาน เสียงพี่เราที่ตะโกนเรียกเพื่อนคนนั้นก็ดังขึ้น "ฟืนมาแล้ว!!" เราก็หันไปมองตาม ก็ปรากฏว่า..
เขาคือคนที่เรานี่หว่า...
บอกเลยว่าเราเห็นตัวจริงเรายิ่งไม่ถูกชะตากว่าเดิมอีก น่ากลัวมาก ตอนนั้นเรากับพี่เขาก็มองกันสักพัก เราก็หลบสายตาแล้วไปยืนใกล้ๆพี่พรีม เพื่อให้ห่างจากเขามากที่สุด แต่เหมือนพี่พรีมก็ไม่เข้าใจ อยู่ๆก็ถามพี่คนที่ชื่อฟืนออกไปว่า "เป็นไง น้องกูน่ารักเหมือนที่กูไหม" พี่ฟืนมองมาที่เราสักพัก ไอเราก็เกร็งไปอีก ในใจคือ ถามทำไมเนี่ย.... ก่อนที่พี่เขาจะตอบกลับมาว่า "อืม น่ารัก" ตอนนั้นทุกคนก็ยิ้มกรุ้มกริ่มกันแปลกๆ แต่ตัวฉันนั้นก็คือ... อยากออกไปจากสถานการณ์แบบนี้ซะจริง...
หลังจากนั้นก็เดินทางไปที่ผับกัน แต่ไปร้านอาหารหน้าผับกันก่อน ตอนนั้นเราก็คอยฟังพี่เขาคุยกันอยู่ เราก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบพี่ฟืนอะไรนี่ไปอีก ดูเป็นผู้ชายพูดมาก แล้วก็พยายามชวนเราคุย พยายามเดินใกล้ๆเรา แต่เขาไม่ได้เชิงรุกล้ำหรือทำอะไรไม่ดีกับเราหรอก แต่คิดว่าเพราะพี่พรีมฝากให้ดูแลเรา เขาเลยพยายามใกล้พยายามชวนเราคุยแบบสุดๆ แล้วพี่พรีมก็ให้เราถอดเสื้อคลุมออกได้แล้ว แต่เรายังไม่พร้อม พี่ฟืนก็ยังจะพูดต่อว่า "ถอดไปเลย คนอื่นเขาถอดกันเยอะแยะ" ตอนนั้นเราฟังแล้วเราไม่โอเคสุดๆ มันเหมือนบังคับกันอยู่นะ แต่เราก็ทำเงียบแล้วก็ไม่ถอดต่อไป พอเข้าในผับ เราก็ไม่ชินเท่าไหร่ มีควันมีอะไรต่ออะไร ทำเอาเราไอไปหลายครั้ง แถมเรายังไม่กล้าเต้นเท่าไหร่ด้วย พี่ฟืนก็ยังคงเชียร์ให้เราเต้นอยู่เหมือนเดิม คนอื่นๆก็ด้วย มันทำเอาเราอีดอัดมาก เราก็เลยค่อยๆเต้นให้เป็นพิธี แล้วก็กระดกแอลกอฮอล์ที่โต๊ะมาดื่ม เพื่อลดความอึดอัดลง มันก็ช่วยได้เยอะนะ แค่พี่ฟืนนั่นก็เต้นไม่สนคนรอบข้างเลย เต้นจนชนเราบ้างชนเผลอหน้าอกเราด้วย ตอนนั้นก็หงุดหงิดอยู่ในใจ แต่มองๆดูก็ดูจะไม่ได้ตั้งใจทำเป็นเชิงไม่ใส่ใจอะไรรอบตัวแล้วมากกว่า เราก็เลนทำเป็นไม่คิดอะไร แล้วก็พยายามเข้าใจว่าตอนนี้พี่เขาไม่มีสติแล้ว ช่างเขาเถอะ ปล่อยวาง แล้วก็อยู่แบบนั่นไปสักพักนึง
จนคนเริ่มเยอะ เริ่มแน่น แถมมีควันอัก เราเริ่มหายใจไม่ออก แล้วก็หิวน้ำมากด้วย เราเลยขอตัวออกมาก่อน ตอนนั้นเราเห็นทุกคนจอยกับการเต้นมาก เราเลยไม่อยากรบกวนใคร ตัดสินใจออกไปซื้อน้ำแล้วก็นั่งสูดอากาศข้างนอกคนเดียว ตอนนั้นทั้งมึน ทั้งไอ ทั้งอึดอัด เอาจริงๆเป็นประสบการณ์ที่แย่เลยแหละ ตอนนั้นเราคิดว่า หรือเราไม่เหมาะกับผับกันนะ วันหลังจะไม่มาแล้ว แล้วเราก็นั่งคุยกับเพื่อนเราที่ชื่อยูว่าเป็นอะไรยังไงบ้าง คุยอยู่สักพัก เพื่อนพี่พรีมสองคนก็เเดินออกมาเหมือนกัน แล้วเจอเราพอดี ทุกคนเลยนั่งเป็นเพื่อนเราด้วยเลย นั่งคุยกันสักพักก็นอนฟุบโต๊ะกัน จนตื่นมาอีกที ผับก็ปิดและทุกคนในผับก็เริ่มทยอยออกมากัน เราก็ยังโดนพี่ฟืนพูดกับเราเหมือนเดิม ว่าเราไม่ค่อยเต้นเลย คำถามนี้มันทำเราอึดอัดไปอีก เราได้แต่ตอบว่าเราไม่ชิน ก็มันไม่ชินจริงๆ มาครั้งแรกจะให้ใครเต้นได้เลยฟะ คะแนนเพื่อนพี่ชั้นคนนี้คือติดลบรัวๆ แล้วก็พยายามคิดหาคำพูดตลอดทางว่าจะบอกยังไงดีถ้าพี่เขาชวนเรามาอีก เพราะเราไม่ค่อยชอบเลยจริงๆ พอกลับไปที่คอนโดพี่พรีม ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันนอน ในใจเราได้แต่คิดว่าขอให้เราไม่เจอพี่ฟืนนั่นอีก เพราะไม่ชอบนิสัยเขา ไม่ชอบคำพูดเขา ไม่ชอบไปหมด แต่ฟ้ากลับไม่ฟังเสียงของเราเลยแม้แต่นิด หลังจากตื่นนอนกัน พี่พรีมก็ชวนเราเพื่อนผู้หญิงคนนึง และ พี่ฟืน ไปกินข้าวด้วยกัน นั่นเป็นสิ่งที่ปวดหัวที่สุดที่ได้ยินในเช้าวันนั้นเลย
(เดี๋ยวมาต่อนะคะ ไม่รู้ว่ามีใครอ่านเรื่องเราบ้างไหม แต่ขอขอบคุณที่มาอ่านเรื่องราวเรานะคะ)
เมื่อเรามีความสัมพันธ์กับเพื่อนของญาติตัวเอง
เรื่องราวของความรักระหว่างเรากับเพื่อนของลูกพี่ลูกน้องเรา แถมเป็นรักครั้งแรกด้วย เรารู้สึกอยากเก็บเรื่องราวนี้ไว้เป็นความทรงจำ แม้ว่าตอนจบจะจบในรูปแบบไหนก็ตาม แล้วก็อยากแชร์ประสบการณ์ที่หลากหลายอารมณ์ของความสัมพันธ์แบบนี้ด้วย...
มาเริ่มกันดีกว่าค่ะ...
เรื่องมีอยู่ว่าเราเป็นนักศึกษาพยาบาลปีสามอายุ21ปี เราไม่เคยมีแฟนแบบจริงๆจัง หรือมีความรักจริงๆจังๆเลยสักครั้ง เคยมีก็แต่ความรักแบบเด็กๆเมื่อนานมาแล้ว เราเรียนหญิงล้วนมาตลอดตั้งแต่ประถมยันมัธยม ทำให้เพื่อนผู้หญิงเราเยอะมาก แล้วก็ไม่เคยมีเพื่อนผู้ชายเลยแม้แต่คนเดียว ผู้ชายที่รู้จักหรือสนิทที่สุดก็มีแต่น้องชาย พ่อ แล้วก็ญาติๆเท่านั้นเอง แล้วเราก็ค่อนข้างมีอคติกับผู้ชายนิดหน่อยเพราะคนรอบตัวที่เป็นเพื่อนเราโดนผู้ชายทำเรื่องแย่ๆใส่มา มันทำให้เรามองผู้ชายในแง่ลบไปพอสมควร แต่ถามว่าอยากมีแฟนไหม อยากมีนะ คืองี้เราบ้าผู้ชายในมังงะมากกก อ่านมังงะ อ่านนิยายอะไรแบบนี้ทุกที เป็นต้องอยากมีคงามรักอยู่ตลอด แต่ก็อยากมีที่เป็นแบบพระเอกนิยาย ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าในชีวิตจริงจะมีแบบนี้ไหมด้วยซ้ำ
เรากับเพื่อนมัธยมเราสนิทกันแบบสุดๆ แต่พอขึ้นมหาลัยต่างคนต่างก็แยกย้ายไปคนละทิศคนละทาง คนละสังคม ทำให้เราคุยกันน้อยลง แค่เราก็เป็นเพื่อนสนิทกันและคุยกันเหมือนเดิมนะ เราติดต่อกับเพื่อนในกลุ่มตลอดก็เลยเห็นว่าเพื่อนไปสถานที่ต่างๆที่เราไม่เคยไป อย่าง ผับ บาร์ อะไรแบบนี้ แล้วเพื่อนก็รู้จักคนใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ มีประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งต่างจากเราที่เป็นพวกเปิดใจยาก อยู่แต่เซฟโซนของตัวเอง จริงๆแล้วเราก็อยากออกนะ แต่แค่เราไม่มีความกล้าพอเท่านั้นเอง
เพื่อนสนิทที่สุดของเราชื่อว่า 'เม' ตั้งแต่เข้ามหาลัยมาเมก็เที่ยวบ่อยขึ้นแล่วชวนเราไปด้วยอยู่ตลอด แต่เราก็ปฏิเสธที่จะไปผับหรือบาร์ทุกครั้ง มันมีหลายเหตุผล 1.เรายังไม่กล้าไป เลยคิดว่าเรียนจบก่อนแล้วค่อยไปดีกว่า 2.ช่วงนั้นช่วงโควิท แล้วเรามีฝึกงานขึ้นวอร์ดเราเลยไม่อยากเสี่ยงแล้วไปคิดคนไข้ เลยปฏิเสธเมไป แต่ก็เสียดายมากเหมือนกัน พอได้เห็นเพื่อนในกลุ่มมีโมเม้น มีประสบการณ์ใหม่ๆ เราก็เริ่มอยากมีบ้าง แล้วช่วงนั่นเพื่อนในกลุ่มเราคนนึงชื่อว่ายูก็มีแฟนด้วย เราก็เลยเหงาเป็นพิเศษเลยแหละ...
เวลาผ่านไปไม่กี่อาทิตย์ก็ถึงวันเกิดเรา เราเป็นคนชอบเข้าวัดทำบุญมาก วันนั้นเลยไปขอพรที่วัด และวันนั้นก็เป็นครั้งแรกที่เราตัดสินใจขอพรเรื่องความรักเป็นอันดับ1 เราขอพรท่านว่า "เราขอให้เจอใครสักคนที่ทำให้เราใจเต้น ทำให้เรารู้สึกดีเหมือนเป็นนางเอกในนิยาย" ตอนนั้นเราไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นจริงไหม จนกระทั้งหลังวันเกิดเรา1วันเท่านั้น...
เราไม่ค่อยเล่นไอจี ไม่ค่อยลงรูปเท่าไหร่ เป็นคนintrovert ตัวมัม แต่วันนั้นอะไรดลใจให้เข้าไอจีก็ไม่รู้ แล้วก็ไปเห็นสตอรี่ของ 'พี่คนนึงที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง ชื่อว่า พี่พรีม' ที่ไม่ได้เจอกันมาสามปี เมื่อก่อนเราสนิทกันมาก แต่ก็เคยมีช่วงทะเลาะกันหนักเหมือนกัน แต่นั่นก็นานมาแล้ว พอเรากดเข้าไปดูในสตอรี่ ก็เห็นว่าพี่พรีมอยู่ในผับมีดนตรี มีแสงสีมากมาย แล้วก็ ไปเจอผู้ชายคนนึง...
เอาจริงๆครั้งแรกที่เห็นผู้ชายคนนั่น เรารู้สึกไม่ค่อยถูกชะตาเท่าไหร่เลย หน้าตาเข้มๆ ตัวใหญ่ๆใส่ชุดสีดำกางเกงดำเหมือนพวกแบดบอยไม่มีผิด แถมเต้นอย่างเมามันส์ในผับอีกต่างหาก แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรต่อมากมาย เพราะเราโฟกัสกับสถานที่ที่พี่พรีมถ่ายซะมากกว่า ว่าอยากไปมากๆ ช่วงนั่นเพิ่งฝึกงานเสร็จพอดี กำลังอยู่ช่วงปิดเทอมเลยด้วย แถมยังเหงาเอามากๆ ความตั้งใจที่ว่าจะไปหลังเรียนจบก็ขาดสะบั้น เราเลยตัดสินใจทักพี่พรีมไปว่าอยากไปผับด้วย ซึ่งพี่พรีมก็ยินดีพาเราไปมากๆแล้วตกลงกันว่าค่อยไปกันอาทิตย์หน้า เราก็ฝากฝังให้พีาพรีมช่วยดูแลเราด้วยเพราะเราก็ไม่เคยไปสถานที่แบบนี้เลย แถมชุดเราก็ไม่มีชุดไหนเข้าผับได้เลยซักชุด เราเลยตัดสินใจเอาเสื้อครอปสีเขียวเรืองแสงไปแล้วกัน กับกระโปรงสีดำที่สั้นๆหน่อย เผื่อมันจะเข้าผับได้บ้างล่ะวะ...
พอถึงวันที่นัดกันพี่พรีมก็ขับรถมารับเราไปที่คอนโดพี่เขาก่อนเพื่อแต่งตัวและเตรียมตัวไปผับต่อ ตอนนั้นพี่พรีมเห็นชุดที่เราเอามา พี่เขาก็จัดการเปลี่ยนเสื้อให้เราเลย เป็นสายเดี่ยวกับมีเสื้อคลุม เราตกใจมากที่ให้เราใส่สายเดี่ยว เพราะเราไม่เคยใส่ชุดสายเดี่ยวมาก่อน แล้วหน้าอกเรามันก็ไม่ใช่เล็กๆ พอใส่แล้วก็รู้สึกว่ามันโป๊มาก รับแทบไม่ได้ แต่ยังดีที่ยังมีเสื้อคลุม เราเอาเสื้อคลุมนั่นติดกระตุมให้มิดชิดเลย จนพี่เราบอกให้เราเปิด แต่เราก็ยังไม่พร้อมเปิด แล้วบอกว่าเดี๋ยวค่อยเปิดตอนเข้าผับ แต่เอาจริงๆเราก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นจะกล้าเปิดมั้ยอยู่ดี...
ตอนที่กำลังเปลี่ยนเสื้ออยู่ เพื่อนพี่ๆเราก็เข้ามากันเยอะแยะมาก เราค่อนข้างตกใจเพราะสังคมพี่เขากับสังคมเรามันแตกต่างกันมาก ทั้งเรื่องที่พูดคุยกัน ทัศนคติหรือความคิด หรือ ทั้งเรื่องที่สูบบุหรี่กันในห้อง เราไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไร เพราะเราคิดว่ามันก็คงเป็นเรื่องปกติที่เราก็เจอได้ทั่วไปจากสังคมอื่น แต่เราก็ตกใจไม่น้อย ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน แต่รวมๆก็ยังโอเคนะ สนุกอีกแบบเหมือนกัน
พอทุกคนเตรียมตัวกันเสร็จ พี่พรีมก็พาเรากับเพื่อนไปด้านล่างคอนโดเพื่อรอเพื่อนผู้ชายอีกคนมา คนนี้เป็นคนที่อยู่คอนโดเดียวกันกับพี่พรีม ตอนนั้นรู้ประหม่าไม่น้อยเลยเพราะไม่รู้จะทำตัวยังไง จะคุยได้ไหมเพราะเป็นเพื่อนผู้ชาย แต่เราก็พยายามทำใจให้สบายว่าเราอยู่กับเพื่อนพี่เขาคนอื่นก็ได้ ยังพอคุยกันได้อยู่เพราะเป็นผู้หญิงทั้งนั่น เราคิดได้ไม่นาน เสียงพี่เราที่ตะโกนเรียกเพื่อนคนนั้นก็ดังขึ้น "ฟืนมาแล้ว!!" เราก็หันไปมองตาม ก็ปรากฏว่า..
เขาคือคนที่เรานี่หว่า...
บอกเลยว่าเราเห็นตัวจริงเรายิ่งไม่ถูกชะตากว่าเดิมอีก น่ากลัวมาก ตอนนั้นเรากับพี่เขาก็มองกันสักพัก เราก็หลบสายตาแล้วไปยืนใกล้ๆพี่พรีม เพื่อให้ห่างจากเขามากที่สุด แต่เหมือนพี่พรีมก็ไม่เข้าใจ อยู่ๆก็ถามพี่คนที่ชื่อฟืนออกไปว่า "เป็นไง น้องกูน่ารักเหมือนที่กูไหม" พี่ฟืนมองมาที่เราสักพัก ไอเราก็เกร็งไปอีก ในใจคือ ถามทำไมเนี่ย.... ก่อนที่พี่เขาจะตอบกลับมาว่า "อืม น่ารัก" ตอนนั้นทุกคนก็ยิ้มกรุ้มกริ่มกันแปลกๆ แต่ตัวฉันนั้นก็คือ... อยากออกไปจากสถานการณ์แบบนี้ซะจริง...
หลังจากนั้นก็เดินทางไปที่ผับกัน แต่ไปร้านอาหารหน้าผับกันก่อน ตอนนั้นเราก็คอยฟังพี่เขาคุยกันอยู่ เราก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบพี่ฟืนอะไรนี่ไปอีก ดูเป็นผู้ชายพูดมาก แล้วก็พยายามชวนเราคุย พยายามเดินใกล้ๆเรา แต่เขาไม่ได้เชิงรุกล้ำหรือทำอะไรไม่ดีกับเราหรอก แต่คิดว่าเพราะพี่พรีมฝากให้ดูแลเรา เขาเลยพยายามใกล้พยายามชวนเราคุยแบบสุดๆ แล้วพี่พรีมก็ให้เราถอดเสื้อคลุมออกได้แล้ว แต่เรายังไม่พร้อม พี่ฟืนก็ยังจะพูดต่อว่า "ถอดไปเลย คนอื่นเขาถอดกันเยอะแยะ" ตอนนั้นเราฟังแล้วเราไม่โอเคสุดๆ มันเหมือนบังคับกันอยู่นะ แต่เราก็ทำเงียบแล้วก็ไม่ถอดต่อไป พอเข้าในผับ เราก็ไม่ชินเท่าไหร่ มีควันมีอะไรต่ออะไร ทำเอาเราไอไปหลายครั้ง แถมเรายังไม่กล้าเต้นเท่าไหร่ด้วย พี่ฟืนก็ยังคงเชียร์ให้เราเต้นอยู่เหมือนเดิม คนอื่นๆก็ด้วย มันทำเอาเราอีดอัดมาก เราก็เลยค่อยๆเต้นให้เป็นพิธี แล้วก็กระดกแอลกอฮอล์ที่โต๊ะมาดื่ม เพื่อลดความอึดอัดลง มันก็ช่วยได้เยอะนะ แค่พี่ฟืนนั่นก็เต้นไม่สนคนรอบข้างเลย เต้นจนชนเราบ้างชนเผลอหน้าอกเราด้วย ตอนนั้นก็หงุดหงิดอยู่ในใจ แต่มองๆดูก็ดูจะไม่ได้ตั้งใจทำเป็นเชิงไม่ใส่ใจอะไรรอบตัวแล้วมากกว่า เราก็เลนทำเป็นไม่คิดอะไร แล้วก็พยายามเข้าใจว่าตอนนี้พี่เขาไม่มีสติแล้ว ช่างเขาเถอะ ปล่อยวาง แล้วก็อยู่แบบนั่นไปสักพักนึง
จนคนเริ่มเยอะ เริ่มแน่น แถมมีควันอัก เราเริ่มหายใจไม่ออก แล้วก็หิวน้ำมากด้วย เราเลยขอตัวออกมาก่อน ตอนนั้นเราเห็นทุกคนจอยกับการเต้นมาก เราเลยไม่อยากรบกวนใคร ตัดสินใจออกไปซื้อน้ำแล้วก็นั่งสูดอากาศข้างนอกคนเดียว ตอนนั้นทั้งมึน ทั้งไอ ทั้งอึดอัด เอาจริงๆเป็นประสบการณ์ที่แย่เลยแหละ ตอนนั้นเราคิดว่า หรือเราไม่เหมาะกับผับกันนะ วันหลังจะไม่มาแล้ว แล้วเราก็นั่งคุยกับเพื่อนเราที่ชื่อยูว่าเป็นอะไรยังไงบ้าง คุยอยู่สักพัก เพื่อนพี่พรีมสองคนก็เเดินออกมาเหมือนกัน แล้วเจอเราพอดี ทุกคนเลยนั่งเป็นเพื่อนเราด้วยเลย นั่งคุยกันสักพักก็นอนฟุบโต๊ะกัน จนตื่นมาอีกที ผับก็ปิดและทุกคนในผับก็เริ่มทยอยออกมากัน เราก็ยังโดนพี่ฟืนพูดกับเราเหมือนเดิม ว่าเราไม่ค่อยเต้นเลย คำถามนี้มันทำเราอึดอัดไปอีก เราได้แต่ตอบว่าเราไม่ชิน ก็มันไม่ชินจริงๆ มาครั้งแรกจะให้ใครเต้นได้เลยฟะ คะแนนเพื่อนพี่ชั้นคนนี้คือติดลบรัวๆ แล้วก็พยายามคิดหาคำพูดตลอดทางว่าจะบอกยังไงดีถ้าพี่เขาชวนเรามาอีก เพราะเราไม่ค่อยชอบเลยจริงๆ พอกลับไปที่คอนโดพี่พรีม ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันนอน ในใจเราได้แต่คิดว่าขอให้เราไม่เจอพี่ฟืนนั่นอีก เพราะไม่ชอบนิสัยเขา ไม่ชอบคำพูดเขา ไม่ชอบไปหมด แต่ฟ้ากลับไม่ฟังเสียงของเราเลยแม้แต่นิด หลังจากตื่นนอนกัน พี่พรีมก็ชวนเราเพื่อนผู้หญิงคนนึง และ พี่ฟืน ไปกินข้าวด้วยกัน นั่นเป็นสิ่งที่ปวดหัวที่สุดที่ได้ยินในเช้าวันนั้นเลย
(เดี๋ยวมาต่อนะคะ ไม่รู้ว่ามีใครอ่านเรื่องเราบ้างไหม แต่ขอขอบคุณที่มาอ่านเรื่องราวเรานะคะ)