เมื่อแม่ไปทำงานที่ตจว. แล้วตัวเองต้องเตรียมตัวเข้ามหาลัยด้วย มีวิธีรับมือเมื่อต้องอยู่บ้านกับพ่อที่ toxic ยังไงบ้างคะ

*บอกไว้ก่อนว่า toxic ที่ว่านี่ไม่ใช่ทางกายนะคะ หมายถึงทางจิตใจค่ะ*

ตั้งแต่จำความได้ ส่วนใหญ่เราจะอยู่กับแม่มากกว่า พ่อเรานอกเหนือจากเวลาทำงานก็แทบจะไม่เคยใส่ใจเราเลยค่ะ เวลาป่วยแอดมิทโรงบาลก็ไม่เคยมาหา แต่กลับกันเวลาญาติทางพ่อป่วยหรือมีเรื่องอะไรก็จะรีบไปหาที่ตจวเลย ญาติฝั่งพ่อมีปัญหาเรื่องเงิน หรืออยากเอาเงินไปแต่งเมียก็เกือบจะกู้ไปให้แต่แม่ห้ามไว้ก่อน แล้วพ่อก็เริ่มไม่ชอบแม่ที่แม่เข้ามายุ่งเรื่องเงินหรือจะทำอะไรสักอย่างให้ญาติฝั่งพ่อ(ซึ่งบางอย่างมันไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำ ก็ไม่รู้ว่าจะทำทำไม)

ที่ผ่านมาเราไม่เคยสังเกตเลยค่ะว่าพ่อเป็นยังไงจนกระทั่งขึ้นม.ปลาย ชอบพูดทำร้ายจิตใจคนอื่น พาลนู่นนี่นั่น โทษทุกอย่างแต่ไม่โทษตัวเอง เวลาโมโหหรือไม่พอใจอะไรก็จะฮึดฮัดดังๆ ปิดประตูเสียงดังๆ จนหลังๆเราเริ่มแพนิค ยิ่งช่วงหลังๆพ่อเราไปเซ็นค้ำประกันสหกรณ์มาแล้วเป็นหนี้ยิ่งเห็นชัดเลย พยายามพูดกดดันเรากับแม่ให้ช่วยพ่อหาเงินตลอด ไล่ให้เราไปกู้กยศ แล้วบอกว่าเรากับแม่ไม่ช่วย ไม่ทำอะไรเลย ตัวพ่อเองเหนื่อยอยู่คนเดียว แต่หารู้ไม่ว่าคนอื่นเค้าก็เหนื่อยเป็น มีการมีงานที่ต้องทำเหมือนกัน

แต่เอาจริงๆเรื่องเงินนี่ก็เป็นปัญหามาตลอดค่ะ ทั้งลงเรียนกศนเป็นเกือบสิบปีจนไม่เหลือเงินไว้ให้เก็บ เอาเงินแม่ที่จะไว้ให้เราไปใช้โดยที่ไม่ขอ เอาเงินออมเราเป็นหมื่นๆไปใช้สร้างบ้านโดยไม่ถามเราสักคำ บอกจะคืนก็ไม่คืน ส่งเงินให้ญาติฝั่งพ่อเยอะมาก แต่ตัดภาพมาที่ครอบครัว เงินค่ากินค่าอยู่ที่ให้แต่ละอาทิตย์ก็น้อยมากกกก แทบจะไม่พอกิน บางอาทิตย์ไม่มีกินด้วยซ้ำ

เรื่องเข้ามหาลัยพ่อก็พยายามบังคับให้เราเข้ามหาลัยที่พ่อต้องการให้เข้า แต่เราไม่ชอบการบังคับเลยไม่ค่อยเห็นด้วย จริงๆเราก็แอบลังเลมอ A กับอีกมอ B ค่ะ เพราะมอ A ที่พ่ออยากให่เข้าก็มีคณะที่เราสนใจอยู่ แต่พอวันนึงเรากลับจากเข้าค่ายของอีกมอ B มา แทนที่จะถามว่าเป็นยังไงบ้าง สนุกมั้ย กลับพูดเบลมมอ B แล้วพูดอวยมอ A ที่ตัวเองที่อยากให้เข้า ปิดท้ายด้วยบอกให้เราก็สู้ๆล่ะกัน เรานี่งงเลย แค่ไปเข้าค่ายเอง แต่หลังจากนั้นก็ทำให้เราตัดสินใจได้ทันทีนะคะว่าเราจะเข้ามอ B ให้ได้ แล้วเราบอกกับพ่อชัดเจน แต่พ่อก็ยังส่งไลน์ข้อมูลเกี่ยวกับคณะนู้นคณะนี้ของมอ A มา จนเราต้องตอบขู่ไปว่าถ้ายังไม่หยุดส่งมาอีกจะบล็อก

ล่าสุดแม่เราทนไม่ไหวกับสิ่งที่พ่อทำหลายๆเรื่อง เพิ่งออกไปทำงานกับญาติที่หัวหินเมื่อไม่กี่วันมานี้เองค่ะ แล้วแม่ก็ว่าจะไม่กลับมาบ้านอีก ด้วยความที่แม่อยู่กับเรามาตลอดแล้วมันรู้สึกโหวงๆเศร้าๆ ก็เลยน้ำตาไหลในบางครั้ง เราพยายามที่จะไม่ร้องไห้แล้วนะคะ แต่มองน้องหมากับน้องแมวที่ผูกพันธ์กับแม่มากๆ มีท่าทีสงสัยว่าแม่ไปไหน รอคอยแม่กลับมา เรานี่กลั้นน้ำตาไม่อยู่ทุกทีเลยค่ะ

ตอนนี้เราอยู่ ม.6 แล้วใกล้จะสอบ tgat แล้วด้วย เมื่อวานตอนเย็นเราว่าจะดูคลิปติว แล้วทีนี้พ่อเพิ่งกลับบ้าน แล้วพ่อได้ยินเสียงพ่อหงุดหงิดอะไรสักอย่างเสียงดังมาก แล้วด้วยความที่เราแพนิค+เครียดอะไรหลายๆเรื่อง ก็เลยร้องไห้จนไม่มีกะจิตกะใจที่จะติวสอบต่อเลยค่ะ แล้วต่อไปนี้เราต้องอยู่บ้านกับพ่อจนกว่าจะขึ้นมหาลัย ยิ่งช่วงนี้ปิดเทอมด้วย ขืนถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปกลัวว่าจะไม่เป็นอันเตรียมตัวเอาค่ะ เราอยากเต็มที่กับมันให้มากที่สุด ไม่อยากให้มาเสียสมาธิเพราะอะไรแบบนี้ค่ะ เราจะสามารถรับมือยังไงได้บ้างคะ

ยาวหน่อยนะคะ อาจจะพิมพ์งงๆ พอดีอัดอั้นมานานน่ะค่ะ แหะๆ แต่ถึงยังไงก็ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ🙏

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่