โดย: Andy Mitten, 20 กันยายน 2023
"ตอนนี้ผมกำลังนั่งเรือเฟอร์รี่ครับ", โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กล่าวผ่านโทรศัพท์ในการให้สัมภาษณ์เจาะลึกผ่านสื่อเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ถูกปลดจากตำแหน่งผู้จัดการทีมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปี 2021
"พวกเรากำลังเดินทางไปที่ Surnadal กับทีมชุด U-16 ทีมที่สองของเรา ผมเริ่มทริปนี้ด้วยการขับรถจากบ้านของผมใน Kristiansund เพื่อมาต่อรถบัสของทีม และตอนนี้ผมก็ล้อมลอบไปด้วยเด็กๆอายุ 15 14คนที่กำลังสนุกสนานเต็มที่"
"ประสบการณ์เหล่านี้ในช่วงที่ผมกำลังเติบโตขึ้นมาเป็นนักเตะอาชีพล้วนเป็นสิ่งที่ผมจดจำได้เป็นอย่างดี ซึ่งตอนนี้ผมเองก็ได้แชร์และเก็บเกี่ยวช่วงเวลาเหล่านี้กับเอไลจาห์ลูกชายคนเล็กของผม เหมือนกับที่ผมเคยโค้ชโนอาห์ลูกชายคนโตในตอนที่ผมถูกปลดจากคาร์ดิฟฟ์ -- รวมไปถึงลูกสาวของผมคาร์น่าในช่วงที่ก่อนผมจะเข้ามาคุมยูไนเต็ด"
"การได้ปฏิเสธข้อเสนอที่คุณไม่ได้รู้สึกสนใจ 100% แล้วได้ใช้เวลากับครอบครัวถือว่าสิ่งที่พิเศษมากๆ คุณไม่สามารถทำแบบนี้ได้เลยเมื่อคุณคุมทีมระดับยูไนเต็ด คุณต้องยอมสละตรงนี้ไป"
ถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบ 2ปีแล้วนับตั้งแต่ที่โซลชาถูกปลด ซึ่งตำนานของยูไนเต็ดถูกปลดจากตำแหน่งเพียง 6เดือนหลังจากที่เขานำสโมสรเข้าสู่รอบชิงฯ ยูโรป้า ลีก ก่อนที่จะแพ้ให้กับบียาร์เรอัลในการดวลจุดโทษ
เจ้าตัวไม่เคยเปิดเผยถึงประสบการณ์ในช่วงนั้นอย่างเต็มรูปแบบ ถึงแม้ผมจะได้มีการถามไถ่เป็นระยะๆแต่ก็เหมือนกับว่ามันยังไม่ถูกจังหวะเสียที แต่จากข้อความที่ผมได้รับเมื่อเช้าวันจันทร์ก็ชัดเจนแล้วว่าตอนนี้เจ้าตัวพร้อมที่จะพูดถึงเหตุการณ์ในช่วงนั้นแล้ว และการพูดคุยครั้งนี้จะไม่มีหัวข้อไหนที่จะถูกยกไปคุยอย่างลับๆนอกรอบ
ในการพูดคุยราวๆหนึ่งชั่วโมงของเรานั้นชัดเจนว่าเจ้าตัวพร้อมที่จะหวนคืนสู่วงการฟุตบอลอีกครั้ง เมื่อวันพุธเจ้าตัวพึ่งเริ่มทำงานกับทางยูฟ่า ในฐานะผู้วิเคราะห์ทางเทคนิค แต่ในขณะเดียวกันเจ้าตัวก็คิดถึงการกลับมาคุมทีมข้างสนามอีก
“ตอนนี้ผมโค้ชทีมถี่ยิบเลยครับ ประมาณ 4ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะเรามีทีมถึง 3ทีมน่ะ” เจ้าตัวกล่าวในขณะเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันระดับยุวชนที่จัดขึ้น ห่างจากกรุงออสโลไป 300ไมล์ทางตะวันตกเฉียงเหนือ
“ผมช่วยเหลือเหล่าเด็กๆซึ่งสนุกสนานกับมัน จากจุดนี้คุณจะได้เห็นฟุตบอลจากอีกแง่มุมนึง ที่เป็นฟุตบอลระดับต้นกล้าน่ะ และถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงสนามหญ้าเทียม แต่คุณก็สามารถเห็นประกายในแววตาของพวกเขาได้ พวกเขาพร้อมที่จะฟังและเรียนรู้จากคุณ”
“แต่ก็นะพอคุณได้สัมผัสการแข่งขันเหล่านี้ ไม่ว่าจะผ่านทีวีหรือจากข้างสนาม คุณก็เริ่มที่จะคิดถึงมัน (ฟุตบอลอาชีพ). ตั้งแต่ผมออกจากยูไนเต็ดผมก็ได้เดินทางไปยังที่ต่างกับลูกๆของผมในฐานะแฟนบอล ไม่ว่าจะเป็น เนเปิ้ล, มิลาน หรือดอร์ทมุนด์ ซึ่งพวกเราสนุกกันมาก”
“ด้วยหน้าที่ใหม่ของผมกับทางยูฟ่า ทำให้ผมได้ไปดู UCL ถึงขอบสนาม ผมได้ชมการแข่งขันจากอีกมุมมองนึงนอกเหนือไปจากการเป็นผู้จัดการทีม ได้ มีเวลาวิเคราะห์, ขบคิด, พิจารณาว่าแต่ละทีมจะปล่อยของใส่กันแบบไหน”
“เดี๋ยวจากนี้ผมก็จะเดินทางไปฝั่งอีสโคสต์ของอเมริกาสัก 2-3สัปดาห์ ไปเจอกับ เวร์น (Rooney) และเดวิด (Beckham) ไปดูการแข่งขันที่นั่นว่าเป็นอย่างไร”
คุณอยากกลับมาคุมทีมอีกครั้งไหม?
แน่นอนครับ ผมเองก็ได้รับข้อเสนอเข้ามาบ้าง อย่างเร็วๆนี้ก็มีทีมจากซาอุฯ 2ทีมติดต่อเข้ามา เพื่อนสนิทของผมที่ทำหน้าที่ผู้จัดการส่วนตัวของผมควบคู่ไปด้วยก็ได้ลองศึกษาข้อเสนอเหล่านั้นดู แต่ก็อย่างว่าครับ ถ้าคุณเคยมีโอกาสคุมทีมระดับยูไนเต็ดมาแล้ว คุณจะมีเกณฑ์ที่แน่ชัดว่าคุณอยากได้งานแบบไหน คุณย่อมมองหาอะไรที่ต่างออกไป
ผมรักอังกฤษและ EPL แม้แต่ระดับแชมเปี้ยนชิพเองก็พัฒนาขึ้นอย่างน่าสนใจ แต่ผมไม่ได้ยึดติดว่าต้องเป็นแค่ที่อังกฤษนะครับ บางทีมันอาจจะน่าสนใจและท้าทายก็ได้หากคุณได้มีโอกาสไปสัมผัสเรียนรู้วัฒนธรรมและภาษาใหม่ๆ
DNA และพื้นเพของสโมสรนั้นค่อนข้างสำคัญสำหรับผม ผมคิดว่าถ้าเราคลิ๊กกันแล้วมันจะทำให้ผมสามารถรีดเอาส่วนที่ดีที่สุดของผมออกมาได้อย่างเต็มที่ ผมมองย้อนไปแล้วก็คิดว่าตัวเองอาจจะตัดสินใจผิดพลาดไปตอนเลือกที่จะคุมคาร์ดิฟฟ์ คือผมคิดว่าสไตล์และอัตตลักษณ์ของสโมสรเองมันค่อนข้างจะสับสนน่ะในตอนนั้น
อีกอย่างที่ผมคิดถึงมากที่สุดคือการได้ทำงานร่วมกับผู้คนที่ยอดเยี่ยมในทุกๆวัน ได้พูดคุยกันเรื่องฟุตบอล วางแผนสำหรับเกมถัดๆไป คือมันไม่ใช่แค่เรื่องฟุตบอลอย่างเดียวแต่มันรวมไปถึงการสร้างวัฒนะธรรมและบรรยากาศที่บรรดาสต๊าฟล้วนสนุกกับงานและร่วมสร้างสโมสรไปด้วยกัน
นี่ก็เกือบ 2ปีแล้วหลังจากคุณออกจากทีมไป คุณรู้สึกยังไงบ้างกับช่วงเวลาของคุณกับยูไนเต็ด?
ก็…มันก็มีอะไรที่ขาดหายไปนะ (ถ้วยรางวัล). ลูกโทษ (ในการดวลจุดโทษกับบียาร์เรอัล) ลูกเดียว อาจจะทำให้อะไรมันต่างออกไป ผมว่าผมคงจะถูกมองต่างออกไปหากเราชนะเกมนั้น
ถ้วยรางวัลนั้นสำคัญแน่นอน แต่การวางรากฐานให้ทีมเล่นอย่างมีประสิทธิภาพนั้นก็สำคัญ ตอนนั้นพวกเราสามารถเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพและสม่ำเสมอเป็นระยะเวลานาน น่าเสียดายที่สุดท้ายมันไม่เพียงพอ แต่อย่างน้อยสิ่งที่ผมได้เห็นคือรอยยิ้มที่กลับมาอีกครั้งของแฟนๆ เพราะพวกเขาได้เห็นแล้วว่ากำลังมีอะไรดีๆเกิดขึ้นอยู่ในกระบวนการนี้
ฤดูกาลถัดมาเราก็ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงในช่วง กันยายน 2021 พร้อมๆกับการเข้ามาของ คริสเตียโน่, วาราน และซานโช่ ในช่วงเดียวกัน
แล้วจากนั้นเกิดอะไรขึ้น?
เราควรจะเข้มแข็งขึ้นจากการที่ผู้เล่นเหล่านี้เข้ามาเสริมทัพ มันควรจะเป็นไปตามแผนที่ขั้นต่อไปเราควรจะผลักดันตัวเองไปลุ้นแชมป์เต็มตัว แต่น่าเสียดายที่มันไม่เวิร์คอย่างที่คิดกันไว้
มันมีมุมมองความรู้สึกในหมู่แฟนบอลและสื่อต่างๆว่าโรนัลโด้เข้ามาทำลายไดนามิคของทีมที่คุณสร้าง, ว่าดีลนี้เป็นดีลที่ Ed Woodward จัดมาให้. ความจริงคืออะไรและคุณรู้สึกยังไงในการร่วมงานกับเขา?
มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากโดยเฉพาะการที่จะปฎิเสธดีลอย่างนี้ ตอนนั้นเรารู้สึกว่าควรจะต้องคว้าดีลนี้เอาไว้แต่จากนั้นทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด มันดูถูกต้องเหมาะสมตอนที่เราคว้าตัวเขามา แฟนๆเองก็คงรู้สึกกันอย่างนั้นในเกมกับนิวคาสเซิล โอลด์ แทรฟฟอร์ดตอนนั้นกระหึ่มกันไปหมด (หลังโรนัลโด้ยิง 2ลูกและยูไนเต็ดชนะไป 4-1) เขายังเป็นหนึ่งในตัวจบสกอร์ที่ดีที่สุด และสภาพของเขาก็ยังดูยอดเยี่ยม
จากนั้นเราก็เข้าสู่ช่วงสำคัญของการแข่งขัน ต้องเจอทั้ง ซิตี้, ลิเวอร์พูล, ท็อตแน่ม และไปเยือนเลสเตอร์ จากนั้นก็วนมาเจอ เชลซี, อาร์เซนอล แล้วยังมีเกม UCL อีก ตอนนั้นเองที่หลายๆอย่างเริ่มไม่เป็นใจกับเรา เริ่มตั้งแต่พลาดจุดโทษท้ายเกมและลงเอยแพ้ วิลล่า 1-0 คาบ้าน.
การที่เราเป็นทีมเราย่อมต้องการให้ทุกๆคนมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกัน แต่เมื่ออะไๆไม่เป็นไปตามแผนก็เริ่มมีการแตกแถวและมีเรื่องของอีโก้เข้ามา เราออกไปเยือนท็อตแน่มและชนะมาได้ 3-0 แต่จากนั้นก็แพ้ 2นัดรวด
ช่วงฤดูใบไม้ร่วงคุณนำทีมแพ้ไป 5 จาก 7 นัด ตอนนั้นรู้สึกไหมว่าคุณอาจจะเสียตำแหน่งนี้ไป?
ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้กับผมนะ แต่ผมรู้สึกได้ถึงมันในตอนพักครึ่งเวลาในเกมทีเจอวัตฟอร์ด (พ.ย. 2021 แพ้ไป 4-1)
คือสภาพเราเหมือนไม่ใช่ยูไนเต็ดแล้ว ผู้เล่นเริ่มไม่วิ่งไม่ช่วยเหลือกัน ตอนพักครึ่งผมจึงบอกพวกเขาว่าให้เล่นด้วยความภาคภูมิ เพราะนี่อาจจะเป็นนัดสุดท้ายที่เราได้ร่วมงานกัน เราเกือบพลิกกลับมาได้แต่ แฮรี่ (Maguire) กลับถูกไล่ออกเสียก่อน
จากนั้นเกิดอะไรขึ้น?
เช้าวันถัดมาผมได้รับข้อความจาก Ed Woodward ว่าเขาต้องการพบผมที่ออฟฟิศของเขาที่แคร์ริงตัน มันทำใจลำบากทีเดียวโดยเฉพาะเมื่อคุณร่วมหัวจมท้าย ผ่านทั้งสุขทั้งทุกข์กับสโมสรมาถึง 18ปี
ผมได้รับการสนับสนุนและมีช่วงเวลาที่ดีกับ Ed Woodward เขาให้โอกาสกับผมและผมเองก็ซาบซึ้งกับการตัดสินใจนั้นของเขาเสมอมา ตอนที่ได้ข้อความผมพึ่งไปส่งครอบครัวของผมที่สนามบิน พอได้อ่านผมก็บอกกับภรรยาว่าผมอาจจะได้กลับไปนอร์เวย์ก่อนเธอก็เป็นได้
ตอนนั้นความรู้สึกมันท่วมท้นมาก ผมเองก็คาดไม่ถึง ความรู้สึกมันเอ่อล้นขึ้นมาเหมือนกับว่าคุณจะต้องลาจากครอบครัวของคุณไป ผมอยากจะพูดคุยกับผู้เล่นของผมทุกๆคนเพื่อบอกลา จากนั้นผมก็ได้บอกลาบรรดาทีมงานและกลับไปยังบ้านที่ตอนนี้มันว่างเปล่า
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา: คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ตระกูลเกลเซอร์ และการถูกปลดจากตำแหน่งผู้จัดการทีมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โดย: Andy Mitten, 20 กันยายน 2023
"ตอนนี้ผมกำลังนั่งเรือเฟอร์รี่ครับ", โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กล่าวผ่านโทรศัพท์ในการให้สัมภาษณ์เจาะลึกผ่านสื่อเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ถูกปลดจากตำแหน่งผู้จัดการทีมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปี 2021
"พวกเรากำลังเดินทางไปที่ Surnadal กับทีมชุด U-16 ทีมที่สองของเรา ผมเริ่มทริปนี้ด้วยการขับรถจากบ้านของผมใน Kristiansund เพื่อมาต่อรถบัสของทีม และตอนนี้ผมก็ล้อมลอบไปด้วยเด็กๆอายุ 15 14คนที่กำลังสนุกสนานเต็มที่"
"ประสบการณ์เหล่านี้ในช่วงที่ผมกำลังเติบโตขึ้นมาเป็นนักเตะอาชีพล้วนเป็นสิ่งที่ผมจดจำได้เป็นอย่างดี ซึ่งตอนนี้ผมเองก็ได้แชร์และเก็บเกี่ยวช่วงเวลาเหล่านี้กับเอไลจาห์ลูกชายคนเล็กของผม เหมือนกับที่ผมเคยโค้ชโนอาห์ลูกชายคนโตในตอนที่ผมถูกปลดจากคาร์ดิฟฟ์ -- รวมไปถึงลูกสาวของผมคาร์น่าในช่วงที่ก่อนผมจะเข้ามาคุมยูไนเต็ด"
"การได้ปฏิเสธข้อเสนอที่คุณไม่ได้รู้สึกสนใจ 100% แล้วได้ใช้เวลากับครอบครัวถือว่าสิ่งที่พิเศษมากๆ คุณไม่สามารถทำแบบนี้ได้เลยเมื่อคุณคุมทีมระดับยูไนเต็ด คุณต้องยอมสละตรงนี้ไป"
ถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบ 2ปีแล้วนับตั้งแต่ที่โซลชาถูกปลด ซึ่งตำนานของยูไนเต็ดถูกปลดจากตำแหน่งเพียง 6เดือนหลังจากที่เขานำสโมสรเข้าสู่รอบชิงฯ ยูโรป้า ลีก ก่อนที่จะแพ้ให้กับบียาร์เรอัลในการดวลจุดโทษ
เจ้าตัวไม่เคยเปิดเผยถึงประสบการณ์ในช่วงนั้นอย่างเต็มรูปแบบ ถึงแม้ผมจะได้มีการถามไถ่เป็นระยะๆแต่ก็เหมือนกับว่ามันยังไม่ถูกจังหวะเสียที แต่จากข้อความที่ผมได้รับเมื่อเช้าวันจันทร์ก็ชัดเจนแล้วว่าตอนนี้เจ้าตัวพร้อมที่จะพูดถึงเหตุการณ์ในช่วงนั้นแล้ว และการพูดคุยครั้งนี้จะไม่มีหัวข้อไหนที่จะถูกยกไปคุยอย่างลับๆนอกรอบ
ในการพูดคุยราวๆหนึ่งชั่วโมงของเรานั้นชัดเจนว่าเจ้าตัวพร้อมที่จะหวนคืนสู่วงการฟุตบอลอีกครั้ง เมื่อวันพุธเจ้าตัวพึ่งเริ่มทำงานกับทางยูฟ่า ในฐานะผู้วิเคราะห์ทางเทคนิค แต่ในขณะเดียวกันเจ้าตัวก็คิดถึงการกลับมาคุมทีมข้างสนามอีก
“ตอนนี้ผมโค้ชทีมถี่ยิบเลยครับ ประมาณ 4ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะเรามีทีมถึง 3ทีมน่ะ” เจ้าตัวกล่าวในขณะเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันระดับยุวชนที่จัดขึ้น ห่างจากกรุงออสโลไป 300ไมล์ทางตะวันตกเฉียงเหนือ
“ผมช่วยเหลือเหล่าเด็กๆซึ่งสนุกสนานกับมัน จากจุดนี้คุณจะได้เห็นฟุตบอลจากอีกแง่มุมนึง ที่เป็นฟุตบอลระดับต้นกล้าน่ะ และถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงสนามหญ้าเทียม แต่คุณก็สามารถเห็นประกายในแววตาของพวกเขาได้ พวกเขาพร้อมที่จะฟังและเรียนรู้จากคุณ”
“แต่ก็นะพอคุณได้สัมผัสการแข่งขันเหล่านี้ ไม่ว่าจะผ่านทีวีหรือจากข้างสนาม คุณก็เริ่มที่จะคิดถึงมัน (ฟุตบอลอาชีพ). ตั้งแต่ผมออกจากยูไนเต็ดผมก็ได้เดินทางไปยังที่ต่างกับลูกๆของผมในฐานะแฟนบอล ไม่ว่าจะเป็น เนเปิ้ล, มิลาน หรือดอร์ทมุนด์ ซึ่งพวกเราสนุกกันมาก”
“ด้วยหน้าที่ใหม่ของผมกับทางยูฟ่า ทำให้ผมได้ไปดู UCL ถึงขอบสนาม ผมได้ชมการแข่งขันจากอีกมุมมองนึงนอกเหนือไปจากการเป็นผู้จัดการทีม ได้ มีเวลาวิเคราะห์, ขบคิด, พิจารณาว่าแต่ละทีมจะปล่อยของใส่กันแบบไหน”
“เดี๋ยวจากนี้ผมก็จะเดินทางไปฝั่งอีสโคสต์ของอเมริกาสัก 2-3สัปดาห์ ไปเจอกับ เวร์น (Rooney) และเดวิด (Beckham) ไปดูการแข่งขันที่นั่นว่าเป็นอย่างไร”
คุณอยากกลับมาคุมทีมอีกครั้งไหม?
แน่นอนครับ ผมเองก็ได้รับข้อเสนอเข้ามาบ้าง อย่างเร็วๆนี้ก็มีทีมจากซาอุฯ 2ทีมติดต่อเข้ามา เพื่อนสนิทของผมที่ทำหน้าที่ผู้จัดการส่วนตัวของผมควบคู่ไปด้วยก็ได้ลองศึกษาข้อเสนอเหล่านั้นดู แต่ก็อย่างว่าครับ ถ้าคุณเคยมีโอกาสคุมทีมระดับยูไนเต็ดมาแล้ว คุณจะมีเกณฑ์ที่แน่ชัดว่าคุณอยากได้งานแบบไหน คุณย่อมมองหาอะไรที่ต่างออกไป
ผมรักอังกฤษและ EPL แม้แต่ระดับแชมเปี้ยนชิพเองก็พัฒนาขึ้นอย่างน่าสนใจ แต่ผมไม่ได้ยึดติดว่าต้องเป็นแค่ที่อังกฤษนะครับ บางทีมันอาจจะน่าสนใจและท้าทายก็ได้หากคุณได้มีโอกาสไปสัมผัสเรียนรู้วัฒนธรรมและภาษาใหม่ๆ
DNA และพื้นเพของสโมสรนั้นค่อนข้างสำคัญสำหรับผม ผมคิดว่าถ้าเราคลิ๊กกันแล้วมันจะทำให้ผมสามารถรีดเอาส่วนที่ดีที่สุดของผมออกมาได้อย่างเต็มที่ ผมมองย้อนไปแล้วก็คิดว่าตัวเองอาจจะตัดสินใจผิดพลาดไปตอนเลือกที่จะคุมคาร์ดิฟฟ์ คือผมคิดว่าสไตล์และอัตตลักษณ์ของสโมสรเองมันค่อนข้างจะสับสนน่ะในตอนนั้น
อีกอย่างที่ผมคิดถึงมากที่สุดคือการได้ทำงานร่วมกับผู้คนที่ยอดเยี่ยมในทุกๆวัน ได้พูดคุยกันเรื่องฟุตบอล วางแผนสำหรับเกมถัดๆไป คือมันไม่ใช่แค่เรื่องฟุตบอลอย่างเดียวแต่มันรวมไปถึงการสร้างวัฒนะธรรมและบรรยากาศที่บรรดาสต๊าฟล้วนสนุกกับงานและร่วมสร้างสโมสรไปด้วยกัน
นี่ก็เกือบ 2ปีแล้วหลังจากคุณออกจากทีมไป คุณรู้สึกยังไงบ้างกับช่วงเวลาของคุณกับยูไนเต็ด?
ก็…มันก็มีอะไรที่ขาดหายไปนะ (ถ้วยรางวัล). ลูกโทษ (ในการดวลจุดโทษกับบียาร์เรอัล) ลูกเดียว อาจจะทำให้อะไรมันต่างออกไป ผมว่าผมคงจะถูกมองต่างออกไปหากเราชนะเกมนั้น
ถ้วยรางวัลนั้นสำคัญแน่นอน แต่การวางรากฐานให้ทีมเล่นอย่างมีประสิทธิภาพนั้นก็สำคัญ ตอนนั้นพวกเราสามารถเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพและสม่ำเสมอเป็นระยะเวลานาน น่าเสียดายที่สุดท้ายมันไม่เพียงพอ แต่อย่างน้อยสิ่งที่ผมได้เห็นคือรอยยิ้มที่กลับมาอีกครั้งของแฟนๆ เพราะพวกเขาได้เห็นแล้วว่ากำลังมีอะไรดีๆเกิดขึ้นอยู่ในกระบวนการนี้
ฤดูกาลถัดมาเราก็ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงในช่วง กันยายน 2021 พร้อมๆกับการเข้ามาของ คริสเตียโน่, วาราน และซานโช่ ในช่วงเดียวกัน
แล้วจากนั้นเกิดอะไรขึ้น?
เราควรจะเข้มแข็งขึ้นจากการที่ผู้เล่นเหล่านี้เข้ามาเสริมทัพ มันควรจะเป็นไปตามแผนที่ขั้นต่อไปเราควรจะผลักดันตัวเองไปลุ้นแชมป์เต็มตัว แต่น่าเสียดายที่มันไม่เวิร์คอย่างที่คิดกันไว้
มันมีมุมมองความรู้สึกในหมู่แฟนบอลและสื่อต่างๆว่าโรนัลโด้เข้ามาทำลายไดนามิคของทีมที่คุณสร้าง, ว่าดีลนี้เป็นดีลที่ Ed Woodward จัดมาให้. ความจริงคืออะไรและคุณรู้สึกยังไงในการร่วมงานกับเขา?
มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากโดยเฉพาะการที่จะปฎิเสธดีลอย่างนี้ ตอนนั้นเรารู้สึกว่าควรจะต้องคว้าดีลนี้เอาไว้แต่จากนั้นทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด มันดูถูกต้องเหมาะสมตอนที่เราคว้าตัวเขามา แฟนๆเองก็คงรู้สึกกันอย่างนั้นในเกมกับนิวคาสเซิล โอลด์ แทรฟฟอร์ดตอนนั้นกระหึ่มกันไปหมด (หลังโรนัลโด้ยิง 2ลูกและยูไนเต็ดชนะไป 4-1) เขายังเป็นหนึ่งในตัวจบสกอร์ที่ดีที่สุด และสภาพของเขาก็ยังดูยอดเยี่ยม
จากนั้นเราก็เข้าสู่ช่วงสำคัญของการแข่งขัน ต้องเจอทั้ง ซิตี้, ลิเวอร์พูล, ท็อตแน่ม และไปเยือนเลสเตอร์ จากนั้นก็วนมาเจอ เชลซี, อาร์เซนอล แล้วยังมีเกม UCL อีก ตอนนั้นเองที่หลายๆอย่างเริ่มไม่เป็นใจกับเรา เริ่มตั้งแต่พลาดจุดโทษท้ายเกมและลงเอยแพ้ วิลล่า 1-0 คาบ้าน.
การที่เราเป็นทีมเราย่อมต้องการให้ทุกๆคนมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกัน แต่เมื่ออะไๆไม่เป็นไปตามแผนก็เริ่มมีการแตกแถวและมีเรื่องของอีโก้เข้ามา เราออกไปเยือนท็อตแน่มและชนะมาได้ 3-0 แต่จากนั้นก็แพ้ 2นัดรวด
ช่วงฤดูใบไม้ร่วงคุณนำทีมแพ้ไป 5 จาก 7 นัด ตอนนั้นรู้สึกไหมว่าคุณอาจจะเสียตำแหน่งนี้ไป?
ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้กับผมนะ แต่ผมรู้สึกได้ถึงมันในตอนพักครึ่งเวลาในเกมทีเจอวัตฟอร์ด (พ.ย. 2021 แพ้ไป 4-1)
คือสภาพเราเหมือนไม่ใช่ยูไนเต็ดแล้ว ผู้เล่นเริ่มไม่วิ่งไม่ช่วยเหลือกัน ตอนพักครึ่งผมจึงบอกพวกเขาว่าให้เล่นด้วยความภาคภูมิ เพราะนี่อาจจะเป็นนัดสุดท้ายที่เราได้ร่วมงานกัน เราเกือบพลิกกลับมาได้แต่ แฮรี่ (Maguire) กลับถูกไล่ออกเสียก่อน
จากนั้นเกิดอะไรขึ้น?
เช้าวันถัดมาผมได้รับข้อความจาก Ed Woodward ว่าเขาต้องการพบผมที่ออฟฟิศของเขาที่แคร์ริงตัน มันทำใจลำบากทีเดียวโดยเฉพาะเมื่อคุณร่วมหัวจมท้าย ผ่านทั้งสุขทั้งทุกข์กับสโมสรมาถึง 18ปี
ผมได้รับการสนับสนุนและมีช่วงเวลาที่ดีกับ Ed Woodward เขาให้โอกาสกับผมและผมเองก็ซาบซึ้งกับการตัดสินใจนั้นของเขาเสมอมา ตอนที่ได้ข้อความผมพึ่งไปส่งครอบครัวของผมที่สนามบิน พอได้อ่านผมก็บอกกับภรรยาว่าผมอาจจะได้กลับไปนอร์เวย์ก่อนเธอก็เป็นได้
ตอนนั้นความรู้สึกมันท่วมท้นมาก ผมเองก็คาดไม่ถึง ความรู้สึกมันเอ่อล้นขึ้นมาเหมือนกับว่าคุณจะต้องลาจากครอบครัวของคุณไป ผมอยากจะพูดคุยกับผู้เล่นของผมทุกๆคนเพื่อบอกลา จากนั้นผมก็ได้บอกลาบรรดาทีมงานและกลับไปยังบ้านที่ตอนนี้มันว่างเปล่า