สถานการณ์อสังหาฯ เปิดใหม่เดือนสิงหาคม 2566
ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์เปิดใหม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ชะลอการเปิดตัวโครงการลดลงเล็กน้อย ทั้งจำนวนโครงการ จำนวนหน่วย และมูลค่าโครงการ
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA) กล่าวถึงสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์เปิดใหม่เดือนสิงหาคม 2566 ว่ามีการเปิดตัวลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน อาคารชุดเป็นกลุ่มที่เปิดตัวมากที่สุด 1 ใน 3 ของจำนวนหน่วยทั้งหมด และอาคารชุดระดับราคา 1-2 ล้านบาทขายดีที่สุด และมีรายละเอียดอื่นๆ ที่น่าสนใจ
จำนวนหน่วยอสังหาริมทรัพย์ในเดือนสิงหาคม 2566 มีจำนวน 6,769 หน่วย ลดลง 20.4% จำนวนหน่วยขายของเดือนนี้ร้อยละ 78 ยังคงเป็นการพัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทในเครือ ซึ่งพัฒนาสินค้าประเภทบ้านเดี่ยวระดับราคาสูงและอาคารชุดระดับราคาปานกลาง โดยประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้ยังคงเป็นอาคารชุด 34.7% รองลงมา คือบ้านเดี่ยว 27.4% ส่วนอันดับ 3 คือ ทาวน์เฮ้าส์ 27.4% ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด
ในด้านมูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือนสิงหาคม 2566 นี้ มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 38,508 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากเดือนที่ผ่านมาประมาณ 21.6% ประเภทที่มีมูลค่าการพัฒนาสูงสุด คือ บ้านเดี่ยวคิดเป็น 58.5% รองลงมาคือ อาคารชุด 14.7% ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านแฝด 13.3% ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมดตามลำดับ
โดยสินค้าที่เข้าสู่ตลาดในเดือนนี้แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มระดับราคาไม่เกิน 3.0 ล้านบาท มีหน่วยขายรวมมากถึง 47.6% และระดับราคาตั้งแต่ 5.0 ล้านบาทขึ้นไปมี จำนวน 2,398 หน่วย หรือ 35.4% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มบ้านเดี่ยวระดับราคาปานกลางค่อนข้างสูง และบ้านแฝดที่มีระดับราคาปานกลาง จึงทำให้ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยของเดือนนี้มีราคาลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 5.689 ล้านบาท
พิจารณาอัตราการขายได้ จะพบว่า ในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ 14.7% ซึ่งลดลงจากเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขายได้ที่ 18.9% ต่อเดือน โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการได้สูงสุด และมีจำนวนหน่วยขายเป็นส่วนใหญ่ของตลาด คือ อาคารชุดระดับราคา 1-2 ล้านบาท ขายได้ 45.8% รองลงคือ อาคารชุดระดับราคา 3-5 ล้านบาท ขายได้ 23.1% และในเดือนนี้มีที่อยู่อาศัยแนวราบที่มียอดขายที่น่าสนใจ คือ บ้านเดี่ยวระดับราคา 5-10 ล้านบาท ขายได้ 17.1% ของจำนวนที่อยู่อาศัยที่เปิดขายใหม่ในเดือนนี้
เมื่อพิจารณาถึงผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่า เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) มีจำนวน 15 บริษัท คือ บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) บริษัท พีซแอนด์ลีฟวิ่ง จำกัด (มหาชน) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท วังทองกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอสซีแอสเสทคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัทในเครือและบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทในเครือ และบริษัททั่วไป มีรายละเอียดดังนี้
ในด้านทำเลที่ตั้ง จะพบว่า ในเดือนนี้มีโครงการที่เปิดตัวใหม่ และตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพชั้นในเพียงจำนวน 1 โครงการเท่านั้น คือ โดยโครงการส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในเขตเมืองชั้นกลาง และส่วนต่อขยายของเมือง (intermediate area) จำนวน 27 โครงการ เช่นบริเวณรามอินทรา วงแหวนตะวันออก รามคำแหง อ่อนนุช-ลาดกระบัง ประชาอุทิศ ราชพฤกษ์ และพื้นรอบนอก 11 โครงการ บริเวณลำลูกกา บางบ่อ-คลองด่าน สมุทรสาคร วงแหวนตะวันตก เป็นต้น
สำหรับอาคารชุดที่เปิดขายจะตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ชั้นกลางและส่วนต่อขยายตามแนวสถานีรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ เช่น รัตนาธิเบศร์ รามอินทรา รังสิต ลาดกระบัง ฯลฯ ส่วนที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีการเปิดใหม่จะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ส่วนต่อขยายเมือง เช่น ย่านราชพฤกษ์-ชัยพฤกษ์ ศรีนครินทร์ เทพารักษ์ และยังมีพื้นรอบนอก เช่น รังสิต-ลำลูกกา บางบ่อ นครชัยศรี ราชพฤกษ์ตัดใหม่ เป็นต้น
ที่มา:
https://citly.me/s5tdQ
สถานการณ์อสังหาฯ เปิดใหม่เดือนสิงหาคม 2566
ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์เปิดใหม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ชะลอการเปิดตัวโครงการลดลงเล็กน้อย ทั้งจำนวนโครงการ จำนวนหน่วย และมูลค่าโครงการ
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA) กล่าวถึงสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์เปิดใหม่เดือนสิงหาคม 2566 ว่ามีการเปิดตัวลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน อาคารชุดเป็นกลุ่มที่เปิดตัวมากที่สุด 1 ใน 3 ของจำนวนหน่วยทั้งหมด และอาคารชุดระดับราคา 1-2 ล้านบาทขายดีที่สุด และมีรายละเอียดอื่นๆ ที่น่าสนใจ
จำนวนหน่วยอสังหาริมทรัพย์ในเดือนสิงหาคม 2566 มีจำนวน 6,769 หน่วย ลดลง 20.4% จำนวนหน่วยขายของเดือนนี้ร้อยละ 78 ยังคงเป็นการพัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทในเครือ ซึ่งพัฒนาสินค้าประเภทบ้านเดี่ยวระดับราคาสูงและอาคารชุดระดับราคาปานกลาง โดยประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้ยังคงเป็นอาคารชุด 34.7% รองลงมา คือบ้านเดี่ยว 27.4% ส่วนอันดับ 3 คือ ทาวน์เฮ้าส์ 27.4% ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด
ในด้านมูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือนสิงหาคม 2566 นี้ มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 38,508 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากเดือนที่ผ่านมาประมาณ 21.6% ประเภทที่มีมูลค่าการพัฒนาสูงสุด คือ บ้านเดี่ยวคิดเป็น 58.5% รองลงมาคือ อาคารชุด 14.7% ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านแฝด 13.3% ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมดตามลำดับ
โดยสินค้าที่เข้าสู่ตลาดในเดือนนี้แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มระดับราคาไม่เกิน 3.0 ล้านบาท มีหน่วยขายรวมมากถึง 47.6% และระดับราคาตั้งแต่ 5.0 ล้านบาทขึ้นไปมี จำนวน 2,398 หน่วย หรือ 35.4% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มบ้านเดี่ยวระดับราคาปานกลางค่อนข้างสูง และบ้านแฝดที่มีระดับราคาปานกลาง จึงทำให้ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยของเดือนนี้มีราคาลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 5.689 ล้านบาท
พิจารณาอัตราการขายได้ จะพบว่า ในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ 14.7% ซึ่งลดลงจากเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขายได้ที่ 18.9% ต่อเดือน โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการได้สูงสุด และมีจำนวนหน่วยขายเป็นส่วนใหญ่ของตลาด คือ อาคารชุดระดับราคา 1-2 ล้านบาท ขายได้ 45.8% รองลงคือ อาคารชุดระดับราคา 3-5 ล้านบาท ขายได้ 23.1% และในเดือนนี้มีที่อยู่อาศัยแนวราบที่มียอดขายที่น่าสนใจ คือ บ้านเดี่ยวระดับราคา 5-10 ล้านบาท ขายได้ 17.1% ของจำนวนที่อยู่อาศัยที่เปิดขายใหม่ในเดือนนี้
เมื่อพิจารณาถึงผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่า เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) มีจำนวน 15 บริษัท คือ บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) บริษัท พีซแอนด์ลีฟวิ่ง จำกัด (มหาชน) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท วังทองกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอสซีแอสเสทคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัทในเครือและบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทในเครือ และบริษัททั่วไป มีรายละเอียดดังนี้
ในด้านทำเลที่ตั้ง จะพบว่า ในเดือนนี้มีโครงการที่เปิดตัวใหม่ และตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพชั้นในเพียงจำนวน 1 โครงการเท่านั้น คือ โดยโครงการส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในเขตเมืองชั้นกลาง และส่วนต่อขยายของเมือง (intermediate area) จำนวน 27 โครงการ เช่นบริเวณรามอินทรา วงแหวนตะวันออก รามคำแหง อ่อนนุช-ลาดกระบัง ประชาอุทิศ ราชพฤกษ์ และพื้นรอบนอก 11 โครงการ บริเวณลำลูกกา บางบ่อ-คลองด่าน สมุทรสาคร วงแหวนตะวันตก เป็นต้น
สำหรับอาคารชุดที่เปิดขายจะตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ชั้นกลางและส่วนต่อขยายตามแนวสถานีรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ เช่น รัตนาธิเบศร์ รามอินทรา รังสิต ลาดกระบัง ฯลฯ ส่วนที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีการเปิดใหม่จะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ส่วนต่อขยายเมือง เช่น ย่านราชพฤกษ์-ชัยพฤกษ์ ศรีนครินทร์ เทพารักษ์ และยังมีพื้นรอบนอก เช่น รังสิต-ลำลูกกา บางบ่อ นครชัยศรี ราชพฤกษ์ตัดใหม่ เป็นต้น
ที่มา: https://citly.me/s5tdQ