ปัญหาครอบครัว ขอคำปรึษาหน่อยครับ

กระทู้คำถาม
ไม่รู้ผมต้องทำยังไง แฟนผมอายุ 24 ท้องตอน 22 ตอนนี้มีลูกชาย1คน อายุ 1ขวบ7เดือน ทางแฟนผมเค้าอยากจะเลิกกับผมเพราะไม่ได้แต่งก่อนหรือไปสู่ขออะไรทางบ้านผู้หญิงเลย ทางเมียผมบอกว่า รอจนลูกจะ 2ขวบอยู่เเล้ว ทำไมทางบ้านผมไม่มีติดต่อถามไถ่อะไรเลย แต่ที่บ้านรู้น่ะนะครับ ว่าคบกับผมท้องกลับผม ตั้งแต่ลูก ก็ย้ายเข้ามาอยู่บ้านผม มีพ่อแม่ ผมเมียและลูก ฝากผมก็ออกจ่ายใช่จ่ายทุกอย่าง ค่าคลอด ค่าวัคซีน ค่านม ค่าแพม เมียผมเป็นคนที่ เป็นคนอารมรุนแรงพอตัว เวลาทะเลาะกัน ก็จะเสียงดังกันทั้งคู่ ทะเลาะกันบ่อย ไม่ว่าจะทะเลาะเรื่องอะไรก็จะ วนกลับมา บอกว่ากุอยู่บ้านไปก็ไร้ศักดิ์ศรี ผมผู้หญิงท้องไม่มีปัญหารับผิดชอบ จนผมก็เริ่มไปคุยกับพ่อแม่ ญาติหรืออี้ บอกก่อนนะครับ ฝั่งบ้านผมเป็นคนจีน เคยจะขอยืมเงินเค้า เพื่อมาทำพิธีแต่งๆ แต่ก็เงียบไป เขาบอกว่าจะจัดทำไม งานแต่งที่ท้องไปแล้ว ผมรักทั้งลูกทั้งเมีย เเล้วในตอนนี้ทางเมียผม ก็ไปเช่าคอนโดลุมพินี ไว้ก่อนแล้ว เผื่อเค้าเลิกกับผมไป เค้าก็จะย้ายไปอยู่กับน้องสาวเขา ผมปรึกษาเพื่อน เพื่อนก็บอกว่า แบบนี้ทางบ้านก็ทำไม่ถูกนะ ไม่เคยติดต่ออะไรฝ่ายหญิงเลย เหมือนไม่ให้เกีตร แต่จริงๆเเล้ว ผมเคยคุยกับพ่อเมียผมเเล้ว ตั้งแต่รู้ว่าแต่ง พ่อเมียผมเข้าก็ดีไม่ว่าไม่ด่าอะไรสักคำ ผมก็คุยกับพ่อ พ่อก็จะสอนทำนองว่า ชีวิตครอบครัวอยู่ด้วยกันต้อง ให้อภัยกัน เสมอ ใจเย็นซึ้งกันเเละกัน ทางบ้านผู้หญิงเขารู้ว่าอยู่กับผม ตลอดเวลา 3ปีที่ผ่านมา ผมเคยให้พ่อของผมทักไปคุยกับแม่เเล้ว แต่ทางนั้นก็ไม่ได้อ่านข้อความอะไร เหมือนไลน์นั้นเป็นไลน์กลัว เเล้วเรื่องนี้ก็หายเงียบไป  ตอนนี้ผมควรต้องทำอย่างไรต่อ ผมจะทักไปคุยกับพ่อเมียโทรกับแก เรื่องจะขอขมาทางพ่อและครอบครัวของเมียผม ผมก็รักเมียเมียก็รักผม แต่ติดอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องติดต่อญาติ เเล้วผมเป็นคนที่ไม่มีเงินเก็บ สิ้นเดือนมาก็จ่ายหนี้ จ่ายค่าเลี้ยงดูลูกทุกๆเดือน หมดทุกเดือน เป็นหนี้เพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ ผมควรคุยแบบลูกผู้ชาย กับพ่อเมียผมเลยไหม ตอนนี้ผมไม่มีอะไรจะเสียเเล้ว ทางบ้านผมก็เหมือนจะช้วยได้แค่เรื่องค่ากินค่าใช่จ่ายจิปาถะ ผมก็งง ทำไมทางผมถึงไม่ยอมติดต่อ บอกขับรถไปไม่ไหวที่ตรัง ผมสงสารเมียน่ะ ว่าทำไมเราถึงมาเป็นแบบนี้ เมียผมเป็นคนที่รักครอบครัวเขามาก เค้าโทรคุยกับทางบ้านที่อยู่ที่ใต้ทุกวัน ผมควรเริ่มหรือยังไงดีครับ อยากให้เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ ไม่อยากให้ลูกโตไม่มีพ่ออยู่ข้างๆตอนโต
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
จากประสบการณ์ส่วนตัวที่คล้ายกัน
1. ตั้งครรภ์ ตอนอายุยังน้อย เรากับแฟน รู้ว่าท้องอายุ 22 ยังเรียนไม่จบ
2. ไม่พร้อมด้านทุนทรัพย์

ที่แตกต่าง
1. แฟนเราเค้าไปหาพ่อแม่เราค่ะ ไปขอโทษและบอกว่าจะรับผิดชอบ
บ้านเราเป็นคนจีนพ่อเราดุมากไม่เคยทราบว่าเรามีแฟนมาก่อน แต่แม่เราทราบว่าคบกัน(ตอนนั้นคบกับแฟนได้ 5ปีแล้ว) เราและแฟนไปบอกแม่ก่อนต่อหน้า และ ไปบอกพ่อต่อมาและ แฟนเรานัดให้พ่อแม่ญาติทั้งสองฝั่งคุยกันค่ะ ตกลงว่าจะเอายังไง ตอนคุยพ่อแม่เราบอกเลยว่าต้องแต่งงานทำพิธีถูกต้องไม่ต้องใหญ่ ก็ตกลงกันไปค่ะ เราเข้าอยู่ที่บ้านแฟนค่ะ พ่อแฟนรับผิดชอบค่าน้ำ ไฟ ข้าวที่ทานที่บ้าน นอกนั้นเรากับแฟนรับผิดชอบหมดค่ะ เราและแฟนหลังเรียนจบก็ทำงานเลยค่ะ ได้รายได้ไม่มากแต่ก็อดทนเอาค่ะ ตอนนี้เราและแฟนอายุ30 มีรายได้เลี้ยงตนเองได้ถือว่าไม่ลำบากค่ะ มีบ้าน และ กำลังมีลูกคนที่สองแล้วค่ะ

กรณีคุณเราว่าอย่างแรกที่คุณควรทำ
1. คุยกับภรรยาตรงๆค่ะ ว่ามีปัญหาเรื่องการเงินแบบนี้ คิดว่าไม่พร้อมที่จะแต่งงานตอนนี้ สอบถามเหตุผลว่าแต่งงานเพราะเหตุผลใด เพราะเพื่อนเราเองจะแต่งก่อนโควิดค่ะ แต่ท้องก่อน ปัจจุบันไม่ได้แต่งนะคะ แต่ครอบครัวมีความสุขดีเค้าบอกว่าเอาเงินไปเลี้ยงลูกดีกว่าค่ะ พ่อแม่เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร
ลองคุยกันก่อนบางทีปัญหาไม่ได้อยู่ที่การแต่งงานแต่อยู่ที่ตัวบุคคล ถ้าต้องจัดจริงๆต้องเชิญแขกเท่าไหร่ สินสอดอย่างไร ต้องตีค่าใช้จ่ายทั้งหมดออกมาเป็นจำนวนเงินและดูความเป็นไปได้ค่ะ

2. คุณควรไปขอขมาพ่อแม่แฟนต่อหน้าด้วยตนเองต่อหน้านะคะ ไม่ควรโทรไป พ่อแม่คุณไม่ไปหรือไปไม่ได้บลาๆ...แต่คุณควรไปค่ะ ตรังไม่ไกลหรอกค่ะ หากไม่อยากหยุดงานให้ไปช่วงหยุดปีใหม่หรือสงกรานต์ค่ะ เราว่าพ่อแม่แฟนไม่ต้องการอะไรมากมายหรอกค่ะ ลูกก็โตแล้ว เค้าต้องการให้คุณดูแลลูกและเมียให้ดีมากกว่า ส่วนเรื่องงานแต่งอย่างน้อยไม่มีเงินตบแต่งก็ควรไปทำพิธีขอขมา ให้ผู้ใหญ่ผูกข้อมือ ไปเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ไปแสดงว่าคุณรักภรรยาคุณและจะดูแลเธอและลูกอย่างสุดกำล้งที่มีค่ะ

3. ปัญหาเรื่องเงิน ขอถามเพิ่ม ภรรยาคุณทำงานไหม หากไม่ได้ทำเพราะไม่มีคนเลี้ยงลูก พอลูกโตพอที่จะเข้าเตรียมอนุบาลได้ให้ไปเข้าเรียนค่ะ จากนั้นคุณต้องสนับสนุนให้ภรรยาคุณทำงานและช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายบางอย่าง จะทำให้คุณมีเงินเก็บมากขึ้นเพื่อไปแต่งงาน ด้วยเธออายุยังน้อยบางทีทำงานแล้วความคิดอาจเปลี่ยนเป็นไม่อยากเอาเงินไปแต่งงานแต่เก็บไว้ดูแลลูก หรือ ลงทุนก็เป็นไปได้ค่ะ ส่วนคุณคงต้องหาทางทำงานหาเงินเพิ่มค่ะ เพราะที่หามาไม่พอใช้

อย่างไรก็ตามเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ ด้วยเราเองไม่ได้ทราบถึงข้อจำกัดบางอย่างที่คุณมีทั้งหมด และ ไม่ทราบจริงๆว่าวิธีการของเราหากนำไปทำจริงๆจะเหมาะสมกับสถานะการณ์ของคุณในตอนนี้ไหม เราขอให้กำลังใจให้คุณและภรรยาผ่านปัญหานี้ไปได้ค่ะ ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอค่ะ ^ ^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่