มีเเฟนเพศเดียวกันครั้งเเรก

    สวัสดีครับทุกคน วันนี้ผมอยากมาเล่าการมีเเฟนเพศเดียวกันครั้งเเรกให้ทุกคนได้อ่านกันครับ ก่อนอื่นเลยขออนุญาตย้อนกลับไปช่วงมัธยม ตอนนั้นผมก็เคยมีเเฟนเป็นผู้หญิงมาก่อนนะครับ เเละไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่า ชีวิตนี้จะมีเเฟนเพศเดียวกัน จนกระทั่งผมกลับมาโสดอีกครั้ง หลังจากเลิกกับเเฟนที่เป็นผู้หญิงไป ช่วงนั้นน่าจะเป็นช่วงใกล้ขึ้นม.6 ซึ่งผมก็ใช้เวลาหลายเดือนเลยในการ Move on จนผมรู้สึกว่าดีขึ้นมากๆเเล้ว จะไม่กลับไปมองหาความรักอีก เพราะเจ็บมากๆเเล้ว เเต่มีอยู่วันนึง ผมรู้สึกเเปลกใจกับตัวเองที่มองเพื่อนเพศเดียวกันเเล้วรู้สึกเขินๆ รู้สึกดึงดูดเรา ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก อาจจะเพราะสับสนในตัวเอง จนกระทั่งทุกอย่างมันเริ่มชัดขึ้น ตั้งเเต่รู้ว่าเรามองเพศเดียวกันเปลี่ยนไป ในที่นี้หมายถึงเเบบเเอบเขิน เเอบปลื้มเพศเดียวกัน ผมก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรทำไมถึงคิดเเบบนั้น เเต่ผมก็ยังชอบผู้หญิงเหมือนเดิมนะ ยังมีความรู้สึกดีเหมือนเดิม เวลาเจอคนที่เราเเอบชอบที่เป็นผู้หญิง เเต่ผมก็ยังไม่กล้าที่บอกใครเลย เเม้เเต่ครอบครัว หรือเพื่อนสนิท จนกระทั่งผมเข้ามหาลัยก็ไม่ได้คิดเรื่องความรัก เเต่เวลาเจอผู้ชายหน้าตาหวานๆ หน่อย เราก็เเอบไปมอง เเอบปลื้มอยู่ในใจ ผมเริ่มสับสนหนักขึ้นเรื่อยๆ ว่าความรู้สึกเเบบนี้มันคืออะไรกันเเน่ ผมก็เลยลองเปิดใจลองคุยกับเพศเดียวกันในเเอพหาคู่ดู ก็ดูไม่มีปัญหาอะไร ก็คุยได้ปกติ จนกระทั่งคนเเล้วคนเล่าก็ยังไม่มีใครเข้าตา หรืออยากจะสานสัมพันธ์ต่อจริงๆ ช่วงที่ผมเปิดใจคุยกับเพศเดียวกัน ผมก็ไม่กล้าบอกใครนะ ด้วยอะไรหลายๆอย่าง กลัวครอบครัว กลัวเพื่อนไม่ยอมรับ กลัวจะมองเราไม่เหมือนเดิม กลัวหลายๆอย่างในชีวิตเปลี่ยนไป จนกระทั่งเรามานั่งคิดกับตัวเองว่า ทำไมเราสนใจสังคมรอบข้าง จนลืมโฟกัสตัวเองขนาดนี้ สังคมหรอที่เป็นตัวมากำหนดชีวิตเรา พอผมคิดเเบบนี้ ผมก็กลับไปโฟกัสกับความสุขของตัวเองดีกว่า จนกระทั่งผมได้คุยกับคนคนนึงที่รู้สึกว่าเข้ากันได้ดี รู้สึกว่าคนนี้เเหละที่เราอยากจะไปต่อ เราก็นัดเจอเขาครั้งเเรก ตอนเเรกเราก็ประหม่ามาก ไม่มั่นใจอะไรทั้งสิ้น จนได้เจอกับเขาก็รู้สึกโอเคมากๆเลย ครั้งนั้นเป็นความรู้สึกเเรกที่กล้าไปเจอคนคุยเพศเดียวกัน คุยมาสักพักเราก็เริ่มว่าคนนี้โอเค เราเลยรวบรวมความกล้าไปบอกเพื่อนคนนึง เป็นการเปิดใจครั้งเเรกเลย ผมบอกเพื่อนว่ามีอะไรจะบอก "จะรังเกียจกันไหม ถ้ารู้ว่าเราคุยกับเพศเดียวกันอยู่" ตอนนั้นกลัวในคำตอบมาก เเต่เพื่อนกลับตอบมาว่า "จะรังเกียจทำไม มันคือเรื่องปกติ มันคือความรักของคนสองคน" พอผมได้ยินเเบบนั้นก็รู้สึกดีมาก ที่เพื่อนยอมรับเราได้ จนเราทยอยบอกเพื่อนในกลุ่ม สิ่งที่ได้จากเพื่อนๆคือ เพื่อนซัพพอร์ตเรามาก อาจจะตกใจบ้าง เเต่ทุกคนบอกว่ามันคือเรื่องของคนสองคนมากกว่า ด้วยโลกทุกวันนี้มันเปิดกว้างมากๆ ทำให้เรากล้าที่จะทำตามสิ่งที่ตัวเองอยากทำ จนกระทั่งเพื่อนคนสุดท้ายที่ผมบอก นั่นคือเพื่อนที่สนิทที่สุดของผม เพราะผมกลัวมากที่สุดที่จะบอกเพื่อนคนนี้ กลัวเขาจะยอมรับเราไม่ได้ กลัวเขาจะไม่อยากเป็นเพื่อนกับเราอีก เเต่ในที่สุดผมก็รวบรวมความกล้าไปบอกเพื่อนผม ซึ่งคำพูดมัน เกือบทำให้ผมร้องไห้เลย มันบอกว่า "อย่ามาคิดเเทนกู ถ้ากูเลิกเป็นเพื่อนกับ เเค่เพราะชอบเพศเดียวกัน กูคงดูใจร้ายมากเลยนะ กูมองที่เป็นอะ ไม่ได้มองเป็นเพศไหน เเค่มองเข้าไปในตัวตนของ ก็ยังเหมือนเดิม เป็นเหมือนเดิมทุกอย่างเลย ถ้ามีความสุขเเบบนี้ ก็ดีเเล้วไม่ใช่หรอ ถ้ามีความสุขกูซัพพอร์ตเสมอเลย ทำตามใจตัวเองดีเเล้ว" พอได้ฟังเพื่อนพูด ผมก็โล่งใจเเบบพูดไม่ถูกเลย มันทำให้ผมมั่นใจมากขึ้น จนกระทั่งคนคุยของผมคนนี้ก็บอกกับผมว่า "เราไปต่อกันไม่ได้" วันนั้นทำให้ทุกอย่างที่ผมตั้งใจมา พังไปหมดเลย ผมก็เศร้ามากอีกครั้ง เเต่ครั้งนี้ผม Move on ไวขึ้นกว่าเเต่ก่อน ด้วยความที่ตัวเองมีความคิดที่โตระดับนึง เเค่คิดว่าเออคนนี้อาจจะยังไม่ใช่สำหรับเรา ผมก็บอกตัวเองว่า เศร้าได้เเต่อย่านานเลยดีกว่า มันเสียเวลา บวกกับเสียโอกาสหลายอย่าง จนกระทั่ง ผมได้เปิดใจคุยกับเพศเดียวกันอีกครั้ง เเละคนนี้เเหละคือ เเฟนคนปัจจุบันของผม ซึ่งผมก็ได้คุยเเล้วรู้สึกว่ามันคลิกกันหลายๆอย่าง เราก็เป็นคนไม่มั่นใจในตัวเองซะเลย เลยบอกเขาว่า นี่เป็นคนผิวเเทนนะ อาจจะไม่ใช่สเปคคนเเบบเธอหรอก เเต่ถ้าเธอไม่ติดอะไรก็คุยกันได้ เขาก็บอกเราว่า นี่ก็ออกสาวนะ ถ้าไม่ติดอะไรก็คุยได้ จนผมกับเขาค่อยๆทำความรู้จักกัน เราทั้งสองก็ Deep Talk กันหลายๆอย่างในมุมมองของความรัก ซึ่งก็ได้เเลกเปลี่ยนอะไรกันหลายๆอย่าง เขาทำให้เรามองเห็นคุณค่าในตัวเอง ทำให้มั่นใจมากขึ้น มีเเต่ความสบายใจเลย จนกระทั่งผมได้เดินทางไปเจอเขาครั้งเเรก ตัวจริงอะหรอ น่ารักไม่ไหว รอยยิ้ม สีหน้า เเววตา น้ำเสียง ผมยังจำทุกอย่างได้ดีมาจนถึงทุกวันนี้อยู่เลย ผมเลยตัดสินใจขอเขาเป็นเเฟน เขาก็ตอบตกลง ชีวิตตั้งเเต่มีเขาผมมีความสุขขึ้นจริงๆ ทำให้ผมได้เป็นตัวของตัวเองสุดๆเลย นั่นเเหละครับ การที่เรารักใครสักคนไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศเลยจริงๆ เเค่มีความสุขในการใช้ชีวิตก็ดีมากๆเเล้ว บทเรียนที่ได้จากตัวเอง คือ การอย่าเอาสังคม หรืออะไรก็ตามมากำหนด ความสุขของเราเลยนะครับ จงใช้ชีวิตให้มีความสุขในทุกๆวันก็พอ สำหรับคนที่อ่านจนจบสามารถเเชร์ประสบการณ์มาให้กันอ่านได้เลยนะครับ สุดท้ายเเล้ว ผมรักเเฟนคนนี้มากๆเลยค้าบบบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่