ผมเป็นคนๆหนึ่งที่เห็นข่าวทางเพศแล้วผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย ผมรับไม่ได้ มันทำให้ผมรู้สึกหดหู่ใจ
แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าวันหนึ่งผู้ชายไม่มีอารมณ์ทางเพศ? ผมหมายถึง การที่ผู้ชายหนึ่งจะมีอะไรกับใคร ต้องเกิดจากความรู้สึกรัก หรือต้องการมีบุตรเท่านั้น ทั้งนี้ผมหมายถึงถ้ามันมีเหตุการณ์ เช่น "ผู้นำทุกประเทศสั่งให้ผู้ชายทุกคนฉีดยาตัดอารมณ์ทางเพศและจะมีผลถึงลูกหลายที่เป็นผู้ชาย เพื่อลดอัตราคดีกระทําชําเรา" หรือไม่ก็ "การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม ทำให้ผู้ชายเลิกสนใจเพศตรงข้าม และมีความสุขกับสิ่งอื่นมากกว่า" อะไรแบบนี้เป็นต้น
อันนี้ความเห็นส่วนตัวผมนะ : ผมคิดว่าความต้องการทางเพศเป็นอะไรที่ผู้ชายควรมี(บ้างนิดหน่อย) เพราะมันทำให้เราเข้าหาเพศตรงข้าม เนื่องจากการที่จะรอให้ผู้หญิงมาวิ่งไล่ตามผู้ชาย มันก็ไม่สมควร(ไม่รู้สิพูดไม่ถูก) แต่ในขณะเดียวกัน ผู้ชายบางคนก็ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเอง และถูกกระตุ้นด้วยสิ่งเร้าง่าย เลยทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "ไม่รับผิดชอบ" ไปจนถึง "ก่อคดี" และมีอยู่ช่วงหนึ่งผมไปทำงานที่จังหวัดใกล้ทะเล คุณเชื่อไหม ตั้งแต่วัยเรียนไปจนถึงวัยทำงาน โพสต์ว่า"หาซื้อชั้นในวาบหวิว ขอแซ่บๆ เอาไว้ไปเดินหาด" และไม่ใช่นานๆทีนะ คือเจอทุกวันอ่ะ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเป็นสิทธิ์ของเขา แต่คดีข่มขืนก็มีบ่อยไม่แพ้กัน ซึ่งมันไม่ควรเกิดขึ้นเพราะทุกวันนี้มันเจริญไปถึงไหนแล้ว ยังทำอะไรแบบนี้กันอีก ต่อให้ผู้หญิงจะเดินเปลือยก็ไม่ควรโดน แต่ในอีกมุมหนึ่ง ถ้าผมเปิดบ้านทิ้งไว้แล้วโดนโจรขึ้น หรือเอาเงินสักหมื่นหนึ่งวางไว้กลางถนนแล้วหาย ถามว่าใครผิด? ถ้าเข้าใจที่ผมจะสื่อก็คุยกันต่อ ถ้าคิดว่ามันไม่เหมือนกันแล้วผมโทษเหยื่อก็เชิญพิมพ์ด่าแล้วกดออกไป ถ้าคิดได้แค่นั้น
และหลังจากที่ผมคิดเรื่องนี้อยู่นาน ผมก็อยากได้ความรู้และคุยแบบ Deep Conversation ผมก็ได้ไปคุยกับผู้ใหญ่หลายคน โดยแบ่งเป็นชายและหญิงแบบครึ่งต่อครึ่ง บางคนเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย บางคนเป็นฝรั่งที่ทำงานด้านวัฒนธรรม บางคนเป็นจิตแพทย์ และอีกประมาณ10-12คน โดยผมจะสรุปและยกตัวอย่างบทสนทนาที่ผมได้คุยกันไว้ตามนี้นะครับ
คนที่1. เพศชายควรมีความต้องการทางเพศ แต่ควรได้รับการควบคุมไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่ง เช่นได้รับการฝึกหรือปลุกฝังตั้งแต่เด็กอย่างจริงจังทั้งในครอบครัวและในสถานศึกษา เพราะผู้ชายยังจำเป็นต้องมีความต้องการทางเพศอยู่ เนื่องจากตามหลักแล้ว สิ่งเหล่านี้ทำให้มนุษย์ยังดำรงเผ่าพันธุ์อยู่ แม้ในบางประเทศจะเกิดปัญหาประชากรล้นประเทศ แต่หากความต้องการทางเพศของผู้ชายหายไป มนุษย์จะเริ่มน้อยลง เพราะเพศหญิงไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เข้าหาและทำดีกับผู้ชาย(โดยส่วนใหญ่) สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือบั่นปลายชีวิตผู้ชายจะหาบุตรบุญธรรมมาสืบสกุล มากกว่าการมีชีวิตคู่ เพราะไม่อาจกลัวการมีปัญหาในครอบครัว ซึ่งมันจะส่งผลต่อตัวเด็ก และความต้องการของผู้ชายที่มีต่อเพศตรงข้ามจะน้อยลง
คนที่2. หากผู้ชายไม่มีความต้องการทางเพศเลยก็ถือเป็นเรื่องยินดีและเห็นด้วย มนุษย์จะได้สามารถคัดเลือกคู่ชีวิตได้จากการรัก ไม่ใช่"ความรัก" กล่าวคือการที่ใครสักคนเห็นคนๆหนึ่งแล้วรู้สึกเป็นห่วง อยากช่วยเหลือ และมอบความรักโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ไม่ว่าจะชายหรือหญิง มันจะถือเป็นการรักใครสักคนจริงๆ และมันจะทำให้ผู้ชายที่มีฐานะ หรือความพร้อมที่ดี สามารถใช้ความคิดมากกว่าอารมณ์ในการเลือกคู่ครอง และผู้ชายที่กำลังอยู่ในช่วงสร้างความมั่นคง จะได้ตัดเรื่องที่ยังไม่จำเป็นออกไปอย่างน้อย1เรื่อง เพื่อจะได้มีพื้นที่ว่างให้คิดเรื่องอื่น อีกทั้งผู้ชายจะได้ไม่ต้องไปกระจุกเป็นตัวเลือกให้ใคร เพราะไม่สมควรมีใครต้องเป็นตัวเลือก มนุษย์เกิดมาสมควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม
คนที่3. ผู้ชายควรได้รับการปลูกฝังการควบคุมพฤติกรรมของตัวเองตั้งแต่ก่อนช่วงวัยรุ่น เพราะมันจะส่งผลดีกับเรื่องอื่นด้วย เช่น การใช้ความรุนแรง รวมไปถึงการที่ยังไม่คิดถึงความพร้อม และแผนรับมือความผิดพลาด เพราะหากพูดถึงเรื่องแย่ๆที่เกิดจากความต้องการทางเพศของผู้ชาย ก็ยังสามารถพูดได้อีกว่า คนเหล่านี้ยังแยกแยะไม่ออกถึง ความพร้อม ความต้องการ และผลที่ต้องตามมา มันเปรียบได้กับการที่อยากผ่อนของแพงๆแต่อยู่ไปนานๆผ่อนไม่ไหว โดยหากมีการปลูกฝังอย่างเข้มงวดแล้วยังมีการก่อเรื่องทางเพศ การทำให้ความต้องการทางเพศของบุคคลคนนั้นหายไป ก็ถือเป็นเรื่องสมควร
เพื่อนๆคิดเห็นอย่างไรก็ Comment มาคุยกันได้นะครับ ขอเชิงหลักการนะครับ ไม่เอาแนวตั้งวงเหล้าคุยกัน ปล.ผมอาจพิมพ์ผิดไปบ้าง ต้องขออภัยด้วยครับ ผมตาลาย
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าผู้ชายไม่มีความคิด18+
แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าวันหนึ่งผู้ชายไม่มีอารมณ์ทางเพศ? ผมหมายถึง การที่ผู้ชายหนึ่งจะมีอะไรกับใคร ต้องเกิดจากความรู้สึกรัก หรือต้องการมีบุตรเท่านั้น ทั้งนี้ผมหมายถึงถ้ามันมีเหตุการณ์ เช่น "ผู้นำทุกประเทศสั่งให้ผู้ชายทุกคนฉีดยาตัดอารมณ์ทางเพศและจะมีผลถึงลูกหลายที่เป็นผู้ชาย เพื่อลดอัตราคดีกระทําชําเรา" หรือไม่ก็ "การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม ทำให้ผู้ชายเลิกสนใจเพศตรงข้าม และมีความสุขกับสิ่งอื่นมากกว่า" อะไรแบบนี้เป็นต้น
อันนี้ความเห็นส่วนตัวผมนะ : ผมคิดว่าความต้องการทางเพศเป็นอะไรที่ผู้ชายควรมี(บ้างนิดหน่อย) เพราะมันทำให้เราเข้าหาเพศตรงข้าม เนื่องจากการที่จะรอให้ผู้หญิงมาวิ่งไล่ตามผู้ชาย มันก็ไม่สมควร(ไม่รู้สิพูดไม่ถูก) แต่ในขณะเดียวกัน ผู้ชายบางคนก็ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเอง และถูกกระตุ้นด้วยสิ่งเร้าง่าย เลยทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "ไม่รับผิดชอบ" ไปจนถึง "ก่อคดี" และมีอยู่ช่วงหนึ่งผมไปทำงานที่จังหวัดใกล้ทะเล คุณเชื่อไหม ตั้งแต่วัยเรียนไปจนถึงวัยทำงาน โพสต์ว่า"หาซื้อชั้นในวาบหวิว ขอแซ่บๆ เอาไว้ไปเดินหาด" และไม่ใช่นานๆทีนะ คือเจอทุกวันอ่ะ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเป็นสิทธิ์ของเขา แต่คดีข่มขืนก็มีบ่อยไม่แพ้กัน ซึ่งมันไม่ควรเกิดขึ้นเพราะทุกวันนี้มันเจริญไปถึงไหนแล้ว ยังทำอะไรแบบนี้กันอีก ต่อให้ผู้หญิงจะเดินเปลือยก็ไม่ควรโดน แต่ในอีกมุมหนึ่ง ถ้าผมเปิดบ้านทิ้งไว้แล้วโดนโจรขึ้น หรือเอาเงินสักหมื่นหนึ่งวางไว้กลางถนนแล้วหาย ถามว่าใครผิด? ถ้าเข้าใจที่ผมจะสื่อก็คุยกันต่อ ถ้าคิดว่ามันไม่เหมือนกันแล้วผมโทษเหยื่อก็เชิญพิมพ์ด่าแล้วกดออกไป ถ้าคิดได้แค่นั้น
และหลังจากที่ผมคิดเรื่องนี้อยู่นาน ผมก็อยากได้ความรู้และคุยแบบ Deep Conversation ผมก็ได้ไปคุยกับผู้ใหญ่หลายคน โดยแบ่งเป็นชายและหญิงแบบครึ่งต่อครึ่ง บางคนเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย บางคนเป็นฝรั่งที่ทำงานด้านวัฒนธรรม บางคนเป็นจิตแพทย์ และอีกประมาณ10-12คน โดยผมจะสรุปและยกตัวอย่างบทสนทนาที่ผมได้คุยกันไว้ตามนี้นะครับ
คนที่1. เพศชายควรมีความต้องการทางเพศ แต่ควรได้รับการควบคุมไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่ง เช่นได้รับการฝึกหรือปลุกฝังตั้งแต่เด็กอย่างจริงจังทั้งในครอบครัวและในสถานศึกษา เพราะผู้ชายยังจำเป็นต้องมีความต้องการทางเพศอยู่ เนื่องจากตามหลักแล้ว สิ่งเหล่านี้ทำให้มนุษย์ยังดำรงเผ่าพันธุ์อยู่ แม้ในบางประเทศจะเกิดปัญหาประชากรล้นประเทศ แต่หากความต้องการทางเพศของผู้ชายหายไป มนุษย์จะเริ่มน้อยลง เพราะเพศหญิงไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เข้าหาและทำดีกับผู้ชาย(โดยส่วนใหญ่) สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือบั่นปลายชีวิตผู้ชายจะหาบุตรบุญธรรมมาสืบสกุล มากกว่าการมีชีวิตคู่ เพราะไม่อาจกลัวการมีปัญหาในครอบครัว ซึ่งมันจะส่งผลต่อตัวเด็ก และความต้องการของผู้ชายที่มีต่อเพศตรงข้ามจะน้อยลง
คนที่2. หากผู้ชายไม่มีความต้องการทางเพศเลยก็ถือเป็นเรื่องยินดีและเห็นด้วย มนุษย์จะได้สามารถคัดเลือกคู่ชีวิตได้จากการรัก ไม่ใช่"ความรัก" กล่าวคือการที่ใครสักคนเห็นคนๆหนึ่งแล้วรู้สึกเป็นห่วง อยากช่วยเหลือ และมอบความรักโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ไม่ว่าจะชายหรือหญิง มันจะถือเป็นการรักใครสักคนจริงๆ และมันจะทำให้ผู้ชายที่มีฐานะ หรือความพร้อมที่ดี สามารถใช้ความคิดมากกว่าอารมณ์ในการเลือกคู่ครอง และผู้ชายที่กำลังอยู่ในช่วงสร้างความมั่นคง จะได้ตัดเรื่องที่ยังไม่จำเป็นออกไปอย่างน้อย1เรื่อง เพื่อจะได้มีพื้นที่ว่างให้คิดเรื่องอื่น อีกทั้งผู้ชายจะได้ไม่ต้องไปกระจุกเป็นตัวเลือกให้ใคร เพราะไม่สมควรมีใครต้องเป็นตัวเลือก มนุษย์เกิดมาสมควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม
คนที่3. ผู้ชายควรได้รับการปลูกฝังการควบคุมพฤติกรรมของตัวเองตั้งแต่ก่อนช่วงวัยรุ่น เพราะมันจะส่งผลดีกับเรื่องอื่นด้วย เช่น การใช้ความรุนแรง รวมไปถึงการที่ยังไม่คิดถึงความพร้อม และแผนรับมือความผิดพลาด เพราะหากพูดถึงเรื่องแย่ๆที่เกิดจากความต้องการทางเพศของผู้ชาย ก็ยังสามารถพูดได้อีกว่า คนเหล่านี้ยังแยกแยะไม่ออกถึง ความพร้อม ความต้องการ และผลที่ต้องตามมา มันเปรียบได้กับการที่อยากผ่อนของแพงๆแต่อยู่ไปนานๆผ่อนไม่ไหว โดยหากมีการปลูกฝังอย่างเข้มงวดแล้วยังมีการก่อเรื่องทางเพศ การทำให้ความต้องการทางเพศของบุคคลคนนั้นหายไป ก็ถือเป็นเรื่องสมควร
เพื่อนๆคิดเห็นอย่างไรก็ Comment มาคุยกันได้นะครับ ขอเชิงหลักการนะครับ ไม่เอาแนวตั้งวงเหล้าคุยกัน ปล.ผมอาจพิมพ์ผิดไปบ้าง ต้องขออภัยด้วยครับ ผมตาลาย