ทริปนี้ 2 วัน 2 คืน ไม่ต้องลางานก็เที่ยวเมืองภูเก็ตได้ !
ข้อมูลเบื้องต้น
- สามารถไป-กลับสนามบินได้โดย Airport bus ราคา 100 บาทต่อคน เช็ครอบรถได้ที่ FB : Airport Bus Phuket
- การเที่ยวในตัวเมืองสามารถเช่ารถ ใช้บริการ grap หรือถ้าเป็นย่าน old town ก็สามารถเดินเล่นได้เลย
- ภูเก็ตหน้าฝนในบางวันจะมีฝนตก ๆ หยุด ๆ ตลอดวัน แค่เตรียมเสื้อกันฝนไว้ก็เที่ยวได้แล้ววว สามารถเช็คพยากรณ์อากาศก่อนเดินทางได้นะ
ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ (ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน)
- ค่าที่พัก 1,600
- ค่ารถโดยสาร ไป-กลับสนามบินและตัวเมืองภูเก็ต 800 (แท็กซี่และ Airport bus)
- ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซค์ 500
- ค่ากิน 3,000
ค่าใช้จ่ายรวมโดยประมาณ 5,900 ต่อสองคน หรือ 2,950 ต่อคน
รวมร้านต่าง ๆ ในทริปนี้
- ร้านบ้านจิ้มจุ่ม ภูเก็ต
- โรตีแถวน้ำ
- ข้าวหมูแดงจี้ฮอง
- ร้านหัวหมู
- ตลาดฉำฉา
- โตเกียวดิ๊บ
- โกเบนซ์ข้าวต้มแห้ง
- โกชาย
- บุญรัตน์ติ่มซำ
- หมี่ต้นโพธิ์
- Torry’s Ice cream
- ร้านวันจันทร์
- Kopi de phuket
_____________________________________________________________________________
เริ่มทริปกันที่สนามบินภูเก็ต เวลาประมาณสี่ทุ่ม รถที่จะเข้าเมืองตอนนี้ได้มีแค่แท็กซี่ (~650฿) หรือเช่ารถขับเองเท่านั้น (~800฿) แนะนำว่าถ้าเป็นไปได้ให้มาถึงภูเก็ตเวลาไม่เกินสามทุ่มครึ่งจะยังทัน Airport Bus รอบสุดท้ายอยู่ ค่าโดยสารคนละ 100 บาทเท่านั้นครับ
ที่พักของเราในทริปนี้คือ
Ecoloft Hotel อยู่ใกล้ย่าน Old Town สามารถเดินไปร้านติ่มซำบุญรัตน์และจุดขึ้นรถ Airport Bus ได้สะดวกมาก ๆ ครับ
ห้องพักโดยรวมสะอาด เตียงนุ่ม และมีน้ำและขนมเติมให้ตลอดสองคืนที่พักเลย
หลังจากเช็คอินเรียบร้อย เราเดินไปหามื้อดึกทานกันในระแวกที่พัก ที่ร้าน
บ้านจิ้มจุ่ม ภูเก็ต เป็นร้านจิ้มจุ่มเปิดดึก รสชาติดี ราคาเริ่มต้นที่ชุดละ 99 บาท
เช้าแรกที่ภูเก็ตฝนตกตั้งแต่ 7 โมงกันเลยทีเดียว ออกจากที่พักได้เราก็เดินไปเช่ารถของทริปนี้กันก่อนเลยครับ โดยทริปนี้จะเช่าเป็นมอเตอร์ไซค์เนื่องจากขับอยู่ในเมืองเป็นหลัก รถเล็กจะหาที่จอดง่ายกว่ารถยนต์ครับ
จุดหมายแรกเป็น
ร้านโรตีแถวน้ำ ร้านนี้เปิดถึงเที่ยงเท่านั้นนะครับ ได้มิชลิน 5 ปีซ้อนด้วย ราคาตั้งแต่ 20 - 60 บาท
ระหว่างนั่งรออาหารที่สั่งไปฝนก็ตกลงมาอีกพอดี แต่ผ่านไปแค่ 5 - 10 นาทีก็หยุดแล้ว ฝนหยุดแดดออกอีกครั้งเราก็ไปต่อกันที่
ร้านข้าวหมูแดงหมูกรอบ จี้ฮอง
ทีเด็ดของร้านนี้คือหมูกรอบที่กรอบและฟูมาก ๆ และหมูแดงก็หมักมาได้อย่างดีไม่แพ้กัน ระหว่างที่นั่งกินอยู่จะมีคนแวะเวียนมาสั่งกลับบ้านกันตลอดเลย พออิ่มข้าวแล้วเราพาไปนั่งพักกันที่
ร้านหัวหมู คาเฟ่ในธีมเวทย์มนต์ที่บรรยากาศร้านไม่เหมือนใครจริง ๆ ครับ
มาภูเก็ตทั้งทีจะพลาดของหวานพื้นถิ่นอย่าง
โอ้เอ๋วไม่ได้เลย ที่นี่
ตลาดฉำฉาจะมีขนมพื้นถิ่นของภูเก็ตขายอยู่ สิ่งที่ต้องมาลองที่นี่จะเป็นโอ้เอ๋ว ซึ่งเป็นวุ้นทานกับแตงโม ถั่วแดง ราดด้วยน้ำแดง ทานแล้วสดชื่นมาก ๆ
ฝนยังไม่ลงเม็ดเราก็ไปจุดหมายถัดไปกันเลย
แป้ะโก้ โตเกียวดิ๊บ ภูเก็ต โตเกียวรถเข็นที่ขายอยู่ตรงข้ามโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย เมนูจะเป็นเมนูที่หาไม่ได้จากโตเกียวร้านอื่น ๆ เลย ที่แนะนำเป็นเมนูไข่วง ซึ่งจะเป็นแป้งโตเกียวที่ตอกไข่ไว้ตรงกลาง เหยาะซอสและพริกไทย ทานเพลินมาก ๆ ครับ
พอฟ้าเริ่มมืดก็ได้เวลาของมื้อเย็นแล้ววว มื้อนี้เราฝากท้องกันไว้ที่ร้านโกเบนซ์ ข้าวต้มแห้ง ร้านที่ถ้าถึงภูเก็ตแล้วไม่ได้มา เรียกได้ว่ามาไม่ถึงภูเก็ตเลยทีเดียว นอกจากข้าวต้มแห้งแล้ว ที่ร้านยังมีเมนูอื่นอย่าง ก๋วยจั๊บ หมูกรอบ มาม่า ฯ ขายด้วยนะ
เดินไปใกล้ ๆ นิดเดียวจะมี
ร้านไอศกรีมโกชาย ไอศกรีมโฮมเมดรสชาติดี ที่แนะนำมาก ๆ เลยคือรสกล้วยและชีส (Banana&Cheese) รสชาติหวานหอมเป็นเอกลักษณ์มาก ๆ ครับ รสชาติอื่น ๆ ก็อร่อยไม่แพ้กันเลย สามารถขอเจ้าของร้านชิมได้ไม่อั้นเลยครับ อีกรสที่ควรลองขอแนะนำเป็นรสชาไทยครับ เข้มข้นถึงรสชามาก ๆ
____________________________________
เช้าวันที่ 2 ที่ภูเก็ต เช้านี้เราออกจากที่พักกันตั้งแต่ 7 โมงเช้า
ร้านติ่มซำบุญรัตน์ ยังมีโต๊ะว่างอยู่บ้าง แต่หลังจากเราได้ที่นั่งไม่นานก็เริ่มมีคิวรอโต๊ะกันแล้ว ร้านจะมีติ่มซำในซึ้งหน้าร้านให้เลือก พอเลือกได้แล้วก็นั่งรอที่โต๊ะได้เลย คนที่นี่จะไม่ทานติ่มซำกับจิ๊กโฉ่วแต่จะทานคู่กับเสี่ยวโบ๋ย ที่มีรสชาติออกหวานแทน
จบมื้อเช้าเรากลับไปพักผ่อนที่ที่พัก ก่อนจะเช็คเอ้าท์ในตอนเที่ยงและฝากกระเป๋าไว้ครับ มื้อเที่ยงวันนี้เราฝากท้องกันที่
ร้านหมี่ต้นโพธิ์ เป็นหมี่ฮกเกี้ยนลักษณะเป็นหมี่ผัดกับเนื้อสัตว์และผักแบบขลุกขลิก หรือจะสั่งเป็นแบบน้ำก็ได้นะ เครื่องแน่นทั้งแบบน้ำและแบบแห้งเลย
ของหวานวันนี้เราไปทานกันที่ร้าน
Torry’s Ice cream ร้านไอศกรีมที่ผสมผสานความเป็นขนมพื้นเมืองของภูเก็ต เมนูที่ต้องลองเลยคือ บีโก
เป็นไอศกรีมกะทิอัญชัน ข้าวเหนียวดำ ราดด้วยน้ำกะทิ
นอกจากไอศกรีมแล้วในย่านนี้ยังมี
ขนมอาโป้ง แม่สุณี ขนมพื้นเมืองของภูเก็ตอีกอย่าง ร้านนี้ได้มิชลินด้วย! ร้านปิด 16.00น. แต่แนะนำให้มาตั้งแต่ช่วงสาย ๆ เพราะช่วงบ่ายของหมดแล้วครับ ขายดีมาก ๆ
จากตัวเมืองขับรถไปไม่นานก็จะถึงจุดชมวิวเขารัง ซึ่งเห็นวิวเมืองภูเก็ตและทะเลสุดลูกหูลูกตา ด้านบนอากาศเย็นสบายและมีคุณลุงคอยเล่นเปียโนด้วย นั่งพักผ่อนหย่อนใจสักพักก่อนกลับลงมาทานมื้อต่อไปกันครับ
ลงจากจุดชมวิวมาได้ ร้านสุดท้ายของทริปภูเก็ตนี้คือ
ร้านวันจันทร์ ช่วงที่เราไปไม่ต้องรอคิวเลย เมนูแนะนำของที่นี่ เช่น หมูฮ้อง แกงเนื้อปูใบชะพลู ผัดผักเหมียงผัดไข่ น้ำพริกกุ้งเสียบ ฯ แนะนำว่าเมนูที่ต้องสั่งให้ได้เลยคือหมูฮ้องครับ ตุ๋นมาอย่างดี เนื้อนุ่มมาก ๆ ครับ
จบทริปด้วยชาใต้รสชาติเข้มข้นที่ร้าน
Kopi de Phuket ร้านนี้หวานกำลังดีเลยครับ แถมที่ร้านมีเมนูครบทั้งคาวหวานเลยนะ
อิ่มท้องกันแล้วเราเดินทางกลับไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่ที่พักก่อนจะขับมอเตอร์ไซค์ไปคืนร้าน และจากร้านเช่ารถเดินไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงจุดขึ้นรถกลับสนามบินแล้ววว รถที่นี่ออกตรงเวลาเป๊ะ แนะนำว่าควรมาก่อนเวลาสัก 10 นาทีครับ
จบแล้วกับทริปภูเก็ต 2 วัน 2 คืน ฉบับไม่เจอทะเล ไม่ต้องลางานก็เที่ยวได้ แถมถ้ากลับวันอาทิตย์ยังทันเดินถนนคนเดินหลาดใหญ่ด้วยนะ
[CR] แจกแพลนเที่ยวภูเก็ตฉบับไม่เจอทะเล ตะลุยกินร้านเด็ดในเมือง หน้าฝนก็เที่ยวได้ !
- สามารถไป-กลับสนามบินได้โดย Airport bus ราคา 100 บาทต่อคน เช็ครอบรถได้ที่ FB : Airport Bus Phuket
- การเที่ยวในตัวเมืองสามารถเช่ารถ ใช้บริการ grap หรือถ้าเป็นย่าน old town ก็สามารถเดินเล่นได้เลย
- ภูเก็ตหน้าฝนในบางวันจะมีฝนตก ๆ หยุด ๆ ตลอดวัน แค่เตรียมเสื้อกันฝนไว้ก็เที่ยวได้แล้ววว สามารถเช็คพยากรณ์อากาศก่อนเดินทางได้นะ
ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ (ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน)
- ค่าที่พัก 1,600
- ค่ารถโดยสาร ไป-กลับสนามบินและตัวเมืองภูเก็ต 800 (แท็กซี่และ Airport bus)
- ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซค์ 500
- ค่ากิน 3,000
ค่าใช้จ่ายรวมโดยประมาณ 5,900 ต่อสองคน หรือ 2,950 ต่อคน
รวมร้านต่าง ๆ ในทริปนี้
- ร้านบ้านจิ้มจุ่ม ภูเก็ต
- โรตีแถวน้ำ
- ข้าวหมูแดงจี้ฮอง
- ร้านหัวหมู
- ตลาดฉำฉา
- โตเกียวดิ๊บ
- โกเบนซ์ข้าวต้มแห้ง
- โกชาย
- บุญรัตน์ติ่มซำ
- หมี่ต้นโพธิ์
- Torry’s Ice cream
- ร้านวันจันทร์
- Kopi de phuket
ที่พักของเราในทริปนี้คือ Ecoloft Hotel อยู่ใกล้ย่าน Old Town สามารถเดินไปร้านติ่มซำบุญรัตน์และจุดขึ้นรถ Airport Bus ได้สะดวกมาก ๆ ครับ
ห้องพักโดยรวมสะอาด เตียงนุ่ม และมีน้ำและขนมเติมให้ตลอดสองคืนที่พักเลย
หลังจากเช็คอินเรียบร้อย เราเดินไปหามื้อดึกทานกันในระแวกที่พัก ที่ร้านบ้านจิ้มจุ่ม ภูเก็ต เป็นร้านจิ้มจุ่มเปิดดึก รสชาติดี ราคาเริ่มต้นที่ชุดละ 99 บาท
เช้าแรกที่ภูเก็ตฝนตกตั้งแต่ 7 โมงกันเลยทีเดียว ออกจากที่พักได้เราก็เดินไปเช่ารถของทริปนี้กันก่อนเลยครับ โดยทริปนี้จะเช่าเป็นมอเตอร์ไซค์เนื่องจากขับอยู่ในเมืองเป็นหลัก รถเล็กจะหาที่จอดง่ายกว่ารถยนต์ครับ
ระหว่างนั่งรออาหารที่สั่งไปฝนก็ตกลงมาอีกพอดี แต่ผ่านไปแค่ 5 - 10 นาทีก็หยุดแล้ว ฝนหยุดแดดออกอีกครั้งเราก็ไปต่อกันที่ร้านข้าวหมูแดงหมูกรอบ จี้ฮอง
ฝนยังไม่ลงเม็ดเราก็ไปจุดหมายถัดไปกันเลย แป้ะโก้ โตเกียวดิ๊บ ภูเก็ต โตเกียวรถเข็นที่ขายอยู่ตรงข้ามโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย เมนูจะเป็นเมนูที่หาไม่ได้จากโตเกียวร้านอื่น ๆ เลย ที่แนะนำเป็นเมนูไข่วง ซึ่งจะเป็นแป้งโตเกียวที่ตอกไข่ไว้ตรงกลาง เหยาะซอสและพริกไทย ทานเพลินมาก ๆ ครับ
จบมื้อเช้าเรากลับไปพักผ่อนที่ที่พัก ก่อนจะเช็คเอ้าท์ในตอนเที่ยงและฝากกระเป๋าไว้ครับ มื้อเที่ยงวันนี้เราฝากท้องกันที่ร้านหมี่ต้นโพธิ์ เป็นหมี่ฮกเกี้ยนลักษณะเป็นหมี่ผัดกับเนื้อสัตว์และผักแบบขลุกขลิก หรือจะสั่งเป็นแบบน้ำก็ได้นะ เครื่องแน่นทั้งแบบน้ำและแบบแห้งเลย
ของหวานวันนี้เราไปทานกันที่ร้าน Torry’s Ice cream ร้านไอศกรีมที่ผสมผสานความเป็นขนมพื้นเมืองของภูเก็ต เมนูที่ต้องลองเลยคือ บีโก เป็นไอศกรีมกะทิอัญชัน ข้าวเหนียวดำ ราดด้วยน้ำกะทิ
นอกจากไอศกรีมแล้วในย่านนี้ยังมีขนมอาโป้ง แม่สุณี ขนมพื้นเมืองของภูเก็ตอีกอย่าง ร้านนี้ได้มิชลินด้วย! ร้านปิด 16.00น. แต่แนะนำให้มาตั้งแต่ช่วงสาย ๆ เพราะช่วงบ่ายของหมดแล้วครับ ขายดีมาก ๆ
จบทริปด้วยชาใต้รสชาติเข้มข้นที่ร้าน Kopi de Phuket ร้านนี้หวานกำลังดีเลยครับ แถมที่ร้านมีเมนูครบทั้งคาวหวานเลยนะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้