จบปัญหา"หัวใจเต้นผิดจังหวะ"ด้วยการสวนและจี้ด้วยคลื่นวิทยุไฟฟ้าหัวใจ

 
จบปัญหา"หัวใจเต้นผิดจังหวะ"ด้วยการสวนและจี้ด้วยคลื่นวิทยุไฟฟ้าหัวใจ

 โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Cardiac Arrhythmias) คือภาวะที่หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะตามธรรมชาติ อาจเต้นเร็วหรือช้าเกินไป ทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้น้อยลง เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลว เกิดลิ่มเลือดไปอุดตันสมองหรืออาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยภาวะโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ

อัตราการเต้นของหัวใจช้ากว่าปกติ : จะทำให้มีอาการเหนื่อยง่าย ใจสั่น วูบ หน้ามืด เป็นลม หมดสติ หรืออาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตแบบกะทันหัน
อัตราการเต้นของหัวใจเร็วกว่าปกติ : จะทำให้มีอาการใจสั่น หัวใจเต้นแรง เจ็บแน่นหน้าอก หน้ามืด เสี่ยงต่อภาวะหัวใจวาย และเสียชีวิตเฉียบพลัน

“ใจสั่น หัวใจเต้นแรง หายใจเหนื่อย เจ็บแน่นหน้าอก หน้ามืด ตาลาย เป็นลมหมดสติ เป็นอาการเบื้องต้นของโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ แต่ผู้ป่วยหลายรายไม่รีบมาพบแพทย์แล้วปล่อยทิ้งไว้จนรบกวนการใช้ชีวิตและการทำงาน หรือปล่อยทิ้งไว้จนมีอาการมากขึ้น เช่น เหนื่อยง่ายจนหัวใจล้มเหลว หมดสติ ลิ่มเลือดไปอุดตันสมองกลายเป็นอัมพาต ไปจนถึงเสียชีวิต”นายแพทย์ปริวัตรกล่าว  

การรักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะ 

ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดเร็ว แพทย์อาจพิจารณาให้ยาควบคุมอาการ ซึ่งต้องรับประทานไปตลอดชีวิต แต่ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีรักษาด้วยการสวนและจี้ไฟฟ้าหัวใจ (EP study with Radiofrequency ablation) โดยการจี้ด้วยคลื่นวิทยุไฟฟ้าหัวใจตรงจุดที่มีปัญหา ซึ่งมีโอกาสหายขาดได้ถึงร้อยละ
95 – 98 โดยไม่ต้องรับประทานยาไปตลอดชีวิต ส่วนผู้ป่วยที่หัวใจห้องล่างเต้นผิดจังหวะชนิด VT และ Fibrillation บางกลุ่ม ในรายที่จี้ไฟฟ้าไม่ได้จะให้การรักษาโดยการฝังเครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจ (AICD) 

ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดช้า จะให้การรักษาด้วยการใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker) นอกจากนี้ ในกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจโต กล้ามเนื้อหัวใจเสื่อมสภาพและหัวใจล้มเหลว ก็สามารถรักษาได้โดยการใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจชนิด 3 ห้อง (CRT) ทั้งนี้ ผู้ที่มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะควรเข้ามาพบแพทย์ เพื่อประเมินอาการและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

อย่างไรก็ตาม แม้ในปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีในการักษาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ แต่การป้องกันไม่ให้เกิดโรคเป็นวิธีที่ดีที่สุด ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ไม่ทำร้ายสุขภาพ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ 
ก็จะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะได้ อ่านเพิ่มเติมคลิก 

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่