จากการได้ดูโคนันปี20 ตอนที่1032 ออกอากาศเมื่อปีพ.ศ.2564 ชื่อตอนว่า ความลับการตามหภรรยา เนื้อเรื่องคือสามีคนหนึ่งออกแจกใบปลิวตามหาภรรยา แล้วสืบไปมาเลยรู้ว่าคนที่ทำการฆ่าภรรยาของชายคนนั้นคือเพื่อนบ้านที่เป็นผู้หญิง เหตุเพระาไม่ชอบที่อีกฝ่ายมาตัดกิงไม้จากบ้านตัวเองที่ล้ำไปทางบ้านพวกเขาและอิจฉาที่เห็นพวกเขาช่วยกันทำสวนกันกรหนุงกระหนิง ในเรื่องตอนเฉลย สามีเลยพูดกับสารวัตรเมกูเระและหมวดทาคางิในเชิงถามว่า ทำไมเรื่องแค่นี้เป็นสาเหตุทำให้เธอถูกฆ่าได้เลยเหรอครับ สารวัตรเมกูเระเลยตอบว่า "สาเหตุแค่นี้ก็เพียงพอแล้วหล่ะ เพื่อนบ้านติดกันมักชอบมีปัญหาบ่อยๆ อย่างเรื่องตัดกิ่งไม้นี่แหล่ะ" หมวดทาคางิก็สมทบอีกว่า "จริงด้วยครับ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีเรื่องฟ้องร้องถึงศาล"
ในขณะที่ในตอนที่ชื่อ คดีฆาตรกรรมหน้ากากไยบะ ตอนที่ 126 ของปี3 ที่ออกฉายในปีพ.ศ.2541 มีการกล่าวถึงตัวละคร2ตัวว่าที่มีเรื่องกัน โดยในเรื่องผู้ตายที่เป็นคนคลั่งหน้ากากไยบะระดับที่ว่าทุ่มทุนดัดแปลงมอเตอร์ไซต์ตัวเองเป็นแบบในเรื่องหน้ากากไยบะ แล้วในฉากสอบถามข้อมูลจากคนที่มีเรื่องด้วย ซึ่งมีสารวัตรเมกูเระและโมริโคโกโร่ยู่ด้วย โดย2คนนี้เคยมีปากเสียงกัน แล้วคนนี้ก็เล่าว่า ผมเคยไปพูดว่า มอเตอร์ไซต์ของนายคนนั้นเชยเป็นบ้า ลุงโมริถึงกับโพล่งออกมาว่า "บ้าน่าเรื่องแค่นี้ถึงกับต้องคิดจะฆ่ากันตายเลยเหรอ" (เหตุการณ์ในเรื่องคือผู้ตายนั้นเอาปืนบุกเข้ามายิงคนที่กำลังโดนสอบถามอยู่ แล้วยิงตัวตาย แต่คนโดนยิงไม่ตายเพราะใส่เสื้อกันกระสุนที่เป็น prop ของชุดคอสเพลย์ที่ใส่) และตัวละครที่เป็นเพื่อนของ2คนนี้ก็พูดออกมาว่า "มันก็ไม่แน่นะครับ ความคลั่งหน้ากากไยบะของเขา(ผุ้ตาย)นี่ในหมู่พวกเราไม่มีใครเทียบได้เลย เขาใช้เวลาครึ่งปีในการแปลงรถธรรมดาเป็นรถหน้ากากไยบะ และถ้ามีใครมาว่ารถของเขาก็คงต้องโกรธอยู่แล้วหล่ะครับ"
แม้ว่ามันจะแค่เหตุการณ์สมมุติในอนิเมะ แต่มันก็สะท้อนสภาพและมุมมองต่อสังคมญี่ปุ่นได้อย่างดี ว่าในช่วงปีพ.ศ.2541 การฆ่ากันตายเพระาเหตุเล็กๆแค่นี้ กระทั่งนักสืบเอกชนอย่างลุงโมริยังมองว่า แปลกหรือเกินไปมั๊ง แต่พอมาในยุคสมัยใหม่อย่างปีพ.ศ.2564 การฆ่ากันหรือทะเลาะกันจนเป็นคดีความขึ้นโรงขึ้นศาลเพราเหตุเล็กๆ กลับเป็นแรงจูงใจที่ดูปกติในมุมมองของตำรวจญี่ปุ่น
(เรื่องสงสัยจากโคนัน)ยุคปัจจุบัน การทะเลาะกันจนเป็นเป็นคดีร้ายแรงเพราะเหตุเล็กน้อย ตำรวจญี่ปุ่นมองเป็นเหตุจูงใจที่ปกติ
ในขณะที่ในตอนที่ชื่อ คดีฆาตรกรรมหน้ากากไยบะ ตอนที่ 126 ของปี3 ที่ออกฉายในปีพ.ศ.2541 มีการกล่าวถึงตัวละคร2ตัวว่าที่มีเรื่องกัน โดยในเรื่องผู้ตายที่เป็นคนคลั่งหน้ากากไยบะระดับที่ว่าทุ่มทุนดัดแปลงมอเตอร์ไซต์ตัวเองเป็นแบบในเรื่องหน้ากากไยบะ แล้วในฉากสอบถามข้อมูลจากคนที่มีเรื่องด้วย ซึ่งมีสารวัตรเมกูเระและโมริโคโกโร่ยู่ด้วย โดย2คนนี้เคยมีปากเสียงกัน แล้วคนนี้ก็เล่าว่า ผมเคยไปพูดว่า มอเตอร์ไซต์ของนายคนนั้นเชยเป็นบ้า ลุงโมริถึงกับโพล่งออกมาว่า "บ้าน่าเรื่องแค่นี้ถึงกับต้องคิดจะฆ่ากันตายเลยเหรอ" (เหตุการณ์ในเรื่องคือผู้ตายนั้นเอาปืนบุกเข้ามายิงคนที่กำลังโดนสอบถามอยู่ แล้วยิงตัวตาย แต่คนโดนยิงไม่ตายเพราะใส่เสื้อกันกระสุนที่เป็น prop ของชุดคอสเพลย์ที่ใส่) และตัวละครที่เป็นเพื่อนของ2คนนี้ก็พูดออกมาว่า "มันก็ไม่แน่นะครับ ความคลั่งหน้ากากไยบะของเขา(ผุ้ตาย)นี่ในหมู่พวกเราไม่มีใครเทียบได้เลย เขาใช้เวลาครึ่งปีในการแปลงรถธรรมดาเป็นรถหน้ากากไยบะ และถ้ามีใครมาว่ารถของเขาก็คงต้องโกรธอยู่แล้วหล่ะครับ"
แม้ว่ามันจะแค่เหตุการณ์สมมุติในอนิเมะ แต่มันก็สะท้อนสภาพและมุมมองต่อสังคมญี่ปุ่นได้อย่างดี ว่าในช่วงปีพ.ศ.2541 การฆ่ากันตายเพระาเหตุเล็กๆแค่นี้ กระทั่งนักสืบเอกชนอย่างลุงโมริยังมองว่า แปลกหรือเกินไปมั๊ง แต่พอมาในยุคสมัยใหม่อย่างปีพ.ศ.2564 การฆ่ากันหรือทะเลาะกันจนเป็นคดีความขึ้นโรงขึ้นศาลเพราเหตุเล็กๆ กลับเป็นแรงจูงใจที่ดูปกติในมุมมองของตำรวจญี่ปุ่น