แต่งและเขียนเรื่องตั้งแต่ 7 พฤษภาคม 2550
เรื่องนี้เป็นจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น หากชื่อบุคคล สถานที่หรือเหตุการณ์ตรงกับใคร ทางผู้จัดทำขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
--------------------------------------------------------------
เรื่องที่ 14 ทำไมต้องรัฐประหาร
สังคมไทยดูเหมือนหนีไม่พ้นวงจร ที่ไม่อาจเรียกว่าเป็นประชาธิปไตยเต็มใบได้ หากย้อนกลับไปการรัฐประหาร ปี 2534 ในสมัยพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ที่มีการนำรัฐประหารโดยพล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ช่วงนั้นเศรษฐกิจกำลังเติบโตไปได้ดี แต่มีข่าวเรื่องการโกงกิน จนต้องมีการรัฐประหารอันเป็นสาเหตุให้เศรษฐกิจตกต่ำอีกครั้ง สังคมไทยที่มักอ้างว่าโกงได้ไม่เป็นไรขอให้ทำงานก็พอ ยังใช้ไม่ได้กับสังคม ทหาร
บทบาททหารที่ผ่านมา ถ้าจะนับการรัฐประหารในสมัยพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ถือว่าเป็นครั้งที่เก้าและไม่มีใครคาดคิดว่าการรัฐประหารในสังคมไทยจะเกิดขึ้นได้อีก เพราะไม่ว่าประชาขน นักวิชาการ องค์กรอิสระ หรือนักการเมืองต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทหารไม่ยุ่งเรื่องการเมืองและทหารรู้บทบาทตัวเองดี
แต่การรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ที่ผ่านมานั้น นับได้เป็นครั้งที่สิบ ครั้งนี้ได้พิสูจน์ถึงบทบาททหารอีกครั้ง โดยมีแกนนำคือพลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน การกระทำดังกล่าวบอกถึงประชาธิปไตยในสังคมไทยได้เป็นอย่างดีว่า ประชาธิปไตยในประเทศไทยได้ถอยหลังอีกครั้งหนึ่ง การรัฐประหารครั้งนี้ ไม่ต่างจากครั้งก่อนที่ทหารอ้างว่า การบริหารบ้านเมืองที่บริหารโดยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีการทำงานไม่โปร่งใสหรือเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องตน และยังกล่าวอ้างว่า ภาคการตรวจสอบถูกแทรกแซงโดยผู้บริหารบ้านเมืองอย่างนายทักษิณ จึงทำให้ทหารเข้ามาตรวจสอบ เพื่อพิสูจน์ว่ายุคสมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีการใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ต่อพวกพ้องของตนเองจริง
แต่ไม่ว่าอย่างไร สิ่งที่ตามมาของการรัฐประหารทุกครั้งคือความน่าเชื่อของประเทศไทยต่อสังคมโลกอยู่ในลักษณะที่แย่ลง จนทำให้รัฐบาลเชิญท่านฑูตในประเทศต่างๆ เข้ามาชี้แจง แต่ดูเหมือนว่าขณะนี้ภาพลักษณ์ดังกล่าวยังไม่กระเตื้องไปในทางที่ดีขึ้น นอกจากนี้หลังจากบริหารบ้านเมืองที่นำโดยพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ในยุคทหารครองเมือง ดูเหมือนเศรษฐกิจในประเทศไทยแย่ลง การทำงานไม่ทันใจประชาชนที่รอลุ้นผลงานให้ได้ตามที่คาดหวังไว้ หรือแม้แต่ปัญหาไฟใต้กลับเพิ่มมากขึ้น ยังรวมไปถึงการวางระเบิดในกรุงเทพและปัญหาต่างๆ ที่สะสมไว้ในสมัยพ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร ที่ทหารเคยสัญญากับประชาชนไว้ว่าจะเข้ามาแก้ไขปัญหา ยังแก้ไม่ได้
ฉายาฤาษีเลี้ยงเต่าจะเป็นจริงหรือเป็นเพียงภาพลวงตา คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์จนถึงที่สุดอีกครั้งหนึ่ง ไม่ว่าอย่างไรการรัฐประหารครั้งนี้จะทำให้ประชาธิปไตยในประเทศไทยถอยหลังหนึ่งก้าวเพื่อเดินไปข้างหน้าสิบก้าว หรือถอยหลังลงคลอง คงมีแต่ผลงานเท่านั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่สิ่งหนึ่งที่สังคมไทยหนีไม่พ้นคือ ทหารยังคงต้องมีบทบาทร่วมกับการเมืองไทยไปอีกนาน
สมดังสโลแกนทหารที่ว่า "เป็นทหารทำอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด"
"ครับ นั้นเป็นตอนพิเศษที่ทางรายการจัดขึ้น เรื่องบทบาททหารกับการเมืองไทย ก่อนปิดรายการคุ้ยขึ้นมาแฉวันนี้ ผมอยากให้ผู้ดำเนินรายการวิเคราะห์หน่อยครับ คิดว่ารัฐประหารครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะความต้องการของประชาชนหรือเกิดขึ้นเพราะอะไร เชิญคุณนักวิเคราะห์1ก่อน"
นักวิเคราะห์1 : ความต้องการของประชาชนที่อยากเห็นการทำงานที่โปร่งใส การรัฐประหารครั้งนี้เกิดเพราะรัฐบาลคดโกงแน่นอน ดูได้จากดอกไม้ที่ประชนชนแจกตอนรัฐประหารให้สิครับ
นักวิเคราะห์2 : ตรงนี้ผมเห็นด้วยกับคุณนักวิเคราะห์1แม้ว่าผมไม่จะเห็นด้วยกับวิธีการสักเท่าไร เราอย่าลืมว่ารัฐบาลคุณทักษิณได้แทรกแซงไปทุกองค์กร ถ้าไม่มีรัฐประหารก็ยากที่จะตรวจสอบได้
นักวิเคราะห์3 : ผมว่ารัฐประหารครั้งนี้ต้องมีนัยอะไรบ้างอย่าง ทำไมถึงต้องใส่เกียร์ว่างจนป่านนี้ยังไม่มีความคืบหน้า คงต้องรอดูอีกสักระยะ
ไขก๊อก : ผมว่าไม่เห็นยากเลย นโยบายรัฐที่วางไว้เริ่มมีสัญญาณว่าเกิดหนี้ไม่ก่อรายได้ (หนี้เน่า) เพิ่มขึ้น คุณทักษิณคงวางแผนที่จะให้ใครสักคนมาเป็นแพะรับบาปเรื่องนี้ เลยวางแผนให้เกิดรัฐประหารอีกครั้ง ตอนนี้คุณเริ่มดูไม่ออกใช่ไหมว่าเศรษฐกิจเริ่มแย่ (ฟองเริ่มแตก) หรือหนี้เน่าเพิ่มขึ้นเป็นเพราะนโยบายรัฐบาลในสมัยคุณทักษิณหรือเป็นเพราะรัฐประหารกันแน่ ผมเชื่อคำที่พวกคุณชอบพูดกัน
-
"เป็นทหาร ตำรวจ ทำอะไรได้มากกว่าที่คิด (จริงๆ) "
.
.
.
.
พิธีกร+นักวิเคราะห์1,2,3 ฟังไขก๊อกต่างหัวเราะอย่างสนุกสนาน
"ไอ้นี้คิดได้ไง"
เรื่องสั้น โกงอย่างไร ดูไม่โกง เรื่องที่ 14 ทำไมต้องรัฐประหาร
บทบาททหารที่ผ่านมา ถ้าจะนับการรัฐประหารในสมัยพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ถือว่าเป็นครั้งที่เก้าและไม่มีใครคาดคิดว่าการรัฐประหารในสังคมไทยจะเกิดขึ้นได้อีก เพราะไม่ว่าประชาขน นักวิชาการ องค์กรอิสระ หรือนักการเมืองต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทหารไม่ยุ่งเรื่องการเมืองและทหารรู้บทบาทตัวเองดี
แต่การรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ที่ผ่านมานั้น นับได้เป็นครั้งที่สิบ ครั้งนี้ได้พิสูจน์ถึงบทบาททหารอีกครั้ง โดยมีแกนนำคือพลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน การกระทำดังกล่าวบอกถึงประชาธิปไตยในสังคมไทยได้เป็นอย่างดีว่า ประชาธิปไตยในประเทศไทยได้ถอยหลังอีกครั้งหนึ่ง การรัฐประหารครั้งนี้ ไม่ต่างจากครั้งก่อนที่ทหารอ้างว่า การบริหารบ้านเมืองที่บริหารโดยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีการทำงานไม่โปร่งใสหรือเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องตน และยังกล่าวอ้างว่า ภาคการตรวจสอบถูกแทรกแซงโดยผู้บริหารบ้านเมืองอย่างนายทักษิณ จึงทำให้ทหารเข้ามาตรวจสอบ เพื่อพิสูจน์ว่ายุคสมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีการใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ต่อพวกพ้องของตนเองจริง
แต่ไม่ว่าอย่างไร สิ่งที่ตามมาของการรัฐประหารทุกครั้งคือความน่าเชื่อของประเทศไทยต่อสังคมโลกอยู่ในลักษณะที่แย่ลง จนทำให้รัฐบาลเชิญท่านฑูตในประเทศต่างๆ เข้ามาชี้แจง แต่ดูเหมือนว่าขณะนี้ภาพลักษณ์ดังกล่าวยังไม่กระเตื้องไปในทางที่ดีขึ้น นอกจากนี้หลังจากบริหารบ้านเมืองที่นำโดยพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ในยุคทหารครองเมือง ดูเหมือนเศรษฐกิจในประเทศไทยแย่ลง การทำงานไม่ทันใจประชาชนที่รอลุ้นผลงานให้ได้ตามที่คาดหวังไว้ หรือแม้แต่ปัญหาไฟใต้กลับเพิ่มมากขึ้น ยังรวมไปถึงการวางระเบิดในกรุงเทพและปัญหาต่างๆ ที่สะสมไว้ในสมัยพ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร ที่ทหารเคยสัญญากับประชาชนไว้ว่าจะเข้ามาแก้ไขปัญหา ยังแก้ไม่ได้
ฉายาฤาษีเลี้ยงเต่าจะเป็นจริงหรือเป็นเพียงภาพลวงตา คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์จนถึงที่สุดอีกครั้งหนึ่ง ไม่ว่าอย่างไรการรัฐประหารครั้งนี้จะทำให้ประชาธิปไตยในประเทศไทยถอยหลังหนึ่งก้าวเพื่อเดินไปข้างหน้าสิบก้าว หรือถอยหลังลงคลอง คงมีแต่ผลงานเท่านั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่สิ่งหนึ่งที่สังคมไทยหนีไม่พ้นคือ ทหารยังคงต้องมีบทบาทร่วมกับการเมืองไทยไปอีกนาน
นักวิเคราะห์1 : ความต้องการของประชาชนที่อยากเห็นการทำงานที่โปร่งใส การรัฐประหารครั้งนี้เกิดเพราะรัฐบาลคดโกงแน่นอน ดูได้จากดอกไม้ที่ประชนชนแจกตอนรัฐประหารให้สิครับ
นักวิเคราะห์2 : ตรงนี้ผมเห็นด้วยกับคุณนักวิเคราะห์1แม้ว่าผมไม่จะเห็นด้วยกับวิธีการสักเท่าไร เราอย่าลืมว่ารัฐบาลคุณทักษิณได้แทรกแซงไปทุกองค์กร ถ้าไม่มีรัฐประหารก็ยากที่จะตรวจสอบได้
นักวิเคราะห์3 : ผมว่ารัฐประหารครั้งนี้ต้องมีนัยอะไรบ้างอย่าง ทำไมถึงต้องใส่เกียร์ว่างจนป่านนี้ยังไม่มีความคืบหน้า คงต้องรอดูอีกสักระยะ
ไขก๊อก : ผมว่าไม่เห็นยากเลย นโยบายรัฐที่วางไว้เริ่มมีสัญญาณว่าเกิดหนี้ไม่ก่อรายได้ (หนี้เน่า) เพิ่มขึ้น คุณทักษิณคงวางแผนที่จะให้ใครสักคนมาเป็นแพะรับบาปเรื่องนี้ เลยวางแผนให้เกิดรัฐประหารอีกครั้ง ตอนนี้คุณเริ่มดูไม่ออกใช่ไหมว่าเศรษฐกิจเริ่มแย่ (ฟองเริ่มแตก) หรือหนี้เน่าเพิ่มขึ้นเป็นเพราะนโยบายรัฐบาลในสมัยคุณทักษิณหรือเป็นเพราะรัฐประหารกันแน่ ผมเชื่อคำที่พวกคุณชอบพูดกัน
-
"เป็นทหาร ตำรวจ ทำอะไรได้มากกว่าที่คิด (จริงๆ) "
.
.
.
.
พิธีกร+นักวิเคราะห์1,2,3 ฟังไขก๊อกต่างหัวเราะอย่างสนุกสนาน
"ไอ้นี้คิดได้ไง"