เรื่องที่เราจะเล่าต่อไปนี้ มันคือเรื่องจริงในชีวิตเราเอง🥲
เมื่อปี พ.ศ. 2562 เราได้เจอกับผู้ชายคนหนึ่งผ่านเพื่อนเรา
ซึ่งเขารู้จักกัน🙂 เขาก็ได้ติดต่อเป็นแม่ชักแม่สื่อให้เห็นว่าเรา
ทั้งสองคนยังไม่มีใคร ในวันที่ 20 มกราคม 2562 เราก็ได้คบ
หาตกลงจะอยู่ด้วยกัน (ซึ่งตอนนั้นการตัดสินใจมันเร็วมาก)
จนพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายรับรู้กำหนดวันแต่งมั่นหมายเรียบร้อย
เราก็ได้ทำงานที่อำเภอเดียวกัน ซึ่งเขาเป็นพนักงาน บิ๊กซี
เราเป็นพนักงานเซเว่น เเรกๆก็ดี พอผ่านไปสามสี่เดือน🥀
ในความที่เขาได้จับโทรศัพท์ตลอดเวลา แต่เราทำเซเว่นเวลาว่าง
จะทานข้าวแทบจะไม่มีเหลือ มันก็ได้ทำให้เขาได้เข้าเล่นแอปหาคู่
หลายๆแอป มีเเลกไลน์แลกเบอร์กัน 🥲 ซึ่งเราไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาทำแบบนี้กับเรามาตลอด
จนถึงเดือน มิถุนายน 2562 เราจับได้เพราะเขานอน "ละเมอ"
ชื่อผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากปากเขา "พลอย" เราจึงเอะใจ! ว่าพลอยคือใคร? เป็นใคร?
เราเลยหยิบโทรศัพท์เขาเข้าดู ใช่! มันมีคนชื่อพลอย อยู่ในแอปหาคู่ อยู่ในไลน์เขาจริงๆ
และอีกหลายคน 🍂ความรู้สึกตอนนั้นหายใจไม่อิ่ม สั่น!. น้ำตาไหลไม่มีเสียงโวยวาย
มันเจ็บ เจ็บที่สุดคนที่ซื่อสัตย์พอมาเจอแบบนี้แทบขาดใจ 🥺 พอตื่นเช้ามาเราก็ถามเขาก็ยอมรับ
และบอกเราว่าไม่ทำอีก ผ่านไปเดือนเดียว เขาก็วนมาทำอีกเราก็จับได้ตลอดและจับมาได้เรื่อยๆ
พอเรายื่นคำขาดว่าจะเลิก 😔 ช่วงปีใหม่ปี 2563 เขาก็ดีขึ้นจากการเจ้าชู้แบบไม่ทำอีก
แต่เขาเปลี่ยนมาเป็น ติดเพื่อนกินเหล้าติดร้านคาราโอเกะ🥲🥺 ใจเราขอบซ้ำไปหมด
ใจแตกสลายไม่มีชิ้นดี แต่ถามว่า .. ทนทำไม! ( เพราะรักเพราะอยากให้โอกาศ )
และมีบางครั้งที่ทะเลาะกัน ถึงขั้นตบตีลงมือกันก็มี🥲 แต่เราก็เลือกที่จะรักแล้วเราต้องไปให้สุด
ตลอดเวลาที่อยู่กับเขาวันแรกจนมาถึงวันนี้ เราไม่เคยมีคนอื่นหรือคิดจะมีเลย 🥺🍂
พอถึงเดือนมีนาคม 2563 ก็ถึงเวลาวางมั่นกัน เราได้เก็บเงินด้วยกันและวางมั่นไป สองหมื่น
ทองหนึ่งบาท ( รวมเป็นเงินสดตอนนั้นราวๆเกือบห้าหมื่น ) แต่มั่นแล้วเขาก็ยัง
คิดไม่ได้ที่จะเที่ยวกลางคืน เราทำงานกะเช้า เขาก็จะเข้าห้องประมาณเที่ยงคืน
เราทำงานกะบ่าย เขาก็จะเข้าห้องพร้อมเราคือห้าทุ่ม เราเข้างานดึกสี่ทุ่มครึ่งเราไม่สามารถรู้ได้ว่า
แฟนเราเองเลิกงานกี่ทุ่ม กับห้องยัง ไปทำอารัยที่ไหน บางวันเราทำงานไปร้องไห้ไป กินไม่ได้
เป็นคนที่อดทน เจ็บไม่จำไม่โวยวาย ให้อภัยเผื่อคิดว่าเขาจะปรับปรุงมาตลอด🥀 แต่ก็ไม่เลย
จนมาถึงเดือนเมษายน 2563 เราได้เจอกับพี่ที่ทำงานคนหนึ่ง ซึ่งเขาดีมากเลยก็ว่าได้
เรารู้จักกันมาได้ประมาณสองเดือน คอยซื้อข้าวซื้อขนม คอยช่วยหยิบจับงานทุกอย่าง
จากที่เราไม่เคยได้รับการเอาใจใส่แบบนี้จากแฟนเราเลย พอมาวันนี้ได้มารับ "ความเอาใจใส่"
จากผู้ชายคนนี้มันทำให้เราใจฟูเหมือนชีวิตเรายังมีค่าอยู่นะ เราไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวหรือสู้ปัญหา
คนเดียวนะ เราไม่เคยปิดบังพี่เขาว่ามีครอบครัวแล้ว พี่เขาก็ไม่เคยพูดอารัย!
ที่เป็นการล่วงเกินคำว่า ชีวิตครอบครัวเราเขาดีมากเขาเป็นผู้ใหญ่ที่อบอุ่นมาก🥰❤️
แฟนเราเริ่มสืบว่าทำไมเราเปลี่ยนไป จากเคยตาม..เขาตลอด ทำไมเดี่ยวนี้ไม่ตามไม่โทรไม่แชท
จนเขาไปสืบพบว่า เราสนิทกับพี่ผู้ชายที่ทำงานด้วยกัน🥀 เขาก็ได้บอกให้เราออกจากงาน และเขาก็ไปรับ
ไปส่งเราในทุกๆวัน จนพี่ผู้ชายคนนั้นแกได้ทำเรื่องยื่นไปทำงานที่ประเทศนอกผ่าน แกก็ได้ออกจากสถานที่ทำงาน
ในเดือนกันยายน 2563 ตลอดเวลาที่แฟนเรารู้ว่าเราสองคนสนิทกัน เรากับพี่เขาก็ได้ห่างๆกัน ไม่ค่อยคุยกันเหมือนเดิม
ถึงความเป็นจริง เราไม่เคยคิดจะรักจะคบกันเป็นแฟนเลย 🍂🥀 ( แต่ในความรู้สึกเรามีแอบคิดบางครั้งว่าทำไมเราไม่เจอกันให้เร็วกว่านี้นะ )
แต่ก็ได้แต่คิดในใจ พอเดือนกันยายน 2563 เราก็ได้ลาออกจากเซเว่น กับไปอยู่ที่บ้านแฟน
แฟนก็ได้เปลี่ยนสถานที่ทำงานเพราะทางสังกัดใหญ่เขาไปเปิดอีกสาขาที่บ้านของแฟนพอดี
เราเลยต้องย้ายออกไป และเราก็ได้ทำที่เซเว่นเหมือนเดิม แฟนก็ทำที่บิ๊กซีเหมือนเดิม🙂
*และการย้ายงานในครั้งนี้เป็นการทำให้เรารู้สึกผิดมาตลอดเหมือนมีตราบาปในตัวตลอดเวลา
เรากับแฟนก็ใช้ชีวิตตามปกติ เขาเริ่มกับมาเจ้าชู้เหมือนเดิม เราแอบดูโทรศัพท์ตลอดแต่ไม่โวยวาย
และเงียบ🥺🥲 ( เพียงเพราะรักเขาอยากประคับประครองคำว่าชีวิตคู่ไว้ )
เราแอบร้องไห้เสียใจมาตลอด ไม่มีใครรับรู้ความเจ็บปวดของเราได้เลย🥀🥺
จนถึงเดือนมีนาคม 2564 เขาได้แอบไปร้านคาราโอเกะถึงสองครั้ง! ในระหว่างที่เราเข้ากะในการทำงานเซเว่น
เราตามเจอหนึ่งครั้งที่ร้านคาราโอเกะนั่งจิบเบียร์กับสาวที่นั่งโอบแฟนเราอยู่ ตอนนั้นเสียใจมาก
ร้องไห้ฟูมฟายใจแตกสลาย ก็ให้โอกาศแต่เราใช้ชีวิตด้วยกันแบบไม่ถามไม่คุยกัน
รอบสองเราก็เข้ากะทำงานเหมือนเดิม! เราก็มาจับได้ในโทรศัพท์คือตอนแชทที่เขาคุยกับพี่ที่ทำงาน
ชวนกันออกไป และภาพถ่ายที่เขาส่งภาพให้กัน รอบนี้เราตัดสินใจเด็ดขาดคือการเลิก 🥀🍂
และในเดือนมีนาคม 2564 เราก็ได้เลิกกันไป เราก็ได้เปิดใจคุยกับผู้ชายคนหนึ่งในเดือนเมษายน
ในช่วงแรกมันก็ยังเจ็บยังจำ ไม่กล้าเปิดใจคบ แต่ก็คุยได้ปกติ 😔 แต่ความจริงคือยังไม่ลืมเขา
เมาตลอดเวลาเสียคนไปเลยชีวิตเอาแต่เมาการงานไม่ไปทำ พ่อแม่เขาก็ได้ถามความเป็นมากับเรา
เพราะตลอดเวลาสองปีที่ผ่านมาเราไม่เคยเล่าเรื่องเขา ให้พ่อให้แม่ของเขาของเราฟังเลย
จนพ่อแม่เขามาตามเรากลับ และได้วางเงินให้เราอีห หกหมื่นกับทอง สองสลึง
( ตอนนั้นเป็นเงินประมาณ เจ็ดหมื่นหกได้ในการวางเงินรอบที่สอง )
เพราะพ่อแม่เขาอยากให้เรากับไปอยู่เหมือนเดิม! เพราะแกรักเรา❤️ เหมือนลูกแล้วผูกพันธ์แล้ว
ไม่อยากให้มันจบแบบนี้ ปู่กับย่าก็ได้ไปคุยไปสอนลูกชายเขา อันไหนควรไม่ควร ดีไม่ดี🙏🏻🙂
จนลูกชายเขาเป็นคนขึ้นมาบ้าง ไม่กินไม่เที่ยวไม่ติดเพื่อน หันมาใส่ใจเรามากขึ้นมาเอาใจมากขึ้น
เราใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตั้งแต่เดือน เมษายน 2564 มา แต่เหมือนทุกอย่างจะดีขึ้น
แต่เราเองกับทุกข์ใจมากขึ้น ในช่วงเวลาที่เราเลิกกัน และแยกกันอยู่เราได้เปิดใจให้ ผู้ชายคนหนึ่ง
ที่เขาอยู่กับเราตอนที่ล้มตอนที่ไม่เหลือใคร ตอนที่ชีวิตพังและคิดว่าไม่เหลือใครแล้ว
เขาคือคนคอยดึงสติ คอยให้กกำลังใจมาตลอด จนมันเกินอารัยไปหลายๆอย่าง ใช้คำว่ารักเลยก็ได้
ตลอดเวลาที่เรากลับมาคืนดีกับแฟน เราก็ยังติดต่อยังแอบไปเจอกันบ้าง ผู้ชายคนนั้นไปหาที่ร้านเซเว่นบ้าง
ซึ่งแฟนเราไม่รู้เลย และตอนนี้แฟนเราก็เปลี่ยนเป็นคนดีคนหนึ่งเลยเลิกงานกลับบ้านตรงเวลา
มากินข้าวกับแฟนกับครอบครัวตลอด แต่รอบนี้มันมาผิดที่ตัวเราเอง พอถึงเวลาจับใบดำใบแดง
ทหารเกณ์ฑ แฟนเราจับได้ใบแดง ซึ่งเขาต้องไปฝึกในช่วงเดือน พฤศจิกายน ของผลัดสอง
เรากับผู้ชายคนนั้นก็คุยกันมาตลอด วันหยุดเราก็จะบอกกับแฟนว่าจะกับไปนอนบ้านนะ
บ้านเรากับบ้านแฟนห่างกัน 15-16 กิโล ขับรถไม่ถึง 40 นาทีก็ถึงบ้านเรา เราก็กับบ้านทุกอาทิตย์
ทุกวันหยุดเพื่อที่จะไปเจอกับผู้ชายคนนั้น เราจะนัดเพื่อนกินเหล้าด้วยกันตลอด ทุกวันหยุด
ส่วนเเฟนเราก็ไม่ได้เอะใจ! เพราะทุกครั้งที่โทรมาคลอมาเราจะรับตลอดเวลา 🍂🙂
( และผู้ชายคนนั้นก็รู้ว่าเรามีแฟนแล้วแต่คำว่ารักและผูกพันธ์ ) ถึงทำให้เราสองคนยังตัดกัน
ไม่ขาด เราทำเเบบนี้วนไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่แฟนเราไปทหารคือเดือน พฤศจิกายน 2564
ฝึก ธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์ เขาถึงได้ใบลามาบ้าน ในตลอดเวลาการฝึกเขาไม่ได้ใช้
จนฝึกครบหลักสูตรเขาก็ได้ใช้โทรศัพท์ โทรได้แค่ 20 นาทีต่อวันเวลา 19:30 ค่อยเริ่มโทรได้
พอถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 เขาได้ใบลากับมาบ้าน 10 วัน เราก็พลาดตรงที่ผู้ชายคนนั้นมีเบอร์โทร
มีไลน์มีเฟสเราทุกอย่างแล้ว แฟนเราเลยสืบและจับได้ เเฟนบอกให้เราสารภาพกับเขาดีๆ
เราก็ได้สารภาพกับเขาและเขาก็ได้บอกกับเราสั้นๆว่า เก็บของเก็บเสื้อผ้ากับบ้านเถอะ! 🥲🥺
เราก็ถามว่าจะเลิกจริงๆใช่ไหม เขาก็ตอบเราว่าใช่! และน้ำตาเขาไหลออกมาตลอดเวลาที่พูด
เราก็อดสงสารไม่ได้ใจหนึ่งอยากขอโอกาศ ใจหนึ่งอยากปล่อยให้เขาไปเจอคนที่ดีกว่าเรา
สุดท้ายเราก็ตัดสินใจเลิก! ด้วยการเก็บของกับบ้านและได้กราบเท้าแม่เขาก่อนกลับบ้าน
แม่เขาก็ร้องไห้ ! เสียใจ🥲🥺 เราก็รู้สึกผิดมากรู้สึกบาปกรรมเวรกรรมมาก🥲
เราก็ได้กับมาบ้านเรา พอถึงมีนาคม 2565 เราก็ได้ตัดจบความสัมพันธ์กับผู้ชายคนนั้นไป
ขอให้เขาไปใช้ชีวิตกับคนใหม่เถอะ! ตอนนี้ยังไม่พร้อมมีใคร ความสัมพันธ์ของเรากับผู้ชายคนนั้น
ที่มีต่อกันคือ มีนาคม 2564 จนถึง มีนาคม 2565 ครบหนึ่งปีพอดี
ที่เราได้ทำผิดต่อแฟน ผิดสัญญากับเขา จนได้มาเลิกลา! เพราะตัวเราเอง
จนตอนนี้ ผ่านมาจนถึงปี 2566 แล้วเราก็ยังเป็นหน่วงๆ รู้สึกผิดตลอดมา
ทำบุญอาบน้ำมนต์ ปล่อยนกปล่อยปลา ตัดกรรมตัดเวรทำทุกอย่างแล้ว
แต่ความรู้สึกยังเหมือนมีบาปติดตัวติดใจไปตลอด 🥲🍂 เรารู้เราเข้าใจว่าเราผิดมาก
แต่ก่อนเราจะเป็นได้ขนาดนี้เราก็เจ็บซ้ำแตกสลายมาไม่รู้กี่รอบ
พอเจอคนที่ให้ความอบอุ่นเรา เจอคนที่เอาใจใส่เรา คนที่เรารักเขาและเขารักเราตอบ
พอมาเจอแบบนี้มันก็รู้สึกเปรียบเทียบแฟนตัวเองกับผู้ชายคนนี้
จนทำให้ดึงผู้ชายคนนี้เข้ามาในชีวิต คำว่าครอบครัวมาตลอดหนึ่งปี
ตอนนี้รู้สึกผิดมากค่ะ ตอนทำว่ารู้สึกผิดแล้ว ตอนเลิกยิ่งรู้สึกผิดและเสียใจมากที่สุด
รู้สึกผิดตลอดเวลา เหมือนเวรกรรมติดตัวตลอดเวลา
เมื่อปี พ.ศ. 2562 เราได้เจอกับผู้ชายคนหนึ่งผ่านเพื่อนเรา
ซึ่งเขารู้จักกัน🙂 เขาก็ได้ติดต่อเป็นแม่ชักแม่สื่อให้เห็นว่าเรา
ทั้งสองคนยังไม่มีใคร ในวันที่ 20 มกราคม 2562 เราก็ได้คบ
หาตกลงจะอยู่ด้วยกัน (ซึ่งตอนนั้นการตัดสินใจมันเร็วมาก)
จนพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายรับรู้กำหนดวันแต่งมั่นหมายเรียบร้อย
เราก็ได้ทำงานที่อำเภอเดียวกัน ซึ่งเขาเป็นพนักงาน บิ๊กซี
เราเป็นพนักงานเซเว่น เเรกๆก็ดี พอผ่านไปสามสี่เดือน🥀
ในความที่เขาได้จับโทรศัพท์ตลอดเวลา แต่เราทำเซเว่นเวลาว่าง
จะทานข้าวแทบจะไม่มีเหลือ มันก็ได้ทำให้เขาได้เข้าเล่นแอปหาคู่
หลายๆแอป มีเเลกไลน์แลกเบอร์กัน 🥲 ซึ่งเราไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาทำแบบนี้กับเรามาตลอด
จนถึงเดือน มิถุนายน 2562 เราจับได้เพราะเขานอน "ละเมอ"
ชื่อผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากปากเขา "พลอย" เราจึงเอะใจ! ว่าพลอยคือใคร? เป็นใคร?
เราเลยหยิบโทรศัพท์เขาเข้าดู ใช่! มันมีคนชื่อพลอย อยู่ในแอปหาคู่ อยู่ในไลน์เขาจริงๆ
และอีกหลายคน 🍂ความรู้สึกตอนนั้นหายใจไม่อิ่ม สั่น!. น้ำตาไหลไม่มีเสียงโวยวาย
มันเจ็บ เจ็บที่สุดคนที่ซื่อสัตย์พอมาเจอแบบนี้แทบขาดใจ 🥺 พอตื่นเช้ามาเราก็ถามเขาก็ยอมรับ
และบอกเราว่าไม่ทำอีก ผ่านไปเดือนเดียว เขาก็วนมาทำอีกเราก็จับได้ตลอดและจับมาได้เรื่อยๆ
พอเรายื่นคำขาดว่าจะเลิก 😔 ช่วงปีใหม่ปี 2563 เขาก็ดีขึ้นจากการเจ้าชู้แบบไม่ทำอีก
แต่เขาเปลี่ยนมาเป็น ติดเพื่อนกินเหล้าติดร้านคาราโอเกะ🥲🥺 ใจเราขอบซ้ำไปหมด
ใจแตกสลายไม่มีชิ้นดี แต่ถามว่า .. ทนทำไม! ( เพราะรักเพราะอยากให้โอกาศ )
และมีบางครั้งที่ทะเลาะกัน ถึงขั้นตบตีลงมือกันก็มี🥲 แต่เราก็เลือกที่จะรักแล้วเราต้องไปให้สุด
ตลอดเวลาที่อยู่กับเขาวันแรกจนมาถึงวันนี้ เราไม่เคยมีคนอื่นหรือคิดจะมีเลย 🥺🍂
พอถึงเดือนมีนาคม 2563 ก็ถึงเวลาวางมั่นกัน เราได้เก็บเงินด้วยกันและวางมั่นไป สองหมื่น
ทองหนึ่งบาท ( รวมเป็นเงินสดตอนนั้นราวๆเกือบห้าหมื่น ) แต่มั่นแล้วเขาก็ยัง
คิดไม่ได้ที่จะเที่ยวกลางคืน เราทำงานกะเช้า เขาก็จะเข้าห้องประมาณเที่ยงคืน
เราทำงานกะบ่าย เขาก็จะเข้าห้องพร้อมเราคือห้าทุ่ม เราเข้างานดึกสี่ทุ่มครึ่งเราไม่สามารถรู้ได้ว่า
แฟนเราเองเลิกงานกี่ทุ่ม กับห้องยัง ไปทำอารัยที่ไหน บางวันเราทำงานไปร้องไห้ไป กินไม่ได้
เป็นคนที่อดทน เจ็บไม่จำไม่โวยวาย ให้อภัยเผื่อคิดว่าเขาจะปรับปรุงมาตลอด🥀 แต่ก็ไม่เลย
จนมาถึงเดือนเมษายน 2563 เราได้เจอกับพี่ที่ทำงานคนหนึ่ง ซึ่งเขาดีมากเลยก็ว่าได้
เรารู้จักกันมาได้ประมาณสองเดือน คอยซื้อข้าวซื้อขนม คอยช่วยหยิบจับงานทุกอย่าง
จากที่เราไม่เคยได้รับการเอาใจใส่แบบนี้จากแฟนเราเลย พอมาวันนี้ได้มารับ "ความเอาใจใส่"
จากผู้ชายคนนี้มันทำให้เราใจฟูเหมือนชีวิตเรายังมีค่าอยู่นะ เราไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวหรือสู้ปัญหา
คนเดียวนะ เราไม่เคยปิดบังพี่เขาว่ามีครอบครัวแล้ว พี่เขาก็ไม่เคยพูดอารัย!
ที่เป็นการล่วงเกินคำว่า ชีวิตครอบครัวเราเขาดีมากเขาเป็นผู้ใหญ่ที่อบอุ่นมาก🥰❤️
แฟนเราเริ่มสืบว่าทำไมเราเปลี่ยนไป จากเคยตาม..เขาตลอด ทำไมเดี่ยวนี้ไม่ตามไม่โทรไม่แชท
จนเขาไปสืบพบว่า เราสนิทกับพี่ผู้ชายที่ทำงานด้วยกัน🥀 เขาก็ได้บอกให้เราออกจากงาน และเขาก็ไปรับ
ไปส่งเราในทุกๆวัน จนพี่ผู้ชายคนนั้นแกได้ทำเรื่องยื่นไปทำงานที่ประเทศนอกผ่าน แกก็ได้ออกจากสถานที่ทำงาน
ในเดือนกันยายน 2563 ตลอดเวลาที่แฟนเรารู้ว่าเราสองคนสนิทกัน เรากับพี่เขาก็ได้ห่างๆกัน ไม่ค่อยคุยกันเหมือนเดิม
ถึงความเป็นจริง เราไม่เคยคิดจะรักจะคบกันเป็นแฟนเลย 🍂🥀 ( แต่ในความรู้สึกเรามีแอบคิดบางครั้งว่าทำไมเราไม่เจอกันให้เร็วกว่านี้นะ )
แต่ก็ได้แต่คิดในใจ พอเดือนกันยายน 2563 เราก็ได้ลาออกจากเซเว่น กับไปอยู่ที่บ้านแฟน
แฟนก็ได้เปลี่ยนสถานที่ทำงานเพราะทางสังกัดใหญ่เขาไปเปิดอีกสาขาที่บ้านของแฟนพอดี
เราเลยต้องย้ายออกไป และเราก็ได้ทำที่เซเว่นเหมือนเดิม แฟนก็ทำที่บิ๊กซีเหมือนเดิม🙂
*และการย้ายงานในครั้งนี้เป็นการทำให้เรารู้สึกผิดมาตลอดเหมือนมีตราบาปในตัวตลอดเวลา
เรากับแฟนก็ใช้ชีวิตตามปกติ เขาเริ่มกับมาเจ้าชู้เหมือนเดิม เราแอบดูโทรศัพท์ตลอดแต่ไม่โวยวาย
และเงียบ🥺🥲 ( เพียงเพราะรักเขาอยากประคับประครองคำว่าชีวิตคู่ไว้ )
เราแอบร้องไห้เสียใจมาตลอด ไม่มีใครรับรู้ความเจ็บปวดของเราได้เลย🥀🥺
จนถึงเดือนมีนาคม 2564 เขาได้แอบไปร้านคาราโอเกะถึงสองครั้ง! ในระหว่างที่เราเข้ากะในการทำงานเซเว่น
เราตามเจอหนึ่งครั้งที่ร้านคาราโอเกะนั่งจิบเบียร์กับสาวที่นั่งโอบแฟนเราอยู่ ตอนนั้นเสียใจมาก
ร้องไห้ฟูมฟายใจแตกสลาย ก็ให้โอกาศแต่เราใช้ชีวิตด้วยกันแบบไม่ถามไม่คุยกัน
รอบสองเราก็เข้ากะทำงานเหมือนเดิม! เราก็มาจับได้ในโทรศัพท์คือตอนแชทที่เขาคุยกับพี่ที่ทำงาน
ชวนกันออกไป และภาพถ่ายที่เขาส่งภาพให้กัน รอบนี้เราตัดสินใจเด็ดขาดคือการเลิก 🥀🍂
และในเดือนมีนาคม 2564 เราก็ได้เลิกกันไป เราก็ได้เปิดใจคุยกับผู้ชายคนหนึ่งในเดือนเมษายน
ในช่วงแรกมันก็ยังเจ็บยังจำ ไม่กล้าเปิดใจคบ แต่ก็คุยได้ปกติ 😔 แต่ความจริงคือยังไม่ลืมเขา
เมาตลอดเวลาเสียคนไปเลยชีวิตเอาแต่เมาการงานไม่ไปทำ พ่อแม่เขาก็ได้ถามความเป็นมากับเรา
เพราะตลอดเวลาสองปีที่ผ่านมาเราไม่เคยเล่าเรื่องเขา ให้พ่อให้แม่ของเขาของเราฟังเลย
จนพ่อแม่เขามาตามเรากลับ และได้วางเงินให้เราอีห หกหมื่นกับทอง สองสลึง
( ตอนนั้นเป็นเงินประมาณ เจ็ดหมื่นหกได้ในการวางเงินรอบที่สอง )
เพราะพ่อแม่เขาอยากให้เรากับไปอยู่เหมือนเดิม! เพราะแกรักเรา❤️ เหมือนลูกแล้วผูกพันธ์แล้ว
ไม่อยากให้มันจบแบบนี้ ปู่กับย่าก็ได้ไปคุยไปสอนลูกชายเขา อันไหนควรไม่ควร ดีไม่ดี🙏🏻🙂
จนลูกชายเขาเป็นคนขึ้นมาบ้าง ไม่กินไม่เที่ยวไม่ติดเพื่อน หันมาใส่ใจเรามากขึ้นมาเอาใจมากขึ้น
เราใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตั้งแต่เดือน เมษายน 2564 มา แต่เหมือนทุกอย่างจะดีขึ้น
แต่เราเองกับทุกข์ใจมากขึ้น ในช่วงเวลาที่เราเลิกกัน และแยกกันอยู่เราได้เปิดใจให้ ผู้ชายคนหนึ่ง
ที่เขาอยู่กับเราตอนที่ล้มตอนที่ไม่เหลือใคร ตอนที่ชีวิตพังและคิดว่าไม่เหลือใครแล้ว
เขาคือคนคอยดึงสติ คอยให้กกำลังใจมาตลอด จนมันเกินอารัยไปหลายๆอย่าง ใช้คำว่ารักเลยก็ได้
ตลอดเวลาที่เรากลับมาคืนดีกับแฟน เราก็ยังติดต่อยังแอบไปเจอกันบ้าง ผู้ชายคนนั้นไปหาที่ร้านเซเว่นบ้าง
ซึ่งแฟนเราไม่รู้เลย และตอนนี้แฟนเราก็เปลี่ยนเป็นคนดีคนหนึ่งเลยเลิกงานกลับบ้านตรงเวลา
มากินข้าวกับแฟนกับครอบครัวตลอด แต่รอบนี้มันมาผิดที่ตัวเราเอง พอถึงเวลาจับใบดำใบแดง
ทหารเกณ์ฑ แฟนเราจับได้ใบแดง ซึ่งเขาต้องไปฝึกในช่วงเดือน พฤศจิกายน ของผลัดสอง
เรากับผู้ชายคนนั้นก็คุยกันมาตลอด วันหยุดเราก็จะบอกกับแฟนว่าจะกับไปนอนบ้านนะ
บ้านเรากับบ้านแฟนห่างกัน 15-16 กิโล ขับรถไม่ถึง 40 นาทีก็ถึงบ้านเรา เราก็กับบ้านทุกอาทิตย์
ทุกวันหยุดเพื่อที่จะไปเจอกับผู้ชายคนนั้น เราจะนัดเพื่อนกินเหล้าด้วยกันตลอด ทุกวันหยุด
ส่วนเเฟนเราก็ไม่ได้เอะใจ! เพราะทุกครั้งที่โทรมาคลอมาเราจะรับตลอดเวลา 🍂🙂
( และผู้ชายคนนั้นก็รู้ว่าเรามีแฟนแล้วแต่คำว่ารักและผูกพันธ์ ) ถึงทำให้เราสองคนยังตัดกัน
ไม่ขาด เราทำเเบบนี้วนไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่แฟนเราไปทหารคือเดือน พฤศจิกายน 2564
ฝึก ธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์ เขาถึงได้ใบลามาบ้าน ในตลอดเวลาการฝึกเขาไม่ได้ใช้
จนฝึกครบหลักสูตรเขาก็ได้ใช้โทรศัพท์ โทรได้แค่ 20 นาทีต่อวันเวลา 19:30 ค่อยเริ่มโทรได้