เข้าร่วมกิจกรรมดี ๆ จาก Traveloka ค่ะ
เราเพิ่งมีโอกาสไปเที่ยวจังหวัดพังงา พบว่าเป็นจังหวัดเล็ก ๆ น่ารัก มีที่เที่ยวที่สนใจอยู่เยอะทีเดียวค่ะ
โดยเราบินลงที่สนามบินภูเก็ตและเช่ารถยนต์ขับ โดยที่แรกที่เราไป คือ จุดชมวิวเสม็ดนางชี ที่เที่ยวยอดฮิตนั่นเอง
ห่างจากสนามบินภูเก็ตประมาณ 50 กม. ใช้เวลาเดินทางไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงค่ะ
โดยที่ชมวิวของเสม็ดนางชี จะมีจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไป 2 จุด
1.จุดชมวิวเสม็ดนางชี ของชาวบ้าน
2.จุดชมวิวเสม็ดนางชี ของเสม็ดนางชีบูทีค
เราเลือกไปจุดที่ 1 ค่ะ พอไปถึงจะมีลานให้จอดรถยนต์ไว้
และนั่งรถของชาวบ้านขึ้นไป ค่ารถไปกลับคนละ 60 บาท ค่าบำรุงสถานที่ 30 บาท
ทางขึ้นก็ค่อนข้างแอดเวนเจอร์พอสมควร แนะนำให้เกาะรถแน่น ๆ ค่ะ
นั่งรถขึ้นไป 5 -10 นาทีก็ถึง
พอไปถึงเห็นวิว เราร้องว้าวเลยค่ะ สวยมาก ๆ
จริง ๆ จุดนี้มีที่กางเตนท์ด้วยนะคะ เป็นที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ
ส่วนเวลาที่เราไปเป็นช่วงบ่าย ๆ ก็ยังสวยมาก ๆ
มีมุมให้ถ่ายรูปหลายมุม เดินเล่นชมวิว ลมโกรกดีค่ะ มีร้านกาแฟข้างบนนี้ด้วย
เก็บภาพบรรยากาศมาฝากกันค่ะ
พอออกจากที่นี่เราได้ไปที่วัดท่าไทร ต่อ
ประวัติ วัดท่าไทร
วัดท่าไทร หรือ วัดเทสก์ธรรมนาวา ตั้งอยู่ที่ อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา เป็นวัดริมทะเลที่อยู่บริเวณหาดชายทะเลท่าไทร ซึ่งในอดีตนั้นพื้นที่นี้เคยเป็นป่า มีชื่อเรียกว่า ป่าท่าไทร และเคยเป็นบริเวณของป่าช้ามาก่อน เพราะในอดีตชาวบ้านในพื้นที่และละแวกใกล้เคียงนี้ เมื่อมีคนตายเสียชีวิตลง ก็จะนำศพล่องเรือมาเผา หรือที่ป่าท่าไทรแห่งนี้ ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า อ่าวเหรว หรือ แอ่งน้ำในป่าช้า โดยคำว่า อ่าว คือ น้ำไหล เข้ามาเป็นแอ่งกว้าง เหรว ก็หมายถึง ป่าช้า ค่ะ
ไฮไลท์ วัดท่าไทร
วัดนี้จะโดดเด่นด้วยอุโบสถ ที่เป็นไม้สักสวยงาม อาคารทรงไทย รวมถึงยังมีการแกะสลักอย่างอ่อนช้อย งดงามมากอีกด้วย อีกทั้งยังสามารถเห็นวิวฝั่งทะเลได้ ส่วนแรงบันดาลใจในการตกแต่งนั้นก็ได้มาจากพระอุโบสถของ พระอรัญวาสี ที่ หนองคาย ส่วนบริเวณของช่อฟ้านั้นก็ได้ช่างแกะสลัก ชาวเชียงใหม่ มาทำให้ค่ะ
ที่มา
https://travel.trueid.net/detail/J6JkyYdKlRP7
เราไปถึงช่วงใกล้เย็น เป็นวัดที่สวยงาม ติดทะเล ลมทะเลและเสียงคลื่นดังมาก ๆ ค่ะ
แค่ถึงที่จอดรถของวัดเราก็ว้าวแล้วค่ะ บรรยายไม่ค่อยเก่ง
ขออนุญาตนำภาพมาฝากค่ะ
จากนั้น เราไปได้ไปที่หาดนางทอง และประภาคารเขาหลัก ซึ่งอยู่บริเวณเดียวกันค่ะ
หาดนางทอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่ที่มีความสวยงามแปลกตาจนถูกยกให้เป็นอันซีนพังงา เนื่องจากชายหาดแห่งนี้มีลักษณะพิเศษแตกต่างไปจากชายหาดอื่น ๆ เนื่องจากผืนทรายบนชายหาดนางทองเป็นสีดำละเอียด ที่พบไม่กี่แห่งในโลก
ยามเมื่อน้ำทะเลลดลงต่ำสุดก็จะมองเห็นหาดทรายสีดำเป็นบริเวณกว้าง ทำให้เป็นที่กล่าวขานถึงความแปลกของหาดทรายที่นี่และขนานนามว่า “หาดทรายสีดำ”
สำหรับทรายสีดำดังกล่าว คือ “แร่ดีบุก” ที่มีอยู่มากในบริเวณนี้ยาวไปตลอดแนวชายหาดของอำเภอตะกั่วป่า ซึ่งในอดีตอำเภอแห่งนี้ เคยเป็นแหล่งอุตสาหกรรมทำเหมืองแร่ริมชายฝั่งสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองไทย ดังปรากฏอยู่ในคำขวัญของจังหวัดพังงาว่า “แร่หมื่นล้าน”
ในอดีตหาดทรายแห่งนี้จะมีคลื่นซัดแร่ดีบุกขึ้นมาชาวบ้านจะตักมากองรวมกันก่อนจะนำใส่รางและล้างน้ำเพื่อแยกเอาทรายทะเลที่มีน้ำหนักเบากว่าออกให้เหลือเพียงแต่สีดำ ก่อนจะนำไปแยกเอาแร่ดีบุกออกมาขายอีกที
หลังจากหมดยุคเหมืองแร่ จังหวัดพังงาก็เริ่มเข้าสู่ยุคท่องเที่ยว แต่คลื่นทะเลตามธรรมชาติก็ยังคงซัดเอาแร่ขึ้นบนชายหาดดังกล่าวอยู่เป็นระยะ และดึงกลับลงไปในทะเล สลับกันไปมาอยู่เรื่อย ๆ จนกลายเป็นหาดทรายสีดำ อันซีนพังงากับธรรมชาติแปลกตาที่มีเพียงจุดเดียว
ที่มา
https://mgronline.com/travel/detail/9630000104903
ขับไปจะเจอลานจอดรถ จุดสังเกตคือ จุดที่มีประภาคารจำลองอยู่นะคะ
ตอนที่เราไปถึงฝนตก ๆ หยุด ๆ ค่ะ เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังมากค่ะ
วิวสวย สงบค่ะ เดินเล่นยามเย็นก่อนไปกินข้าว
แต่วันนี้ไม่เจอทรายสีดำนะคะ ประภาคารก็มองเห็นไกล ๆ เพราะน้ำขึ้นค่ะ
สำหรับอาหารเย็น เราไปร้านครัวน้อง ตะกั่วป่า
เป็นร้านอาหารเล็ก ๆ ราคาไม่แพง ที่สำคัญอร่อย
ลืมถ่ายบรรยากาศในร้านมา มัวสนใจแต่อาหารค่ะ 55
ถ้ามาเที่ยวทางนี้ แนะนำนะคะ
ถึงเวลาเข้าที่พัก Pullman Khao Lak Resort
อยู่แถวบ้านน้ำเค็มค่ะ
ห้องดีมาก บริการเยี่ยม ตามสไตล์พลูแมนค่ะ
มีฟิตเนสเปิดให้เล่น 24 ชม. สระว่ายน้ำที่นี่ก็สวยมาก
มีที่นั่งริมทะล
อาหารเช้าไม่หลากหลายมาก น่าจะเน้นลูกค้าฝรั่ง แต่อร่อย รสชาติดีค่ะ
ขอโทษที่ไม่ได้ค่อยเก็บบรรยากาศที่พักมานะคะ รูปมีนิดเดียว
จบวันแรกค่ะ
[CR] พาเที่ยวพังงา 2566
เข้าร่วมกิจกรรมดี ๆ จาก Traveloka ค่ะ
เราเพิ่งมีโอกาสไปเที่ยวจังหวัดพังงา พบว่าเป็นจังหวัดเล็ก ๆ น่ารัก มีที่เที่ยวที่สนใจอยู่เยอะทีเดียวค่ะ
โดยเราบินลงที่สนามบินภูเก็ตและเช่ารถยนต์ขับ โดยที่แรกที่เราไป คือ จุดชมวิวเสม็ดนางชี ที่เที่ยวยอดฮิตนั่นเอง
ห่างจากสนามบินภูเก็ตประมาณ 50 กม. ใช้เวลาเดินทางไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงค่ะ
โดยที่ชมวิวของเสม็ดนางชี จะมีจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไป 2 จุด
1.จุดชมวิวเสม็ดนางชี ของชาวบ้าน
2.จุดชมวิวเสม็ดนางชี ของเสม็ดนางชีบูทีค
เราเลือกไปจุดที่ 1 ค่ะ พอไปถึงจะมีลานให้จอดรถยนต์ไว้
และนั่งรถของชาวบ้านขึ้นไป ค่ารถไปกลับคนละ 60 บาท ค่าบำรุงสถานที่ 30 บาท
ทางขึ้นก็ค่อนข้างแอดเวนเจอร์พอสมควร แนะนำให้เกาะรถแน่น ๆ ค่ะ
นั่งรถขึ้นไป 5 -10 นาทีก็ถึง
พอไปถึงเห็นวิว เราร้องว้าวเลยค่ะ สวยมาก ๆ
จริง ๆ จุดนี้มีที่กางเตนท์ด้วยนะคะ เป็นที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ
ส่วนเวลาที่เราไปเป็นช่วงบ่าย ๆ ก็ยังสวยมาก ๆ
มีมุมให้ถ่ายรูปหลายมุม เดินเล่นชมวิว ลมโกรกดีค่ะ มีร้านกาแฟข้างบนนี้ด้วย
เก็บภาพบรรยากาศมาฝากกันค่ะ
พอออกจากที่นี่เราได้ไปที่วัดท่าไทร ต่อ
ประวัติ วัดท่าไทร
วัดท่าไทร หรือ วัดเทสก์ธรรมนาวา ตั้งอยู่ที่ อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา เป็นวัดริมทะเลที่อยู่บริเวณหาดชายทะเลท่าไทร ซึ่งในอดีตนั้นพื้นที่นี้เคยเป็นป่า มีชื่อเรียกว่า ป่าท่าไทร และเคยเป็นบริเวณของป่าช้ามาก่อน เพราะในอดีตชาวบ้านในพื้นที่และละแวกใกล้เคียงนี้ เมื่อมีคนตายเสียชีวิตลง ก็จะนำศพล่องเรือมาเผา หรือที่ป่าท่าไทรแห่งนี้ ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า อ่าวเหรว หรือ แอ่งน้ำในป่าช้า โดยคำว่า อ่าว คือ น้ำไหล เข้ามาเป็นแอ่งกว้าง เหรว ก็หมายถึง ป่าช้า ค่ะ
ไฮไลท์ วัดท่าไทร
วัดนี้จะโดดเด่นด้วยอุโบสถ ที่เป็นไม้สักสวยงาม อาคารทรงไทย รวมถึงยังมีการแกะสลักอย่างอ่อนช้อย งดงามมากอีกด้วย อีกทั้งยังสามารถเห็นวิวฝั่งทะเลได้ ส่วนแรงบันดาลใจในการตกแต่งนั้นก็ได้มาจากพระอุโบสถของ พระอรัญวาสี ที่ หนองคาย ส่วนบริเวณของช่อฟ้านั้นก็ได้ช่างแกะสลัก ชาวเชียงใหม่ มาทำให้ค่ะ
ที่มา https://travel.trueid.net/detail/J6JkyYdKlRP7
เราไปถึงช่วงใกล้เย็น เป็นวัดที่สวยงาม ติดทะเล ลมทะเลและเสียงคลื่นดังมาก ๆ ค่ะ
แค่ถึงที่จอดรถของวัดเราก็ว้าวแล้วค่ะ บรรยายไม่ค่อยเก่ง
ขออนุญาตนำภาพมาฝากค่ะ
จากนั้น เราไปได้ไปที่หาดนางทอง และประภาคารเขาหลัก ซึ่งอยู่บริเวณเดียวกันค่ะ
หาดนางทอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่ที่มีความสวยงามแปลกตาจนถูกยกให้เป็นอันซีนพังงา เนื่องจากชายหาดแห่งนี้มีลักษณะพิเศษแตกต่างไปจากชายหาดอื่น ๆ เนื่องจากผืนทรายบนชายหาดนางทองเป็นสีดำละเอียด ที่พบไม่กี่แห่งในโลก
ยามเมื่อน้ำทะเลลดลงต่ำสุดก็จะมองเห็นหาดทรายสีดำเป็นบริเวณกว้าง ทำให้เป็นที่กล่าวขานถึงความแปลกของหาดทรายที่นี่และขนานนามว่า “หาดทรายสีดำ”
สำหรับทรายสีดำดังกล่าว คือ “แร่ดีบุก” ที่มีอยู่มากในบริเวณนี้ยาวไปตลอดแนวชายหาดของอำเภอตะกั่วป่า ซึ่งในอดีตอำเภอแห่งนี้ เคยเป็นแหล่งอุตสาหกรรมทำเหมืองแร่ริมชายฝั่งสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองไทย ดังปรากฏอยู่ในคำขวัญของจังหวัดพังงาว่า “แร่หมื่นล้าน”
ในอดีตหาดทรายแห่งนี้จะมีคลื่นซัดแร่ดีบุกขึ้นมาชาวบ้านจะตักมากองรวมกันก่อนจะนำใส่รางและล้างน้ำเพื่อแยกเอาทรายทะเลที่มีน้ำหนักเบากว่าออกให้เหลือเพียงแต่สีดำ ก่อนจะนำไปแยกเอาแร่ดีบุกออกมาขายอีกที
หลังจากหมดยุคเหมืองแร่ จังหวัดพังงาก็เริ่มเข้าสู่ยุคท่องเที่ยว แต่คลื่นทะเลตามธรรมชาติก็ยังคงซัดเอาแร่ขึ้นบนชายหาดดังกล่าวอยู่เป็นระยะ และดึงกลับลงไปในทะเล สลับกันไปมาอยู่เรื่อย ๆ จนกลายเป็นหาดทรายสีดำ อันซีนพังงากับธรรมชาติแปลกตาที่มีเพียงจุดเดียว
ที่มา https://mgronline.com/travel/detail/9630000104903
ขับไปจะเจอลานจอดรถ จุดสังเกตคือ จุดที่มีประภาคารจำลองอยู่นะคะ
ตอนที่เราไปถึงฝนตก ๆ หยุด ๆ ค่ะ เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังมากค่ะ
วิวสวย สงบค่ะ เดินเล่นยามเย็นก่อนไปกินข้าว
แต่วันนี้ไม่เจอทรายสีดำนะคะ ประภาคารก็มองเห็นไกล ๆ เพราะน้ำขึ้นค่ะ
สำหรับอาหารเย็น เราไปร้านครัวน้อง ตะกั่วป่า
เป็นร้านอาหารเล็ก ๆ ราคาไม่แพง ที่สำคัญอร่อย
ลืมถ่ายบรรยากาศในร้านมา มัวสนใจแต่อาหารค่ะ 55
ถ้ามาเที่ยวทางนี้ แนะนำนะคะ
ถึงเวลาเข้าที่พัก Pullman Khao Lak Resort
อยู่แถวบ้านน้ำเค็มค่ะ
ห้องดีมาก บริการเยี่ยม ตามสไตล์พลูแมนค่ะ
มีฟิตเนสเปิดให้เล่น 24 ชม. สระว่ายน้ำที่นี่ก็สวยมาก
มีที่นั่งริมทะล
อาหารเช้าไม่หลากหลายมาก น่าจะเน้นลูกค้าฝรั่ง แต่อร่อย รสชาติดีค่ะ
ขอโทษที่ไม่ได้ค่อยเก็บบรรยากาศที่พักมานะคะ รูปมีนิดเดียว
จบวันแรกค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้