บทสัมภาษณ์โดย David Ornstein และ Adam Crafton, 5 กันยายน 2023.

DO: การเตรียมพร้อมช่วงพรีซีซั่นของคุณดูเหมือนกับว่าคุณมุ่งมั่นที่จะกลับไปเล่นกับลิเวอร์พูลในพรีเมียร์ลีค?

JH: ใช่ครับ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมได้พูดคุยกับเยอร์เก้นด์ตั้งแต่ช่วงปิดฤดูกาลที่แล้วเกี่ยวกับฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึง สอบถามถึงผู้เล่นที่มีแนวโน้มจะย้ายเข้ามารวมไปถึงแผนและโปรเจ็คของเขา

จากนั้นผมก็ไปพักร้อนแต่ในขณะเดียวกันก็ได้ฟิตร่างกายอย่างหนักเพื่อที่จะได้กลับไปด้วยสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดสำหรับลิเวอร์พูล

DO: ที่ผ่านมาคุณเป็นกัปตันทีมของลิเวอร์พูล เป็นคนที่ได้นำทีมชูถ้วย EPL และ UCL อย่างสมภาคภูมิ แต่ว่าทั้งหมดนี้มันมีอะไรเปลี่ยนไปกันแน่? มีการติดต่อมาจากซาอุฯ? หรือว่าเยอร์เก้นด์ไม่เห็นคุณอยู่ในแผนของเขาแล้ว?

JH: มันมีบางอย่างที่ส่งสัญญาณเตือนผมถึงความเปลี่ยนแปลง ความสัมพันธ์ของผมกับเยอร์เก้นด์นั้นเป็นไปด้วยดีครับ เค้าเปิดเผยตรงไปตรงมากับผมมาก ผมจะไม่ลงในรายละเอียดนะเพราะมันเป็นการพูดคุยกันส่วนตัวของเรา

แต่ก็นั่นแหละจากการพูดคุยกับเขาทำให้ผมรู้ว่าผมคงจะไม่ได้ลงเล่นบ่อยเท่าเดิมแล้ว และสโมสรเองก็กำลังมองหาผู้เล่นในตำแหน่งของผมเข้ามาเสริมทีม

ตรงนี้ทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจ เพราะผมเองก็อยู่กับสโมสรมานานและยังรั้งตำแหน่งกัปตันทีมอยู่ อีกทั้งมันยังอาจจะส่งผลไปถึงตำแหน่งในทีมชาติอังกฤษซึ่งสำคัญกับผมมากๆ

ตอนนั้นเองผมก็ได้รับการติดต่อสอบถามมาจากทางซาอุฯถึงความเป็นไปได้ที่ผมจะย้ายไปเล่นที่นั่น ซึ่งตรงจุดนี้ท่าทีของสโมสรเองก็ไม่ได้ดูจะปฎิเสธความเป็นไปได้นี้ มันทำให้ผมรู้สึกว่าคุณค่าและความจำเป็นของผมต่อผู้จัดการและสโมสรแห่งนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ผมเองก็รู้แหละว่าเวลานั้นมันต้องมาถึง แค่ไม่คิดว่ามันจะมาถึงในจังหวะนั้น ผมจึงตัดสินใจตอบรับไป

ผมขอย้ำอีกครั้งนะครับว่าความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเยอร์เก้นด์รวมไปถึงเจ้าของทีมนั้นดีเยี่ยม และมันจะเป็นเช่นนั้นเสมอไป สิ่งที่เราฝ่าฟันและประสบความสำเร็จด้วยกันตลอดระยะเวลา 12ปีนั้นมันเหลือเชื่อจริงๆ แต่ในขณะเดียวกันมันก็ยากสำหรับผมที่จะบอกผ่านข้อเสนอจากทางซาอุฯ

AC: มันมีสักเสี้ยวนึงในความคิดของคุณมั้ยที่บอกว่า “ทำไมแกไม่ลองสู้ดูสักตั้งวะ” แบบว่า “สู้เพื่อตัวแกเองนี่แหละ เพื่อตำแหน่งในทีม”

JH: คือถ้ามันมีใครเพียงสักคนในสโมสรบอกกับผมว่า “เราต้องการให้นายอยู่ต่อนะ” เราคงไม่ต้องมานั่งคุยกันอยู่อย่างนี้หรอก

คือผมต้องคิดถึงสเต็ปต่อไปในอาชีพของผมไง ผมไม่ได้บอกว่าสโมสรบีบให้ผมย้ายออกไปนะ เพียงแต่ว่าผมไม่ได้รู้สึกถึงความต้องการของสโมสรที่จะให้ผมอยู่ต่อเช่นกัน

DH: ทำไมคุณถึงตอบรับข้อเสนอจากซาอุฯล่ะ? คุณมีตัวเลือกอื่นไหม? ผมว่าหลายคนน่าจะอยากรู้แหละว่าคุณซึ่งเป็นถึงกัปตันทีมของลิเวอร์พูล ณ ตอนนั้นคิดอะไรอยู่

JH: ตัวผมเองก็เข้าสู่ช่วงบั้นปลายของอาชีพแล้ว ผมอยากจะเก็บเกี่ยววันเวลาที่เหลือเอาไว้ สนุกกับการเล่น ไม่ใช่โดนดองแล้วได้ลงมาเรียกเหงื่อแค่ 10นาที ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นการติดทีมชาติอังกฤษคงเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝันไปแล้ว

AC: แต่ว่านะ ลิเวอร์พูลเองก็มีการเสริมแผงกลางมาเรื่อยๆ ทั้งติอาโก้หรือเกอิต้าเองก็ดี ซึ่งตรงนี้คุณเองก็ตอบสนองต่อความท้าทายใหม่ๆได้ดีมาโดยตลอด

ผมเองยังคิดเลยนะเวลาผู้เล่นใหม่ๆย้ายเข้ามา “จอร์แดน นายท่าจะแย่แล้วว่ะ” อะไรแบบนี้ แต่คุณเองก็กลับมาได้อย่างเข้มแข็งเสมอ

คุณคิดมั่งมั้ย แบบว่า “เฮ้ย ทำเฉยชาต่อชั้นไปเถอะ เดี๋ยวชั้นหาทางกลับสู่ทีมเอง จะพิสูจน์ให้ดูว่าพวกคุณคิดผิด”?

JH: แน่นอน นั่นเป็นเหตุผลที่ผมซ้อมอย่างหนักระหว่างช่วงพักร้อน ผมทำงานอย่างหนักและพวกเค้าเองก็เห็นสภาพของผมในวันที่กลับมารายงานตัว แต่สถาณะการณ์มันไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยไง มันทำให้ผมคิดว่าสิ่งที่ผมทำไปมันเพื่ออะไรกันแน่

DO: คุณได้พิจารณาตัวเลือกอื่นไหม? หรือจังหวะนั้นคือเดินหน้าเต็มสูบไปซาอุฯลูกเดียว?

JH: ผมว่าหลายๆสโมสรน่าจะระแคะระคายถึงความเป็นไปได้ที่ผมจะย้ายออกจากลิเวอร์พูลอยู่นะ เพราะเรื่องนี้เองสื่อก็พูดก็เก็งกันให้แซดมาตลอดฤดูร้อน

ผมก็อยากจะโม้อะนะว่าทุกทีมน่ะอยากได้ผมกันทั้งนั้น แต่ความจริงมันไม่ใช่ไง อีกอย่างลูกๆผมเองก็เกิดและโตที่ลิเวอร์พูล ที่ๆเราประสบความสำเร็จร่วมกันอย่างมากมาย ผมรักสโมสรแห่งนี้รวมไปถึงแฟนๆ ถ้ามันจะมีความเป็นไปได้ที่ผมจะต้องกลับมายืนฝั่งตรงข้ามแข่งขันช่วงชิงกับพวกเขา มันคงจะเป็นความรู้สึกแบบว่ามันไม่ค่อยถูกต้องสำหรับผม

AC: ถ้าสมมติว่าเป็นทีมระดับไบร์ทตันหรือเบรนต์ฟอร์ดล่ะ? หรือในความคิดของคุณมันจะต้องเป็นทีมระดับท็อปเท่านั้นถึงจะโน้มน้าวให้คุณเล่นในยุโรปต่อได้?

JH: ผมต้องการความท้าทายใหม่ๆน่ะ ไม่ใช่ว่าสโมสรที่คุณยกตัวอย่างมาไม่ดีอะไรนะ พวกเขาเป็นทีมที่ดีและเป็นความท้าทายที่ต่างออกไป

เพียงแต่ว่าผมมองหาความท้าทายอย่างที่ว่ามันทำให้ผมรู้สึกว่าผมเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้พวกเขาดีขึ้นกว่าที่เป็นได้

ตรงนี้เอง การได้ร่วมงานกับสตีวี่ในลีคใหม่ๆในวัฒนธรรมใหม่ๆ ในโปรเจคที่พวกเขานำเสนออกมามันทำให้ผมรู้สึกถึงคุณค่าของผม รู้สึกถึงการมีส่วนร่วม และผมเชื่อว่าประสบการณ์ของผมจะช่วยพาให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้าได้

มันรู้สึกดีที่ได้เป็นที่ต้องการอีกครั้ง ผมรู้ว่าสตีวี่และสโมสรต้องการผมจริงๆ พวกเขาต้องการให้ผมอยู่และร่วมทางไปด้วยกันในการยกระดับลีคนี้ให้เป็นลีคชั้นนำของโลก

DO: คุณค่าที่คุณพูดถึงนี้มันหมายรวมไปถึงเรื่องผลตอบแทนไหม? เพราะเอาจริงๆถึงคุณจะพูดถึงความท้าทายใหม่ๆแต่คนส่วนนึงก็คงคิดแหละว่าถ้าไม่ใช่เพราะเงินคุณจะไปไหม?

 

JH: นั่นคือสิ่งที่ยากที่สุด ทุกคนจะมองว่าพวกเศรษฐีน้ำมันเหล่านี้มาพร้อมเงินถุงเงินถังแล้วผมก็แบบว่า “ได้เลยพวก ไปไหนไปกัน”

แต่ความจริงมันไม่ใช่ยังงั้นไง พวกคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อผมก็ได้นะ ตลอดอาชีพของผมเรื่องค่าตอบแทนไม่เคยเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจเลย

อย่าเข้าใจผมผิดล่ะ แน่นอนในการย้ายทีมน่ะ ข้อตกลงมันต้องแน่นแหงอยู่แล้ว คุณต้องรู้สึกว่าเขาต้องการคุณ และเรื่องค่าตอบแทนก็เป็นส่วนนึงในนั้นอย่างปฎิเสธไม่ได้ แต่มันไม่ใช่เหตุผลหลักไง ผมคิดถึงความเป็นไปได้ที่จะไปที่นั่นก่อนที่เราจะคุยไปถึงเรื่องค่าตอบแทนอีก

AC: ผู้คนคาดเดาไปต่างๆนาๆว่าที่นั่นคุณรับไปเน้นๆ £700000/วีค 4เท่าของที่คุณได้จากลิเวอร์พูล! จริงไหมครับ?

JH: บ้าน่า ถ้าจริงก็ดีสิ (หัวเราะ) ไม่อะ ตัวเลขมันเว่อร์เกินไป แต่ก็นะตามความเป็นจริงมันก็ต้องเป็นค่าตอบแทนที่สมเหตุสมผลด้วยสำหรับพวกเราที่จะย้ายมาที่นี่

ผมไม่ได้บอกว่า “เฮ้ย เงินมันไม่ได้ดีหรอกที่นี่” ค่าตอบแทนมันดีครับ เป็นดีลที่ดีเลย เพียงแค่ตัวเลขจริงๆมันไม่ใช่อย่างที่ลือกันเท่านั้นเอง

AC: แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณกำลังบอกว่าสตีเว่นไม่เคยพูดเรื่องค่าตอบแทนกับคุณตอนที่พวกคุณติดต่อกันถูกไหม?

JH: ผมคุยกับสตีวี่แค่เรื่องเกี่ยวกับฟุตบอลและโปรเจคของเขาที่ต้องกาคทำให้สโมสรและลีคนี้พัฒนาขึ้น สตีวี่เป็นคนออกตัวเองด้วยซ้ำว่าเขาไม่ต้องการจะเข้าไปก้าวก่ายในส่วนของค่าตอบแทนที่ผมจะได้รับ

DH: กระแสตีกลับมันดุเดือดมากเลยนะจากแฟนๆกลุ่มเพศทางเลือกและนักสิทธิทั้งหลาย ไม่เพียงแค่จากลิเวอร์พูลแต่มาจากทุกทิศทุกทางเลยทีเดียว

คุณเองคงได้ผ่านตามาบ้างแหละว่าพวกเค้าต้องการให้คุณคิดถึงความถูกต้องเป็นที่ตั้งและปฎิเสธข้อเสนอนี้ไปซะ

ตอนนั้นคุณลังเลบ้างไหม? ได้คุยกับภรรยา ที่ปรึกษา หรือเพื่อนๆของคุณไหม?

JH: ทุกๆวันเลย มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก นี่ผมไม่ได้เล่นบทโศกให้ใครมาสงสารนะ แต่ว่ามันยากจริงๆ ผมอยู่กับสโมสรมานาน ผมรักและผูกพันธ์กับทุกสิ่งทุกอย่างที่นั่น การจะก้าวออกมาและก้าวข้ามความรู้สึกนั้นมันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผมจริงๆ แต่ท้ายที่สุดผมก็รู้สึกว่าการก้าวต่อไปของผมเองมันก็ดีสำหรับพวกเขาเหล่านั้นเช่นกัน

แต่ในมุมมองของคนนอกที่ไม่ได้รู้จักผม มันยิ่งยากเข้าไปใหญ่ที่จะทำให้พวกเขาเข้าใจ คำวิจารณ์และพลังงานลบมากมายหลั่งใหลเข้ามาสู่ตัวผม มันหนักหนามากจริงๆ เพราะจริงๆแล้วผมแคร์นะว่าการกระทำของผมมันกระทบต่อใครกลุ่มไหนบ้าง ผมแคร์จริงๆ และการที่คนเหล่านั้นบอกว่าผมหันหลังทอดทิ้งพวกเขามันทำให้ผมเจ็บปวด

AC: เรื่องอะไรบ้างที่ทำให้คุณลังเลในตอนนั้น?

JH: ทุกอย่างแหละ ทั้งเรื่องของกลุ่มเพศทางเลือก เรื่องของสถานะการณ์ในซาอุฯ ครอบครัวของผม เพื่อนๆ รวมไปถึงอาชีพของผม

ผมรู้แหละว่าในการที่ผมออกมาพูดแบบนี้หลายๆคนคงคิดในใจว่า “ใช่สิ” ผมแค่อยากจะแชร์จากมุมของผมเอง ผมได้พูดคุยกับหลายๆคนที่ผมเชื่อใจ คนที่รู้จักผมซึ่งสามารถให้คำแนะนำหรือทักทานผมได้

AC: งั้นมันคืออะไรล่ะที่ดึงดูดคุณ ที่ทำให้คุณเลือกที่จะไปต่อ?

JH: ผมคิดว่ายังไงซะผมก็หนีคำวิจารณ์ไม่พ้น ไม่ว่าผมจะทำอะไร จะอยู่หรือไป ผมจึงเลือกสิ่งที่กีที่สุดสำหรับครอบครัวผม

ดังนั้นสำหรับผมมันจึงเป็นเพียงแค่การย้ายไปในที่แห่งใหม่ ไปพัฒนาสิ่งที่ผมรักในประเทศอื่น ไปยกระดับลีคของพวกเขา ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันทำให้ผมตื่นเต้นจริงๆนะ

แน่นอนสำหรับกลุ่มเพศทางเลือก ผมเข้าใจความคับข้องใจของพวกคุณดี ผมพูดได้เพียงแค่ผมเสียใจที่พวกคุณรู้สึกเช่นนั้น ผมไม่เคยตั้งใจจะทำให้ใครๆผิดหวังเลย ตลอดมาความตั้งใจของผมมีเพียงต้องการที่จะเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มต่างๆในส่วนที่ผมคิดว่าผมทำได้เท่านั้น

ตอนที่ผมตัดสินใจผมคิดว่าเราจะทำอย่างที่เป็นอยู่ต่อไปก็ได้นะ ก้มหน้าก้มตาวิจารณ์ประเทศอื่นจากที่ไกลๆมันไปอย่างนี้แหละ แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็เหมือนเดิมอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ดี

 

AC: คุณกำลังจะบอกว่าการที่คุณเข้าไปอยู่ใจกลางจุดนั้นด้วยตัวเองจริงๆ มันเป็นไปได้มากกว่าที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง?

JH: ผมคิดว่าทุกคนรู้จุดยืนของผมดีก่อนที่ผมจะจากมา และตอนนี้มันก็ยังเป็นเช่นนั้น ผมคิดว่าการมีคนที่เชื่อเช่นนั้นอยู่ในแผ่นดินซาอุฯมันเป็นเรื่องบวกนะ

AC: ผมคงจะต้องจี้คุณตรงนี้หน่อยแหละ คือตัวคุณเองก็ได้ไปเยือนกาตาร์มาแล้ว คุณตั้งใจจะแสดงออกเป็นปากเป็นเสียงเต็มที่เลย ซึ่งผมเองก็อยู่ที่นั่น แต่ก็ยังได้เห็นธงสีรุ้งถูกทำลาย หรือถูกขีดฆ่ากำกับข้อความอย่าง “ไปรุ้งไปรักกันที่อื่นไม่ใช่ทีนี่” ผมได้เห็นคนถูกจับแก้ผ้าเพราะใส่เสื้อลายรุ้ง หรือบางคนถูกปฎิเสธการเข้าชมเกมส์

ผมจึงอยากจะรู้ว่าคุณได้เห็นหรือมีอะไรดลใจให้คุณคิดว่าสิ่งต่างๆมันจะดีขึ้นจะต่างออกไปในซาอุฯแค่เพียงมีคนคิดบวกแบบคุณไปอยู่ที่นั่น?

JH: คือผมไม่ใช่นักการเมืองน่ะนะ ผมไม่เคยพยายามจะเปลี่ยนกฎอะไรๆของอังกฤษ และคงไม่ต้องไปพูดถึงว่าผมจะไปทำอะไรแบบนั้นกับประเทศอื่น

ผมแค่จะบอกว่าจุดยืนของผมไม่ได้เปลี่ยนไปแม้ผมจะไปอยู่ในประเทศที่มีมุมมองและกฎเกณฑ์ต่างออกไป

ผมมองมันในแง่บวกนะ เพราะผมไม่ได้แอ๊บและทางซาอุฯรู้จุดยืนของผมอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนผมจะย้ายมา แต่พวกเขาไม่เคยมานั่งบอกผมว่าอะไรทำได้ทำไม่ได้ ตรงนี้ผมว่ามันเป็นเรื่องบวกนะ พวกเขาอาจจะค่อยๆเปิดทีละนิด

ทางกาตาร์เอง พวกเขาก็ผ่อนปรนหลายๆอย่างถึงได้สามารถจัดบอลโลกได้ มันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ผมไม่ได้พยายามจะบอกว่าผมมาเพื่อเปลี่ยนแปลงอะไร ผมก็แค่คนๆนึง