สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
คำแนะนำคือเอาตัวเองออกห่างจากการดูชีวิตเพื่อนและหันมาใส่ใจตัวเองเยอะๆ
การที่คุณยังติดตาม ยังรู้ชีวิตเพื่อนอยู่ไม่ได้ช่วยอะไรแต่กลับสุมไฟให้ลุกขึ้นอยู่เรื่อยๆ ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นเลิกเป็นเพื่อนกันในชีวิตจริงหรือในเฟสบุ๊ค แค่กดเลิกติดตามก็พอ อีกข้อคือต้องรู้ทันว่าโลกอินเตอร์เน็ตไม่สามารถหาความจริงได้ทั้งหมด ใครๆต่างก็โพสต์แต่เรื่องดีๆชีวิตที่น่าอิจฉา อาจจะจริงที่เพื่อนคุณได้สามีรวยและสามีอาจรวยจริง แต่ไม่มีใครรู้หรอกค่ะว่าโลกความเป็นจริงของทั้งสองคนเป็นยังไงนอกจากเจ้าตัว เงินซื้อได้หลายสิ่งทำให้ชีวิตง่ายขึ้นแต่เงินไม่ใช่ทุกอย่าง เงินไม่สามารถกลบความทุกข์หลายอย่างของชีวิตได้
แล้วคุณค่อยใช้เวลามาไตร่ตรองอยู่กับตัวเองสักพัก ดูให้รู้ว่าเพราะอะไรถึงมีอาการอิจฉา อะไรที่คุณไม่พอใจในตัวคุณและชีวิตคุณที่คุณรู้สึกว่าชีวิตเขาดีกว่าที่ไม่ใช่แค่เงิน ต้องมาคิดตามว่าสำหรับตัวคุณเองการมีเงินมันหมายความว่าอะไร อะไรกันแน่ที่คุณอยากได้แล้วคิดว่าเพื่อนมีแต่คุณไม่มี
ค่อยๆใช้เวลาอยู่กับตัวเองและฟังเสียงตัวคุณเพราะไม่มีใครหาคำตอบได้ดีเท่าตัวคุณเอง พอได้คำตอบก็ไปเติมสิ่งนั้นให้เต็ม - เชื่อเถอะว่าเงินเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ถึงอะไรบางอย่างที่คุณต้องการแต่ยังไม่มี เช่น ชื่อเสียง การถูกชื่นชม การยอมรับจากคนรอบข้าง หาคำตอบเพื่อจะได้เติมเต็มตัวเองและความอิจฉาก็จะค่อยๆหายไปค่ะ
การที่คุณยังติดตาม ยังรู้ชีวิตเพื่อนอยู่ไม่ได้ช่วยอะไรแต่กลับสุมไฟให้ลุกขึ้นอยู่เรื่อยๆ ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นเลิกเป็นเพื่อนกันในชีวิตจริงหรือในเฟสบุ๊ค แค่กดเลิกติดตามก็พอ อีกข้อคือต้องรู้ทันว่าโลกอินเตอร์เน็ตไม่สามารถหาความจริงได้ทั้งหมด ใครๆต่างก็โพสต์แต่เรื่องดีๆชีวิตที่น่าอิจฉา อาจจะจริงที่เพื่อนคุณได้สามีรวยและสามีอาจรวยจริง แต่ไม่มีใครรู้หรอกค่ะว่าโลกความเป็นจริงของทั้งสองคนเป็นยังไงนอกจากเจ้าตัว เงินซื้อได้หลายสิ่งทำให้ชีวิตง่ายขึ้นแต่เงินไม่ใช่ทุกอย่าง เงินไม่สามารถกลบความทุกข์หลายอย่างของชีวิตได้
แล้วคุณค่อยใช้เวลามาไตร่ตรองอยู่กับตัวเองสักพัก ดูให้รู้ว่าเพราะอะไรถึงมีอาการอิจฉา อะไรที่คุณไม่พอใจในตัวคุณและชีวิตคุณที่คุณรู้สึกว่าชีวิตเขาดีกว่าที่ไม่ใช่แค่เงิน ต้องมาคิดตามว่าสำหรับตัวคุณเองการมีเงินมันหมายความว่าอะไร อะไรกันแน่ที่คุณอยากได้แล้วคิดว่าเพื่อนมีแต่คุณไม่มี
ค่อยๆใช้เวลาอยู่กับตัวเองและฟังเสียงตัวคุณเพราะไม่มีใครหาคำตอบได้ดีเท่าตัวคุณเอง พอได้คำตอบก็ไปเติมสิ่งนั้นให้เต็ม - เชื่อเถอะว่าเงินเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ถึงอะไรบางอย่างที่คุณต้องการแต่ยังไม่มี เช่น ชื่อเสียง การถูกชื่นชม การยอมรับจากคนรอบข้าง หาคำตอบเพื่อจะได้เติมเต็มตัวเองและความอิจฉาก็จะค่อยๆหายไปค่ะ
ความคิดเห็นที่ 34
คุณเป็นเหมือนเราเปี๊ยบเลยค่ะ
เคยคิดจะตั้งกระทู้แบบนี้เลยค่ะ แต่แค่คิดว่าจะพิมพ์ก็อายแล้วค่ะ
ใช่ค่ะ เรารู้ว่ามันไม่ถูก มันเป็นความคิดที่เป็นภัยต่อใจตัวเอง
แต่พอมีเรื่องมากระทบใจ มันก็ร้อนผ่าวทั้งตัวด้วยความริษยาเลยค่ะ
(เช่นว่า รับรู้ว่าเพื่อนได้ตำแหน่ง นู่นนี่นั่น
รับรู้ว่าเพื่อนเลิกทำงานประจำเพราะ passive income สูงพอแล้ว)
ส่วนมาก เราจะเป็นกับเพื่อนที่ต้นทุนชีวิตเท่ากันมาก่อนค่ะ
เรารู้ว่าเพื่อนที่มาถึงจุดนี้ได้เค้าต้องมุมานะพากเพียรแค่ไหน แต่มันก็รู้สึกค่ะแบบห้ามไม่ได้
และเช่นกันความคิดบาปๆประเภท เออ เห็นชีวิตดีๆแบบนี้ ผัวอาจจะมีเมียน้อย หรือจริงๆอาจจะมีหนี้ที่ซุกไว้แค่ดูดีที่หน้าเฟส
แต่ๆๆๆ ไม่อยากคิดแบบนั้นเลยจริงๆมันเหมือนคนขี้แพ้อ่ะค่ะ
(ไม่เคยคิดถึงกะแช่งนะ แค่คิดว่า หน้าเฟสมันน่าจะไม่ใช่ 100%)
เราเอง ชีวิตปัจจุบันถือว่าดีกว่าหลายๆคน เงินเดือนหลักแสน
ลูก-สามี ปกติดี ไม่โดดเด่นแต่ไม่มีใครเจ็บป่วย ไม่มีหนี้สิน ไม่เสเพล
แต่พอมองไปในกลุ่มเพื่อนมหาวิทยาลัย ก็อิจฉาเข้าขั้นริษยาเลยค่ะ
เพราะสถาบันที่เราเรียน 1.ลูกคนมีเงิน 2.โดยอาชีพรายได้จะสูง
ผลลัพธ์คือทุกวันนี้ คนที่บ้านมีต้นทุนก็ยิ่งรวย
คนที่ต้นทุนชีวิตเท่ากับเรา หลายคนมีความเพียรบ้าง โชคดีบ้าง จังหวะชีวิตดีบ้าง
ทำไมสุดท้ายชีวิตเค้าดีกว่าเราทั้งนั้นเลย
เลยรู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า ไม่อยากไปเจอหน้าเพื่อนเก่าเลยค่ะ
รวยก็ไม่รวย เก่งก็ไม่เก่ง ดังก็ไม่ดัง มันเหมือนแบบ ใช้ชีวิตมายังไง 40 ปีมาไกลได้แค่นี้เองเหรอ อะไรแบบนั้น
เอ่อ สุดท้ายก็ไม่มีคำตอบให้ จขกท.นะ
1.มารออ่านคำตอบดีๆที่ช่วยฮีลใจเหมือนกัน
2.มาแสดงตัวให้ จขกท.เห็นว่า คนแบบคุณก็มีนะ เรานี่ไง เช่นกัน เราก็ดีใจที่เจอกระทู้คุณนะ
3.เราไม่เลิกเล่นโซเชียลเพราะกลัวว่ามารู้ทีเดียวมันจะช็อคกว่าเดิมอ่า
(แบบ รวมรุ่นที มารู้ตู้มเดียวเพื่อนเป็นเศรษฐีพันล้านไป 10 คนไรงี้ เว่อร์ๆ)
เคยคิดจะตั้งกระทู้แบบนี้เลยค่ะ แต่แค่คิดว่าจะพิมพ์ก็อายแล้วค่ะ
ใช่ค่ะ เรารู้ว่ามันไม่ถูก มันเป็นความคิดที่เป็นภัยต่อใจตัวเอง
แต่พอมีเรื่องมากระทบใจ มันก็ร้อนผ่าวทั้งตัวด้วยความริษยาเลยค่ะ
(เช่นว่า รับรู้ว่าเพื่อนได้ตำแหน่ง นู่นนี่นั่น
รับรู้ว่าเพื่อนเลิกทำงานประจำเพราะ passive income สูงพอแล้ว)
ส่วนมาก เราจะเป็นกับเพื่อนที่ต้นทุนชีวิตเท่ากันมาก่อนค่ะ
เรารู้ว่าเพื่อนที่มาถึงจุดนี้ได้เค้าต้องมุมานะพากเพียรแค่ไหน แต่มันก็รู้สึกค่ะแบบห้ามไม่ได้
และเช่นกันความคิดบาปๆประเภท เออ เห็นชีวิตดีๆแบบนี้ ผัวอาจจะมีเมียน้อย หรือจริงๆอาจจะมีหนี้ที่ซุกไว้แค่ดูดีที่หน้าเฟส
แต่ๆๆๆ ไม่อยากคิดแบบนั้นเลยจริงๆมันเหมือนคนขี้แพ้อ่ะค่ะ
(ไม่เคยคิดถึงกะแช่งนะ แค่คิดว่า หน้าเฟสมันน่าจะไม่ใช่ 100%)
เราเอง ชีวิตปัจจุบันถือว่าดีกว่าหลายๆคน เงินเดือนหลักแสน
ลูก-สามี ปกติดี ไม่โดดเด่นแต่ไม่มีใครเจ็บป่วย ไม่มีหนี้สิน ไม่เสเพล
แต่พอมองไปในกลุ่มเพื่อนมหาวิทยาลัย ก็อิจฉาเข้าขั้นริษยาเลยค่ะ
เพราะสถาบันที่เราเรียน 1.ลูกคนมีเงิน 2.โดยอาชีพรายได้จะสูง
ผลลัพธ์คือทุกวันนี้ คนที่บ้านมีต้นทุนก็ยิ่งรวย
คนที่ต้นทุนชีวิตเท่ากับเรา หลายคนมีความเพียรบ้าง โชคดีบ้าง จังหวะชีวิตดีบ้าง
ทำไมสุดท้ายชีวิตเค้าดีกว่าเราทั้งนั้นเลย
เลยรู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า ไม่อยากไปเจอหน้าเพื่อนเก่าเลยค่ะ
รวยก็ไม่รวย เก่งก็ไม่เก่ง ดังก็ไม่ดัง มันเหมือนแบบ ใช้ชีวิตมายังไง 40 ปีมาไกลได้แค่นี้เองเหรอ อะไรแบบนั้น
เอ่อ สุดท้ายก็ไม่มีคำตอบให้ จขกท.นะ
1.มารออ่านคำตอบดีๆที่ช่วยฮีลใจเหมือนกัน
2.มาแสดงตัวให้ จขกท.เห็นว่า คนแบบคุณก็มีนะ เรานี่ไง เช่นกัน เราก็ดีใจที่เจอกระทู้คุณนะ
3.เราไม่เลิกเล่นโซเชียลเพราะกลัวว่ามารู้ทีเดียวมันจะช็อคกว่าเดิมอ่า
(แบบ รวมรุ่นที มารู้ตู้มเดียวเพื่อนเป็นเศรษฐีพันล้านไป 10 คนไรงี้ เว่อร์ๆ)
ความคิดเห็นที่ 9
นึกว่าอ่านเรื่องตัวเอง555
เราก็เป็น ปกติเราจะสมถะ นิ่งๆ มีเป้าหมายในชีวิต ใครจะแฟชั่นตามเทรนด์อะไรเราก็ไม่สนใจ ใครจะมีบ้านมีรถก็ไม่สนใจ เราจะใช้ชีวิตในแบบของเรา ไม่ตามคนอื่น
แต่กับเพื่อนผญคนนี้ เราดันรู้สึกอยากให้เค้าวอดวาย เริ่มจากรู้สึกเปรียบเทียบกับเพื่อนคนนี้(ไม่รู้ทำไมต้องเปรียบเทียบกัน55) แต่ตอนนั้นเค้ากับเราก็พอๆกัน เราซะอีกที่หน้าที่การงานดีกว่า เงินเดือนสูงกว่า
จนวันหนึ่ง เพื่อนคนนี้ได้สามีรวย จากที่ต้องทำงานอาทิตย์ละ 6 วัน ได้เงินเดือนหมื่นต้นๆ สามีให้ลาออกมาอยู่บ้านเฉยๆ ใส่ทองเส้นใหญ่มาก ซื้อรถเก๋งให้ขับ ชีวิตคือดีทันตาเห็น
เราอิจฉามากกกก ภาวนาขอให้สามีเค้าทำเรื่องผิดกฎหมาย ให้โดนจับ ให้อาย ให้โดนยึดทุกอย่าง
แต่พอหมกมุ่นมากๆเราก็เครียดเอง เลยพยายามโฟกัสชีวิตตัวเอง พยายามไม่ส่อง
เราก็เป็น ปกติเราจะสมถะ นิ่งๆ มีเป้าหมายในชีวิต ใครจะแฟชั่นตามเทรนด์อะไรเราก็ไม่สนใจ ใครจะมีบ้านมีรถก็ไม่สนใจ เราจะใช้ชีวิตในแบบของเรา ไม่ตามคนอื่น
แต่กับเพื่อนผญคนนี้ เราดันรู้สึกอยากให้เค้าวอดวาย เริ่มจากรู้สึกเปรียบเทียบกับเพื่อนคนนี้(ไม่รู้ทำไมต้องเปรียบเทียบกัน55) แต่ตอนนั้นเค้ากับเราก็พอๆกัน เราซะอีกที่หน้าที่การงานดีกว่า เงินเดือนสูงกว่า
จนวันหนึ่ง เพื่อนคนนี้ได้สามีรวย จากที่ต้องทำงานอาทิตย์ละ 6 วัน ได้เงินเดือนหมื่นต้นๆ สามีให้ลาออกมาอยู่บ้านเฉยๆ ใส่ทองเส้นใหญ่มาก ซื้อรถเก๋งให้ขับ ชีวิตคือดีทันตาเห็น
เราอิจฉามากกกก ภาวนาขอให้สามีเค้าทำเรื่องผิดกฎหมาย ให้โดนจับ ให้อาย ให้โดนยึดทุกอย่าง
แต่พอหมกมุ่นมากๆเราก็เครียดเอง เลยพยายามโฟกัสชีวิตตัวเอง พยายามไม่ส่อง
แสดงความคิดเห็น
อิจฉาเพื่อนที่มีชีวิตดีๆจนเข้าขั้นริษยา จะแก้ความรู้สึกนี้ให้หายขาดยังไงคะ(ซีเรียสมากค่ะ ขอคำตอบแบบจริงจัง)
จขกท. นิสัยตั้งแต่เด็กเป็นคนไม่ได้อยากได้อยากมีอะไรค่ะ มีน้องร่วมสายเลือด1คน เวลาพ่อแม่จะซื้ออะไรให้ พวกท่านจะเสนอให้เท่าๆกันหมด แต่มีหลายครั้งที่เราปฏิเสธ เพราะเราไม่ได้อยากได้จริงๆ
เราโอเคทุกครั้งที่พ่อแม่จะซื้อให้น้องคนเดียว ไม่ได้รู้สึกอะไร เป็นแบบนี้มาจนโต
นิสัยอื่นๆก็ เป็นคนที่จะเรียกว่าโกรธคนไม่เป็นก็ว่าได้ค่ะ แบบเพื่อนทำของเลอะๆหกใส่เสื้อ ก็ยิ้มขำๆ เพื่อนยืมเงินไปไม่คืนก็ไม่ได้อะไรมาก คิดแค่ว่าหาใหม่ได้ ไม่อยากทะเลาะ เพิ่งมาเริ่มมีเคืองๆคนที่ทำให้เราไม่พอใจบ้าง ช่วงมัธยมปลายค่ะ
แม้กระทั่งตอนนี้ที่อายุใกล้30ปีแล้ว ก็เป็นแบบนี้
จนมาช่วงเข้ามหาลัย...เราเริ่มเข้าสู่วงการอิจฉาค่ะ..
เราเข้าเรียน ใน ม. แห่งหนึ่งใน กทม.
มีเพื่อนบางคนที่จะทำอะไรที่ต้องใช้เงิน แล้วขอพ่อแม่ได้ง่ายดายไปหมด
ในขณะที่เราตั้งใจเรียน ไม่เกเร ไม่เที่ยว ไม่กินเหล้าเมายา กลับขอแค่เงินเล็กๆน้อยๆ เลือดตาแทบกระเด็น
แล้วเราลามไปอิจฉาเพื่อนสมัยมัธยมหลายคนด้วยค่ะ ทั้งที่เรารู้ตั้งแต่ ม.ต้นแล้ว ว่าเพื่อนแต่ละคนฐานะยังไง
เพื่อนซื้อของดีๆใช้ ขอเฝินไปเที่ยวได้ง่ายๆ เราไม่เคยอิจฉาเพื่อนเลย ณ ตอนมัธยม แต่พอมหาลัย เรากลับอิจฉา😭
จนเราเรียนจบมา เราเกรดสูงพอสมควร เรามีสกิลได้มากกว่า2ภาษาติดมาด้วย
ซึ่งต่างจากตอนมัธยมมากที่เป็นคนดูเหมือนเรียนไม่เก่งสักเท่าไหร่ เราหารายได้ได้ดีในระดับนึง แต่ช่วงก่อนโควิดประมาณ2-3ปี
บ้านเราเกิดวิกฤต กิจการที่ทำกำไรหดไปมากเลยค่ะ ไม่ถึงกับเจ๊งแต่สาหัสพอตัว เราก็มาช่วยงานที่บ้าน
ปีๆนึงเชื่อไหมว่า เราแทบจะทำงานตลอดทั้งปีเลยค่ะ มีเที่ยวบ้าง แต่ไม่ได้บ่อย
ที่พอจะบ่อยหน่อย คือไปกินอาหารดีๆค่ะ อันนี้บ่อย เพราะอยู่ใกล้แหล่งร้านอาหารดีๆ
ข้างของเครื่องใช้ยี่ห้อดีๆ เราก็ซื้อมาใช้ เราใช้ของในระดับที่เราพอใจที่จะจ่าย ไม่เกินตัว ไม่ตามใคร
แต่!!..ความอิจฉาก็ยังไม่หาย!! จนช่วง1-2ปีมานี้ มีเพื่อนบางคนแต่งงานไปบ้าง บางคนเป็นผู้หญิงเละเทะ ติดเหล้ายาปลาปิ้ง กลับได้สามีรวย ระดับชีวิตนี่พุ่งปรี๊ดเลยค่ะ บางคน ไม่มีสกิลอะไรที่น่าสนใจเลย แต่ได้สามีรวยอีกแหล่ะ แบบรวยมากๆนะคะ ไม่ใช่แต่พอมีพอกินหรือแค่พอมีที่ทางนิดหน่อยอะไรเทือกนี้
หลายคน ไม่ได้ทำงานเลยค่ะ มีเงินใช้จากบ้านมีสวนเยอะ ทำตัวเละเทะยังไงก็ได้ ก็ชีวิตดี๊ดี
ตัดภาพมาที่เรา...เราพยายามดิ้นรนทุกอย่าง แม้กระทั่งพ่อแม่เรา
สภาพสู้พวกนั้นไม่ได้เลย เราสมเพชตัวเองมากค่ะ
เหมือนทุกสิ่งที่เราทำมา มันไม่ช่วยอะไรเลย
เราลึกๆในใจ เราไม่ได้อยากเที่ยวบ่อยหรอกค่ะ เพราะเป็นคนไม่ชอบเที่ยว ติดบ้าน
ยกเว้นเรื่องกินที่ชอบกิน😂 เรื่องข้าวของก็ใช้แต่ยี่ห้อที่ตัวเองสนใจเท่านั้น ไม่เคยคิดจะมีตามใคร
แต่ทำไมมันกลายเป็นอิจฉาไปได้..ล่าสุดเข้าขั้นริษยามาดร้ายเลยค่ะ
เราถึงขั้นภาวนา ให้สามีเพื่อนเลิกกับเพื่อน ไปติดผู้หญิงอื่น
ภาวนาให้ชีวิตเพื่อนที่ทำตัวเสเพล ชิปหาย
เรารู้ว่ามันคือสิ่งที่เลวร้ายมาก แต่เราหยุดคิดไม่ได้ค่ะ😭
แล้วเราก็เป็นแค่กับเพื่อนสมัยมัธยมเป็นหลักค่ะ เน้นว่ามัธยมเป็นหลัก
เพื่อนสมัยมหาลัยเป็นกับมันแค่คนเดียว ส่วนเพื่อนสนิท คนรู้จัก รุ่นพี่ รุ่นน้อง ญาติพี่น้อง คนรู้จักของพ่อแม่หรือของน้อง
คนที่บังเอิญแอดกันเป็นเพื่อนในเฟสในไอจี เราไม่มีความรู้สึกอิจฉาแม้แต่นิดเดียวค่ะ
รบกวนแนะนำด้วยค่ะ
เรากลุ้มใจมาก จนอยากฆ่าตัวตายเลยแหล่ะค่ะ😭