JJNY : 5in1 ทัศนัยยกวาทะลีกวนยู│‘พิธา’นำทีมล่องเรือ│พิจิตรแล้งหนัก│ศก.ทำพิษ! ‘ครัวสมหญิง’โบกมือลา│ยูเครนอ้างทำลายฝูงโดรน

ทัศนัย ยกวาทะ ลีกวนยู ‘เยาวชนทุกคนต้องขบถ’ หวัง พท.ไม่มองเด็กเป็นศัตรูรัฐ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4161117
 
 
ทัศนัย ยกวาทะ ลีกวนยู ‘เยาวชนทุกคนต้องขบถ’ หวัง พท.ไม่มองเด็กเป็นศัตรูรัฐ
 
เมื่อวันที่ 3 กันยายน ผศ.ดร.ทัศนัย เศรษฐเสรี อาจารย์ภาควิชาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กยกวาทะของ ลีกวนยู นายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์ (พ.ศ.2502-2533) ที่บอกว่า “เยาวชนทุกคนต้องขบถ” ส่งสัญญาณถึงพรรคเพื่อไทยให้มองเห็นศักยภาพของเยาวชน โดยเริ่มจากการไม่มองพวกเขาเป็นศัตรูต่อรัฐ และไม่ดึงการสร้างคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นประชาชนโลกให้ถอยกลับไปด้วยแบบเรียนคลั่งชาติ
 
ผศ.ดร.ทัศนัย เศรษฐเสรี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Thasnai Sethaseree ระบุว่า 
 
“ลีกวนยู เคยประกาศเป็นวิสัยทัศน์ว่า เยาวชนทุกคนต้องขบถ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของมูลค่าในเศรษฐกิจสร้างสรรค์”
 
“หลังจากนั้น ทุกตารางนิ้วในประเทศสิงคโปร์ถูกเปลี่ยนให้เป็นแหล่งเรียนรู้ มหาวิทยาลัยก็ดึงคนเก่งจากทั่วโลกมาสอน”
 
“ผมหวังว่าพรรคเพื่อไทยจะมองเห็นศักยภาพของเยาวชน โดยเริ่มต้นจากการไม่มองพวกเขาเป็นพวกชังชาติหรือเป็นศัตรูต่อรัฐ”
 
“และหวังว่าพรรคเพื่อไทยจะกำกับคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษา กระทรวงอุดมศึกษา และกระทรวงวัฒนธรรม ไม่ดึงการสร้างคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นประชาชนโลกให้ถอยกลับไปด้วยแบบเรียนคลั่งชาติบ้าๆ บอๆ”

https://www.facebook.com/thasnai.sethaseree.5/posts/6662112147215743



‘พิธา’ นำทีม ‘ก้าวไกล’ ล่องเรือชม ‘ลั้ง’ โปรโมทท่องเที่ยว
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_607544/

‘พิธา’ นำทีม ‘ก้าวไกล’ เดินสายต่อทั่วแกลง ล่องเรือชม ‘ลั้ง’ โปรโมทท่องเที่ยว เผยรักระยองมากขึ้นทุกวัน สัปดาห์หน้าเตรียมจัดชุดใหญ่ปูพรมทั้งเขต 3 ด้าน ‘พงศธร’ ขอแรงชาวระยองช่วยจับทุจริตหลังเริ่มมีคนส่งข้อมูลหัวคะแนนจดชื่อ-เก็บบัตร ปชช.
 
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมกิจกรรมหาเสียงช่วย นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ ผู้สมัคร สส. เขต 3 จ.ระยอง (เบอร์ 1) สำหรับการเลือกตั้งซ่อมในวันที่ 10 ก.ย. นี้ โดยในส่วนของพิธาและพงศธร ได้ร่วมกันขึ้นรถแห่เดินสายหาเสียงไปตามถนนเส้นหลักของ ต.กระแสบน อ.แกลง ก่อนร่วมพบปะประชาชนที่วัดกระแสบน ล่องเรือชมตัว ‘ลั้ง’ ซึ่งเป็นกิ้งก่าขนาดใหญ่สายพันธุ์หนึ่งที่เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวใน ต.กระแสบน ก่อนที่ในช่วงเย็นจะร่วมกันเปิดเวทีปราศรัยที่หน้าตลาดนัดตึกขาว โดยได้รับความสนใจจากชาวระยองที่เดินทางมาร่วมรับฟังการปราศรัยเป็นจำนวนมาก
 
นายพงศธร กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ตลอดเส้นทางที่เราเดินพบปะประชาชนในทั้ง 2 อำเภอ 19 ตำบล เราได้กำลังใจจากทุกคนมาตลอด 20 กว่าวันที่ผ่านทา เราต่างมีเป้าหมายเดียวกัน ในวันที่ 10 ก.ย. นี้ ที่เรามีนัดกันที่หน่วยเลือกตั้งทั้ง 207 หน่วย ช่วยกันกาก้าวไกลให้ถล่มทลาย
 
แม้หลายคนจะบอกว่าเราชนะขาดลอยแน่ๆ แต่ตนขอย้ำว่าเราต้องไม่ประมาท เราจึงขอแรงทุกคนให้ช่วยกันในสองเรื่อง เรื่องแรก ขอให้ทุกคนออกมาใช้สิทธิให้มากกว่าครั้งก่อน ชักชวนพ่อแม่พี่น้องลูกหลานที่ทำงานและเรียนอยู่ที่อื่นกลับบ้านมาเลือกตั้งให้มากที่สุด ให้วันที่ 9 ก.ย. เป็นวันครอบครัวที่ทุกมาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า แล้ววันรุ่งขึ้นก็ตื่นแต่เช้าไปกาก้าวไกลในวันที่ 10 ก.ย. เสร็จแล้วใครไม่มีธุระอะไร ขอแรงช่วยกันเฝ้าหน่วยเลือกตั้งเป็นหูเป็นตา ขอแรงช่วยกันเฝ้าทั้ง 207 หน่วย ให้ชัดเจนตรงไปตรงมาที่สุด ให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม” นายพงศธรกล่าว
 
นายพงศธร กล่าวต่อว่า เรื่องขอแรงที่สอง ตอนนี้เริ่มมีหัวคะแนนธรรมชาติส่งข่าวมาให้ตนแล้ว ว่าเริ่มมีหัวคะแนนมาจดรายชื่อและเก็บบัตรประชาชนบ้างแล้ว มีคลิปเสียงส่งมาให้บ้างแล้ว ตนจึงขอแรงสำหรับคนที่มีเบาะแสการทุจริตในลักษณะนี้ มาช่วยกันทำให้การเมืองสร้างสรรค์ ช่วยกันส่งคลิปเสียง คลิปภาพ รายชื่อหัวคะแนนที่เป็นคนจดชื่อเก็บบัตรประชาชนและจ่ายเงินมาให้ตนและทีมงาน และที่สำคัญใครทำได้ช่วยปักหมุดหน้าบ้านหัวคะแนนมาให้ด้วย ตอนนี้เราเริ่มได้ข้อมูลแบบนี้มาเยอะขึ้นแล้ว ยิ่งได้เยอะยิ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินเรื่องต่อกับ กกต. และตำรวจ
 
นายพงศธร ยังกล่าวต่อไป ว่าทั้งนี้ตนไม่เชื่อว่าเราจะแพ้เงิน เพราะตนมั่นใจว่าชาวแกลงและชาวเขาชะเมาซื้อไม่ได้ และการเมืองระยองได้เปลี่ยนไปแล้ว แต่เราอยากสั่งสอนคนที่ไม่ตรงไปตรงมา ทำงานการเมืองแบบสกปรก ให้การเมืองที่ไม่ตรงไปตรงมาหมดไป จับให้ได้คาหนังคาเขา
 
ขณะเดียวกันนายพิธา ระบุว่า ที่ผ่านมาระยองและภาคตะวันออกได้ให้โอกาสก้าวไกลมาแล้ว ในสามจังหวัด ระยอง จันทบุรี ตราด เป็นสีส้มด้วยกันทั้งหมด ที่ระยองมีทั้ง 5 เขตที่เป็นสีส้มมาแล้ว การเลือกตั้งซ่อมวันที่ 10 นี้อย่าปล่อยให้เขต 3 เป็นฟันหลอ ไหนไหนก็ส้มแล้วก็ให้ส้มต่อทั้งจังหวัด พรรคก้าวไกลจะได้ทำงานอย่าง 360 องศา สัปดาห์นี้เรายกพลมาทีมใหญ่แต่สัปดาห์หน้าจะจัดหนักกว่าเดิม นอกจาก 4 ส. นโยบายจังหวัดระยองของพรรคก้าวไกลที่เราพูดถึงกันไปมาก ทั้งเรื่องของสวัสดิการ สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข และเศรษฐกิจสร้างสรรค์แล้ว เราจะทำงานนโยบายเพิ่มให้ชาวระยองในอีก 2 ส. คือเรื่องการศึกษา และสิ่งเสพติดที่ระยองมีปัญหาเป็นอันดับ 4 ของประเทศ
 
นายพิธายังกล่าวต่อไป ว่าตลอด 4 สัปดาห์ที่ตนได้มาหาเสียงที่นี่ทำให้ตนตกหลุมรักระยองมากขึ้นทุกวัน ระยองกับพรรคก้าวไกลมีอะไรที่คล้ายกัน นั่นคือการเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายและอุดมสมบูรณ์ ทำอุตสาหกรรมก็ได้ เกษตรก็ได้ การท่องเที่ยวก็ดี มีคนจากทั่วประเทศพากันมาอยู่อาศัยปักหลักจนเรียกว่าเป็นบ้าน และคนระยองก็พร้อมโอบรับความหลากหลายนั้น
 
ถ้าพี่น้องเชื่อในคุณค่า วิธีคิด นโยบาย และการทำงานการเมืองแบบพรรคก้าวไกลแบบนี้ เอาไปผลิตซ้ำได้เลย ช่วยกันประชาสัมพันธ์ในโค้งสุดท้าย ช่วยกันบอกต่อ ไม่ว่าอยู่ในหรือนอกพื้นที่ ให้วันที่ 10 ก.ย. มาใช้สิทธิให้ถล่มทลายอีกครั้ง รักษาคุณค่าของความเป็นระยองไว้ การเมืองได้เปลี่ยนไปแล้ว และในวันที่ 10 ก.ย. เราจะมาฉลองชัยชนะของเราไปด้วยกัน” นายพิธากล่าว
 


พิจิตรแล้งหนัก ‘ข้าวขาดน้ำ’ ทยอยยืนต้นตาย หนักสุดในรอบ 40 ปี
https://www.one31.net/news/detail/65322
 
พิจิตรแล้งหนัก ‘ข้าวขาดน้ำ’ ทยอยยืนต้นตาย หนักสุดในรอบ 40 ปี
 
พิจิตรแล้งหนักสุดในรอบ 40 ปี ข้าวขาดน้ำ ทยอยยืนต้นตาย ชาวนาเผยหากไม่มีฝนตกลงกลางเดือนนี้ อาจทำให้ชาวนาได้รับผลกระทบกว่า 7 อำเภอ
 
สภาพต้นข้าวหอมมะลิ ที่เคยสีเขียว กลับสภาพแห้งเหี่ยวกลายเป็นสีน้ำตาล หลังจากที่เกษตรกรชาวนา ตำบลหนองพระ อำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร ทำการเพาะปลูกในช่วงฤดูฝน แต่ต้องเผชิญกับปัญหาขาดน้ำ และกำลังแห้งเหี่ยวทยอยยืนต้นตาย เนื่องจากฝนหยุดตกเป็นเวลานาน น้ำในแหล่งกักเก็บน้ำตามธรรมชาติแห้งขอดไม่เพียงพอต่อการทำเกษตรกรรม
 
นางน้ำผึ้ง กะโห้ เกษตรกรตำบลหนองพระ อำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร ระบุ ว่า จากที่เริ่มทำนา มีฝนตกลงมา แต่หลังจากนั้นฝนหยุดตก มานานนับ 2 เดือน ทำให้ต้นข้าว เริ่มยืนต้นตายจากขาดน้ำ ซึ่งข้าวหอมมะลิ มีอายุในการเพาะปลูก ซึ่งหากไม่มีฝนตกลงมา จะทำให้ข้าวเสียหายทั้งหมด และจะต้องเสียเงินที่ลุงทุน กว่า 3 แสนบาท ถือว่าในปีนี้แล้งหนักสุด ในรอบ 40 ปี สำหรับนาข้าว สำหรับชาวนาที่ปลูกข้าวหอมมะลินอกเขตชลประทาน ที่มีจำนวนกว่า เกือบ 3 หมื่นไร่ ของจังหวัดพิจิตร



เศรษฐกิจทำพิษ! ‘ครัวสมหญิง’ โบกมือลา ปิดตำนานบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดชื่อดังสัตหีบ
https://www.dailynews.co.th/news/2683842/

"ครัวสมหญิง" แจ้งข่าวเศร้า ประกาศปิดกิจการ หลังพิษเศรษฐกิจทำพิษ นักท่องเที่ยวหด จำใจปิดตำนานบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลชื่อดังของสัตหีบ

ทำเอาโลกออนไลน์ถึงกับเศร้าเสียดายไปตามๆกัน ภายหลังจากล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ก.ย. บุฟเฟ่ต์อาหารทะเลชื่อดังของสัตหีบ อย่าง “ร้านสมหญิง” ได้ออกมาประกาศว่าจะเลิกกิจการแล้ว
 
โดยทางร้านระบุว่า “ประกาศ ปิดกิจการ” กราบเรียนคุณลูกค้าที่รักและเคารพทุกท่าน ครัวสมหญิง จะดำเนินปิดกิจการในวันจันทร์ที่ 4 กันยายน 2566 และจะเปิดให้บริการวันสุดท้ายวันที่ 3 กันยายน 2566 เท่านั้น

สาเหตุและเหตุผลที่จำเป็นต้องยุติการให้บริการมีดังนี้
- ความนิยมจากลูกค้าเริ่มลดน้อยลง
- ระบบเศรษฐกิจกระแสการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศ ลดลงเป็นจำนวนมาก
- มีคู่แข่งทางการค้ามากขึ้นหลายเท่าจากอดีต
- ผู้บริหาร มีเวลาเข้ามาดูแลในกิจการน้อยเนื่องจากประกอบธุรกิจอื่นด้วย
- พนักงานขาดความพร้อม รวมถึงการปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ทุกกิจการจะต้องปรับตัวและพัฒนาขีดความสามารถของตน

ในนามผู้บริหาร เราเสียใจและจำเป็นต้องยุติการให้บริการ ก่อนที่สถานการณ์จะทำให้กิจการถอยหลัง และภาพลักษณ์ของกิจการจะเสียหายหนัก ดังนั้นเราจึงขอยุติการให้บริการก่อนที่ทุกอย่างจะแก้ไขไม่ทัน ในส่วนของพนักงานจำนวนหนึ่ง เราได้ดำเนินการปรับย้ายพนักงานไปทำงานให้อีกบริษัทของเรา ในเครือของกิจการ “สมหญิง” แต่จะเป็นส่วนของ สินค้าแฟชั่นและเครื่องประดับที่เป็นที่นิยมใน Tiktok และแพลตฟอร์มอื่นๆ

ครัวสมหญิงจะยังอยู่ในใจของพวกเราเสมอ ทุกประสบการณ์ ทุกรสชาติ คือบทเรียน คือครู คือชีวิตอีกมุมมองของชาวร้านอาหาร ทุกความประทับใจ เราจะเก็บไว้ในความทรงจำ ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่าน ด้วยรักและเคารพเสมอมา

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ต่างมีชาวเน็ตเข้ามาเสียดาย และเสียใจเป็นอย่างมาก ที่ร้านบุฟเฟ่ต์อาหารทะเล ที่รสชาติอร่อย อีกทั้งยังบริการดีตองิดตัวลงอีกด้วย.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่