กระทู้นี้มีเจตนาในการเสนอความคิดเห็นและร่วมแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกัน ไม่ได้มีเจตนาก่อกวน หรือเสียดสีแต่อย่างใด
เนื่องจากทางสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ได้เปิดเผยรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลนาฏราช ครั้งที่ 14 เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยในกระทู้นี้ ขอพูดเพียงประเภทละครโทรทัศน์เท่านั้น
ในปีนี้ ประเภทของละครโทรทัศน์มีจำนวน 13 รางวัล ได้มีการบรรจุรางวัลทางด้านเบื้องหลังครบทั้ง 4 รางวัล คือ กำกับศิลป์ กำกับภาพ ลำดับภาพ และเครื่องแต่งกาย โดยในปีที่แล้วมีเพียงรางวัลลำดับภาพยอดเยี่ยม และในปีนี้ได้มีการตัดสาขารางวัลออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟิกยอดเยี่ยมออกไป ซึ่งก็ค่อนข้างที่จะน่าเสียดาย เพราะรางวัลทางด้านละครโทรทัศน์ของไทย มีเพียงนาฏราชเท่านั้นที่เห็นถึงความสำคัญของฝ่ายเบื้องหลัง
โดย นาฏราช การตัดสินจะมาจากเหล่า voter ที่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเกี่ยวกับสายงานละครโทรทัศน์ ซึ่งมีจำนวนกว่า 200 ท่าน โดยการเก็บรวบรวมคะแนน ตรวจนับคะแนนจาก 4 สถาบันหลัก คือ 1. คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ 2. คณะวารสารศาสตร์ มธ. 3. คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 4. คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โดยองค์กรกลางที่ทำหน้าที่เก็บรวบรวมคะแนนจาก voter คือ นิด้าโพล โดยการลงคะแนนรอบคัดเลือกเมื่อวันที่ 14-25 สิงหาคมที่ผ่านมา และรอบตัดสิน วันที่ 1-12 กันยายน
โดยภาพรวม ถือว่าปีนี้นาฏราชกลับมาคึกคักอีกครั้ง ช่องพี่ใหญ่อย่างช่อง 3 ก็กลับมาส่งประกวดทุกรางวัล และยังมีช่องอื่น ๆ มาร่วมสร้างสีสัน อาทิ ช่องวัน 31 / ThaiPBS / ช่อง 8 / GMM 25 / PPTV และอมรินทร์ทีวี ถือว่าคัมแบ็คหลังจากสถานการณ์โควิด แต่น่าเสียดายที่ไม่มีผลงานละครจากช่อง 7 ที่เข้าชิงรางวัลเลย ก็มีอยู่ 2 ทางนะคะ ช่องไม่ส่ง หรือส่งไปแล้วแต่คะแนนไม่ถึงก็แค่นั้น
เริ่มกันที่รางวัลแรก ละครยอดเยี่ยม ปีนี้เข้าชิง 5 เรื่องตามมาตรฐาน จากเจ้าพระยาสู่อิรวดี / คือเธอ / ลายกินรี / คุณชาย และใต้หล้า ผู้เข้าชิงก็ค่อนข้างโอเค ช้อยส์นี้ตัดลายกินรีออกไป เพราะรู้สึกว่ามันไม่ใช่ ยังมีบางส่วนที่ยังบกพร่อง 4 เรื่องที่เหลือถ้าดิฉันเป็นคณะกรรมการ ขอโหวตให้จากเจ้าพระยาสู่อิรวดี เพราะบทก็สนุก แถมยังมีเกร็ดประวัติศาสตร์แทรกเสริมไปอีกด้วย คิดว่าค่อนข้างที่จะโอเคในทุก ๆ ส่วน เป็นการเล่าเรื่องอยุธยา-เมียนมาร์ในมุมมองใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยเห็นในละครไทยเรื่องอื่น ๆ ถ้านาฏราชต้องการเสียงชื่นชมและลดเสียงสะท้อนออกมาว่าเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เรื่องนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ประกอบกับก่อนหน้านี้ก็คว้าละครแห่งปี จากไนน์เอ็นเตอร์เทนไปครองแล้วด้วย อาจจะมีสิทธิ์คว้าไปอีกสถาบันก็ได้ ส่วนตัวเลือกรองลงมา ขอให้คุณชายและใต้หล้าสูสีกัน แต่ขอให้คุณชายเฉือนนำนิดนึง ซึ่งคุณชายมีความเป็นพีเรียดที่ร่วมสมัยสูง จุดเด่นคือการเลือกนำเสนอประเด็นรักร่วมเพศ ซึ่งในสมัยนั้นคือมันเป็นเรื่องแปลก ถ้าละครทำออกมาไม่ดี ในบางมุมจะกลายเป็นการเหยียดเพศไปเลยในมุมมองของคนยุคนั้น แต่บทละครกลับนำเสนอออกมาได้ดี และค่อนข้างที่จะเฉลี่ยไปที่ประเด็นอื่น ๆ ด้วย ซึ่งน่าจะเป็นจุดแข็งของเรื่องนี้ที่น่าจะเกร็งคะแนนโหวตได้ค่อนข้างเยอะ ส่วนสุดท้ายเป็นคือเธอ ที่บทช่วงท้ายแอบมีแปลก ๆ อยู่ เลยอยู่ในลิสต์สุดท้ายไปถ้าเทียบกับเรื่องอื่น ๆ
ต่อที่รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม ปกติรางวัลละครยอดเยี่ยมกับผู้กำกับยอดเยี่ยมจะลิ้งค์กันอยู่แล้ว กล่าวคือเรื่องไหนได้ละครยอดเยี่ยมไป ก็จะพ่วงผู้กำกับยอดเยี่ยมไปด้วย แต่ประเด็นคือ จากเจ้าพระยาสู่อิรวดีไม่ได้อยู่ในช้อยส์รางวัลนี้ (ไม่ได้เข้าชิง) ก็จะต้องร่นไปในตัวเลือกถัด ๆ ไป นั่นก็คือ คุณชาย ที่ค่อนข้างจะโดดเด่นออกมาในปีที่แล้ว ซึ่งจะเฉือนกับใต้หล้านิดนึง แต่ในด้านการกำกับ คุณชาย เป็นเรื่องราวพีเรียด จึงมีจุดแข็งกว่า แต่สถิตินาฏราชครั้งก่อน ๆ ผู้กำกับที่สามารถคว้ารางวัลไปครองได้บ่อยที่สุดคือ พี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ คว้านาฏราชไปแล้ว 5 ตัว ซึ่งในครั้งนี้ก็มีชื่อเข้าชิงในสาขานี้เช่นกัน จากละคร ลายกินรี หากโหวตเตอร์นาฏราชจะลงคะแนนโดยไม่ได้สนหลักการใด ๆ เพียงแค่โหวตตามความชอบ ก็มีสิทธิ์ที่พี่อ๊อฟจะคว้านาฏราชตัวที่ 6 ไปครอง แต่ต้องยอมรับว่า ลายกินรีค่อนข้างที่จะผิดฟอร์มพี่อ๊อฟไป เอาง่าย ๆ คือ ไม่เหมาะสมนั่นแหละค่ะ และอีกเรื่องหนึ่งที่เข้าชิงในสาขานี้คือ คือเธอ จริง ๆ แล้วเรื่องนี้ ถ้าจะให้บอกว่าดี ก็ดีนะคะ แต่ยังรู้สึกว่ามันไม่สุด ช่วงท้าย ๆ ที่รู้สึกว่าละครค่อนข้างออกทะเล อาจเนื่องมาจากบท คือเอาตรง ๆ มันยังไม่เหมาะสมกับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจริง ๆ แต่ถ้าจะให้จัดอันดับ เรื่องนี้จะอยู่ถัดจากคุณชายและใต้หล้า (ในช้อยส์ทั้งหมด ไม่ได้ดูจังหวะชีวิตลิขิตฝัน จึงไม่ขอวิเคราะห์ใด ๆ)
รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ปีนี้เข้าชิงกันเพียง 4 ท่าน ก็ค่อนข้างงงกับสมาพันธ์เหมือนกันว่ามันยังไงกันแน่ จริง ๆ แล้วรายชื่อที่แต่ละช่องส่งไปมันต้องมีเยอะกว่านี้แน่นอน ตามมาตรฐานมันต้อง 5 รายชื่อนะคะ ทำไมไม่เอาเรียงลำดับคะแนน 1-5 ไปเลย หรือว่ามีคนโหวตกันแค่ 4 ท่านนี้หรือยังไง ? มาดูกันที่ช้อยส์ที่เข้าชิง เต็งปีนี้เลยต้องยกให้ ฟิล์ม ธนภัทร จาก คุณชาย คือจะพูดว่าเป็นมาสเตอร์พีชยังได้เลย คือฟิล์มแสดงได้แบบเก็บทุกเม็ดจริง ๆ ทั้งการแสดงท่าทาง กิริยา การพูดการจา รวมไปถึงอารมณ์ต่าง ๆ ที่มันเป็นจริตของคุณเทียนอ่ะค่ะ คือมันต้องคีพลุคของความเป็นคุณเทียนไว้ ความที่เป็นผู้ชายอ่อนโยน แนบเนียน จริตของ LGBT อ่ะค่ะ ยิ่งฉากไหนที่เป็นซีนดราม่า แสดงอารมณ์หนัก ๆ ถือว่าต้องแสดงไปอีกเป็นทับกัน 2 ชั้นอ่ะค่ะ คือขั้นที่เป็นลุคของคุณเทียน และขั้นที่มันเป็นอารมณ์นั้น ๆ ถือว่ายากนะคะสำหรับบทแบบนี้ ประกอบกับก่อนหน้านี้ก็คว้านำชายจากคมชัดลึกไปแล้วด้วย จึงมีสิทธิ์สูงมากที่จะคว้าจากนาฏราชไป ตัวเลือกถัดมายกให้ต่อ ธนภพ จะได้เปรียบตรงที่บทมันจะเห็นพัฒนาการได้ชัดในทุก ๆ ช่วงวัย ตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนมัธยม จนไปถึงนักธุรกิจ ประกอบกับซีนดราม่าต่าง ๆ ทั้งฉากพ่อแม่ตาย ฉากทะเลาะโวยวายอะไรก็แล้วแต่ แต่ด้วยความที่บทมันไม่ได้ซับซ้อนแบบคุณเทียน จึงให้คะแนนตามหลังมานิดนึง แต่ก็โอเคถ้าฟิล์มชวดแล้วต่อได้ ก็ไม่ค้านอะไร เพราะบทถือว่ายากทั้งคู่ แต่ต่างกันตรงที่ความซับซ้อนของบท ก็ต้องเดาใจเหล่าโหวตเตอร์นะคะ ว่าจะลงคะแนนให้คนใหม่เข้ามามีพื้นที่บ้างในสมาพันธ์ หรือจะลงคะแนนให้คนเก่าไป เพราะต่อ ธนภพ ก็เคยคว้านาฏราชมาแล้วถึง 3 ตัว ส่วนบทของมาริโอ้ จากคือเธอ ในลิสต์นี้ให้อยู่อันดับ 3 ถามว่าบทก้าวกล้าดีมั้ย ก็ดี มาริโอ้แสดงได้ดีมาก แต่ปีนี้เจอสายแข็งอย่างฟิล์มกับต่อไปก็จบ แต่ถ้าพลิกขึ้นมาเป็นมาริโอ้ได้ ก็ถือว่าเหมาะสม 3 คนนี้ได้ไปดีงามทุกราย ลำดับสุดท้ายคือ ณเดชน์ คูกิมิยะ จาก ลายกินรี แบร์รี่แสดงได้ดีตามมาตรฐานของตัวเอง แต่โดยภาพรวมของละครมันไม่ส่ง มันค่อนข้างที่จะแปลก ตัวแบร์รี่เองก็เลยจมลงไปด้วย ถือว่าเป็นอันดับสุดท้ายของลิสต์นี้
ต่อกันที่ฝ่ายหญิงกันบ้าง รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ปีนี้เข้าชิงครบ 5 ที่นั่งตามมาตรฐาน ปีนี้ถือว่าไม่มีใครโดดเด่นออกมาถ้าเทียบกับฝ่ายชาย รางวัลนี้ค่อนข้างที่จะตัดสินยากนิดนึง จากลิสต์ ยกให้ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ จาก คือเธอ บทนี้มันค่อนข้างที่จะแตกต่างจากบทก่อน ๆ ของญาญ่านะคะ คืออารมณ์มันไปสุด ดราม่าก็ดราม่า ทั้งหน่วงทั้งเจ็บ คือถ้าเทียบกับคนอื่น ๆ ในลิสต์ แสดงดี ละครดัง กระแสได้ เหมาะสมที่สุดแล้ว อีกคนหนึ่งที่อยากให้ได้เหมือนกัน คือ จอย ศิริลักษณ์ จาก บ่วงใบบุญ จริง ๆ บทนี้มันกึ่ง ๆ นำกับสมทบด้วยซ้ำอ่ะค่ะ แต่ถ้าตัดสินกันที่ฝีมือ การห่างหายจากการแสดงไปนานขนาดนี้ แต่กลับมายังแสดงได้เฉียบคม ก็ถือว่ามงลงได้นะคะ บทนี้เป็นบทใบ้ ไม่มีบทพูด ใช้การแสดงผ่านท่าทาง ผ่านสีหน้าแววตา ถือว่าเป็นมิติใหม่ของละครไทยนะคะ แล้วพี่จอยก็แสดงได้อย่างดีเยี่ยมมาก ๆ ทำให้เราเชื่อไปในทุก ๆ อารมณ์ที่ตัวละครนั้นสื่อออกมา แต่ด้วยความที่ละครมันออกอากาศช่อง 8 โอกาสที่จะได้รับรางวัลน้อยมาก แต่ได้ไปก็ไม่เสียหาย ส่วนต่อมาคือ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก จาก สิเน่หาส่าหรี ละครเรื่องนี้มีโอกาสได้ดูเพียงแค่ช่วงครึ่งแรก จึงไม่ได้รอบรู้ด้วยภาพรวมทั้งหมด เช่นเดียวกับใหม่ ดาวิกา จาก จังหวะหัวใจนายสะอาด จึงขออนุญาตตัดออกไปจากการวิเคราะห์นะคะ ต่อกันที่จีน่า ญีน่า จาก พิศวาสฆาตเกมส์ เรื่องนี้บทบาทถ้าให้เทียบกับอายุวัยของน้อง เรียกได้ว่าแสดงดีมาก ๆ พลังการแสดงทำให้ไม่เชื่อเลยว่าน้องพี่งผ่านละครมาแค่ไม่กี่เรื่อง ฉากดราม่าทำได้ดีมาก ๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเพชรเม็ดงามของวงการ แต่รุ่นพี่อย่างญาญ่าแสดงได้ดีกว่า จริง ๆ มันก็เท่า ๆ กันนั่นแหละค่ะ แต่ในวงกว้าง บทสายขิมมันดังกว่าแค่นั้น จีน่าเลยดูดร็อปไปเลยจากผู้เข้าชิงทั้งหมด ถือว่าเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์นะคะ เชื่อเลยว่า น้องต้องมีชื่อเข้าชิงอีกแน่ ๆ ในครั้งถัด ๆ ไป
มาต่อกันที่นักแสดงสมทบกันบ้างนะคะ เริ่มที่นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ปีนี้ก็ถือว่าเป็นอีกปีที่ดุเดือดมาก ๆ นะคะ ตัวเต็งที่เราคิดว่าน่าจะได้ไปคือ ใหม่ เจริญปุระ จาก สาปซ่อนรัก จริง ๆ พี่ใหม่ทำผลงานได้ดีมาก ๆ ในสถาบันก่อน ๆ คว้านำหญิงจากเรื่องเดียวกันมาแล้วถึง 2 สถาบันใหญ่ ๆ คือ คมชัดลึก และไนน์เอ็นเตอร์เทน แต่มานาฏราชหลุดมาสมทบ จึงคิดว่ามีสิทธิ์จะได้ไปสูงที่สุดจากช้อยส์ทั้งหมด แต่การแสดงเรื่องนี้ของพี่ใหม่ มันดู Over Acting ผิดกับบางฉากที่มันขาด ๆ หาย ๆ รักษาอารมณ์ได้ไม่ค่อยต่อเนื่องในเรื่องนี้ ผิดกับเรื่องก่อนหน้า (กรงกรรม) ที่แสดงได้อย่างพอดี ธรรมชาติ ไม่ขาดไม่เกิน ถ้าจะเป็นผลงานจากช่องเดียวกันในปีที่แล้วหรือในลิสต์นี้ เรายกให้ พี่อุ๋ม อาภาศิริ จาก คุณหมีปาฏิหาริย์ ที่แสดงได้แบบธรรมชาติ ดราม่าก็พอดี แต่มันรู้สึกเหมือนจุก ๆ อยู่ในใจ ยกให้เป็นอันดับหนึ่งในใจเลยค่ะ ต่อมาคือ คุณต่าย เพ็ญพักตร์ จาก จังหวะหัวใจนายสะอาด จริง ๆ พี่ต่ายก็เก็บแต้มมาได้ดี ก่อนหน้านี้ก็ได้สมทบจากโทรทัศน์ทองคำมา 1 ตัว แต่เราคิดว่านาฏราชน่าจะไม่ได้ พื้นฐานหลัก ๆ ของเวทีนี้คือ ผลงานต้องมีกระแสในสังคม จึงจะดึงฐานเสียงโหวตเตอร์ได้ เรื่องนี้ค่อนข้างที่จะเงียบนะคะ หรือว่าเราไม่ได้ดูจึงคิดไปแบบนั้น แต่เราคิดว่าอิมแพคมันยังไม่เพียงพอกับรางวัล ส่วนอีก 2 ท่าน คือ เจณิสตา กับคุณสิเรียม จาก เพลงบินใบงิ้ว และฟ้าทานตะวัน เราไม่ได้ดูเรื่องนี้ จึงขอตัดไปออกจากการวิเคราะห์นะคะ
ฝ่ายชายกันบ้าง จริง ๆ ปีนี้นอกสายตาเข้าชิงกันมาเยอะเลย แต่เราให้สู้กันแค่ 2 ท่าน คือไบร์ท นรภัทร กับคุณโอ อนุชิต จาก ใต้หล้า และบ่วงใบบุญ ถ้านาฏราชต้องการฉีก ต้องการความแปลกใหม่ ต้องยกให้โอ อนุชิต จาก บ่วงใบบุญ จริง ๆ บทนี้เป็นบทนำด้วยซ้ำในสายตาเรา แต่ถ้านาฏราชต้องการกระแส ต้องการการพูดถึง ก็ให้ไบร์ท นรภัทร จาก ใต้หล้า สำหรับการแสดงของทั้ง 2 ท่านก็เหมาะสมสำหรับรางวัลนะคะ ใครได้ไปก็ถือว่าไม่ขัด ส่วนอีก 3 ท่าน เดี่ยว สุริยนต์ จาก ซ่านเสน่หา จริง ๆ คือไม่ได้ดูเรื่องนี้ แต่ได้รับรู้ถึงกระแสเสียงชื่นชมในบทของพี่เดี่ยว จีงไม่ขอวิเคราะห์อะไรมากนะคะ ส่วนพี่แซม ยุรนันท์ จาก ฟ้าทานตะวัน ก็ไม่ได้ดูเหมือนกัน เช่นเดียวกับ มีน พีรวิชญ์ จาก เพชฌฆาตจันทร์เจ้า ถือว่าเป็นนอกสายตาสำหรับเราเลย นาฏราชกล้ามากที่เอามาเข้าชิง แต่เราคิดว่ามันยังไม่อิมแพ็คพอสำหรับรางวัล
วิเคราะห์ผลรางวัลนาฏราช ครั้งที่ 14
กระทู้นี้มีเจตนาในการเสนอความคิดเห็นและร่วมแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกัน ไม่ได้มีเจตนาก่อกวน หรือเสียดสีแต่อย่างใด
เนื่องจากทางสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ได้เปิดเผยรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลนาฏราช ครั้งที่ 14 เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยในกระทู้นี้ ขอพูดเพียงประเภทละครโทรทัศน์เท่านั้น
ในปีนี้ ประเภทของละครโทรทัศน์มีจำนวน 13 รางวัล ได้มีการบรรจุรางวัลทางด้านเบื้องหลังครบทั้ง 4 รางวัล คือ กำกับศิลป์ กำกับภาพ ลำดับภาพ และเครื่องแต่งกาย โดยในปีที่แล้วมีเพียงรางวัลลำดับภาพยอดเยี่ยม และในปีนี้ได้มีการตัดสาขารางวัลออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟิกยอดเยี่ยมออกไป ซึ่งก็ค่อนข้างที่จะน่าเสียดาย เพราะรางวัลทางด้านละครโทรทัศน์ของไทย มีเพียงนาฏราชเท่านั้นที่เห็นถึงความสำคัญของฝ่ายเบื้องหลัง
โดย นาฏราช การตัดสินจะมาจากเหล่า voter ที่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเกี่ยวกับสายงานละครโทรทัศน์ ซึ่งมีจำนวนกว่า 200 ท่าน โดยการเก็บรวบรวมคะแนน ตรวจนับคะแนนจาก 4 สถาบันหลัก คือ 1. คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ 2. คณะวารสารศาสตร์ มธ. 3. คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 4. คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โดยองค์กรกลางที่ทำหน้าที่เก็บรวบรวมคะแนนจาก voter คือ นิด้าโพล โดยการลงคะแนนรอบคัดเลือกเมื่อวันที่ 14-25 สิงหาคมที่ผ่านมา และรอบตัดสิน วันที่ 1-12 กันยายน
โดยภาพรวม ถือว่าปีนี้นาฏราชกลับมาคึกคักอีกครั้ง ช่องพี่ใหญ่อย่างช่อง 3 ก็กลับมาส่งประกวดทุกรางวัล และยังมีช่องอื่น ๆ มาร่วมสร้างสีสัน อาทิ ช่องวัน 31 / ThaiPBS / ช่อง 8 / GMM 25 / PPTV และอมรินทร์ทีวี ถือว่าคัมแบ็คหลังจากสถานการณ์โควิด แต่น่าเสียดายที่ไม่มีผลงานละครจากช่อง 7 ที่เข้าชิงรางวัลเลย ก็มีอยู่ 2 ทางนะคะ ช่องไม่ส่ง หรือส่งไปแล้วแต่คะแนนไม่ถึงก็แค่นั้น
เริ่มกันที่รางวัลแรก ละครยอดเยี่ยม ปีนี้เข้าชิง 5 เรื่องตามมาตรฐาน จากเจ้าพระยาสู่อิรวดี / คือเธอ / ลายกินรี / คุณชาย และใต้หล้า ผู้เข้าชิงก็ค่อนข้างโอเค ช้อยส์นี้ตัดลายกินรีออกไป เพราะรู้สึกว่ามันไม่ใช่ ยังมีบางส่วนที่ยังบกพร่อง 4 เรื่องที่เหลือถ้าดิฉันเป็นคณะกรรมการ ขอโหวตให้จากเจ้าพระยาสู่อิรวดี เพราะบทก็สนุก แถมยังมีเกร็ดประวัติศาสตร์แทรกเสริมไปอีกด้วย คิดว่าค่อนข้างที่จะโอเคในทุก ๆ ส่วน เป็นการเล่าเรื่องอยุธยา-เมียนมาร์ในมุมมองใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยเห็นในละครไทยเรื่องอื่น ๆ ถ้านาฏราชต้องการเสียงชื่นชมและลดเสียงสะท้อนออกมาว่าเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เรื่องนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ประกอบกับก่อนหน้านี้ก็คว้าละครแห่งปี จากไนน์เอ็นเตอร์เทนไปครองแล้วด้วย อาจจะมีสิทธิ์คว้าไปอีกสถาบันก็ได้ ส่วนตัวเลือกรองลงมา ขอให้คุณชายและใต้หล้าสูสีกัน แต่ขอให้คุณชายเฉือนนำนิดนึง ซึ่งคุณชายมีความเป็นพีเรียดที่ร่วมสมัยสูง จุดเด่นคือการเลือกนำเสนอประเด็นรักร่วมเพศ ซึ่งในสมัยนั้นคือมันเป็นเรื่องแปลก ถ้าละครทำออกมาไม่ดี ในบางมุมจะกลายเป็นการเหยียดเพศไปเลยในมุมมองของคนยุคนั้น แต่บทละครกลับนำเสนอออกมาได้ดี และค่อนข้างที่จะเฉลี่ยไปที่ประเด็นอื่น ๆ ด้วย ซึ่งน่าจะเป็นจุดแข็งของเรื่องนี้ที่น่าจะเกร็งคะแนนโหวตได้ค่อนข้างเยอะ ส่วนสุดท้ายเป็นคือเธอ ที่บทช่วงท้ายแอบมีแปลก ๆ อยู่ เลยอยู่ในลิสต์สุดท้ายไปถ้าเทียบกับเรื่องอื่น ๆ
ต่อที่รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม ปกติรางวัลละครยอดเยี่ยมกับผู้กำกับยอดเยี่ยมจะลิ้งค์กันอยู่แล้ว กล่าวคือเรื่องไหนได้ละครยอดเยี่ยมไป ก็จะพ่วงผู้กำกับยอดเยี่ยมไปด้วย แต่ประเด็นคือ จากเจ้าพระยาสู่อิรวดีไม่ได้อยู่ในช้อยส์รางวัลนี้ (ไม่ได้เข้าชิง) ก็จะต้องร่นไปในตัวเลือกถัด ๆ ไป นั่นก็คือ คุณชาย ที่ค่อนข้างจะโดดเด่นออกมาในปีที่แล้ว ซึ่งจะเฉือนกับใต้หล้านิดนึง แต่ในด้านการกำกับ คุณชาย เป็นเรื่องราวพีเรียด จึงมีจุดแข็งกว่า แต่สถิตินาฏราชครั้งก่อน ๆ ผู้กำกับที่สามารถคว้ารางวัลไปครองได้บ่อยที่สุดคือ พี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ คว้านาฏราชไปแล้ว 5 ตัว ซึ่งในครั้งนี้ก็มีชื่อเข้าชิงในสาขานี้เช่นกัน จากละคร ลายกินรี หากโหวตเตอร์นาฏราชจะลงคะแนนโดยไม่ได้สนหลักการใด ๆ เพียงแค่โหวตตามความชอบ ก็มีสิทธิ์ที่พี่อ๊อฟจะคว้านาฏราชตัวที่ 6 ไปครอง แต่ต้องยอมรับว่า ลายกินรีค่อนข้างที่จะผิดฟอร์มพี่อ๊อฟไป เอาง่าย ๆ คือ ไม่เหมาะสมนั่นแหละค่ะ และอีกเรื่องหนึ่งที่เข้าชิงในสาขานี้คือ คือเธอ จริง ๆ แล้วเรื่องนี้ ถ้าจะให้บอกว่าดี ก็ดีนะคะ แต่ยังรู้สึกว่ามันไม่สุด ช่วงท้าย ๆ ที่รู้สึกว่าละครค่อนข้างออกทะเล อาจเนื่องมาจากบท คือเอาตรง ๆ มันยังไม่เหมาะสมกับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจริง ๆ แต่ถ้าจะให้จัดอันดับ เรื่องนี้จะอยู่ถัดจากคุณชายและใต้หล้า (ในช้อยส์ทั้งหมด ไม่ได้ดูจังหวะชีวิตลิขิตฝัน จึงไม่ขอวิเคราะห์ใด ๆ)
รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ปีนี้เข้าชิงกันเพียง 4 ท่าน ก็ค่อนข้างงงกับสมาพันธ์เหมือนกันว่ามันยังไงกันแน่ จริง ๆ แล้วรายชื่อที่แต่ละช่องส่งไปมันต้องมีเยอะกว่านี้แน่นอน ตามมาตรฐานมันต้อง 5 รายชื่อนะคะ ทำไมไม่เอาเรียงลำดับคะแนน 1-5 ไปเลย หรือว่ามีคนโหวตกันแค่ 4 ท่านนี้หรือยังไง ? มาดูกันที่ช้อยส์ที่เข้าชิง เต็งปีนี้เลยต้องยกให้ ฟิล์ม ธนภัทร จาก คุณชาย คือจะพูดว่าเป็นมาสเตอร์พีชยังได้เลย คือฟิล์มแสดงได้แบบเก็บทุกเม็ดจริง ๆ ทั้งการแสดงท่าทาง กิริยา การพูดการจา รวมไปถึงอารมณ์ต่าง ๆ ที่มันเป็นจริตของคุณเทียนอ่ะค่ะ คือมันต้องคีพลุคของความเป็นคุณเทียนไว้ ความที่เป็นผู้ชายอ่อนโยน แนบเนียน จริตของ LGBT อ่ะค่ะ ยิ่งฉากไหนที่เป็นซีนดราม่า แสดงอารมณ์หนัก ๆ ถือว่าต้องแสดงไปอีกเป็นทับกัน 2 ชั้นอ่ะค่ะ คือขั้นที่เป็นลุคของคุณเทียน และขั้นที่มันเป็นอารมณ์นั้น ๆ ถือว่ายากนะคะสำหรับบทแบบนี้ ประกอบกับก่อนหน้านี้ก็คว้านำชายจากคมชัดลึกไปแล้วด้วย จึงมีสิทธิ์สูงมากที่จะคว้าจากนาฏราชไป ตัวเลือกถัดมายกให้ต่อ ธนภพ จะได้เปรียบตรงที่บทมันจะเห็นพัฒนาการได้ชัดในทุก ๆ ช่วงวัย ตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนมัธยม จนไปถึงนักธุรกิจ ประกอบกับซีนดราม่าต่าง ๆ ทั้งฉากพ่อแม่ตาย ฉากทะเลาะโวยวายอะไรก็แล้วแต่ แต่ด้วยความที่บทมันไม่ได้ซับซ้อนแบบคุณเทียน จึงให้คะแนนตามหลังมานิดนึง แต่ก็โอเคถ้าฟิล์มชวดแล้วต่อได้ ก็ไม่ค้านอะไร เพราะบทถือว่ายากทั้งคู่ แต่ต่างกันตรงที่ความซับซ้อนของบท ก็ต้องเดาใจเหล่าโหวตเตอร์นะคะ ว่าจะลงคะแนนให้คนใหม่เข้ามามีพื้นที่บ้างในสมาพันธ์ หรือจะลงคะแนนให้คนเก่าไป เพราะต่อ ธนภพ ก็เคยคว้านาฏราชมาแล้วถึง 3 ตัว ส่วนบทของมาริโอ้ จากคือเธอ ในลิสต์นี้ให้อยู่อันดับ 3 ถามว่าบทก้าวกล้าดีมั้ย ก็ดี มาริโอ้แสดงได้ดีมาก แต่ปีนี้เจอสายแข็งอย่างฟิล์มกับต่อไปก็จบ แต่ถ้าพลิกขึ้นมาเป็นมาริโอ้ได้ ก็ถือว่าเหมาะสม 3 คนนี้ได้ไปดีงามทุกราย ลำดับสุดท้ายคือ ณเดชน์ คูกิมิยะ จาก ลายกินรี แบร์รี่แสดงได้ดีตามมาตรฐานของตัวเอง แต่โดยภาพรวมของละครมันไม่ส่ง มันค่อนข้างที่จะแปลก ตัวแบร์รี่เองก็เลยจมลงไปด้วย ถือว่าเป็นอันดับสุดท้ายของลิสต์นี้
ต่อกันที่ฝ่ายหญิงกันบ้าง รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ปีนี้เข้าชิงครบ 5 ที่นั่งตามมาตรฐาน ปีนี้ถือว่าไม่มีใครโดดเด่นออกมาถ้าเทียบกับฝ่ายชาย รางวัลนี้ค่อนข้างที่จะตัดสินยากนิดนึง จากลิสต์ ยกให้ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ จาก คือเธอ บทนี้มันค่อนข้างที่จะแตกต่างจากบทก่อน ๆ ของญาญ่านะคะ คืออารมณ์มันไปสุด ดราม่าก็ดราม่า ทั้งหน่วงทั้งเจ็บ คือถ้าเทียบกับคนอื่น ๆ ในลิสต์ แสดงดี ละครดัง กระแสได้ เหมาะสมที่สุดแล้ว อีกคนหนึ่งที่อยากให้ได้เหมือนกัน คือ จอย ศิริลักษณ์ จาก บ่วงใบบุญ จริง ๆ บทนี้มันกึ่ง ๆ นำกับสมทบด้วยซ้ำอ่ะค่ะ แต่ถ้าตัดสินกันที่ฝีมือ การห่างหายจากการแสดงไปนานขนาดนี้ แต่กลับมายังแสดงได้เฉียบคม ก็ถือว่ามงลงได้นะคะ บทนี้เป็นบทใบ้ ไม่มีบทพูด ใช้การแสดงผ่านท่าทาง ผ่านสีหน้าแววตา ถือว่าเป็นมิติใหม่ของละครไทยนะคะ แล้วพี่จอยก็แสดงได้อย่างดีเยี่ยมมาก ๆ ทำให้เราเชื่อไปในทุก ๆ อารมณ์ที่ตัวละครนั้นสื่อออกมา แต่ด้วยความที่ละครมันออกอากาศช่อง 8 โอกาสที่จะได้รับรางวัลน้อยมาก แต่ได้ไปก็ไม่เสียหาย ส่วนต่อมาคือ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก จาก สิเน่หาส่าหรี ละครเรื่องนี้มีโอกาสได้ดูเพียงแค่ช่วงครึ่งแรก จึงไม่ได้รอบรู้ด้วยภาพรวมทั้งหมด เช่นเดียวกับใหม่ ดาวิกา จาก จังหวะหัวใจนายสะอาด จึงขออนุญาตตัดออกไปจากการวิเคราะห์นะคะ ต่อกันที่จีน่า ญีน่า จาก พิศวาสฆาตเกมส์ เรื่องนี้บทบาทถ้าให้เทียบกับอายุวัยของน้อง เรียกได้ว่าแสดงดีมาก ๆ พลังการแสดงทำให้ไม่เชื่อเลยว่าน้องพี่งผ่านละครมาแค่ไม่กี่เรื่อง ฉากดราม่าทำได้ดีมาก ๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเพชรเม็ดงามของวงการ แต่รุ่นพี่อย่างญาญ่าแสดงได้ดีกว่า จริง ๆ มันก็เท่า ๆ กันนั่นแหละค่ะ แต่ในวงกว้าง บทสายขิมมันดังกว่าแค่นั้น จีน่าเลยดูดร็อปไปเลยจากผู้เข้าชิงทั้งหมด ถือว่าเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์นะคะ เชื่อเลยว่า น้องต้องมีชื่อเข้าชิงอีกแน่ ๆ ในครั้งถัด ๆ ไป
มาต่อกันที่นักแสดงสมทบกันบ้างนะคะ เริ่มที่นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ปีนี้ก็ถือว่าเป็นอีกปีที่ดุเดือดมาก ๆ นะคะ ตัวเต็งที่เราคิดว่าน่าจะได้ไปคือ ใหม่ เจริญปุระ จาก สาปซ่อนรัก จริง ๆ พี่ใหม่ทำผลงานได้ดีมาก ๆ ในสถาบันก่อน ๆ คว้านำหญิงจากเรื่องเดียวกันมาแล้วถึง 2 สถาบันใหญ่ ๆ คือ คมชัดลึก และไนน์เอ็นเตอร์เทน แต่มานาฏราชหลุดมาสมทบ จึงคิดว่ามีสิทธิ์จะได้ไปสูงที่สุดจากช้อยส์ทั้งหมด แต่การแสดงเรื่องนี้ของพี่ใหม่ มันดู Over Acting ผิดกับบางฉากที่มันขาด ๆ หาย ๆ รักษาอารมณ์ได้ไม่ค่อยต่อเนื่องในเรื่องนี้ ผิดกับเรื่องก่อนหน้า (กรงกรรม) ที่แสดงได้อย่างพอดี ธรรมชาติ ไม่ขาดไม่เกิน ถ้าจะเป็นผลงานจากช่องเดียวกันในปีที่แล้วหรือในลิสต์นี้ เรายกให้ พี่อุ๋ม อาภาศิริ จาก คุณหมีปาฏิหาริย์ ที่แสดงได้แบบธรรมชาติ ดราม่าก็พอดี แต่มันรู้สึกเหมือนจุก ๆ อยู่ในใจ ยกให้เป็นอันดับหนึ่งในใจเลยค่ะ ต่อมาคือ คุณต่าย เพ็ญพักตร์ จาก จังหวะหัวใจนายสะอาด จริง ๆ พี่ต่ายก็เก็บแต้มมาได้ดี ก่อนหน้านี้ก็ได้สมทบจากโทรทัศน์ทองคำมา 1 ตัว แต่เราคิดว่านาฏราชน่าจะไม่ได้ พื้นฐานหลัก ๆ ของเวทีนี้คือ ผลงานต้องมีกระแสในสังคม จึงจะดึงฐานเสียงโหวตเตอร์ได้ เรื่องนี้ค่อนข้างที่จะเงียบนะคะ หรือว่าเราไม่ได้ดูจึงคิดไปแบบนั้น แต่เราคิดว่าอิมแพคมันยังไม่เพียงพอกับรางวัล ส่วนอีก 2 ท่าน คือ เจณิสตา กับคุณสิเรียม จาก เพลงบินใบงิ้ว และฟ้าทานตะวัน เราไม่ได้ดูเรื่องนี้ จึงขอตัดไปออกจากการวิเคราะห์นะคะ
ฝ่ายชายกันบ้าง จริง ๆ ปีนี้นอกสายตาเข้าชิงกันมาเยอะเลย แต่เราให้สู้กันแค่ 2 ท่าน คือไบร์ท นรภัทร กับคุณโอ อนุชิต จาก ใต้หล้า และบ่วงใบบุญ ถ้านาฏราชต้องการฉีก ต้องการความแปลกใหม่ ต้องยกให้โอ อนุชิต จาก บ่วงใบบุญ จริง ๆ บทนี้เป็นบทนำด้วยซ้ำในสายตาเรา แต่ถ้านาฏราชต้องการกระแส ต้องการการพูดถึง ก็ให้ไบร์ท นรภัทร จาก ใต้หล้า สำหรับการแสดงของทั้ง 2 ท่านก็เหมาะสมสำหรับรางวัลนะคะ ใครได้ไปก็ถือว่าไม่ขัด ส่วนอีก 3 ท่าน เดี่ยว สุริยนต์ จาก ซ่านเสน่หา จริง ๆ คือไม่ได้ดูเรื่องนี้ แต่ได้รับรู้ถึงกระแสเสียงชื่นชมในบทของพี่เดี่ยว จีงไม่ขอวิเคราะห์อะไรมากนะคะ ส่วนพี่แซม ยุรนันท์ จาก ฟ้าทานตะวัน ก็ไม่ได้ดูเหมือนกัน เช่นเดียวกับ มีน พีรวิชญ์ จาก เพชฌฆาตจันทร์เจ้า ถือว่าเป็นนอกสายตาสำหรับเราเลย นาฏราชกล้ามากที่เอามาเข้าชิง แต่เราคิดว่ามันยังไม่อิมแพ็คพอสำหรับรางวัล