รัฐประหารในประเทศ กาบอง? วังวนชะตากรรมของแอฟริกา.


กลายเป็นประเทศล่าสุดในทวีปแอฟริกาที่เกิดการรัฐประหารโดยกองทัพ ต่อจากไนเจอร์ ที่เพิ่งเกิดการรัฐประหารยึดอำนาจมาสดๆ ร้อนๆ
แกนนำทหารก่อรัฐประหารกาบอง ยกเหตุผลยึดอำนาจ เพื่อต้องการล้มผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี หลัง 'อาลี บองโก' คว้าชัย จะได้ประธานาธิบดีกาบองสมัยที่ 3 อีกทั้งต้องการตัดตอนการสืบทอดอำนาจของตระกูลบองโกที่ปกครองกาบองมายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ
การก่อรัฐประหารในกาบอง จากการยึดอำนาจของกองทัพ นับเป็นครั้งที่ 8 ในทวีปแอฟริกา ช่วงระยะเวลาเพียง 3 ปีเท่านั้น แม้จะเกิดเสียงประณามตามมาจากชาติตะวันตกและสหภาพแอฟริกาก็ตาม
‘สาธารณรัฐกาบอง’ ประเทศที่ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันตกของทวีปแอฟริกา กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก เมื่อมีกลุ่มทหารก่อรัฐประหาร ยึดอำนาจ ล้มผลเลือกตั้งประธานาธิบดี และจับกุมประธานาธิบดีอาลี บองโก ออนดิมบา หรือรู้จักในชื่อเรียกสั้นๆ ว่า ‘อาลี บองโก’ วัย 64 ปี ไว้ในบ้านพักที่กรุงลีเบรอวิล เมืองหลวงทำให้ กาบอง กลายเป็นประเทศล่าสุดในทวีปแอฟริกาที่เกิดรัฐประหาร ต่อจาก ‘ไนเจอร์’ ซึ่งเพิ่งเกิดรัฐประหารโค่นอำนาจประธานาธิบดีโมฮาเหม็ด บาซูมไปเมื่อปลายเดือน ก.ค. 2566 
ก่อ "รัฐประหาร" ล้มผลการเลือกตั้ง ปธน.

ชาวกาบองต้องเผชิญกับการเกิดรัฐประหารในประเทศอีกครั้ง โดยคณะนายทหารระดับสูงที่กุมกองทัพ ได้ประกาศยึดอำนาจผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ เมื่อ 30 ส.ค. 2566 ล้มผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเพียงประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศว่าประธานาธิบดีอาลี บองโก คว้าชัยเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกครั้ง เมื่อวันเสาร์ที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา
กกต.กาบองประกาศว่า ประธานาธิบดีอาลี บองโก ได้คะแนนเสียง ถึง 2 ใน 3 หรือ 64.27% ของจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ทำให้ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 3 ในขณะที่นายอัลเบิร์ต ออนโด ออสซา คู่แข่งชิงประธานาธิบดีคนสำคัญจากพรรคฝ่ายค้าน ได้คะแนนเสียง 30.77%

หลังคณะทหารกาบองออกมาประกาศล้มผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งล่าสุดในกาบอง ให้เป็น ‘โมฆะ’ แล้ว ยังประกาศ ‘ยุบสถาบันทั้งหมดของประเทศ ยุบหน่วยงานรัฐบาล รวมทั้งยุบรัฐสภา ทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา และจะปิดพรมแดนกาบอง จนกว่าจะมีการประกาศยกเลิก ก่อนต่อมา ได้มีการประกาศเคอร์ฟิว อนุญาตให้ประชาชนมีเสรีภาพ ออกมานอกบ้านได้ ในเวลา 06.00-18.00 น. เท่านั้น

หนึ่งในทหารระดับสูงของกาบอง 12 นาย กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ กาบอง 24 ถึงเหตุผลในการก่อรัฐประหารยึดอำนาจ ว่าเพื่อต้องการล้มผลการเลือกตั้ง และต้องการยุติการสืบทอดอำนาจของตระกูลบองโกที่ดำเนินมายาวนานนับ 55 ปี
เพราะกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ประชาชนในประเทศกาบอง ต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองของตระกูลบองโกมาตั้งแต่ปี 2510 จนตระกูลบองโก ถือเป็นหนึ่งในตระกูลที่สืบทอดอำนาจปกครองประเทศยาวนานมากที่สุดในทวีปแอฟริกาเลยทีเดียว 
ประธานาธิบดีอาลี บองโก ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีกาบองครั้งแรก ตั้งแต่ปี 2552 สืบต่อจาก นายโอมาร์ บองโก ผู้เป็นบิดา ที่เสียชีวิต หลังปกครองประเทศกาบองมายาวนานถึง 41 ปี โดยนายโอมาร์ บองโก เป็นประธานาธิบดีคนที่สองของประเทศกาบอง มาตั้งแต่ปี 2510 เพียง 7 ปี หลังจากกาบองได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส 
วังวนการเกิดรัฐประหารในแอฟริกา

กาบอง เป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะน้ำมันและโกโก้ แต่ประชากรกว่า 2 ใน 3 จมอยู่กับความยากจน ไม่แตกต่างจากหลายประเทศในทวีปแอฟริกา
หากการก่อรัฐประหารในกาบองครั้งนี้ประสบความสำเร็จ จะทำให้เป็นการเกิดรัฐประหาร ครั้งที่ 8 ในภูมิภาคตะวันตกและตอนกลางของแอฟริกา ในช่วงเวลาเพียง 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2563 ต่อจากการเกิดรัฐประหารในประเทศมาลี กินี บูร์กินาฟาโซ ชาด และไนเจอร์
ASB รายงานว่า กาบองซึ่งตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสมาจนถึงปี 2503 แต่มีประธานาธิบดีเพียง 3 คนเท่านั้น โดยในยุคของอดีตประธานาธิบดีโอมาร์ บองโกนั้น มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับฝรั่งเศส อดีตเจ้าอาณานิคม และได้รับการสนับสนุนทางการเมืองและการเงิน เพื่อแลกกับความได้เปรียบทางธุรกิจ 
แต่เมื่อมาถึงสมัยที่ นายอาลี บองโก บุตรชายของโอมาร์ บองโกขึ้นเป็นประธานาธิบดีกาบองตั้งแต่ปี 2552 สายสัมพันธ์กับฝรั่งเศสไม่แนบแน่นเหมือนสมัยรุ่นพ่อ และทางการฝรั่งเศสได้เริ่มสืบสวนการทุจริตคอร์รัปชันเกี่ยวกับทรัพย์สินของตระกูลบองโก

สำหรับปฏิกิริยาของชาวกาบองส่วนใหญ่แล้ว ไม่ได้คัดค้านอะไรต่อการก่อรัฐประหารในครั้งนี้ กลับพากันออกมาฉลองแสดงความยินดีที่อาลี บองโก สิ้นอำนาจ แม้บรรดาชาติตะวันตกและแอฟริกาจะออกมาประณามการก่อรัฐประหารก็ตาม

ที่มา :CNN, Aljazeera, BBC
ผู้เขียน : อรัญญา ศรีจันทรนิตย์
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่