HBO GO / มีเสียงไทย
มี end credit ด้วยนะ
**บทความนี้มีสปอยล์**
แบร์รี่ อัลเลน หรือ เดอะแฟรช หนุ่มฮีโร่สุดยอดนักวิ่งความเร็วแสง เขาได้หาวิธีย้อนเวลากลับไปช่วยแม่ของตัวเองไม่ให้พบเจอกับความตาย
โดยรวมของหนังเรื่องนี้จากจักรวาล DC ดูสนุกดีครับ ดำเนินเรื่องที่รวดเร็ว ตัวละครเดอะ แฟรช เป็นตัวละครที่มีเสน่ห์ มุขตลกทำออกมาได้กวนโอ๊ย ตลกธรรมชาติ ฉากต่อสู้อยู่ในระดับที่บันเทิง พร้อมแก่นสารที่ผมชอบมาก “บางครั้งปัญหามันก็ไม่สามารถแก้ไขได้เราต้องยอมรับมัน”
หรือ “สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตเราก็ควรปล่อยวางและเดินหน้าต่อไป”
นอกจากความสนุก และ มุขตลกที่หยอดเข้ามา กับ ขายความเท่ของแบทแมน ที่ คีตัน กลับมารับบทอีกครั้ง
จุดที่ผมชอบจริงๆ คือพาร์ทดราม่าของตัวละครเดอะ แฟรช เด็กคนนึงที่อยากจะช่วยแม่ อยากจะแก้ไขสถานการณ์ต่างๆให้มันดีขึ้น
แต่ยิ่งทำยิ่งพังกว่าเดิม จนสุดท้ายก็ต้องยอมรับความจริง เป็นส่วนที่พัฒนาความคิดตัวละครจนรัก แบร์รี่ มากขึ้น
มาถึงในส่วนที่คนที่ดูแล้วน่าจะคิดเหมือนผมแน่ๆ CG ที่มันแบบอิหยังวะ ทำไมมัน….ได้ขนาดนี้ เปรียบง่ายๆ เหมือนภาพในเครื่องเกม playstation 2
หรือ งานวิชวลในยุค 2000 ครับ และข่าวบอกว่ามันเป็นความตั้งใจของทีมงาน แต่ผมก็ไม่ชอบจริงๆ 555+
และ บทของซุปเปอร์เกิร์ล ที่ไม่ค่อยมีไรให้น่าจดจำและจืดกว่าที่คิด
แม้ว่ากระแส หนังฮีโร่ ในตอนนี้จะแผ่วลงอย่างมาก กับผมที่ไม่ค่อยได้ตามจักรวาลนี้เท่าไหร่
แต่ the flash ก็เป็นหนังที่ให้ความบันเทิง ดูคลายเครียดได้ดี คนที่ไม่ได้ตามจักรวาล DC ก็ดูรู้เรื่องได้
สำหรับบทความนี้ก็เป็นเพียงแค่ความรู้สึกของผมเท่านั้น...
รีวิวหนัง : The Flash (2023) ชายผู้มีความสามารถที่วิ่งด้วยความเร็วแสง