JJNY : ยกฟ้องคดีม.112 ‘ปีเตอร์’│'วิโรจน์'สงสัย 'ชลน่าน'ลาออก│“สยามกีฬา”อำลาแผงสิ้นเดือน│ปูติน ไม่เข้าร่วมฝังศพ พริโกซิน

ศาลอุดรฯ ยกฟ้องคดีม.112 ‘ปีเตอร์’ วิจารณ์ตั้งยศให้ 'ฟูฟู'- งบสถาบันฯ ไม่ได้ระบุชัดถึงกษัตริย์องค์ใด
https://prachatai.com/journal/2023/08/105681
 
 
ศาลอุดรธานีพิพากษายกฟ้องคดี “ปีเตอร์” ในข้อหาม.112 จากการวิจารณ์การตั้งยศให้สุนัขทรงเลี้ยง “ฟูฟู” และวิจารณ์เรื่องงบสถาบันกษัตริย์ ศาลเห็นว่าเนื้อหาไม่ได้ทำให้คนฟังเข้าใจได้ทันทีว่าหมิ่นกษัตริย์องค์ใดและข้อมูลเรื่องงบสถาบันก็มีการเผยแพร่ทั่วไปบนอินเตอร์เนต
 
29 ส.ค.2566 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่าวันนี้ศาลจังหวัดอุดรธานีมีคำพิพากษาในคดีของ “ปีเตอร์” พ่อค้าออนไลน์วัย 29 ปี ที่ถูกฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากการปราศรัยวิจารณณ์การพระราชทานยศทหารให้กับสุนัขทรงเลี้ยง “ฟูฟู” และงบสถาบันกษัตริย์ระหว่างการชุมนุมเมื่อ 22 ต.ค.2563
 
ศูนย์ทนายความฯ ระบุว่าศาลมีคำพิพากษายกฟ้องปีเตอร์โดยให้เหตุผลว่าข้อมูลงบประมาณสถาบันกษัตริย์ที่จำเลยนำมาปราศรัยเป็นข้อมูลที่ปรากฏโดยทั่วไปในอินเตอร์เนตและเป็นเรื่องที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์
 
ศาลระบุถึงประเด็นเรื่องสุนัขทรงเลี้ยงว่าการที่จำเลยพูดปราศรัยในเรื่องนี้โดยเปรียบเทียบกับว่าข้าราชการที่ทำงานมานานไม่ได้มียศเท่าพลอากาศเอกฟูฟูและเรียกร้องให้สถาบันกษัตริย์เลิกแต่งตั้งยศให้สุนัขทรงเลี้ยงนั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้ประชาชนทั่วไปที่ได้ฟังทราบได้โดยชัดเจนว่า จำเลยหมิ่นประมาทจำเลยหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นพระมหากษัตริย์พระองค์ใดพระองค์หนึ่งเป็นการเฉพาะ เพราะประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้ติดตามข่าวสารการเมืองการปกครองก็อาจจะไม่ทราบว่า พลอากาศเอกฟูฟูหมายถึงใคร และเป็นสุนัขทรงเลี้ยงของใคร หากต้องการทราบก็จำต้องค้นหาข้อมูลในภายหลัง
 
ศาลยังเห็นว่าความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์นั้น คำว่า หมิ่นประมาท หมายถึง การใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม ดูหมิ่น คือ การด้อยค่า สบประมาท ทั้งนี้ จะต้องระบุถึงตัวบุคคลผู้ถูกใส่ความหรือถูกดูหมิ่นว่าเป็นใคร หรือต้องได้ความว่าหมายถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
 
การปราศรัยของปีเตอร์ไม่ได้ทำให้ประชาชนทราบได้ทันทีว่าหมายถึงผู้ใดอีกทั้งพยานตำรวจสืบสวนก็ไม่สามารถระบุได้ว่าถ้อยคำใดในคำปราศรัยเป็นการดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาทกษัตริย์องค์ปัจจุบัน และพยานตำรวจยังตอบคำถามทนายจำเลยว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ หมายความรวมถึง พระมหากษัตริย์ พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ซึ่งมีเป็นจำนวนหลายพระองค์ พยานหลักฐานของฝ่ายโจทก์จึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำตามข้อกล่าวหาให้ยกฟ้อง
 
อย่างไรในรายงานของศูนย์ทนายความฯ ระบุว่าก่อนที่ศาลจะอ่านคำพิพากษาศาลแจ้งว่าคดีนี้มีความเห็นแย้งในสำนวนด้วย
 
คดีนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อ 22 ต.ค. 2563 กลุ่ม “อุดรพอกันที” ร่วมกับนักเรียนกลุ่ม “อุดรพิทย์ไม่ยอมเป็นทาส” และ “RN ปฏิวัติ” จัดชุมนุม #กฐินราษฎร์ตลาดหลวง บริเวณอนุสาวรีย์กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม เพื่อสนับสนุน 3 ข้อเรียกร้องของคณะราษฎร รวมทั้งเรียกร้องให้ปล่อยคนที่ถูกจับและยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยมีนักกิจกรรมและประชาชนขึ้นปราศรัยแสดงความเห็นหลายคน โดยมีปีเตอร์ร่วมปราศรัยในวันนั้นด้วยและยังมีนักกิจกรรมกลุ่ม “ราษฎร” อีก 2 ราย ได้แก่ “ครูใหญ่” อรรถพล บัวพัฒน์ และ “จัสติน” ชูเกียรติ แสงวงค์ ถูกดำเนินคดีมาตรา 116 จากการปราศรัยเช่นเดียวกันแต่ขณะนี้คดียังอยู่ระหว่างการสืบพยาน


 
'วิโรจน์' สงสัย ยังมีคนสนใจข่าว 'ชลน่าน' ลาออกอีกหรือ ชี้ไม่ได้ออกแบบตัวเปล่าเล่าเปลือย
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7840346

‘วิโรจน์’ สงสัย ยังมีคนสนใจข่าว ‘ชลน่าน’ ลาออกอีกหรือ ชี้ไม่ได้ออกแบบตัวเปล่าเล่าเปลือยเพื่อเสียสละ แต่ออกไปได้นั่งรมต. คงมีคนอยากออกเยอะ
 
เมื่อวันที่ 30 ส.ค.66 ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เตรียมลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคว่าเป็นการรับผิดชอบที่ไปจับมือกับพรรค 2 ป. หรือไม่

นายวิโรจน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของนพ.ชลน่าน แต่ยังมีคนสนใจข่าวนี้อยู่อีกหรือ คิดว่าการประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคแล้วก็ไปเป็นรัฐมนตรี ส่วนตัวมองข้ามช็อตไปแล้ว
 
เมื่อถามว่าการลาออก นพ.ชลน่านจะช่วยลดแรงเสียดทานที่พรรคเพื่อไทยโดนโจมตีได้หรือไม่ นายวิโรจน์ ย้อนว่า นักข่าวถามก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นการเพิ่มหรือลดแรงเสียดทาน เพราะไม่ใช่การลาออกไปตัวเปล่าเล่าเปลือย
 
ถ้าลาออกแบบนี้ ก็คงมีคนอยากลาออกเยอะแยะไปหมด เพราะคำว่าลาออกในมุมมองของประชาชนคือการแสดงความรับผิดชอบ แต่การลาออกลักษณะนี้เหมือนลาออกไปรับตำแหน่งที่ใหญ่โตขึ้น ให้คุ้มกับสิ่งที่ตนเองได้ทำ” นายวิโรจน์ กล่าว


 
ช็อกวงการสื่อ! “สยามกีฬา” อำลาแผงหนังสือสิ้นเดือนนี้
https://www.dailynews.co.th/news/2669665/

ปิดตำนาน! นสพ.สยามกีฬาและในเครือ วางขายบนแผงถึงแค่สิ้นเดือนนี้เท่านั้น

ปรัชญา วรรณวิจิตร อดีตผู้สื่อข่าวฟุตบอลสยาม ปัจจุบันทำฝ่ายดิจิทัล ทีวี โพสต์ในเฟซบุ๊ก ปรัชญา วรรณวิจิตร (ชุ ปรัชญา) ประกาศข่าวช็อกวงการสื่อสิ่งพิมพ์ระบุว่า นสพ.สยามกีฬา กำลังจะปิดตัวอำลาแผง ใจความระบุว่า...

บันทึกไว้เป็นความทรงจำ

หนังสือพิมพ์สยามกีฬา และหนังสือพิมพ์ในเครือ อำลาแผงสิ้นเดือนนี้ 31 ส.ค. 66 มุ่งหน้า ออนไลน์ เต็มกำลัง

.. (อย่าไปกลัวอะไรในโลกนี้ มาแล้วก็ไป ให้กลัวพระเจ้าเท่านั้นพอ / ผู้รู้บอก) วัลลอฮุอะอฺลัม God’s Plan”.

นับเป็นข่าวช็อกวงการสิ่งพิมพ์ สยามกีฬารายวัน เป็นหนังสือพิมพ์ที่รายงานเฉพาะข่าวกีฬาและผลการแข่งขันกีฬา ฉบับแรกของประเทศไทย และมียอดจำหน่ายสูงที่สุดในประเทศไทยด้วย วางจำหน่ายฉบับปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2528
 
มีรายงานข่าวระบุว่า บริษัทแจ้งพนักงานถึงการตัดสินใจนี้เมื่อวันศุกร์-เสาร์ ที่ผ่านมา ส่วนบทบาทหน้าที่การทำงานลำดับต่อไป ยังไม่แจ้งชัดเจน.

https://www.facebook.com/chukassf/posts/pfbid02EoijYnXzdbepvgv14UVQhac653Ra5RjR3TeQ9k3DXYx2WHovvcMWmvV6GT6KBqVnl
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่