ไปยังไงต่อดีกับชีวิตหลังแต่งงาน

เรื่องราวเริ่มต้น ผมกับแฟน คนนั้เราเคยคบกันเมื่อตอนสมัยเรียน แล้วก็เลิกกันไป และกลับมาคบกันอีกครั้งในช่วงชีวิตการทำงาน
คบกันได้ประมาณ 5- 6 เดือนเธอก็มีปัญหาที่ต้องออกจากงานเพราะเคลียด กับหัวหน้า พอลาออกก็มีปัญหากับแม่ตัวเองเพราะเธอตัดสินใจลาออกและแม่ไม่พอใจ จนเธอไปอยู่กลับยาย พอไปอยู่ได้สักพัก ผมก็ไปๆๆมาๆ จนวันนึงยายเขาบอกให้แต่งงานกัน จะได้อยู่ด้วยกัน ผมเองก็ไม่ได้ปฏิเสทเพราะรักและสงสาร แต่ในใจก็คิดว่า เรายังไม่ได้เรียกรู้กันมากพอที่จะแต่งงานกันแต่ก็ไม่เป็นไร ค่อยเรียนรู้ระหว่างทาง พอจะแต่งงานกัน แม่แฟนก็ไม่พอใจเพราะมันเร็วไปยายเขาก็ไปคุยจนได้แต่งงาน

พอแต่งงานกันแล้ง เธอกับแม่ก็มีปัญหากันหนักกว่าเดิม ไม่คุยกันไม่พูดกัน  ผมก็ได้แต่ปลอบใจว่าไม่เป็นไร เดียวมันก็ดีขึ้น จนวันนึงเธอเคลียดสะสมและการเป็นไบโพล่า ผมก็ดูแลเธอมาคลอดแต่ก็ยังคงมีปัญหากับแม่เขามาตลอด พอเธอรักษาตัวดีขึ้นสักพัก ก็ขอให้เธอลองสู้กลับไปทำงาน เธอก็ไม่ทำอยากทำออนไลน์ ผมก็ยอมพอทำไม่ผมก็ต้องบอกให้เธอพอและกลับไปหางานทำปกติ เพราะตอนนี้ค่าใช้จ่ายมันไม่เหมือนเดิม ให้เธอลองกัดฟันสู้อีกครั้ง แต่เธอก็พูดบ่อยๆกับผมว่า ไหนว่าเลี้ยงได้ ทำไมต้องให้ทำงาน    ผมก็ได้เงียบไปๆ แต่ก็พยยามพักดันให้เธอหางาน ก็จนเธอได้งาน ผมก็เลยออกจากบ้านตัวเองไปอยู้บ้า่นเทอ เพราะเธอขอว่าถ้าได้งานจะกลับมาอยู่บ้าน  

พอกลับมาอยู่บ้านที่มีกันแค่สองคน ก็เริ่มมีปัญหากันเพราะทำอะไรด้วยกันก็ทะเลาะ และส่วนใหญ่เธอไม่สามารถติดสินใจอะไรได้ทำอะไรก็ต้องคอยเรียกให้ไปช่วยทุกเรื่อง ง่ายๆเลยคือทำไรไม่เป็น ผมก็พยายามยอมรับ  ก็เป็นอยู่แบบนี้ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน จนแม่ของเธอกลับมาอยู่ด้วย มันกลับทำให่ผมรู้สึกอึดอัดเพราะไม่สามารถทำอะไรได้ แม่เธอสั่งให้ผมกับแฟนขึ้นไปนอนข้างบน (บ้านมีสองหลังทาวเฮ้าติดกันเทะลุหากันได้ หลังที่ผมอยู่มีกันแค่สองคน) 
ทั้งๆที่ข้างล่างก็นอนได้ ไล่ให้ไปนอนข้าบบนซึ่งมันร้อนมากไม่ได้ติดแอร์ ผมก็ทำใจ พอมาเรื่องงานครัว ก็บ่นผมนั้นนี้ ผมปลูกอะไรก็เอาทิ้งหมด ผมเดลยคุยกับแฟน แฟนก็บอกให้ทำใจนั้นแม่เขา ก็ทนๆอยู่กันไป ผมเลยบอกว่างั้นขอซื้อรถเพื่อที่จะได้ไม่ต้องอยู้บ้า่นจะได้ออกไปเที่ยว แต่ก็ต้องลดความคิดลงเพราะไม่สามารถจอดในบ้านได้แม่เขาไม่ให้จอดทั้งๆที่มีที่จอดรถ ได้สบายสองคัน  ก็ช่างมัน สุดท้ายก็เลือกออกไปอยู่ข้างนอกซื้อบ้านใหม่ ผมเป็นคนผ่อนคนเดียวไม่ได้กู้ร่วม ก็เหมือนจะไปด้วยดีแต่พอจะย้ายเข้ามาจริงก็มีปัญหา แม่เขาไม่พอใจที่ลูกจะย้ายออกเพราะไม่มีคนอยู่บ้านดูตา เพราะเขายากออกไปไหนบ้าง ก็มีปัญหากันแต่ก็ปล่อยผ่าน จนวันจะย้ายเข้ามาอยู่ก็เร่งรีบไล่ ผมออกมา ทั้งๆที่บ้านยังไม่เสร็จ ผมก็โอเคร ออกมาก็ออกมา

พอออกมาแล้ว ใช้ชีวิตสองคน ก็เจอปํญหา
ทะเลาะกันแทบทุกครั้วที่ทำไรร่วมกันหรือผมขอให้เธอทำอะไรก็จะต้องให้ผมไปช่วยทุกเรื่องไม่ว่า่เล็กหรือไม่  ผมก็เปิดใจเธอคุยกันตรงๆว่า ผมเองก็คาดหวังอยากให้เธอสามารถตัดสินใจทำไรด้วยตัวเองได้บ้าง  เธอก็ตอบกลับมา นี้มันนิสัยของเขา ทำไมต้องมาเปลี่ยน  บางครั้งก็ประชดให้หาเมียใหม่  ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง หากถามเรารักกันไหมก็รักนะแต่ช่วงหลังมันดิ่ง ไม่มีความสุข เข้าใจว่าทะเลาะกันมันก็ดีกันแต่มันไม่ได้หายไปมันก็สะสมอยู่ในหัว ตอนนี้ก็แต่งงานกันมา ได้ 2-3 ปีแล้ว ก็มีปัญหากันตั้งแต่ก่อนแต่งและหลังแต่งเรื่อยมา

ผมก็ไม่รู้ปัญหานี้เพราะแฟนหรือแม่แฟน หรือมันเป็นสิ่งที่สะสมมาตลอด ตอนนี้ผมไม่มีความสุขเลยในชีวิตหลังจากแต่งงาน มีปัญหาตลอด

ผมก็ได้แต่นั่งทบทวนว่าผมควรแก้ไขหรือยังไง หรือต้องยอมรับแบบนี้ไปตลอด ตัวผมเองก็ไม่มีใคร ไม่มีเพื่อนที่จะปรึกษาเพราะต่างคนต่างแยกย้ายหลังจากเรียนจบ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่