เหตุเกิดมาจากเมื่อวันที่21 ช่วง5-6โมงเย็น แฟนผมได้มีอาการปวดที่ตาจนไม่สามารถทำงานได้เลยขอให้ผมให้ไปรับไปส่งโรงบาลแต่เนื่องจากโรงบาล(พระนั่งเกล้า)ที่มีสิทธิประกันสังคมมันอยู่ไกลเเละเห็นว่าเวลานี้หมอน่าจะเลิกงานแล้วคิดว่าจะไม่ได้รักษาได้ทันทีเลยไปที่โรงบาล(กรุงไทยแถวปากเกร็ด)ไกล้กว่าหวังว่าจะรักษาโดยทันทีแต่ไปถึงหมอเฉพาะทางไม่อยู่ได้แค่วินิฉัยและออกใบนัดให้พร้อมทั้งใบสั่งยาที่หมอวินิฉัย และผมก้อโดนไป1491บาท(ค่ายา+วินิจฉัย ) ราคานี้เข้าใจได้นะครับเพราะโรงบาลน่าจะเป็นโรงบาลเอกชนซึ่งเห็นว่าโรงบาลนี่ดีนะรวดเร็วดีไม่ต้องรอนานเลยเเจ้งย้ายสิทธิประกันสังคมมาโรงบาลรักษาที่นี่แต่ประเด็นก้ออยู่ตรงที่ประกันสังคมนี้แล่ะคือได้ใบเสร็จพร้อมทั้งใบรับรองแพทย์มาแล้ว วันต่อมาได้ไปที่สำนักงานประกันสังคม(แถวบางบัวทอง)เพื่อจะไปเบิกค่ารักษาพยาบาลก้อทำเบิกปกติแต่พนักงานได้ตรวจพบว่าได้มีการเเจ้งย้ายจากพระนั่งเกล้าไปกรุงไทยเมื่อวานนี้เเละได้ถามมาว่าทำไมย้ายกลับไปกลับมา ประมาณว่า จากเดิมอยู่กรุงไทย และวันที่15ย้าย มาพระนั่งเกล้า และก้อวันนี้ย้ายมากรุงไทยอันนี้ของเเแฟนผมก้อไม่เข้าใจหรอก คือประเด็นผมมาเบิกค่ารักษา พนักงานเลยให้ใบกรอกใบรับรองจากเเพทย์มาผมก้อไปขอ จากบางบัวทองไปปากเกล็ด ไม่ไกล้เลยแต่ก้อไป เพื่ออยากได้เงินคืน พอไปเซ็นมาเรียบร้อย ขี่กลับมา พูดกับผมสั้นๆว่า กรณีนี้เบิกไม่ได้นะคะเนื่องจากไม่ใช่กรณีฉุกเฉิน แพทย์ก้อไม่ได้ติ๊กว่าไม่ฉุกเฉินเบิกไม่ได้ค่ะ คำถามในใจคือ ต้องฉุกเฉินหรอถึงจะเบิกได้ ไม่ใช่เบิกได้เลยหรอ และจะจ่ายประกันสังคมไว้ทำไม ถ้าฉุกเฉินโรงพยาบาลรัฐเขาก้อช่วยอยู่แล้วไม่ได้เสียเงิน แล้วจะทำทำไมประกันสังคม ถ้ารู้ว่าไม่ฉุกเฉินเเล้วเบิกไม่ได้ผมก้อไม่เข้า ผมไปโรงบาลรัฐดีกว่า ยอมว่าไม่รู้ ถ้ารู้ผมไม่ไป กรณีนี้ไม่โทษโรงพยาบาลนะครับมันเป็นสิทธิที่ผมจะเข้าเพราะคิดว่ามันเบิกได้ 1พันกว่าบาทแต่ละคนค่าไม่เท่ากัน คำพูดง่ายๆของพนักงานประกันสังคมทำให้ผมคิดเลยว่าผมไม่ทำประกันสังคมอีกเลยเพราะทำแล้วไม่ช่วยอะไรเลย
ประกันสังคมจำเป็นเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ต้องเป็นกรณีฉุกเฉินเท่านั้นจริงหรือ