ดอยห้วยทู่ 2023 | ไปด้วยกันจนสุดทางก่อน จึงจะรู้ว่าสวยงามหรือไม่


Location : ดอยห้วยทู่ จังหวัดตาก
ความสูง : 1,384 เมตร
ระยะทางรวม : 10.3 กิโลเมตร
ระยะเวลา (ของเรา) : ขึ้น 6.5 ชั่วโมง ลง 4 ชั่วโมง
ความยาก (ความรู้สึกเรา) : 3 เต็ม 5

          "เป็นคนจำพวกชอบพาตัวเองไปลำบาก แล้วเรียกมันว่าการพักผ่อน" ยังคงหาทำ หาไป กันต่อไป ครั้งนี้พวกเราปักหมุดไปที่อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก ซึ่งมีหลายดอยให้เราเลือกเดิน มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้จิ้มหลายเส้น ทริปนี้จิ้มสุ่มได้ 'ดอยห้วยทู่'

          ดอยห้วยทู่ หรือ ดอยทู่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของหมู่บ้านลีชอ หรือบ้านลีซอ (ถามชาวบ้านมาชาวบ้านบอกว่าเรียกได้ทั้งสองแบบจะเรียกอะไรก็เรียก) ตำบลทุ่งกระเชาะ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก ปัจจุบัน เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางศึกษาธรรมชาติได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากกรมอุทยาน ความสูงของยอดอยู่ที่ 1,384 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง ระยะทางจากจุดเริ่มเดินไปจนถึงยอด อยู่ที่ 5.2 กิโลเมตร ไป-กลับ ก็ 10 กิโลกว่า ๆ ความที่เดินไม่ยากจนเกินไป และวิวค่อนข้างสวยตลอดทาง ทำให้ที่นี่ได้รับความสนใจจากนักเดินทางทั่วสารทิศ เดินทางมาพิชิตมัน พวกเราก็คือหนึ่งในนั้น


Day 0 | 11 August 2023
20.30 น. นั่งรถทัวร์ กรุงเทพ - เชียงใหม่ ลงที่ บขส. ตาก
Day 1 | 12 August 2023
02.50 น. ถึง บขส. ตาก แปรงฟันสักหน่อย
03.00 น. เหมารถไปคุ้มป๋าต๋อง (นัดล่วงหน้า)
03.20 น. แวะตลาด ซื้ออาหารไปทำกินบนเขา
03.40 น. ถึงคุ้ม หาที่หลับพักผ่อน
06.00 น. อาบน้ำ กินข้าวเช้า และเตรียมตัวออกเดินทาง
09.00 น. นั่งรถจากคุ้ม ไปยังจุดเริ่มเดิน
10.00 น. พบคนนำทาง และชั่งน้ำหนักสัมภาระส่วนกลาง อาหาร น้ำดื่ม ที่มอบหมายให้ลูกหาบแบก ถ่ายรูป
10.30 น. เริ่มเดิน
Day 2 | 13 August 2023
07.00 น. กินมื้อเช้า
09.00 น. เดินขึ้นยอด
10.00 น. เริ่มเดินลง
13.40 น. ถึงจุดเริ่มเดิน เคลียร์สัมภาระ จ่ายเงินลูกหาบและคนนำทาง รวมถึงช้อปปิ้งกระเป๋าของชาวม้งด้วย
14.20 น. ถึงคุ้มป๋าต๋อง กินมื้อกลางวัน อาบน้ำ จัดของ นอนพัก
17.30 น. ออกเดินทางไป บขส.
18.00 น. หาหมูกระทะกิน
20.20 น. เดินทางกลับ กทม.
จบทริป


1. ค่ารถทัวร์ ไปกลับ กรุงเทพฯ - บขส. ตาก คนละ 901.-
2. ค่าบริการคุ้มป๋าต๋อง อาหาร 3 มื้อ รวมถึงค่าบริการพื้นที่พักผ่อนและห้องน้ำ คนละ 450.-
3. ค่าเหมารถ รับส่ง บขส. ตาก - คุ้มป๋าต๋อง คนละ 225.- (1,800.-)
4. ค่าเหมารถ 4×4 รับส่ง คุ้มป๋าต๋อง - หมู่บ้านลีชอ  คนละ 189. (1,700.-)
5. ค่าลูกหาบกองกลาง กิโลกรัมละ 65 บาท 25 กิโลกรัม คนละ 181.-
6. ค่าคนนำทาง คนละ 156.- (กลุ่มละ 1,400.-)
7. ค่าน้ำดื่มและอาหารกองกลาง มื้อเย็น Day 1 และมื้อเช้า Day 2 คนละ 88.- (795.-)
รวมทั้งสิ้น คนละ 2,190.- บาท


"มีความไม่แน่ใจในทางที่เลือกเดินไปตลอดเวลา
แต่พอได้มองคนที่เดินไปด้วยกัน
ก็รู้สึกสบายใจขึ้น
และลืมความกังวลนั้นไป"

          ทุ่มครึ่ง ตามเวลานัดหมาย ณ สถานีขนส่งผู้โดยสายกรุงเทพ (จตุจักร) หรือเรียกติดปากกันว่า หมอชิต หมอชิต นั่นแหละ กว่าจะมาถึงได้ ก็หดขาหดแขนอยู่นานพอสมควร การอยู่บนถนนของกรุงเทพมหานคร ในคืนวันศุกร์ที่ติดกับวันหยุดยาว สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ถาวรอย่างเรา อาจเรียกมันว่า 'โชคร้าย' แต่กับอีกหลายชีวิตในเมืองใหญ่นี้ มันคือ 'ความลำบาก' นอกจากคำว่า "สู้ ๆ นะ" เราก็นึกคำที่ดีกว่านี้ไม่ออกแล้ว "สู้ ๆ นะ"

          พวกเราถึง บขส. ตาก 02.50 น. งัวเงียพอสมควร ลงรถ รับกระเป๋า เข้าห้องน้ำ แปรงฟันสักหน่อย รอรถมารับ และออกเดินทางกันต่อ รถที่มารับพวกเราคือรถที่ดีลไว้กับคุ้มป๋าต๋อง ปลากระป๋องดี ๆ นี่เอง แล้วจะเปิดแฟลชทำไมค้าบ

ก่อนจะถึงคุ้ม แวะซื้อของสด ไว้สำหรับปรุงอาหารบนเขาไว้กินกันสองมื้อ คือมื้อเย็น Day 1 และมื้อเช้า Day 2 เราได้เป็น เนื้อหมูสามชั้นจากซีเจ เพราะในตลาดเขียงหมูปิดเนื่องจากเป็นวันแม่แห่งชาติ มะนาว ปลากระป๋อง ผักกาดกระป๋อง เครื่องต้มยำ กะหล่ำปลี และเครื่องปรุงรสต่าง ๆ นิดหน่อย
ถึงแล้วก็ตัวใครตัวมัน หาที่นอนต่อกันสักหน่อยจ้า
เช้าแล้วก็ทยอยอาบน้ำให้สดชื่น แยกสัมภาระเอาแค่ที่จำเป็น กินมื้อเช้า มื้อเช้าที่คุ้มป๋าต๋องจัดให้จะเป็นบุฟเฟ่ต์ขนาดย่อม ๆ มีให้เลือกว่าจะข้าวผัด หรือข้าวต้ม มีไข่ดาว แฮม ไส้กรอก ส่วนเครื่องดื่มจะมีน้ำเปล่า น้ำหวาน น้ำอัดลม ชา กาแฟ โอวัลติน มีน้ำแข็งให้พร้อม พวกเราสามารถบริการตัวเองกันได้เลย
เตรียมตัวออกเดินทางได้ ฉันพร้อมจะไปแล้วนะเพื่อน (แผ่นเสียงในติ่กต่อกลอยมาเลยใช่ไหมล่า
จากคุ้มป๋าต๋อง รถของชาวบ้านกำลังพาเราไปยังจุดเริ่มต้นเดินเท้า ระยะทาง 20 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที วิวระหว่างนั่งรถมีทั้งบ้านเรือนน้อยใหญ่ ร้านค้าชุมชน สลับกับทุ่งนาและทิวเขาตลอดทาง
จากที่นั่งรถชมวิวกันชิว ๆ ได้สักพัก พวกเราก็มาถึงจุดนัดหมาย ที่หมู่บ้านมีลูกหาบและคนนำทางรอต้อนรับอยู่แล้ว เนื่องจากมีพี่ในทีมขี่มอเตอร์ไซค์มาเองจากรุงเทพฯ พวกเราจึงออกจากคุ้มป๋าต๋องสายหน่อย พวกเรามาถึงที่นี่เป็นกลุ่มสุดท้าย แต่ก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร เดินชิว ๆ เดินเรื่อย ๆ เมื่อยก็พัก เมื่อถึงพวกเราช่วยกันจัดแจงสัมภาระ เอาของกองกลางขึ้นชั่ง และส่งให้ลูกหาบดูแลต่อ ก่อนจะเริ่มเดินก็ขอเก็บภาพตอนที่สภาพยังดีไว้สักหน่อยละกาน
รูปครบทีมค่า

เราเริ่มเดินกันจริง ๆ ก็ 10.30 น. พอดีเด๊ะ อากาศร้อนแต่ร้อนแค่ช่วงแรก ๆ ช่วงต้นของการเดินกิโลเมตรแรก เป็นเนินเขา ชาวบ้านใช้ทำไร่ปลูกข้าวโพดบ้าง กะหล่ำปลีบ้าง พืชผักอื่น ๆ อีกนิด ๆ หน่อย ช่วงนี้จะเห็นวิวแบบไม่เขียวขจี ภูเขาหัวโล้น ๆ หน่อย เนินชันพอสมควรเล่นเอาหอบได้เหมือนกัน
พ้นจากภูเขาหัวโล้นแล้ว ก็เริ่มก้าวเข้าสู่ความเป็นป่ามากขึ้น ทางจะไล่ระดับความชันขึ้นไปเรื่อย ๆ มองไปมีแต่ความเขียวของต้นไม้หลากหลายชนิด มีลำธารเล็ก ๆ เสียงน้ำสดชื่น ผ่านดงกล้วยป่า เราเดินไปพักไปอยู่สักพักหนึ่ง อากาศค่อนข้างดี ไม่ร้อน ไม่หนาว และฝนไม่ตก สดชื่นกำลังพอดีเลย
ได้ลองชิมขนุนป่าด้วย คือรูปร่างได้ความเป็นขนุนก็จริง แต่รสชาติไม่ใกล้เคียงกับขนุนที่รู้จักเลย เปรี้ยว ๆ หวาน ๆ แต่เปรี้ยวนำนะ มีกลิ่นหอม คล้ายมะม่วงมากกว่า

เมื่อเดินพ้นป่าดงพงไพรออกมาแล้ว เป็นบริเวณเนินทุ่งหญ้าสูง ๆ มีทิวเขาให้มองแบบสบายตาสุด ๆ เราเดินถึงจุดนี้ประมาณเที่ยงครึ่ง เป็นเวลาที่ดี และบรรยากาศก็เหมาะจะนั่งพักกินข้าวกันตรงนี้เลย
หลังจากที่เราใช้เวลาฟิน ๆ ตรงนี้ประมาณ 20 นาที ก็เริ่มเดินกันต่อ ทางเดินของช่วงนี้จะเป็นเนินเขา บางทีเดินเลาะตามเนินเขา บางคราวต้องเดินข้ามเขาลูกแล้วลูกเล่า ขึ้นบ้างลงบ้าง สลับกันไปตามลักษณะของภูมิประเทศ วิวช่วงนี้สวยมาก มองออกไปเห็นภูเขาซ้อนกันไกล ๆ ขยับสายตามาโฟกัสใกล้ ๆ หน่อยก็จะพบกับต้นหญ้าไหวเอนตามกระแสลม อากาศจัดว่าดีมาก ไม่มีแดด ฝนไม่ตก แต่เมฆเริ่มก่อตัวค่อนข้างหนาเลยทีเดียว เดินสูดอากาศกันฟิน ๆ เหนื่อยขนาดไหนก็สู้ไหวแน่นอน
มองทางไหนก็สดชื่น หมอกเริ่มเยอะแล้ว
ก้อนหินใหญ่ข้างทาง ลงไปยืนหน่อยดีกว่า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่