ตั้งแต่จำความได้ ก็ รู้ตัวเองมาตลอดว่า ที่บ้านไม่ใช่ครอบครัวที่ ร่ำรวย ไม่ใช่ครอบครัวที่ มีพร้อมในทุกๆอย่าง
รู้ตัวเองมาเสมอ ว่าครอบครัวเรา ค่อนข้างจะลำบาก
1.วัยประถม
ก็ เหมือนเด็กทั่วๆไป ผมเป็นเด็กที่ สนุกสนาน และชอบฟังเรื่องตลกอยู่เสมอ ผมชอบอ่านการ์ตูนตลกและชอบที่จะสนุกกับเพื่อนๆที่โรงเรียนเหมือนเด็กในวัยนั้นทั่วๆไป ถึงแม้จะมีบางอย่างที่แตกต่างจากเพื่อนไปบ้างก็ตาม เช่น
1.1ค่าเทอม
เราจะเป็นคนสุดท้ายเสมอ ที่จ่ายและบางที่ อาจจะจ่ายช้าข้ามเทอมด้วย
1.2 อาหารกลางวัน
เราจะได้เงินไป10-20บาท เพื่อไว้กินขนมและน้ำหวาน แต่ที่บ้านจะห่อข้าวใส่ปิ่นโตไปให้ทานมื้อกลางวัน กับข้าวหลักๆก็จะเป็น ไข่ทอด ส่วนถ้าวันไหน แม่ค้าที่ขาย พวกลูกชิ้น หมูยอ ไส้กรอก มาขายที่บ้าน โดยเป็นการ เอาอาหารมาก่อน แล้วอีก1-2เดือนค่อยไปจ่ายเขา ช่วง1-2เดือนนั้น ผมก็จะมี ของพวกนี้ห่อข้าวเป็นมื้อกลางวันไปทาน🤗
หรือบางช่วง ที่ แถวบ้านเขาจับปลาได้ รึว่า หน้าฝน อึ่งออก ผมก็จะมี เมนูแปลกๆ ไปทานมื้อกลางวันเสมอ
1.3 รถรับส่ง
จะมารับหน้าบ้านและส่งกลับหน้าบ้าน
ก็เหมือนเดิมครับ เรื่องค่ารถรับส่ง บางที ต้องของเขาค้างไว้ก่อน อาจจะ2-3เดือน แล้วค่อยจ่าย
*แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกเลยว่า เรา น้อยใจ รึ ว่าไม่พร้อมกว่าคนอื่นๆ ยังคงเป็นเด็กคนนึ่งที่ สนุกสนานไปตามวัย แต่ก็อาจจะมีเล็กๆน้อยๆ เวลาเพื่อนในตัวเมืองเขา มีของเล่นใหม่ๆกัน แต่เพื่อนๆก็ดีมาก บางทีก็ให้ของเล่นยืมกลับบ้านด้วย😁
1.4 จักรยาน
ผมปั่นจักรยานเป็นตอน ป.6 เพราะว่า ที่บ้านถ้าจะซื้อจักรยาน มันเป็นเรื่องไกลตัวมาก เปรียบเทียบง่ายๆก็คือ ถ้ามีเงิน100บาท ที่บ้านผม สามารถ ซื้อ หมู3ชั้นไว้ทำกับข้าวได้ครึ่งกิโลเพื่อกับข้าว2-3มื้อ และ เหลือเงินไว้ให้พ่อเติมน้ำมันรถเพื่อไปทำงาน แล้วยังเหลือ เงินค่าขนม สำหรับผมให้ไปกินที่โรงเรียนด้วย
เพราะราคาจักรยานสมัยนั้นค่อนข้างสูง พ่อจะพูดเสมอว่า รอขับมอไซด์ทีเดียวเลย เพราะ ที่บ้านเรา มี มอไซด์ ที่พ่อใช้สำหรับขับไปทำงาน1คัน
ผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้ จนช่วงป.6 มีร้านขายจักรยานมือ2มาเปิดใหม่ ห่างจากบ้าน5-8กิโมเมตร
พ่อเลยชวนผมเข้าไปสอบถามทางร้านว่า ราคาอย่างไร เขาขาย800บาท แบบไม่มีเกียร์ จึงขอเขาจ่ายครึ่งนึ่งก่อน เลยได้ จักรยานสีม่วง มา1คัน
ผม ซ้อนท้ายมอไซด์พ่อ แล้วเอา จักรยานวางตรงกลางที่นั่ง จับมาตลอดทางจนถึงบ้าน ใครจะไปคิดว่า จักรยานคันนี้แหล่ะ..จะสามารถ เปิดโลกอีกใบของผมเลย จากที่ เราไม่เคยไปในที่ไกลๆด้วยตัวเองเพียงลำพังได้ ผมก็ สามารถปั่นจักรยานที่เพิ่งหัดขับเป็นได้.......กว่าที่ผมจะมีจักรยานคันแรกในชีวิต ตอนนั้น เพื่อนๆ ก็ ขับมอไซด์ มาโรงเรียนกันแล้วครับ😅
เดี๋ยวมาต่อให้นะครับ🙏
ชีวิต ในวัยเด็ก เมื่อฉันมองย้อนไปเมื่อฉันอายุ33ปี
รู้ตัวเองมาเสมอ ว่าครอบครัวเรา ค่อนข้างจะลำบาก
1.วัยประถม
ก็ เหมือนเด็กทั่วๆไป ผมเป็นเด็กที่ สนุกสนาน และชอบฟังเรื่องตลกอยู่เสมอ ผมชอบอ่านการ์ตูนตลกและชอบที่จะสนุกกับเพื่อนๆที่โรงเรียนเหมือนเด็กในวัยนั้นทั่วๆไป ถึงแม้จะมีบางอย่างที่แตกต่างจากเพื่อนไปบ้างก็ตาม เช่น
1.1ค่าเทอม
เราจะเป็นคนสุดท้ายเสมอ ที่จ่ายและบางที่ อาจจะจ่ายช้าข้ามเทอมด้วย
1.2 อาหารกลางวัน
เราจะได้เงินไป10-20บาท เพื่อไว้กินขนมและน้ำหวาน แต่ที่บ้านจะห่อข้าวใส่ปิ่นโตไปให้ทานมื้อกลางวัน กับข้าวหลักๆก็จะเป็น ไข่ทอด ส่วนถ้าวันไหน แม่ค้าที่ขาย พวกลูกชิ้น หมูยอ ไส้กรอก มาขายที่บ้าน โดยเป็นการ เอาอาหารมาก่อน แล้วอีก1-2เดือนค่อยไปจ่ายเขา ช่วง1-2เดือนนั้น ผมก็จะมี ของพวกนี้ห่อข้าวเป็นมื้อกลางวันไปทาน🤗
หรือบางช่วง ที่ แถวบ้านเขาจับปลาได้ รึว่า หน้าฝน อึ่งออก ผมก็จะมี เมนูแปลกๆ ไปทานมื้อกลางวันเสมอ
1.3 รถรับส่ง
จะมารับหน้าบ้านและส่งกลับหน้าบ้าน
ก็เหมือนเดิมครับ เรื่องค่ารถรับส่ง บางที ต้องของเขาค้างไว้ก่อน อาจจะ2-3เดือน แล้วค่อยจ่าย
*แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกเลยว่า เรา น้อยใจ รึ ว่าไม่พร้อมกว่าคนอื่นๆ ยังคงเป็นเด็กคนนึ่งที่ สนุกสนานไปตามวัย แต่ก็อาจจะมีเล็กๆน้อยๆ เวลาเพื่อนในตัวเมืองเขา มีของเล่นใหม่ๆกัน แต่เพื่อนๆก็ดีมาก บางทีก็ให้ของเล่นยืมกลับบ้านด้วย😁
1.4 จักรยาน
ผมปั่นจักรยานเป็นตอน ป.6 เพราะว่า ที่บ้านถ้าจะซื้อจักรยาน มันเป็นเรื่องไกลตัวมาก เปรียบเทียบง่ายๆก็คือ ถ้ามีเงิน100บาท ที่บ้านผม สามารถ ซื้อ หมู3ชั้นไว้ทำกับข้าวได้ครึ่งกิโลเพื่อกับข้าว2-3มื้อ และ เหลือเงินไว้ให้พ่อเติมน้ำมันรถเพื่อไปทำงาน แล้วยังเหลือ เงินค่าขนม สำหรับผมให้ไปกินที่โรงเรียนด้วย
เพราะราคาจักรยานสมัยนั้นค่อนข้างสูง พ่อจะพูดเสมอว่า รอขับมอไซด์ทีเดียวเลย เพราะ ที่บ้านเรา มี มอไซด์ ที่พ่อใช้สำหรับขับไปทำงาน1คัน
ผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้ จนช่วงป.6 มีร้านขายจักรยานมือ2มาเปิดใหม่ ห่างจากบ้าน5-8กิโมเมตร
พ่อเลยชวนผมเข้าไปสอบถามทางร้านว่า ราคาอย่างไร เขาขาย800บาท แบบไม่มีเกียร์ จึงขอเขาจ่ายครึ่งนึ่งก่อน เลยได้ จักรยานสีม่วง มา1คัน
ผม ซ้อนท้ายมอไซด์พ่อ แล้วเอา จักรยานวางตรงกลางที่นั่ง จับมาตลอดทางจนถึงบ้าน ใครจะไปคิดว่า จักรยานคันนี้แหล่ะ..จะสามารถ เปิดโลกอีกใบของผมเลย จากที่ เราไม่เคยไปในที่ไกลๆด้วยตัวเองเพียงลำพังได้ ผมก็ สามารถปั่นจักรยานที่เพิ่งหัดขับเป็นได้.......กว่าที่ผมจะมีจักรยานคันแรกในชีวิต ตอนนั้น เพื่อนๆ ก็ ขับมอไซด์ มาโรงเรียนกันแล้วครับ😅
เดี๋ยวมาต่อให้นะครับ🙏