บุญฤทธิ์ตัดสินใจมาอยู่บ้านพ่อเกรซที่พัทยา ระหว่างนั้นข่าวฉาวก็กระจายไปทั่ว จนกลายเป็นกระแสสังคม พ่อเกรซจึงแนะนำให้บุญฤทธิ์ออกมาชี้แจงต่อสังคม โดยใช้ The Cage เป็นสถานที่จัดแถลงข่าว “เวลานี้เป็นเวลาที่ครอบครัวต้องซัพพอร์ตกัน” พ่อเกรซออกคำสั่งสมาชิกแก๊งเซเลอร์มูน
ณ The Cage วันนี้ มีการจัดเตรียมสถานที่เป็นอย่างดี เพื่อรองรับกองทัพนักข่าวนับร้อยชีวิต พ่อเกรซเป็นคนสัมภาษณ์บุญฤทธิ์ด้วยตัวเอง เมื่อพ่อเกรซถามว่าบุญฤทธิ์อยู่ในเหตุการณ์คืนนั้นหรือไม่ ?
“ใช่ ผมอยู่ในเหตุการณ์” บุญฤทธิ์ตอบตามความจริง แม้จะรู้ว่าคำตอบของเขาเป็นการมัดตัวเอง
เวลาเดียวกัน ก็มีการแถลงข่าวของพยาน ซึ่งเป็นลูกผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์คืนนั้น พยานออกมายืนยันอย่างชัดเจนว่า บุญฤทธิ์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของแม่เขา และที่บุญฤทธิ์อยู่ในเหตุการณ์คืนนั้น เป็นเพราะบุญฤทธิ์ต้องการจะไปห้ามสมบัติ
เมื่อความจริงปรากฏ พ่อเกรซจึงยิงคำถามกับบุญฤทธิ์ว่า ทำไมถึงเก็บงำความจริงนี้เอาไว้ … บุญฤทธิ์รวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี ค่อย ๆ เอ่ยปากออกมาด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ “ผมอายครับ ผมอายเกินกว่าที่จะพูดมันออกมา”
เป็นหนึ่งเห็นพ่อพูดในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้ยิน เขาจึงรีบเดินเข้าไปหาพ่อเพื่อเป็นกำลังใจ ณ จุดนี้เอง บุญฤทธิ์เอ่ยปากขอโทษต่อเป็นหนึ่ง แล้วสองพ่อลูกก็สวมกอดกันด้วยความเข้าใจ
ต่อมา เป็นหนึ่ง-มาตา และ ไตร-แพง ก็ร่วมโต๊ะเบรกฟาสต์ปรับความเข้าใจกัน รวมถึงขอโทษกับสิ่งต่าง ๆ ที่ทำผิดต่อกันในอดีต … แล้ววันนั้น มาตากับเป็นหนึ่งก็พากันขึ้นไปบนห้องเพื่อไปเช็ก 6 แพ็กและหน้าท้องของกันและกันอย่างละเอียด 555
บุญฤทธิ์ไปขอบคุณพ่อเกรซ และชาวแก๊งเซเลอร์มูน พร้อมทั้งขอโทษในส่วนที่เขาเคยทำไม่ดีกับมาตา แม้บุญฤทธิ์จะยอมรับมาตาและครอบครัวแล้ว แต่บุญฤทธิ์ก็ยังไม่เข้าใจเสียงโวลลุมพังของเหล่าแก๊งเซเลอร์มูน ถึงกับออกปากถามเป็นหนึ่งว่าที่นี่เขามีเรื่องอะไรกัน เป็นหนึ่งได้แต่ยิ้ม ๆ แล้วหันไปบอกพ่อว่า “ปกติครับ” 555
สุดท้ายครอบครัวคือคำตอบ
คืนนั้น หลังทานอาหารเสร็จ อากงจึงชงเรื่องแต่งงานขึ้นมา เป็นหนึ่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความเขิน ทันใดนั้น เซอร์ไพรส์ก็บังเกิด …
มาตาค่อย ๆ เดินมาข้าง ๆ เป็นหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่ จากนั้นเธอก็คุกเข่าพร้อมกับยื่นมือออกไปขอเป็นหนึ่งแต่งงาน “แต่งงานกันนะเป็นหนึ่ง” … เป็นหนึ่งยิ้มด้วยความสุข ความสุขที่เต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์ เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะถูกมาตาขอแต่งงาน
แต่ที่เซอร์ไพรส์กว่า คืออากงเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด จัดการเอาทองมากล่องใหญ่ เพื่อเป็นสินสอดให้มาตาใช้สู่ขอเป็นหนึ่ง … แต่อากงดันลืมเอาแหวนแต่งงานมาซะอย่างนั้น 555
เป็นหนึ่งเห็นมาตาไม่ได้เตรียมแหวนแต่งงานมา เขาจึงล้วงเข้าไปในกระเป๋าแล้วหยิบแหวนออกมา แหวนที่เขาเตรียมเอาไว้ขอมาตาแต่งงานเช่นกัน … จะมีโมเมนต์ไหนในชีวิตที่จะสุขกว่านี้ได้อีกนะ
วันแรกของชีวิตคู่ คืนนั้นเป็นหนึ่งฝันร้ายว่ามาตาทำบ้านเละเทะ ตื่นเช้าขึ้นมาเขาก็โล่งใจที่เป็นเพียงความฝัน มาตาเตรียมไข่เจียวเอาไว้ให้ เพราะเป็นอาหารอย่างเดียวที่ทำเป็น จากนั้นมาตาก็ค่อย ๆ ถอดผ้ากันเปื้อนออก เผยให้เห็นโบที่ผูกกับตัวเธอเอาไว้ “แฮปปี้วันวาเลนไทน์เป็นหนึ่ง”
แล้วเป็นหนึ่งก็ค่อย ๆ ปลดโบออก ก่อนที่ทั้งสองจะจูบกันอย่างหวานซึ้ง
“สุดท้ายครอบครัวคือคำตอบ อย่าลืมกลับไปหาพลังแห่งความใจดีของเรา ความรักและความสุขต้องการการดูแลรักษานะ”
จบบริบูรณ์
ที่มา :
รีแคปละคร มาตาลดา EP.21 ตอนจบ : ถึงเวลาที่ครอบครัวต้องซัพพอร์ตกัน | idol
รีแคปละคร มาตาลดา EP.21 ตอนจบ : ถึงเวลาที่ครอบครัวต้องซัพพอร์ตกัน
บุญฤทธิ์ตัดสินใจมาอยู่บ้านพ่อเกรซที่พัทยา ระหว่างนั้นข่าวฉาวก็กระจายไปทั่ว จนกลายเป็นกระแสสังคม พ่อเกรซจึงแนะนำให้บุญฤทธิ์ออกมาชี้แจงต่อสังคม โดยใช้ The Cage เป็นสถานที่จัดแถลงข่าว “เวลานี้เป็นเวลาที่ครอบครัวต้องซัพพอร์ตกัน” พ่อเกรซออกคำสั่งสมาชิกแก๊งเซเลอร์มูน
ณ The Cage วันนี้ มีการจัดเตรียมสถานที่เป็นอย่างดี เพื่อรองรับกองทัพนักข่าวนับร้อยชีวิต พ่อเกรซเป็นคนสัมภาษณ์บุญฤทธิ์ด้วยตัวเอง เมื่อพ่อเกรซถามว่าบุญฤทธิ์อยู่ในเหตุการณ์คืนนั้นหรือไม่ ?
“ใช่ ผมอยู่ในเหตุการณ์” บุญฤทธิ์ตอบตามความจริง แม้จะรู้ว่าคำตอบของเขาเป็นการมัดตัวเอง
เวลาเดียวกัน ก็มีการแถลงข่าวของพยาน ซึ่งเป็นลูกผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์คืนนั้น พยานออกมายืนยันอย่างชัดเจนว่า บุญฤทธิ์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของแม่เขา และที่บุญฤทธิ์อยู่ในเหตุการณ์คืนนั้น เป็นเพราะบุญฤทธิ์ต้องการจะไปห้ามสมบัติ
เมื่อความจริงปรากฏ พ่อเกรซจึงยิงคำถามกับบุญฤทธิ์ว่า ทำไมถึงเก็บงำความจริงนี้เอาไว้ … บุญฤทธิ์รวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี ค่อย ๆ เอ่ยปากออกมาด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ “ผมอายครับ ผมอายเกินกว่าที่จะพูดมันออกมา”
เป็นหนึ่งเห็นพ่อพูดในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้ยิน เขาจึงรีบเดินเข้าไปหาพ่อเพื่อเป็นกำลังใจ ณ จุดนี้เอง บุญฤทธิ์เอ่ยปากขอโทษต่อเป็นหนึ่ง แล้วสองพ่อลูกก็สวมกอดกันด้วยความเข้าใจ
ต่อมา เป็นหนึ่ง-มาตา และ ไตร-แพง ก็ร่วมโต๊ะเบรกฟาสต์ปรับความเข้าใจกัน รวมถึงขอโทษกับสิ่งต่าง ๆ ที่ทำผิดต่อกันในอดีต … แล้ววันนั้น มาตากับเป็นหนึ่งก็พากันขึ้นไปบนห้องเพื่อไปเช็ก 6 แพ็กและหน้าท้องของกันและกันอย่างละเอียด 555
บุญฤทธิ์ไปขอบคุณพ่อเกรซ และชาวแก๊งเซเลอร์มูน พร้อมทั้งขอโทษในส่วนที่เขาเคยทำไม่ดีกับมาตา แม้บุญฤทธิ์จะยอมรับมาตาและครอบครัวแล้ว แต่บุญฤทธิ์ก็ยังไม่เข้าใจเสียงโวลลุมพังของเหล่าแก๊งเซเลอร์มูน ถึงกับออกปากถามเป็นหนึ่งว่าที่นี่เขามีเรื่องอะไรกัน เป็นหนึ่งได้แต่ยิ้ม ๆ แล้วหันไปบอกพ่อว่า “ปกติครับ” 555
สุดท้ายครอบครัวคือคำตอบ
คืนนั้น หลังทานอาหารเสร็จ อากงจึงชงเรื่องแต่งงานขึ้นมา เป็นหนึ่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความเขิน ทันใดนั้น เซอร์ไพรส์ก็บังเกิด …
มาตาค่อย ๆ เดินมาข้าง ๆ เป็นหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่ จากนั้นเธอก็คุกเข่าพร้อมกับยื่นมือออกไปขอเป็นหนึ่งแต่งงาน “แต่งงานกันนะเป็นหนึ่ง” … เป็นหนึ่งยิ้มด้วยความสุข ความสุขที่เต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์ เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะถูกมาตาขอแต่งงาน
แต่ที่เซอร์ไพรส์กว่า คืออากงเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด จัดการเอาทองมากล่องใหญ่ เพื่อเป็นสินสอดให้มาตาใช้สู่ขอเป็นหนึ่ง … แต่อากงดันลืมเอาแหวนแต่งงานมาซะอย่างนั้น 555
เป็นหนึ่งเห็นมาตาไม่ได้เตรียมแหวนแต่งงานมา เขาจึงล้วงเข้าไปในกระเป๋าแล้วหยิบแหวนออกมา แหวนที่เขาเตรียมเอาไว้ขอมาตาแต่งงานเช่นกัน … จะมีโมเมนต์ไหนในชีวิตที่จะสุขกว่านี้ได้อีกนะ
วันแรกของชีวิตคู่ คืนนั้นเป็นหนึ่งฝันร้ายว่ามาตาทำบ้านเละเทะ ตื่นเช้าขึ้นมาเขาก็โล่งใจที่เป็นเพียงความฝัน มาตาเตรียมไข่เจียวเอาไว้ให้ เพราะเป็นอาหารอย่างเดียวที่ทำเป็น จากนั้นมาตาก็ค่อย ๆ ถอดผ้ากันเปื้อนออก เผยให้เห็นโบที่ผูกกับตัวเธอเอาไว้ “แฮปปี้วันวาเลนไทน์เป็นหนึ่ง”
แล้วเป็นหนึ่งก็ค่อย ๆ ปลดโบออก ก่อนที่ทั้งสองจะจูบกันอย่างหวานซึ้ง
“สุดท้ายครอบครัวคือคำตอบ อย่าลืมกลับไปหาพลังแห่งความใจดีของเรา ความรักและความสุขต้องการการดูแลรักษานะ”
จบบริบูรณ์
ที่มา : รีแคปละคร มาตาลดา EP.21 ตอนจบ : ถึงเวลาที่ครอบครัวต้องซัพพอร์ตกัน | idol