นักกีฬาวอลเลย์บอลที่ทรงอิทธิพลที่สุดของเกาหลีใต้ตอนนี้ยังเป็น คิม ยอง คอน ซึ่งเป็นจักรพรรดินีแห่งวอลการวอลเลย์บอลของประเทศและของโลกในรอบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา

ฝีมือ ทักษะที่ไร้เทียมทานของเธอ ด้วยการกวาดล้างชนะเลิศทุกสิ่งในรางวัลส่วนบุคคลและเป็นตำนานที่โด่งดังที่สุดในโลกวอลเลย์บอล ผู้เล่นที่ถือกำเนิดมาในรอบ 100 ปี ที่สร้างชื่อเสียงมาให้ประเทศชาติและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลของประเทศเกาหลีใต้


Kim Yeon-koungได้รับการกล่าวขานว่าเป็นผู้ที่ทำให้วอลเลย์บอลหญิงของเกาหลีซึ่งตกต่ำมาตั้งแต่ปี 1990 กลับมาเป็นกีฬายอดนิยมอีกครั้ง
เนื่องจากการแสดงที่ยอดเยี่ยมของเธอวอลเลย์บอลอาชีพจึงได้รับความสนใจในระดับชาติและประสบความสำเร็จในการดึงดูดแฟนใหม่จำนวนมาก


ว่ากันว่าอิทธิพลของ Kim Yeon-koung นั้นยิ่งใหญ่มาก พอๆกับนักฟุตบอล ซนฮึงมิน ตัวตึงแห่งวงการฟุตบอลเกาหลีใต้ ทั้งคู่เป็นสมบัติชาติอันล้ำค่าของประเทศที่ทำให้ชาวเกาหลีใต้ภาคภูมิใจ


20 เรื่องราวของบทสัมภาษณ์ของนักกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

1.เธอเกิดในปี 1988 ปัจจุบันอายุ 35 ปี เล่นในตำแหน่งตัวตีหัวเสา เริ่มเล่นวอลเลย์บอลตั้งแต่ประถมศึกษาปีที่ 3 ด้วยอิทธิพลของพี่สาว

เธออุทิศตนเพื่อการเรียนรู้และฝึกฝนควบคู่กับการเรียนหนังสือ เธอตื่นนอนเวลา 05.00 น. ออกวิ่งที่สนามเด็กเล่น และกลับบ้านเวลา 4 ทุ่มทุกคืนโดยไม่คำนึงถึงฤดูกาล ว่ากันว่าแม้ยามหลับก็ยังหลับไปพร้อมกับลูกบอลในอ้อมแขน
เธอเผชิญกับความมหัศจรรย์ของ 'การเติบโตอย่างรวดเร็ว' เมื่อเธออยู่ชั้นมัธยมปลาย



2.เธอพาทีมเกาหลีใต้มุ่งสู่โอลิมปิก 3 สมัย 2012(ลอนดอน)2016(ริโอ)2020(โตเกียว) ทำผลงานดีจนคว้า MVP ที่ลอนดอน ได้รับคำชื่นชมจากโค้ชและแฟนวอลไปทั่วโลก และทำให้เธอกลายเป็นผู้เล่นเป็นที่ต้องการของตลาดสโมสรต่างประเทศ และมีค่าตัวพุ่งสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก เธอเดินทางไปเล่นลีกต่างประเทศถึง 11 ปีเลยทีเดียว และพาทีมคว้ารางวัลมามากมาย



3.ในปี 2017 เธอได้รับเลือกให้เป็น'บุคคลแห่งปี' ที่จัดทำโดยไซต์งาน Incurt

เธอถูกยกให้เป็นผู้เล่นที่กระตือรือร้นเพียงคนเดียวในเวลานั้นที่ได้รับเลือกให้เป็น 'No. 1 Volleyball Power People'


4. ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียว เธอได้เพิ่มสถิติใหม่โดยทำคะแนนได้ 30 คะแนนในเกมเดียวถูกยกให้เป็น "One and Only" ทุบญี่ปุ่น ตุรกี พาทีมมุ่งเข้าสู่ Final 4 และจบอันดับที่ 4


5.เธอกล่าวว่าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียวเป็นการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งสุดท้ายของเธอ
เธอเข้าสู่โตเกียวในฐานะตัวแทนผู้ถือธงของทีมเกาหลี ที่จุดไฟแห่งความรักของชาติเป็นครั้งสุดท้าย ถึงแม้ว่า แฟนๆและสมาคมเกาหลีใต้ยังพยายามร้องขอให้เธอกลับมาช่วยทีม

ในปี 2023 รายการ VNL เธอไม่ได้กลับมาในฐานะผู้เล่นในสนาม แต่เธอทำงานในนามเป็นที่ปรึกษาของทีม




6.ถึงแม้ในสนามเธอจะมีบุคลิกความเป็นผู้นำที่แข็งกร้าว แต่ความจริงเธอมีบุคลิกที่อบอุ่นและมีความเอื้ออาทร

ย้อนกลับไปในอดีตที่อินชอนเอเชี่ยนเกมส์ 2014 เกาหลีใต้เอาชนะทีมจีนในรอบ 20 ปีและคว้าเหรียญทองมาได้ สิ่งที่น่าผิดหวังคือสมาคมวอลเลย์บอลเกาหลีใต้ได้พานักกีฬาไปเลี้ยงอาหารค่ำที่ร้านซุปกิมจิ

เธอรู้สึกเสียใจอย่างมากกับเรื่องนี้ สมาคมช่างขี้เหนียวเสียจริงๆ ดังนั้นเธอจึงได้พาเพื่อนร่วมทีมไปร้านอาหารระดับไฮเอนด์ด้วยเงินของเธอเองและเธอยังมอบเงินส่วนตัวให้รางวัลใหญ่แก่เพื่อนในทีมอีกด้วย


7.เธอได้รับการกล่าวขานว่าเป็นผู้ทำลายนิสัยเสียและวัฒนธรรมในสมาคมที่มีมาอย่างยาวนานในวอลเลย์บอลหญิง เมื่อรุ่นพี่สามารถใช้งานรุ่นน้องได้ เช่น ถูพื้น ทำความสะอาด ซักผ้า ล้างจาน รุ่นน้องต้องทำแทนรุ่นพี่ เธอกล่าวว่า

"ฉันคิดว่าฉันมาที่ทีมอย่างมืออาชีพ ตอนฉันเป็นน้องใหม่ ฉันต้องซักผ้าให้รุ่นพี่ด้วยมือ อีกมือก็ต้องเล่นเกม ต้องคุกเข่าให้รุ่นพี่ ทั้งที่เข่าก็ต้องใช้งานในเกม วัฒนธรรมนี้มันควรหมดไปเสียที”

และเธอก็ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงระบบดังกล่าวนี้


8.เธอเป็นคนรักชาติยิ่งชีพ ในพิธีมอบรางวัลที่จัดขึ้นในต่างประเทศ เธอสวมธงชาติไว้ที่ไหล่ และเมื่อเธอแข่งขันในลีกตุรกี เธอได้แสดงท่าทางในการเล่นเกมโดยสวมปลอกแขนที่มีรูปธงชาติสลักอยู่

ในการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชียครั้งที่ 19 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 72 ปีของการปลดปล่อยเกาหลี เธอเอาชนะไต้หวัน 3-0 ในรอบก่อนรองชนะเลิศเพื่อเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ

ในเวลานี้เธอเข้าร่วมในเกมโดยสวมรองเท้าสีเหลืองจากแบรนด์กีฬาของญี่ปุ่น 'Mizuno'
มีการกล่าวว่าวลี "Long live freedom for 15 สิงหาคม!" ถูกสลักไว้ที่ด้านข้างของรองเท้าเพื่อรำลึกถึงวันประกาศอิสรภาพ


9.เธอย้อมผมเป็นครั้งแรกในชีวิตหลังจากเข้าร่วมทีมมืออาชีพในสโมสร เธอย้อมผมบางส่วนเป็นสีบลอนด์ เธอบอกว่าชอบมันมากและไม่สามารถซ่อนความสุขของตัวเองไว้ได้


10.เธอมีรอยสักถึง 6 รอย อาทิเช่น

วลีภาษาละติน 'Sicut Erat in Principio' นั้นถูกสักไว้ใต้รอบเอว

ซึ่งมีความหมายว่า 'เหมือนตอนเริ่มต้น'
ว่ากันว่ามันถูกสลักด้วยความหมายของคำว่า

'อย่าสูญเสียความตั้งใจเดิม'

รอยสักที่ด้านนอกของข้อเท้าซ้าย สลักชื่อ 'Marianne Steinbrahe'
มันมีรูปร่างเหมือนไม้กางเขนที่ติดอยู่กับหัวใจที่ถูกลูกศรแทง' ความหมายคือ

'ไม่ว่าฉันต้องเจอความเจ็บปวดแบบไหน ฉันทนได้เพราะมีคนคอยปกป้องฉัน' เรียกได้ว่ามีความหมาย



11.เธอมีมีฉายาว่า 'Bread Sister' พี่สาวขนมปัง
บ้านของ Kim Yeon-kyung ได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมและได้รับการแนะนำว่าเป็นบ้านขนมปัง มีการจัดแสดงโล่และเหรียญรางวัลที่ได้รับจนถึงตอนนี้ และบ้านของเธอก็ผสมผสานสีขาวและดำที่สะอาดและทันสมัยเรียกว่า Bread House



12.บางคนอาจสงสัยว่าทำไมเธอถึงถูกเรียกว่าพี่สาวของขนมปัง อันที่จริง เธอค่อนข้างเก่งในการสบถในระหว่างการแข่งขัน แต่แฟนๆ ปกป้องเธอโดยบอกว่าเธอขัดเกลาสิ่งนี้และเรียกมันว่าขนมปัง และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เธอก็ยังคงแก้ไขขนมปังในวงการบันเทิงอย่างต่อเนื่อง และถูกเรียกว่า 'Bread Sister” ซึ่งเป็นชื่อเล่นของเธอ


13.พ่อของเธอกล่าวว่าหลังจากทำงานที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งใน Ansan และตอนนี้เขาเกษียณอายุแล้วเขาได้รับใบอนุญาตขับแท็กซี่ส่วนตัวและทำงานขับแท๊กซี่

พ่อของเธอมีส่วนร่วมในสมาคมบ้านเกิดอย่างกระตือรือร้น และมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันใน Seoul Jaegyeong Gurye-gun Hometown Association และ Ansan Gurye-gun Hometown Association และมักจะมอบของที่ระลึกที่เกี่ยวข้องกับ Kim Yeon-kyung ให้กับเพื่อนๆ ของเขา


14.เธอมีข่าวลือเรื่องการออกเดทมากมาย เมื่อเธอถ่ายรูปกับ อดีตนักยูโด Jo Jun-ho ข่าวก็ไปลงว่าทั้งคู่คบกัน แต่ทั้ง 2 ก็ปฏิเสธ


หรือแม้แต่ข่าวลือการออกเดท กับเจียงฉวนผู้เล่นทีมจีน ถึงแม้จะเป็นข่าวลือ แต่แฟนๆก็รู้สึกอินถึงโมเม้นที่น่ารักของทั้งคู่ และอยากให้คบกันจริงๆ (ซึ่งปัจจุบันฝ่ายชายได้แต่งงานไปแล้ว)



15.ตอนเธอมาเล่นลีกที่ตุรกี มีหนุ่มๆมาจีบเธอมากมายว่ากันว่ามีทั้งนายแบบ ดาราชื่อดัง นักธุรกิจ มาขออกเดทขอแต่งงานกับเธอ ครั้งหนึ่งมีเพื่อนในทีมแนะนำหนุ่มตุรกีนักธุรกิจ รูปหล่อตัวสูงให้กับเธอ เธอบอกว่า

“เป็นเรื่องจริงที่มีแม่สื่อในทีมแนะนำหนุ่มตุรกีให้ฉัน แต่ฉันไม่ชอบ หนุ่มตุรกีไม่ใช่สเป็คฉัน ฉันไม่ชอบคนมีขนเยอะและมีหนวดเครา”


ปัจจุบันเธอยังโสด ซึ่งเธอกล่าวว่า

“เมื่อเรายังไม่เจอคนที่ตรงกัน มันก็จะชินกับการอยู่คนเดียว ดูเหมือนว่ามันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาฉันจะเปิดเผยเองไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดบังอะไร”


16.เมื่อถูกถามว่า แล้วหนุ่มในอุดมคติของคุณคือใคร แน่นอนหนุ่มของเธอต้อง สูง หล่อ รายได้ดี และมีบุคลิกดี เธอตอบว่า พระเอกหนุ่มโจอินซอง ที่เป็นรักแรกและตกหลุมรักเขามานานกว่า 15 ปี ตั้งแต่สมัยมัธยม


17.เธอเล่าเรื่องความทรงจำที่มาเล่นลีกในตุรกีว่า

“ครั้งหนึ่งฉันไปร้านไอศกรีมเพราะอากาศร้อนเกินไปในอิสตันบูล แต่ฉันก็โมโหที่พ่อค้าแกล้งฉันด้วยการขยับไอศกรีมไปรอบๆไม่ยอมให้ไอศรีมฉันสักทีฉันหงุดหงิดมากแล้วตะโกนเสียงดังว่า

"โอ้ย พอแล้ว ได้โปรดให้ฉันเร็วๆทีเหอะ!!"
พอฉันตะโกนเพื่อนร่วมทีมและคนแถวนั้นก็หัวเราะเพราะเป็นเรื่องตลก แต่ฉันหงุดหงิดจริงๆ “


18.ถึงแม้เธอจะเป็นนักกีฬาที่ยิ่งใหญ่ของโลก เธอก็เคยผ่านช่วงเวลาที่อ่อนแอ และดำดิ่งในด้านอารมณ์ กับคอมเม้นแย่ๆในโลกโซเชี่ยลเมื่อทำผลงานไม่ถูกใจแฟนวอล เธอกล่าวว่า

“บางครั้งฉันก็มีความนับถือตนเองต่ำ ฉันได้ยินเรื่องราวเลวร้ายมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ฉันก็พยายามบอกตัวเองว่า “ทำไมล่ะ' 'ฉันทำได้!' 'ฉันจะทำงานหนักกว่าพวกเขา พวกที่ว่าฉัน' ฉันคิด” เมื่อเอาแต่คิดในในแง่ลบ ชีวิตมันไม่มีขีดจำกัดจริงๆ”

“ฉันต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ มั่นใจในตัวเองคิมยอนคยอง! ใช้ชีวิตด้วยความนับถือตนเองสูง
มันส่งผลดีต่อตัวเราเอง นี่คือสิ่งที่ฉันทำ”


19. เธอถูกเรียกว่า ไออรอนวูแมน
นับตั้งแต่เปิดตัวในอาชีพของเธอ คิมยอนคยองได้รับการผ่าตัดหัวเข่าถึงสามครั้ง ครั้งแรกที่เข่าซ้ายและสองครั้งที่เข่าขวา ซึ่งถือว่าเยอะมากสำหรับนักกีฬา

20. เธอได้รับหน้าที่ในฐานะทูตสำหรับการเป็นเจ้าภาพการประชุมองค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นโลกที่ประสบความสำเร็จในปี 2025 ซึ่งเธอกล่าวว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด