สวัสดีครับ ผมอายุ20-21 ผมเป็นคนที่เคยเรียนเก่งๆมากในห้องเรียนตอนมต้น อังกฤษ วิทย์ คณิตย์ เเละก็มีเล่นดนตรีกับเพื่อนในห้อง เคยบอกกับเพื่อนกับครอบครัวตลอดว่าอยากเป็นหมอตั้งเเต่ประธม ทั้งที่ไม่เข้าใจในตอนนั้นว่าการมาเป็นหมอมันจริงๆเป็นยังไง เเต่ก็มีเหตุผลว่าที่อยากเป็นเพราะถ้าเเม่หรือพ่อป่วย ก็อยากรักษาให้เขาฟรีๆรวมถึงเพื่อนสนิทหรือคุณครูที่สนิทด้วย รู้สึกว่าช่วงนั้นมีไฟกับการเรียนเเละความฝันมากๆ เป็นคนเอื้อเฝือด้วยอีก เห็นขอทานก็รู้สึกสงสารเห็นเเล้วต้องเคยให้ตังตลอด อยากช่วย
ตอนเข้ามปลายมาก็มาเข้าสายศิลป์คํานวณ เพราะน่าจะได้ลองได้ทําอะไรอีกเยอะดี เเต่ก็ยังไม่เข้าใจระบบสายการเรียนในมปลาย เเต่ปากก็บอกยังอยากเป็นหมออยู่ เพื่อนฟังก็เเปลกใจเพราะเราอยู่สายศิลป์คํานวณ เเต่ก็มีเรื่องเกิดขึ้นอยู่เยอะพอเข้ามปลายมา พ่อกับเเม่ก็ทะเลาะกันหนักมาก ด่า เขวี้ยงของบ้างต้องบอกก่อนว่าพ่อเป็นคนต่างชาติ มาอยู่ที่ไทย เป็นคนรักงานมาก (ให้งานถึง90%จากคําพูดของเเม่) อยู่ดีๆมาวันนึงพ่อก็โดนปลดเกษียณออกจากงานที่รัก ทําให้เขาวิตกกังวลหนักจนป่วยมีอาการหลอน ไปรักษาอยู่หลายเดือน เเม่ก็กดดันผมให้บอกพ่อว่าให้ย้ายเงินทั้งหมดไปที่เเม่เพราะพ่อป่วย ตอนมต้นก็มีที่เเม่เราโกรธพ่อ เคยส่งเราไปขอเงินพ่อเเลกกับให้พ่อให้เข้าบ้าน ก็มีบ่อยที่ต้องเป็นสื่อกลางของพ่อเเละเเม่ บางทีเราก็ไม่เต็มใจที่จะต้องทํา พออาการพ่อเริ่มดีขึ้นเเล้วเเละเราก็เริ่มเห็นเเม่ร้ายเเล้วตอนนั้น เราก็เริ่มปกป้องพ่อหนักเเล้วเวลาเเม่กับพ่อทะเลาะกันอีก ต่อมาก็มีอุบัติเหตุณ์ทําให้พ่อเสียชีวิตเพราะเเอลโกฮอล เเม่ก็เสียใจหนักมาก ชีวิตก็เขว้งเลย ไม่รู้สึกมีความสุข ดีเพลสขั้นสุด รู้สึกผิดที่ไม่ได้ดูเเลพ่อให้ดีกว่านี้เรื่องเรียนก็เรียนตามๆคนอื่นในห้อง เรื่องเรียนก็อย่าพูดถึงเลย ระบบการศึกษาไทย การบ้านเเน่นมากศิลป์คํานวณ เกรดเเย่ลงหน่อยก็โดนครูบ่นเเต่ก็เกิดกว่า3ตลอดนะ ส่วนเเม่ว่ายังไงก็ทําตาม กับเพื่อนก็รู้สึกไม่ค่อยได้เป็นตัวเองพยายามมากไป ไม่ได้เปิดใจหลายเรื่อง ยังดีหน่อยเล่นกีต้าร์เก่งมีวงดนตรีกับเพื่อน ก็เรียนจนไปสมัครบริหารเพราะคิดว่าน่าจะดีสุดเเล้วในสายนี้เเละอยากเรียนตามให้ทันเพื่อน ละมีปัญหาเรื่องโควิคก่อนจบอีกเลยทําให้ปรีกตัวเองออกมาอยู่คนเดียว ติดเกมส์มาก ไม่ได้ค้นหาตัวเองหรือไปพบปะกับคนอื่น
จนกระทั่งขึ้นมหาลัยมาเรียนก็ไม่สนใจ เข้ากับเพื่อนใหม่ที่มหาลัยก็ไม่ค่อยได้ กิจกรรมก็ไม่ค่อยเข้า เพื่อนเข้าก็สนิทกันไปไหนต่อไหนเเล้ว เรียนออนไลน์ไปเเบบงงๆ มัวเเต่ติดเกมส์ (อยากเคาะหัวตัวเองจริงๆ) กลุ่มนัดเจอกันก็อึดอัด ไม่ค่อยเป็นตัวเอง เกาะตามๆไป เเอบทุกข์อยู่นะ จนอยู่ดีๆเวลามันมาที่ปี2เเล้ว เริ่มมีความเปลี่ยนเเปลงเยอะ เปลี่ยนจากonlineมาเป็นon-siteเต็มตัว เริ่มทําตัวเองให้คลู ไปพยายามสนิทกับเพื่อนกลุ่มเดิมเเต่ก็ไม่สําเร็จผล เลยเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง เปลี่ยนมุมมองเรื่องเพื่อน ได้ไปสนิทกับเพื่อนใหม่ เเละคุยเรื่องที่ชอบหรือไม่ชอบ ได้มาเรียนคณะนี้เพราะอะไร คือเห็นคําตอบเพื่อนเเล้วก็รู้สึกเรายังมีทางเลือก ถ้าอยากไปเรียนอะไร เลยเริ่มไม่ได้ไปเรียนด้วยเเละเริ่มไปไหนมาไหนกับพี่ชายคนกลางเเทนละ(ปกติครอบครัวไม่ได้สนิทกัน เลี้ยงดูพี่กับน้องให้ห่างกัน เเละเเม่ก็ไม่ชอบพี่เพราะพี่คนนี้เขาไม่จบมปลาย เคยติดยา ไม่มีงานทํา ชอบเที่ยว ติดเพื่อนด้วย) มีเรื่องที่ยังฝั่งใจหนักมากตั้งเเต่เด็กกับเเม่อีกก็มีเกี่ยวกับพ่อด้วย เลยไปเเลกเปลี่ยนมุมมองกับพี่ ก็เห็นว่าชีวิตพี่ก็รันทนมากช่วงที่โตมา เเละก็ช็อกที่ได้รู้ความจริง จนต้องทะเลาะกับเเม่(ทําไมถึงทําเเบบนั้น ทําไมถึงต้องโกหก ทําไมถึงเกลียดพี่ชายเราอะไรขนาดนี้) เเม่ก็คิดว่าเราเสียคนเเล้วที่ไปอยู่กับพี่ ก็ทะเลาะกันจนบ้านเเตกไปเดือนนึง รู้สึกเหมือนตกนรกเลย เเม่ก็ทิ้งบ้าน เราก็อยู่กับพี่ชายเเละเพื่อนพี่ผญ. ไม่มีเงินอีก เลยประหยัดกันอยู่ ก็ญาติเป็นคนกลางคุยให้ ว่าเราต้องอยู่กับเเม่นะ ไปคุยกัน ประบความเข้าใจที่ต่างจังหวัดเราก็ยังไม่เชื่อใจเเม่อยู่เพราะเเม่ปิดบังเราเรื่องสําคัญในอดีต พูดกับเราอย่างนี้กับญาติก็อีกอย่างเเต่ก็ต้องคุยให้กลับมาอยู่ด้วยกันเพราะอยู่ในบ้านกันเองกับพี่ชายเเละไม่มีเงินด้วยมันก็อยู่กันลําบากเเล้ว กลับมาอยู่บ้านมีเงินเเล้วก็ ก็เลือกๆไปด้วยว่าจะซิ่วไปเรียนอะไร ก็คิดว่าจิตวิทยาเพราะไม่อยากให้ใครมีจุดจบเเบบพ่อเราเเละก็ติดดูนักจิทยาคนนึงในยูทูปร์ว่าชีวิตที่รู้สึกเเย่เเละทรมาน เราจะเเก้ยังไง อะไรคือสิ่งสําคัญในชีวิตจริงๆ ก็ดูเพิ่มอีกเพราะเราอยากเเก้ปัญหาครอบครัวจริงๆ อยากให้ครอบครัวอยู่ด้วยกันด้วยดี รู้สึกได้เเรงบันดาลใจ ก็คิดว่าอยากเป็น มีอีกเรื่องคือไปชอบเพื่อนพี่ชายมากที่ชอบเพราะตอนที่เเม่ทิ้งเราไป ก็เหมือนคุยด้วยกันบ่อย เปิดใจจนชอบไปจนไม่รู้ตัว พี่จับได้เลยทะเลากัน เเต่ก็กลับมาคุยอีกเรื่อยๆ ก็ทะเลาะหนักขึ้นเรื่อยๆ จนจะมีเรื่องชกต่อยอยู่เเล้ว เเม่รู้เรื่องก็กลับมาเคลียร์ให้สุดท้ายก็ต้องเลิกรากับคนที่ชอบ เเละมีเรื่องอะไรผมก็ได้เปิดใจกับเเม่เเล้วว่าเจ็บมากที่อยู่ดีๆเเม่ก็ทิ้งบ้าน ไปพูดอยู่นู้นอย่างนี้กับญาติเรื่องผม ได้ปรับความเข้าใจใหม่กับทั้งบ้านด้วย ส่วนผมก็นิสัยเปลี่ยนไปเยอะ มีชีวิตชีวา ติดเเค่ไม่ได้คุยกับพี่คนกลางเเล้วเพราะด่ากันหนักมาก ไม่รู้ว่าจะกลับมาคุยยังไงกัน เเม่ก็เล่าให้ฟังด้วยว่าพ่อเขาจิงๆจริงยอมทํางานอยู่ที่ไทยเพราะรักเรา หาเงินมาให้เรา ว่าทั้งที่รู้ว่าสังคมงานที่พ่อมันลอบกัดเขาขนาดนั้น ผมก็คิดว่าผิดที่เขารักงานเกินจนตัวเองไม่เหลืออะไร ไม่มีเวลาให้เเม่เเละผมจนทะเลาะกันบ้าง ผมก็รู้สึกว่าจิตวิทยานี่เฉยๆไปเลยเห็นพ่อที่เสียสละขนาดนี้ ผมก็เลยคิดว่าทํางานดีๆเลี้ยงดูครอบครัวก็เป็นเป้าหมายได้เหมือนกัน เลยทําให้ไม่มั่นใจว่าจะเป็นอะไรดี เเม่พาไปเที่ยวเเก้เครียดจากที่ผ่านมา กลับมาเลยไปอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้าวิศวะกลอินเตอร์เพราะดูๆไปรู้สึกน่าจะใช่ เเต่อ่านหนังสือเตรียมมาสักพักเเต่ก็ไม่ใช่อีก เลยย้อนมาดูอาชีพที่น่าเรียน ความถนัดตัวเองเเต่อยู่ดีๆ กําลังจะเรียนปี3เเล้ว ยังตัดขาดกับเเม่ไม่ได้ว่าจะซิ่วหรือไม่ซิ่ว กังวลมากๆ กังวลมาหลายวัน ความคิดตันหมด คณะเดิมเรียนก็เกรดเเย่มีเอฟหลายตัว จบไปไม่รู้จะได้งานที่โอเครรึเปล่าเรียนก็รู้สึกงั้นๆ กว่าจะจบก็ปี6เเต่เเม่เชียร์อยากให้เรียนให้จบให้มีวุฒิ ก็กดดันเราว่าถ้าจบตรีมันสบาย หางานง่าย หรือว่าซิ่วไปสอบหมอ เเต่ก็จะจบช้ากว่าคนอื่นไปหลายปีเเละเสี่ยงสอบไม่ติดอีก ส่วนตัวรู้สึกจบมาเเล้วมันรับได้ถ้าทํางานสายนี้เหมือนสานความฝันวัยเด็กเเต่เเม่ก็ไม่ค่อยโอเคร(เพราะเขาเคยเห็นเราเคยขี้เกียจมากๆ เรียนหมอไม่ไหวหรอก ก็ถามว่าไม่อายหรออายุเยอะกว่าเขาไปเรียน กว่าจะได้เรียนคนอื่นก็มีอาชีพหมดเเล้ว) ต้องตัดสินใจว่าอยากเรียนอะไรก่อนจะเสียเวลาไปอีก ตอนนี้ตั้งใจกว่าเเต่ก่อนมาก อยากมีอนาคตที่ดีเเละทางที่มั่นใจได้ เเต่ยังไม่รู้ความต้องการเเบบ100% รู้สึกทางไหนก็เป็นไปได้ ลึกๆก็อยากค้นหาตัวเองให้นานกว่านี้
ความเก่ง/ถนัด อังกฤษ ดนตรี เข้ากับคนง่าย มีความหยืดหยุ่น ตัวเลข
ความชอบ อังกฤษ วิทย์ ได้ช่วยเหลืออะไรเล็กๆน้อยๆ
คอมเม้นเพื่อนส่วนใหญ่บอกเราเป็นคน มองโลกในเเง่ดี เป็นผู้ฟังที่ดี อยู่ด้วยเเล้วรู้สึกสบาย เป็นคนจริงใจ เเฟร์ๆ ชอบเเบ่งปัน ไลฟ์สไตล์สบายๆเเต่ไปปรับได้ถ้าต้องเปลี่ยน ส่วนฐานะเราก็กลางๆ จ่ายได้ไม่มีปัญหาถ้าค่าเทอมที่อยู่ที่ประมาณ5-6เเสน
ซิ่วดีไหม เหตุผลที่อยากซิ่ว เครดิตตัวเองก็ไม่มี
ตอนเข้ามปลายมาก็มาเข้าสายศิลป์คํานวณ เพราะน่าจะได้ลองได้ทําอะไรอีกเยอะดี เเต่ก็ยังไม่เข้าใจระบบสายการเรียนในมปลาย เเต่ปากก็บอกยังอยากเป็นหมออยู่ เพื่อนฟังก็เเปลกใจเพราะเราอยู่สายศิลป์คํานวณ เเต่ก็มีเรื่องเกิดขึ้นอยู่เยอะพอเข้ามปลายมา พ่อกับเเม่ก็ทะเลาะกันหนักมาก ด่า เขวี้ยงของบ้างต้องบอกก่อนว่าพ่อเป็นคนต่างชาติ มาอยู่ที่ไทย เป็นคนรักงานมาก (ให้งานถึง90%จากคําพูดของเเม่) อยู่ดีๆมาวันนึงพ่อก็โดนปลดเกษียณออกจากงานที่รัก ทําให้เขาวิตกกังวลหนักจนป่วยมีอาการหลอน ไปรักษาอยู่หลายเดือน เเม่ก็กดดันผมให้บอกพ่อว่าให้ย้ายเงินทั้งหมดไปที่เเม่เพราะพ่อป่วย ตอนมต้นก็มีที่เเม่เราโกรธพ่อ เคยส่งเราไปขอเงินพ่อเเลกกับให้พ่อให้เข้าบ้าน ก็มีบ่อยที่ต้องเป็นสื่อกลางของพ่อเเละเเม่ บางทีเราก็ไม่เต็มใจที่จะต้องทํา พออาการพ่อเริ่มดีขึ้นเเล้วเเละเราก็เริ่มเห็นเเม่ร้ายเเล้วตอนนั้น เราก็เริ่มปกป้องพ่อหนักเเล้วเวลาเเม่กับพ่อทะเลาะกันอีก ต่อมาก็มีอุบัติเหตุณ์ทําให้พ่อเสียชีวิตเพราะเเอลโกฮอล เเม่ก็เสียใจหนักมาก ชีวิตก็เขว้งเลย ไม่รู้สึกมีความสุข ดีเพลสขั้นสุด รู้สึกผิดที่ไม่ได้ดูเเลพ่อให้ดีกว่านี้เรื่องเรียนก็เรียนตามๆคนอื่นในห้อง เรื่องเรียนก็อย่าพูดถึงเลย ระบบการศึกษาไทย การบ้านเเน่นมากศิลป์คํานวณ เกรดเเย่ลงหน่อยก็โดนครูบ่นเเต่ก็เกิดกว่า3ตลอดนะ ส่วนเเม่ว่ายังไงก็ทําตาม กับเพื่อนก็รู้สึกไม่ค่อยได้เป็นตัวเองพยายามมากไป ไม่ได้เปิดใจหลายเรื่อง ยังดีหน่อยเล่นกีต้าร์เก่งมีวงดนตรีกับเพื่อน ก็เรียนจนไปสมัครบริหารเพราะคิดว่าน่าจะดีสุดเเล้วในสายนี้เเละอยากเรียนตามให้ทันเพื่อน ละมีปัญหาเรื่องโควิคก่อนจบอีกเลยทําให้ปรีกตัวเองออกมาอยู่คนเดียว ติดเกมส์มาก ไม่ได้ค้นหาตัวเองหรือไปพบปะกับคนอื่น
ความชอบ อังกฤษ วิทย์ ได้ช่วยเหลืออะไรเล็กๆน้อยๆ
คอมเม้นเพื่อนส่วนใหญ่บอกเราเป็นคน มองโลกในเเง่ดี เป็นผู้ฟังที่ดี อยู่ด้วยเเล้วรู้สึกสบาย เป็นคนจริงใจ เเฟร์ๆ ชอบเเบ่งปัน ไลฟ์สไตล์สบายๆเเต่ไปปรับได้ถ้าต้องเปลี่ยน ส่วนฐานะเราก็กลางๆ จ่ายได้ไม่มีปัญหาถ้าค่าเทอมที่อยู่ที่ประมาณ5-6เเสน