การซื้อกองทุนรวมในประเทศไทยในวันที่ยุคสมัยเปลี่ยนไป

ผมเคยใช้
- บลจ.ทหารไทย (ผ่านธนาคารเป็นตัวแทน) สมัยที่ยังมีบัตร extra cash และผูกบัญชีได้ทุกธนาคาร
- บลจ. กรุงศรี (ผ่านธนาคารเป็นตัวแทน) สมัยที่ยังผูกบัญชีได้ทุกธนาคาร
- บลจ. ไทยพาณิชย์ สมันที่ยังใช้ scb easy เข้าไปซื้อขายผ่และดูรายงานต้นทุนกำไรนเว็บได้สะดวก และมีกองทุนพันธบัตร 6/12 เดือนออกมาบ่อยๆ
(และเคยใช้เจ้าอื่นๆ อีกหลายราย)

ผมเคยเห็น nomura omnibus account แล้วสนใจแต่ไม่ได้สมัครไว้

ปัจจุบัน ถ้าเปิดบัญชีซื้อขายกองทุนผ่านธนาคารเป็นตัวแทนเขาจะไม่ให้ผูกบัญชีต่างธนาคารแล้ว และตัวเลือกกองทุนในแต่ละเจ้าก็เปลี่ยนแปลงแนวทางไปมาก ของที่อยากซื้อก็อยู่กระจายกันไป

คำถาม คือ มีทางเลือกอะไรแนะนำบ้างไหมครับและมีข้อดีข้อเสียอย่างไร วันนี้กลับไปดูทางเลือกเดิมที่ยังไม่เคยสมัคร ได้แก่  nomura omnibus account  พบกว่าได้รวมตัวไปกับกรุงศรี พบว่ากรุงศรีกลับมีบริษัทหลักทรัพย์ถึงสองแห่ง แม้เว็บเหมือนจะดูดีกว่า nomura ของเดิม แต่เกรงว่าใช้ไปเรื่อยๆ จะโดนการควบรวมหรือเปลี่ยนแปลงอะไรอีกหรือไม่ (ผมเข้าใจว่าโปรแรงดีต้องโดนรวมในที่สุด ผมโดนมาแล้วทั้ง tmb+tbank และ uob+citi)

requirements สำคัญคือ
- ผูกบัญชีได้ทุกธนาคาร (หรือ ส่วนใหญ่ มากที่สุดที่เป็นไปได้)
- ใช้ผ่านเว็บได้ (ไม่ได้ห้ามว่าจะมีแอป แต่เว็บต้องสมบูรณ์และได้บริการเท่าเทียมกับแอป)
- ดูรายงานต้นทุนกำไรได้พอรู้เรื่อง (ไม่ใช่แบบใน app ที่บางทีดูไม่รู้เรื่อง)
- ซื้อได้ทุกกองทุนในประเทศไทย (หรือ ส่วนใหญ่ มากที่สุดที่เป็นไปได้)
- ไม่มีค่าธรรมเนียม หรือ ต้นทุนในการดำเนินการหรือเปิดบัญชีที่น่าเกลียด
- ไม่มีโฆษณาที่น่ารำคาญทั้งทางอีเมล sms หรือ เว็บ/แอป (บางธนาคารตอนนี้น่ารำคาญอย่างมากเลย)
- มี business model ที่มีความมั่นคงยั่งยืนที่จะอยู่ต่อไปได้โดยไม่ควบรวมเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนไปใช้ทาง app อย่างเดียวหรือปิดบริการที่สำคัญ 

ผมเข้าใจว่ามี non-bank ให้บริการทำนองนี้ด้วย เช่น finomina, wealthmagic ขอเพื่อนสมาชิกช่วยแบ่งปันว่าสอดคล้องกับ requirements ข้างบนหรือไม่

หรือ requirements เหล่านี้เป็นการขอมากมายเกินไป ?

ถ้าได้ตามนี้นอกจากเปิดของตัวเอง จะพาแม่ (ผู้สูงอายุ 60+) ไปเปิดบัญชีด้วยเป็นของขวัญวันแม่
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่