เราเป็นเด็กผู้หญิงคนนึงที่จบม.6มาก็ได้อยู่บ้านค่ะ
เราพยายามขอแม่ว่า ขอออกไปทำงานนอกบ้านได้มั้ย แกก็ไม่ให้ไปเพราะแกเป็นห่วงเรา
แต่พอมันอยู่ที่บ้านหลังเรียนจบมาได้3ปีมันก็มาถึงจุดหนึ่งที่ว่า ไม่อยากจะอยู่ตรงนี้แล้ว เพราะมีคำพูดมากมายต่างๆนาๆที่ประดังเข้ามาดูถูกเรา
รวมถึงแม่และพี่ชายด้วยที่ยังดูถูกเรา
เราพยายามทำงานช่วยทุกอย่าง ทั้งงานบ้าน และขายของทำของช่วย แต่ช่วงนี้งานจะหนักหน่อยเพราะแม่บอกให้เรามาตัดไม้กับพ่อ งานตัดไม้จะมาเป็นช่วงๆ แล้วแต่คนเขาจะมาบอกให้ไปตัด แต่ทำทีนึงก็ทำเป็นเดือน
ก็คือเราก็ไปทำช่วย ทั้งเก็บไม้กอง เอาไม้ขึ้นรถ และลงไม้ ถ้าคนทำงานไม้จริงๆจะรู้ว่างานไม้มันไม่ใช่เล่นๆ เพราะไม้มันหนัก ไม้ฟืนไม่เท่าไหร่ ไม้ท่อนใหญ่ๆยกทีนึงมีเจ็บท้องน้อยอ่ะ แถมแดดประเทศไทยคือ สุดๆ
แค่ทำงานพวกนี้ก็เหนื่อยพอแรงแล้ว แต่มันจะมีช่วงหยุด1วัน คือเราก็เหนื่อย เราไม่อยากขยับตัวทำอะไรเลย เพราะร่างกายมันแบบ ล้าอ่ะ เราก็ไปล้างจานทำงานบ้านเสร็จก็มานอนอยู่เปล กะจะไม่ทำอะไรเลยหลังจากนั้นเพราะเหนื่อยจริง ขนาดพ่อก็ยังนอนพักเอาแรงเลย
แต่แม่คือ ด่าเราหูดับตับไหม้ หาเรื่องทะเลาะตลอดช่วงนี้ เราเลยรู้สึกว่าเดือนนี้เป็นเดือนที่แย่ และรู้สึกว่าดวงตกที่สุด เพราะเอาแต่คอยหาเรื่องเรา พอเห็นเรานั่งเล่นเกม แกก็จะด่าแล้วว่างานการไม่รู้จักหาช่วยทำ มึ_รู้มั้ยว่ากุเหนื่อยแค่ไหน มึ_คิดช่วยกุทำอะไรบ้างมั้ย ทำงานหน้าเดี๋ยวนิ มึ_จะเป็นจะตายเนาะ กุอยู่บ้านนิกุทำทุกอย่าง (แกก็ขายอาหารตามสั่ง ลูกค้าต่อวันก็มีแค่3-4คน ไม่ได้ขายดีขนาดนั้ย เพราะแกชอบด่าลูกค้าเลยไม่มีใครอยากจะเข้าร้าน งานบ้านแกก็ซักแค่ผ้า แกก็ซักแค่ผ้าตัวเองนั่นแหละ หั่นหมูเก็บกะเพราไว้เสร็จแกก็นะ่งเล่นแต่โทรศัพท์ ทั้งวัน ส่วนจานเราก็เป็นคนล้างทุกเย็น ทั้งกวาดพื้น ถูพื้น ผ้าเราก็ต้องซักของตัวเองรวมถึงของตาด้วย )
คือเราแอบเสียความรู้สึกอ่ะ เราก็ทำงานทุกวันไม่มีวันหยุดตายตัว ให้เราหยุดพักนอนสบายๆสักวันไม่ได้เลยหรอ ให้เราได้เห็นแก่ตัวบ้างเถอะ เหมือนที่เราทำไปมันไม่มีค่า แล้วพอเราเถียงกลับ แกก็จะโทรไปหาพี่ชายคนกลางที่ทำงานอยู่กรุงเทพ แล้วแกก็พูดอะไรเสียๆให้พี่ฟัง ว่าพ่อกับเราเป็นมือเป็นเท้าช่วยอะไรไม่ได้สักอย่าง แล้วมาพูดทำนองว่าเราขี้เกียจมีแต่แกคนเดียวที่เหนื่อยทำทุกอย่าง แกพูดโทรศัพท์เราก็ได้ยิน และก็คือนั่งร้องไห้ในห้องเลย เพราะมันโคตรเสียความรู้สึก เหนื่อยกายไม่เท่าไหร่ แต่ยิ่งฟังมันยิ่งเหนื่อยที่ใจอ่ะ
ต่อมาเราก็นึกว่าพี่ชายคนกลางจะแชทมาด่าเรา แต่ก็เงียบเราเลยโล่งใจ แต่ถ้าเขาแชทมาเราก็เตรียมที่จะระบายเต็มที่อ่ะ ว่าเราเองก็เหนื่อย ใช่ว่าเห็นเป็นวัยรุ่นแล้วจะไม่เหนื่อย ร่างกายคนเราก็มีลิมิต ไม้เป็นตันๆต่อวันนะ ไม่ใช่โลสองโล
เราก็ไปพูดเรื่องนี้ให้พ่อฟัง พ่อก็บอกว่า ถ้าพี่มึ_โทรมาด่า เอาโทรศัพท์มาให้พ่อนี่ แม่มึ_อยู่บ้านไปวันๆจะไปรู้อะไร พูดเอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่นหมด
ก็คือมีแค่พ่อที่เห็นว่าเราเหนื่อยจริงๆเพราะเราทำงานกับแก
แต่เวลาโดนแม่ด่า พ่อก็ไม่เคยออกตัวช่วยสักครั้ง....
เราโดนคำพูดแม่ทุกวันๆ วันไหนถ้าเราเพลียๆและตื่นช้ากว่าปกติเช่นปกติตื่น6โมง เราจะตื่น7โมง แกก็จะตะโกนด่าแล้ว ว่ามึ_จะไม่ทำมาหาแด_เลยรึไง ถ้าจะยื้อเราไว้บ้านเเล้วทำกับเราแบบนี้ อย่ายื้อเราไว้เลย...
เราโดนทุกวันอ่ะ บางวันก็อีกเรื่องนึง ทั้งๆที่เราก็ทำงานอยู่งกๆ ยกไม้ไปก็ร้องไห้ไป แต่ก็พยายามเช็ดน้ำตาเพราะไม่อยากให้พ่อเห็นว่าเราร้องไห้ เราไม่อยากดูอ่อนแอให้คนอื่นเห็น
และล่าสุดวันนี้เราเอาไม้ขึ้นรถเสร็จได้ครึ่งรถแล้ว เราก็เลยมานั่งพักเพราะพักเที่ยงพอดีและเล่นโทรศัพท์ เป็นจังหวะที่พี่ชายคนโตที่ทำงานอยู่ปราจีนแกโทรวิดีโอคอลมาพอดีเราก็เลยรับสาย แกจะขอคุยกับแม่ แต่เราบอกว่าเราไม่ได้อยู่บ้าน เรามาป่ากับพ่อมาตัดไม้
แล้วคำพูดที่แม้จะเป็นเพียงคำเดียวแต่โคตรเสียดแทงใจเราจนน้ำตาเรารื้นอีกก็คือ 'ไปทำงานหรือไปนั่งเฉยๆ' เราก็บอกว่าพ่อไปเดินดูไม้อยู่ยังไม่ทันตัดกองใหม่ แต่พี่ก็ตัดสายไปและไม่ฟังเรา
มันยิ่งตอกย้ำเราว่า ในสายตาคนอื่น เรามันดูไม่ได้เรื่องขนาดนั้นเลยหรอ รวมถึงครอบครัว เพราะแม่ชอบไปพูดอะไรเสียๆให้พี่ฟังแล้วเอาดีเข้าตัวเองหมด
เราอยู่จุดนี้มานาน นานจนคิดว่าจะชินชา แต่ก็ไม่ชิน เราไม่เคยจะแก้ปัญหานี้ได้เลยแม้จะพูดไปตรงๆและพยายามบอกกับแม่แต่ก็แก้ปัญหาไม่ได้ ไม่ต้องมาชื่นชมเราก็ได้ แต่อย่ามาพูดตัดทอนกำลังใจเราเลย แค่ยกไม้ก็เหนื่อยพอแรงแล้ว ขนาดเราบอกว่าเราเจ็บท้องน้อยเพราะยกไม้หนักแกยังไม่ฟังเราเลยไล่แต่เราไปทำงานๆ ถ้าใครเคยตัดไม้สนจะรู้ ว่ามันหนักมากแค่ไหน รถนึงก็ปาไป3ตันกว่า
แล้วไม่นานมานี้พี่ผู้หญิงที่อยู่ข้างบ้าน เขาก็พูดเข้าข้างเรา ว่าลูกก็เป็นผู้หญิงจะใช้มันไปทำงานไม้อะไรนักหนาเดี๋ยวมดลูกก็สวดออกพอดี แต่แม่ก็สวนกลับไปว่า แล้วมึ_มายุ่งอะไรด้วย
เราไม่อยากบ่นเรื่องทำงาน เพราะเราเองก็ตั้งใจมาช่วยพ่ออยู่แล้ว และไม่ได้เอาเงินค่าแรงด้วย เงินทุกบาททุกสตางค์ขายไม้ได้มาวันละ1000-2000บาท ก็ยกให้แม่หมด แม้แต่พ่อก็ยังไม่มีสิทธิได้ใช้ แม่จะซื้อหวยเท่าไหร่ก็คิดแต่ว่าตัวเองถูกหมดแต่คนทำงานไม้งกๆจะตายอยู่แล้ว
เหนื่อยกับชีวิต จนขนาดที่คิดอยากตายหลายครั้ง แต่ก็กลัว
ถ้าถามว่าทำไมถึงไม่ออกมาจากจุดนั้น
อยากออก อยากออกมากๆอยากออกไปหางานทำ แต่แม่ไม่ปล่อย ถึงขนาดที่เราเก็บเสื้อผ้าเตรียมจะออกจากบ้านแล้ว แต่แกก็มาขวางฉุดกระชากกันอยู่แบบนั้น เป็นชั่วโมงแกก็ไม่ยอมให้เราไป และขอร้องอ้อนวอนเราและพร่ำบอกรักอย่างนู้นอย่างนี้ เรารู้แหละ ว่าแกรัก แกเป็นห่วงเรา เราก็เลยยอม แต่เราก็คิดว่าแกจะปรับปรุงไม่พูดเสียดสีเราอีก แต่วันต่อมา แกก็ทำเหมือนเดิม และโทรไปฟ้องลูกชายว่าเราทำอะไรบ้าง พยายามจะออกจากบ้าน และบ่นว่าเราไม่เหนื่อยมีแต่แม่เหนื่อยอยู่คนเดียว
มันเลยเป็นจุดที่คิดว่า อยู่ก็เจ็บ แต่จะไปก็ไม่ได้ ทรมานมากๆ ทรมานจิตใจสุดๆ
เราหาทางออกไม่ได้เลยกับชีวิต เราจะต้องอยู่แบบนี้ไปตลอดงั้นหรอ ยิ่งอยู่ รู้สึกว่ายิ่งดิ่ง แล้วครอบครัวก็ไม่ใช่เซฟโซนสำหรับเรา
ขอพื้นที่ระบายก็พอค่ะ ไม่ต้องมีคนมาเข้าใจเราก็ได้
เจ็บใจที่ครอบครัวไม่เคยเห็นใจเราเลย
เราพยายามขอแม่ว่า ขอออกไปทำงานนอกบ้านได้มั้ย แกก็ไม่ให้ไปเพราะแกเป็นห่วงเรา
แต่พอมันอยู่ที่บ้านหลังเรียนจบมาได้3ปีมันก็มาถึงจุดหนึ่งที่ว่า ไม่อยากจะอยู่ตรงนี้แล้ว เพราะมีคำพูดมากมายต่างๆนาๆที่ประดังเข้ามาดูถูกเรา
รวมถึงแม่และพี่ชายด้วยที่ยังดูถูกเรา
เราพยายามทำงานช่วยทุกอย่าง ทั้งงานบ้าน และขายของทำของช่วย แต่ช่วงนี้งานจะหนักหน่อยเพราะแม่บอกให้เรามาตัดไม้กับพ่อ งานตัดไม้จะมาเป็นช่วงๆ แล้วแต่คนเขาจะมาบอกให้ไปตัด แต่ทำทีนึงก็ทำเป็นเดือน
ก็คือเราก็ไปทำช่วย ทั้งเก็บไม้กอง เอาไม้ขึ้นรถ และลงไม้ ถ้าคนทำงานไม้จริงๆจะรู้ว่างานไม้มันไม่ใช่เล่นๆ เพราะไม้มันหนัก ไม้ฟืนไม่เท่าไหร่ ไม้ท่อนใหญ่ๆยกทีนึงมีเจ็บท้องน้อยอ่ะ แถมแดดประเทศไทยคือ สุดๆ
แค่ทำงานพวกนี้ก็เหนื่อยพอแรงแล้ว แต่มันจะมีช่วงหยุด1วัน คือเราก็เหนื่อย เราไม่อยากขยับตัวทำอะไรเลย เพราะร่างกายมันแบบ ล้าอ่ะ เราก็ไปล้างจานทำงานบ้านเสร็จก็มานอนอยู่เปล กะจะไม่ทำอะไรเลยหลังจากนั้นเพราะเหนื่อยจริง ขนาดพ่อก็ยังนอนพักเอาแรงเลย
แต่แม่คือ ด่าเราหูดับตับไหม้ หาเรื่องทะเลาะตลอดช่วงนี้ เราเลยรู้สึกว่าเดือนนี้เป็นเดือนที่แย่ และรู้สึกว่าดวงตกที่สุด เพราะเอาแต่คอยหาเรื่องเรา พอเห็นเรานั่งเล่นเกม แกก็จะด่าแล้วว่างานการไม่รู้จักหาช่วยทำ มึ_รู้มั้ยว่ากุเหนื่อยแค่ไหน มึ_คิดช่วยกุทำอะไรบ้างมั้ย ทำงานหน้าเดี๋ยวนิ มึ_จะเป็นจะตายเนาะ กุอยู่บ้านนิกุทำทุกอย่าง (แกก็ขายอาหารตามสั่ง ลูกค้าต่อวันก็มีแค่3-4คน ไม่ได้ขายดีขนาดนั้ย เพราะแกชอบด่าลูกค้าเลยไม่มีใครอยากจะเข้าร้าน งานบ้านแกก็ซักแค่ผ้า แกก็ซักแค่ผ้าตัวเองนั่นแหละ หั่นหมูเก็บกะเพราไว้เสร็จแกก็นะ่งเล่นแต่โทรศัพท์ ทั้งวัน ส่วนจานเราก็เป็นคนล้างทุกเย็น ทั้งกวาดพื้น ถูพื้น ผ้าเราก็ต้องซักของตัวเองรวมถึงของตาด้วย )
คือเราแอบเสียความรู้สึกอ่ะ เราก็ทำงานทุกวันไม่มีวันหยุดตายตัว ให้เราหยุดพักนอนสบายๆสักวันไม่ได้เลยหรอ ให้เราได้เห็นแก่ตัวบ้างเถอะ เหมือนที่เราทำไปมันไม่มีค่า แล้วพอเราเถียงกลับ แกก็จะโทรไปหาพี่ชายคนกลางที่ทำงานอยู่กรุงเทพ แล้วแกก็พูดอะไรเสียๆให้พี่ฟัง ว่าพ่อกับเราเป็นมือเป็นเท้าช่วยอะไรไม่ได้สักอย่าง แล้วมาพูดทำนองว่าเราขี้เกียจมีแต่แกคนเดียวที่เหนื่อยทำทุกอย่าง แกพูดโทรศัพท์เราก็ได้ยิน และก็คือนั่งร้องไห้ในห้องเลย เพราะมันโคตรเสียความรู้สึก เหนื่อยกายไม่เท่าไหร่ แต่ยิ่งฟังมันยิ่งเหนื่อยที่ใจอ่ะ
ต่อมาเราก็นึกว่าพี่ชายคนกลางจะแชทมาด่าเรา แต่ก็เงียบเราเลยโล่งใจ แต่ถ้าเขาแชทมาเราก็เตรียมที่จะระบายเต็มที่อ่ะ ว่าเราเองก็เหนื่อย ใช่ว่าเห็นเป็นวัยรุ่นแล้วจะไม่เหนื่อย ร่างกายคนเราก็มีลิมิต ไม้เป็นตันๆต่อวันนะ ไม่ใช่โลสองโล
เราก็ไปพูดเรื่องนี้ให้พ่อฟัง พ่อก็บอกว่า ถ้าพี่มึ_โทรมาด่า เอาโทรศัพท์มาให้พ่อนี่ แม่มึ_อยู่บ้านไปวันๆจะไปรู้อะไร พูดเอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่นหมด
ก็คือมีแค่พ่อที่เห็นว่าเราเหนื่อยจริงๆเพราะเราทำงานกับแก
แต่เวลาโดนแม่ด่า พ่อก็ไม่เคยออกตัวช่วยสักครั้ง....
เราโดนคำพูดแม่ทุกวันๆ วันไหนถ้าเราเพลียๆและตื่นช้ากว่าปกติเช่นปกติตื่น6โมง เราจะตื่น7โมง แกก็จะตะโกนด่าแล้ว ว่ามึ_จะไม่ทำมาหาแด_เลยรึไง ถ้าจะยื้อเราไว้บ้านเเล้วทำกับเราแบบนี้ อย่ายื้อเราไว้เลย...
เราโดนทุกวันอ่ะ บางวันก็อีกเรื่องนึง ทั้งๆที่เราก็ทำงานอยู่งกๆ ยกไม้ไปก็ร้องไห้ไป แต่ก็พยายามเช็ดน้ำตาเพราะไม่อยากให้พ่อเห็นว่าเราร้องไห้ เราไม่อยากดูอ่อนแอให้คนอื่นเห็น
และล่าสุดวันนี้เราเอาไม้ขึ้นรถเสร็จได้ครึ่งรถแล้ว เราก็เลยมานั่งพักเพราะพักเที่ยงพอดีและเล่นโทรศัพท์ เป็นจังหวะที่พี่ชายคนโตที่ทำงานอยู่ปราจีนแกโทรวิดีโอคอลมาพอดีเราก็เลยรับสาย แกจะขอคุยกับแม่ แต่เราบอกว่าเราไม่ได้อยู่บ้าน เรามาป่ากับพ่อมาตัดไม้
แล้วคำพูดที่แม้จะเป็นเพียงคำเดียวแต่โคตรเสียดแทงใจเราจนน้ำตาเรารื้นอีกก็คือ 'ไปทำงานหรือไปนั่งเฉยๆ' เราก็บอกว่าพ่อไปเดินดูไม้อยู่ยังไม่ทันตัดกองใหม่ แต่พี่ก็ตัดสายไปและไม่ฟังเรา
มันยิ่งตอกย้ำเราว่า ในสายตาคนอื่น เรามันดูไม่ได้เรื่องขนาดนั้นเลยหรอ รวมถึงครอบครัว เพราะแม่ชอบไปพูดอะไรเสียๆให้พี่ฟังแล้วเอาดีเข้าตัวเองหมด
เราอยู่จุดนี้มานาน นานจนคิดว่าจะชินชา แต่ก็ไม่ชิน เราไม่เคยจะแก้ปัญหานี้ได้เลยแม้จะพูดไปตรงๆและพยายามบอกกับแม่แต่ก็แก้ปัญหาไม่ได้ ไม่ต้องมาชื่นชมเราก็ได้ แต่อย่ามาพูดตัดทอนกำลังใจเราเลย แค่ยกไม้ก็เหนื่อยพอแรงแล้ว ขนาดเราบอกว่าเราเจ็บท้องน้อยเพราะยกไม้หนักแกยังไม่ฟังเราเลยไล่แต่เราไปทำงานๆ ถ้าใครเคยตัดไม้สนจะรู้ ว่ามันหนักมากแค่ไหน รถนึงก็ปาไป3ตันกว่า
แล้วไม่นานมานี้พี่ผู้หญิงที่อยู่ข้างบ้าน เขาก็พูดเข้าข้างเรา ว่าลูกก็เป็นผู้หญิงจะใช้มันไปทำงานไม้อะไรนักหนาเดี๋ยวมดลูกก็สวดออกพอดี แต่แม่ก็สวนกลับไปว่า แล้วมึ_มายุ่งอะไรด้วย
เราไม่อยากบ่นเรื่องทำงาน เพราะเราเองก็ตั้งใจมาช่วยพ่ออยู่แล้ว และไม่ได้เอาเงินค่าแรงด้วย เงินทุกบาททุกสตางค์ขายไม้ได้มาวันละ1000-2000บาท ก็ยกให้แม่หมด แม้แต่พ่อก็ยังไม่มีสิทธิได้ใช้ แม่จะซื้อหวยเท่าไหร่ก็คิดแต่ว่าตัวเองถูกหมดแต่คนทำงานไม้งกๆจะตายอยู่แล้ว
เหนื่อยกับชีวิต จนขนาดที่คิดอยากตายหลายครั้ง แต่ก็กลัว
ถ้าถามว่าทำไมถึงไม่ออกมาจากจุดนั้น
อยากออก อยากออกมากๆอยากออกไปหางานทำ แต่แม่ไม่ปล่อย ถึงขนาดที่เราเก็บเสื้อผ้าเตรียมจะออกจากบ้านแล้ว แต่แกก็มาขวางฉุดกระชากกันอยู่แบบนั้น เป็นชั่วโมงแกก็ไม่ยอมให้เราไป และขอร้องอ้อนวอนเราและพร่ำบอกรักอย่างนู้นอย่างนี้ เรารู้แหละ ว่าแกรัก แกเป็นห่วงเรา เราก็เลยยอม แต่เราก็คิดว่าแกจะปรับปรุงไม่พูดเสียดสีเราอีก แต่วันต่อมา แกก็ทำเหมือนเดิม และโทรไปฟ้องลูกชายว่าเราทำอะไรบ้าง พยายามจะออกจากบ้าน และบ่นว่าเราไม่เหนื่อยมีแต่แม่เหนื่อยอยู่คนเดียว
มันเลยเป็นจุดที่คิดว่า อยู่ก็เจ็บ แต่จะไปก็ไม่ได้ ทรมานมากๆ ทรมานจิตใจสุดๆ
เราหาทางออกไม่ได้เลยกับชีวิต เราจะต้องอยู่แบบนี้ไปตลอดงั้นหรอ ยิ่งอยู่ รู้สึกว่ายิ่งดิ่ง แล้วครอบครัวก็ไม่ใช่เซฟโซนสำหรับเรา
ขอพื้นที่ระบายก็พอค่ะ ไม่ต้องมีคนมาเข้าใจเราก็ได้