คือ ผมมีอาการเหล่านี้หลังจากไปสัก บริเวณแผ่นหลังมาครับ เป็นขั้นตอนของการเดินเส้นเต็มหลังนะครับ

ซึ่งเป็นการใช้ยาชาในการสักด้วย

หลังการสักประมาณ 2 ชม. ผิวหนังมีอาการแพ้ยาชา ขึ้นเป็นผื่นแดงเต็มหลังเลย แต่วันรุ่งขึ้นรอยแดงก็หายไป

สิ่งที่ผมเจออยู่คือ ช่วง 1-2 วันแรก คือ ไม่ค่อยมีอาการคัน ปกติมาก ผมเลยล้างน้ำเปล่าและน้ำเกลือเท่านั้นครับ

แต่พอเข้าวันที่ 3 เริ่มมีอาการคันมากกกกกก ทาน้ำมันออย ก็ไม่หายคัน จึงตัดสินใจ ทาบีแพนเท็น  ผลคือ แสบมากกกก และ คันมากกกก น้ำตาแทบไหลครับ  ทนอยู่ประมาณ 5 นาที อาการถึงทุเลาลง

และทุกครั้งที่ผมเกาเบาๆ  ที่หลัง ผ่านไปประมาณ 10 วินาที จะมีอาการคันและเจ็บแสบจี๊ดๆ บริเวณนั้น (อาการแสบมันจะดีเลย์ครับ งงไหม)

ตั้งแต่วันที่ 3-13 ผมทรมานทุกครั้งที่ต้องล้างน้ำเกลือและทาบีแพนเท็น เพราะมันจะแสบและคันมากๆๆๆ ย้ำนะครับ ว่าแสบและคันมากกก  ประมาณ 5 นาที (กลัวทุกครั้งที่ทา) แต่ต้องยอม เพราะหลังจากทา มันจะหายคัน

จนสุดท้าย ตัดสินใจไปปรึกษาเภสัชกร   เภสัชฯ แจ้งว่า ผมน่าจะแพ้สารที่อยู่ในยาบีแพนเท็น 😭😭😭 เลยจ่าย fucidin ointment มาให้ทา พร้อมกับยาแก้แพ้ เพื่อลดอาการคัน ผลคือ อาการคันลดลง แต่อาการแสบและคันเวลาทา fucidin ยังมีอยู่  แต่คะแนนความแสบและคันจากเต็ม 10 (บีแพนเท็น) เหลือ 5-6 คะแนน ถือว่าดีขึ้น

จนปัจจุบันเข้าวันที่ 15 แล้ว  ผมยังรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ และ คันที่รอยสักบางครั้ง เวลาที่มีการสัมผัสหลังหรือขยับตัว รวมถึงแสบและคันเวลาทายา fucidin ointment

แบบนี้แสดงว่า รอยสักผมอักเสบหรือเปล่าครับ  และ ผมควรทา หรือ หายาอะไรมาทานไหมครับ

ปลายเดือนนี้ ผมมีนัดกับช่างสัก สักงานต่อ(ยังไม่จบ)  เลยลังเลว่า จะใช้ยาชาดีไหม  หรือ ควรต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะ เส้นที่เดินไว้ ยังมีอาการเจ็บอยู่เลย(ยังไม่หาย) ไม่รู้ว่าแพ้หมึก แพ้ยาชา😔

หมายเหตุ : ที่สังเกตยากเพราะ รอยสักผมไม่มีรอยแดง ไม่บวม ไม่มีเลือด น้ำเหลือง ที่แสดงอาการว่า อักเสบเลยครับ แต่พอทายาเท่านั้นแหละ  มีดิ้นครับ  เลย งง ว่ามันเกิดอะไรและจะทำยังไงต่อไปดีครับ

วอนผู้มีประสบการณ์ช่วยแนะนำด้วยครับ