ติดตาม ZOM100 มาตั้งแต่เป็นมังงะถึงอนิเมะ หลังจากอ่านมังงะถึงช่วงลุ้นความรักของพระเอกนางเอก และได้ดูอนิเมะไป 4 ตอน ก็ได้ฤกษ์ของไลฟ์แอคชั่น หรือฉบับคนแสดงมาลงจอให้ดูซะที 

หนังมีความสดใส ซึ่งจุดนี้ส่วนตัวชอบตรงที่ไม่ทำมาดาร์กอย่างอนิเมะซึ่งจะมีมุมที่ดูแล้วหดหู่เยอะกว่าแม้จะเป็นอนิเมะคอมเมดี้ก็เหอะ
ไม่ใช่ว่าอนิเมะทำดาร์กแล้วไม่ดีนะ ก็ดีและเหมาะในแบบอนิเมะ แต่พอหนังเอามาปรับโทนให้เน้นอารมณ์แบบฟีลกู้ดแทน ทำให้ได้เห็นเรื่องราวเดียวกันในอีกมุมมอง ส่วนตัวคิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูก เพราะสร้างความยูนีคของหนังให้แตกต่างฉีกออกมา และรู้สึกว่าโทนนี้เหมาะมากกับความเป็นฉบับคนแสดงทำให้เรื่องราวเข้าถึงง่ายได้มากกว่าถ้าไม่คิดมาก (ซึ่งก็ไม่ควรคิดมากเพราะหนังไม่ได้ทำมาให้คิดมาก) ไปกันได้อย่างพอดีกับแมสเสจที่หนังต้องการจะบอก

แต่เอาจริงก็เสียดายบางแมสเสจในอนิเมะทำได้แข็งแรงและแน่นกว่า ซึ่งอาจจะเพราะมีเวลาเล่าเรื่องมากกว่า อย่างการปูเรื่องการทำงานตอนต้นอนิเมะทำได้ดาร์กกว่ามาก พอซอมบี้ออกมาอิมแพคของอนิเมะก็เลยโดนใจชัดกว่า หรือพล็อตตอนแอร์โฮสเตสในมังงะกับอนิเมะก็แอบเสียดายพอเป็นหนังถูกตัดดีเทลบางอย่างออกไป(ซึ่งแมสเสจนั้นในอนิเมะดีมาก ๆ ฉากนั้นดูอนิเมะน้ำตาไหลเลย)
เสียดายอีกเรื่องที่เดินเรื่องไปไม่ถึงตอนเบียทริกซ์ออกมาด้วย ในฐานะที่อ่านมังงะมาก็อยากเห็นตัวละครหลักให้ครบทั้งในอนิเมะและหนัง (อนิเมะก็ยังไม่ออกแต่จากไตเติ้ลน่าจะมาทันก่อนจบซีซั่น) 

ดีที่สุดของหนังขอยกให้พระเอก ต้องให้เขาล่ะ อยากชมคนคัดเลือกนักแสดงว่าตาแหลมคมมาก เอจิคือเหมือนเกิดมาเพื่อบทนี้ เป๊ะแบบ 10 10 10 ทั้งหน้าตา คาแรกเตอร์ บุคลิก รอยยิ้ม แอตติจูดการแสดง เพิ่มเลเวลความโลกสวยให้หนังขึ้นไปได้อีกหลายเท่า แค่เห็นรอยยิ้มก็เหมือนเลือดซอมบี้กลายเป็นสีชมพูโลกสว่างสดใสขึ้นมาเลย มีความเล่นใหญ่แบบการ์ตูนแต่ออกมาดูพอดี น่าเอ็นดู รับผิดชอบทุกฉากได้ดี ประทับใจสุดคือฉากสารภาพรักโอโทริซังเล่นดีมากออกมาดีกว่าในอนิเมะอีก 

คาแรกเตอร์ของเคนโจชอบที่มีการปรับจากในมังงะกับอนิเมะซึ่งส่วนตัวรู้สึกว่าเคนโจต้นฉบับน่าจะล้นไปถ้าเอามาใช้กับหนัง หนังปรับมาได้กลมกล่อมพอดีกว่า 
บทโอโทริซังก็ปรับแล้วดีเลย ดูมีมิติและมีคลาสขึ้นสมเป็นรักแรกของพระเอก ไม่รู้สึกแบนอย่างในต้นฉบับ  
นางเอกคาแรกเตอร์ดูซอฟท์กว่าในอนิเมะ แอบอยากให้มีบทเยอะขึ้นหน่อยแต่ก็เข้าใจว่าเท่านี้หนังก็ 2 ชั่วโมงกว่าแล้วน่ะ 555

เนื้อเรื่องถึงจะโดนตัดหลายจุดไปบ้างน่าเสียดายอาจจะด้วยข้อจำกัดของความเป็นหนัง แต่มีหลายตอนที่คนเขียนบทหนังปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเข้ามาแล้วชอบมาก ๆ เช่น ใส่ซ้อนฉากในสนามรักบี้เพิ่มมา ทำให้ทั้งมีความแตกต่างจากเดิม(ในทางที่ดี) และเพิ่มมิติให้มีความเฉพาะตัวของหนังมากขึ้นจากตอนเป็นมังงะกับอนิเมะ หรือที่ปรับให้สองผัวเมียตอนต้นเรื่องไม่ให้ลงเอยอย่างในมังงะกับอนิเมะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อนิเมะกลายเป็นซอมบี้ตั้งแต่ต้นเรื่อง แต่หนังปรับให้รอดแล้วไปเจอพระเอกตอนอยู่ค่ายอีกครั้งเพื่อเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจให้กลุ่มพระเอก อันนี้ก็ขอชมว่าปรับแล้วดีมากเลย ชอบและถูกใจขึ้นกว่าแบบเดิมมาก ๆ ๆ 

สรุป
โดยรวมแล้วหนังทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีระดับหนึ่ง คือสร้างความแตกต่างออกไปจากมังงะและอนิเมะแต่ไม่ได้เปลี่ยนจนเพี้ยนไปเลย ดูแล้วเพลินดีแบบไม่ต้องคิดมากแต่ก็ไม่ได้กลวง มีแมสเสจที่แข็งแรงระดับนึงส่งมาถึงคนดูได้ชัดเจน
คนที่ต้องการอารมณ์เดียวกันกับการดูอนิเมะอาจไม่ถูกใจ คนที่ต้องการความจริงจังอาจไม่ถูกใจ (หนังกาวกว่าเบียวกว่าอนิเมะซึ่งโทนการเล่าเรื่องของอนิเมะมีความจริงจังมากกว่า) แต่ถ้าดูเพื่อเอนเตอร์เทน ดูเพื่อเติมความสดใสให้ชีวิต ดูเพื่อได้เห็นว่ายังมียิ้มสดใสของใครสักคนบนโลกใบนี้ท่ามกลางโลกที่เหมือนจะสิ้นหวัง อันนี้คือได้เต็มที่เลย