ตำนานในค่ายทหารของผม!!!

ใช้คำว่าตำนานบางคนอาจจะมองว่าเกินจริง แต่อย่างน้อยสำหรับผมมันเป็นเรื่องราวที่มีครบทุกรสชาติมากกกกก บางครั้งเมื่อหวนนึกถึงมันทำให้ผมยิ้ม และบางครั้งก็ทำให้เศร้าได้ ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดมันเป็นการพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดในแต่ละวันของผม และมันค่อยๆสะท้อนความเป็นตัวตนของผมคนนี้ จนได้เป็นที่จดจำของทุกคน....

"มึเป็นรึเปล่า"

เมื่อนั่งโต๊ะลงทะเบียน ผมก็เจอพี่ทหารคนหนึ่งซึ่งหน้าตาดูโหดที่สุดในบรรดาแต่ละแถวที่ผมสังเกตุ ได้แต่คิดในใจจะซวยอะไรขนาดนั้นว่ะ เขาซักถามประวัติผมด้วยน้ำเสียงดุดัน ด้านร่างกาย สุขภาพ การศึกษา บลาๆ ก็ไม่มีอะไร จนกระทั่ง

พี่หมู่ : เล่นกีฬาอะไรเป็นบ้าง
ผม : เล่นเป็นแค่วอลเล่บอลครับ
พี่หมู่ : เฮ้ย!!! เป็นรึเปล่า 

เขาพูดคะยั้นคะย้อต่อ ให้ผมยอมรับหากไม่ใช่ชายแท้ ผมได้แต่คิดในใจว่า ยิ้มแล้ว!!! ปากไว ไม่ทันคิด เอาว่ะ...ต้องใจดีสู้เสือ อย่าทำตัวมีพิรุธ

ผม : ไม่ได้เป็นครับ(พูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ)
พี่หมู่ : ไหนถอดแมสซิ 

ผมก็ถอดแมสออกอย่างกระฉับกระเฉงด้วยความมั่นใจ ประหนึ่งว่าหน้าตัวเองแมนดั่งชายแท้ เขามองหน้าผมซักพัก...แต่ไม่ได้พูดอะไรแล้วบอกให้ผมปิดแมสไว้เหมือนเดิม เมื่อผ่านจุดนี้ไปผมต้องฝากของทุกอย่างที่ติดตัวมาทั้งหมด เหลือเพียงเสื้อผ้าชุดเดียวที่ใส่ติดตัวมาด้วย และแล้วก็ถึงพิธีสลัดคราบพลเรือนสู่การเป็นพลทหารด้วยการ...ถอด...เปลี่ยนกันตรงนั้นแหละ เท่านั้นยังไม่พอ

ทหาร : เอ้า เร็ว!!! ยืนเรียงหน้ากระดาน
ผม : (เริ่มแล้วซินะ)
ทหาร : แก้ผ้าาาาาาาาา

ทุกๆคนค่อยๆถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้นอย่างเสียมิได้ จนท้ายที่สุดกางเกงในก็ค่อยๆถูกดึงลงและถอดออก(ด้วยน้ำมือของตัวเอง) ใครคิดว่ามันจะจบลงแค่ถอดกางเกงใน....ฮึ บอกเลยครับมันพึ่งเริ่ม

ทหาร : ยืนให้มันตรงๆหน่อย
ทหาร : เอ้าหมุนตัวหน่อย
ทหาร : ก้มลงมือแตะเท้า ปฏิบัติ!!!
ทหาร : เป่านกหวีดปี๊ดหนึ่งครั้งกระโดดหนึ่งที รับทราบ!!!
พวกผม : ทราบ

เข้าใจตอนนั้นไหมครับ เสียงนกหวีดแต่ละที มาพร้อมกับเสียงหัวเราะชอบใจของบรรดากองเชียร์ (หมายถึง กลุ่มเจ้าหน้าที่ทหาร รุ่นพี่ทหาร และรุ่นเดียวกันที่พวกมันเจอชะตากรรมแบบนี้ไปก่อนหน้านี้แล้ว)

ถามว่าความรู้สึกตอนนั้นเป็นยังไง คือดีที่ผมเตรียมใจเรื่องนี้มาแล้ว และเทคนิคตอนนั้นคือ ไม่ต้องมองที่ตัวเอง เพราะถ้าเราเห็นภาพของตัวเอง มันก็จะมีความรู้สึกอยากปิดนู้น ปิดนี่ เราเห็นแบบนี้คนอื่นเห็นแบบนี้ ต้องทำตัวนิ่งเข้าไว้ มองตรงไปข้างหน้าอย่างเดียว ไม่สนใจใคร ทำหน้าชาๆเข้าไว้ ซึ่งมันได้ผลเว้ยทุกคน...ผมผ่านมันไปได้

เรื่องตัวตนของผมที่เป็นเกย์ เรื่องนี้ผมเถียงกับตัวเองมาตลอดว่าจะเปิดตัวไปเลยไหม จะได้ไม่ต้องอึดอัด และเขาจะได้รู้ลิมิตเรา แต่อีกใจนึงก็กลัวโดนแกล้ง และอีกอย่างเราไม่อยากให้เขาเรียกเราว่าเจ้ เพราะทุกคนที่เปิดตัวโดนเรียกเจ้หมด ความรู้ความเข้าใจกับคำว่า "เกย์" ในนี้ยังตื้นเขินนัก ผมเลยเลือกที่จะเก็บซ่อนเอาไว้ มาเอาใจช่วยผมด้วยนะครับ ว่าสุดท้ายผมจะเอาตัวรอดยังไง แล้วความลับจะแตกไหม ฮ่าๆ 

ไอเทมที่ได้รับในช่วงแรกๆเลยคือ ขัน 1ใบ สบู่ 1 ก้อน ผ้าเช็ดตัว 1 ผืน แปรงฟันและยาสีฟันอย่างละ 1 สารส้ม 1 ก้อน กางเกงในรัดติ้ว....ตัว เข็มและด้าย(เอาไปทำอะไร) เข็มกลัด เชือก

ในระหว่างที่กำลังฟังกฎระเบียบ กิจวัตรที่ต้องทำต่างๆอยู่นั้น ในท่ามกลางเพื่อนทหารผมก็เหลือบไปเห็นคนๆนึง รูปร่างสูง หุ่นดี ผิวขาว ตี๋ เอาตรงๆมันหล่อ ใช่เลยคนเดียวกัน...

ย้อนกลับไปในตอนที่ไปรายงานตัวที่อำเภอผมเจอคนๆนี้และยังคิดในใจว่ามันหล่อจัง และตอนที่นั่งรถมาค่าย ยังได้นั่งข้างๆกันอีก แต่พอมาถึงค่ายช่วงคัดแยกเข้าหน่วยฝึกผมก็ไม่ได้เจอมันอีกเลย จนกระทั่งมาถึงหน่วยฝึกนี่แหละ และบอกก่อนนะครับว่าในหน่วยฝึกนี้ไม่ได้มาจากอำเภอเดียวกัน จังหวัดเดียวกัน มีคละๆกันไป แต่บังเอิ๊ญที่ผมได้มาอยู่หน่วยฝึกเดียวกับมันแถมยังอยู่โรงนอนเดียวกัน อิ๊อิ๊อิ๊

"สบู่ตก"

ผมก็เคยคิดนะว่าถ้ามีอารมณ์ตอนอาบน้ำทำยังไง เกิดเผลอไปมองหุ่นเพื่อนข้างๆ แล้วเกิดมันผงาดขึ้นมา คงจะโดนสงสัยและสุดท้ายก็โดนจับได้แหงๆ ฮ่าๆ อ๋อ...ขอบอกก่อนว่า ผมเป็นคนที่น้องชายตื่นไวมากๆ ถึงขั้นแค่บอกว่าคิดถึงนะ มันก็มาเลย หรือแบบสัมผัสแขน จับมือแบบนี้สามารถตื่นขึ้นมาได้เลย เรื่องนี้เลยเป็นเรื่องที่ผมกังวลมากกว่าเรื่องต้องแก้ผ้าซะอีก

ตัดภาพมาที่ความเป็นจริง

รุ่นพี่ : อาบน้ำจับเวลา 2 นาที เริ่ม!!!

เข้าใจไหมครับอ่างยาวเป็นสี่เหลี่ยม ทุกคนยืนเบียดชิดเต็มขอบอ่างและจ้วงตักน้ำด้วยความเร็วสูงพร้อมๆกัน แล้วอุปกรณ์ต่างๆ เช่น แปรงฟันยาสีฟันสบู่วางตรงไหน ก็ตรงขอบอ่างไงครับ

...ในจังหวะนั้นขันบ้าง แขนใครต่อใครบ้าง กระแทกสิ่งของที่วางอยู่บนขอบอ่างล่วงกระจัดกระจาย รีบก็รีบแต่อีกมือนึงก็ต้องจับอุปกรณ์ของตัวเองเอาไว้ แต่ไม่วายสบู่สุดที่รักของผมก็ไถลล่วงตกลงพื้นไป

แต่เดี๋ยวก่อน...ผมประมวลผลในช่วงมิลลิวินาทีนั้นว่าถ้าผมตามเก็บสบู่ ผมจะเสียที่ยืนของผมไป และคงจะอาบไม่ทัน ดีไม่ดีถูกจับเป็นคนช้า 3คนสุดท้าย นั่นเป็นผลลัพธ์ที่ยากจะยอมรับ แต่ยังไงสบู่จะมาหายในวันแรกไม่ได้ 

ทันใดนั้นปฏิกริยาของร่างกายผมก็สั่งการโดยอัตโนมัติ ผมใช้เท้าเหยียบสบู่ไว้อย่างแม่นยำ(โดยไม่ได้มอง) และอาบน้ำต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พออาบเสร็จถึงรีบเก็บและล้างๆแล้วรีบวิ่งโลด มันเลยไม่มีโมเมนต์ที่ให้น้องชายได้ทำงาน ฮ่าๆ

"เย็บผ้า"

จ่า : ทหารใหม่มีเข็มกับด้วยแล้ว กางเกงใครหลวมให้เย็บให้เรียบร้อย ตอนเย็นจ่าจะตรวจ
พวกผม : ...(มองหน้ากันเลิ่กลั่ก)
จ่า : อ้าว ใครเย็บผ้าไม่เป็น ก็ไปหาเพื่อนที่ทำเป็นนะ 

ผมได้แต่คิดในใจว่ายิ้มแล้ว ไม่มีทักษะทางนี้เลย มองไปทางไหนก็ไม่รู้จักใคร เอาไงดีว่ะเนี่ย รู้งี้แบ่งเวลาจากฝึกวิ่งไปฝึกเย็บผ้าบ้างดีกว่า

ตรงนั้นทำไมคนมุงกันเยอะจังเลย ผมก็เลยกระดึ๊บๆไปดู 

ยิว : ต้องดึงตรงนี้ เออ ดึงขึ้นมา

ผมมองไปที่ต้นเสียง เป็นมันนั่นเอง ของมันเย็บเสร็จหมดแล้วและมันกำลังสอนคนอื่นอยู่ คนอะไรหน้าตาดีแถมเย็บผ้าเป็นอีก...แต่ผมต้องตื่นก่อนเพราะกางเกงผมยังไม่เริ่มอะไรเลย ผมไม่กล้าเข้าไปถามมันใกล้ๆ ได้แต่มองที่มันสอนคนอื่นแล้วทำตาม...แต่ก็ไม่เข้าใจ เฮ้อ ไม่เข้าใจว่า กับอีแค่เย็บผ้าเนี่ยมันจะยุ่งยากอะไรขนาดนี้

ผม : แบบนี้แล้วทำยังไงต่ออ่ะ (ผมถามเพื่อนมัน)
เต้ : กูทำไม่เป็นอ่ะ ให้ไอ้ยิวมันสอน ยิวสอนแว่นดิ (ผมใส่แว่น)
ยิว : ไหนดูดิ ดึงออกมาก่อนเลยมันพันกันไปหมดละ แทงเข็มตรงนี้ แล้วดึง...
ผม : ขอบคุณนะ
ยิว : ไม่เป็นไรแว่น

จบแล้วบทสทนาแรกของผมกับมัน โดยที่ผมได้กลายเป็นไอ้แว่นคนธรรมดาคนนึง... 

ซึ่งที่นี่เขาจะชอบเรียกฉายาแทนชื่อ เช่น ใส่แว่น ก็เป็นไอ้แว่น เคยบวชมา ก็เรียกมหา และก็จะให้รับผิดชอบในการเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณในการสวดมนต์ต่างๆ ผิวเข้มๆ ก็เรียกมืด หน้าฝรั่ง ก็เรียกไอ้หรั่ง สาวๆ ก็จะเรียกเจ้ ส่วนไอ้ยิวหรอครับ ฉายามันคือ "ไอ้หล่อ" หมั่นไส้ยิ้ม

แต่ฉายาผมนั้นตอนแรกก็เป็นไอ้แว่นครับ แต่มันมีจุดเปลี่ยนและทำให้ฉายาใหม่เป็นสิ่งที่เขาเรียกกันตั้งแต่วันนั้น...จนกระทั่งวันสุดท้ายที่ผมก้าวเท้าออกจากค่าย

ปล. จะมีคนหลงมาอ่านไหมน้อ ผมอาจจะถ่ายทอดได้ไม่ดี แนะนำกันได้นะครับ และขอกำลังใจด้วยนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่