Day 1 Bangkok - Tokyo
1. ไม่ได้มาเที่ยวญี่ปุ่นนานนนนนนนนนมากกกกกกกกกค่ะ น่าจะ 10 ปีกว่าๆ เห็นใครๆ ก็ไป กระตุ้นต่อมเที่ยวมากกกกกกกกกกก.........ค่ะ ยังมีไมล์เหลือเลยรีบแลกเลยค่ะ เที่ยวแก้แค้นโควิทที่ทำให้ทุกคนเสียเวลาไป 3 ปี!!!!
2. งวดนี้ไปทั้งที่เคยไปแล้วและยังไม่ไม่เคยไปค่ะ มีเวลาเที่ยว 5 วัน ลาได้เท่านี้ ลามากกว่านี้ก็ได้แต่กลับมาอาจจะโดนเจ้านายและลูกน้องด่าได้ค่ะ
3. สำหรับ 5 วันนี้ วันแรกจะเดินเที่ยวใน Tokyo วันที่ 2 - 3 ไป Kawaguchiko วันที่ 4 ไป Nikko และวันสุดท้ายเที่ยว Tokyo แบบกรุบกริบๆ ก่อนกลับบ้านค่ะ
4. มีแค่ Kawaguchiko ที่ไม่เคยไป แผนเที่ยวงวดนี้เลยจะหลวมๆ สบายๆ ไม่รีบค่ะ
5. วันแรกที่สนามบินค่ะ งวดนี้บินกับการบินไทย check in counter เปืดให้ check in ก่อนเครื่องออกประมาณ 2.5 ชม. ค่ะ
6. แต่งวดนี้มีทางเลือกเพิ่มขึ้นคือเราสามารถ check in แบบ self-service ได้ที่เครื่องเหมือนหลายๆ ประเทศแล้วค่ะ
7. หลังจากยันตัวตนด้วย passport กรอกหรือ scan booking number แล้วตอบคำถามนิดหน่อย เครื่องก็ตะ print boarding pass กับ luggage tag ให้เราค่ะ
8. เอา luggage tag ไปติดที่หูกระเป๋า จากนั้นก็เอาไป drop ได้เลยค่ะ ขั้นตอนการ drop กระเป๋าก็ไม่ได้ยุ่งยากค่ะ ทำตามที่เครื่องบอก ยกกระเป๋าขึ้นสายพาน scan boarding pass และ luggage tag จากนั้นเครื่องก็จะจัดการให้ค่ะ
9. ถ้าติดปัญหาก็สามารถถามน้องจนท.แถวนั้นได้ค่ะ มีจนท.ดูแลอยู่
10. หลังจาก load กระเป๋าเราก็ไปกินข้าวที่ S&P ไป shopping ด้านในนิดหน่อยแล้วไปนั่ง Lougue ของ Miracle ค่ะ ได้บัตรฟรีมา 2 ใบพอดี
11. หมูกระเทียมไข่ข้นกับกระเพาะปลาเป็นเมนูประจำที่สั่งที่ S&P เลยค่ะ คือมันกำลังพอดีๆ ไม่อิ่มไปค่ะ จะได้ไปกินใน Miracle Louge ได้อีก 55555
12. ใน Louge ไม่ได้ถ่ายมาค่ะ เกรงใจคนอื่น วันที่ไปเขาเสริฟข้าวมันไก่แล้วก็เกี๊ยวน้ำ ข้าวมันไก่ก็ใช่ได้นะคะ ส่วนเกี๊ยวน้ำไม่ได้ลองค่ะ
13. ส่วนสลัด น้ำ เดินไปตักเองหยิบเองได้ตลอดเวลาค่ะ
14. นั่งหลับๆ ตื่นๆ ไปหลายรอบ จากนั้นก็เดินไปที่ gate ค่ะ ขึ้นเครื่องแล้วก็หลับยาวค่ะ
15. ถึง Tokyo ตอนเช้า ผ่านตม.แล้วก็นั่งรถไฟเข้าเมือง เอกากระเป่าไปฝากที่รร.ก่อนออกไปเที่ยวค่ะ รอบนี้เราพักแถวๆ Asakusa ค่ะ
16. เราซื้อตั๋วรถไฟเป็นเที่ยวๆ เอานะคะ ไม่ได้ใช้ Pass ลองคำนวนดูแล้วไม่น่าจะใช้คุ้มค่า Pass ค่ะ
17. ยกเว้นวันที่ไป Nikko ที่ซื้อ World Heritage Pass ซึ่งก็ เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดเพราะไม่คุ้มเช่นกันค่ะ
18. จากสนามบิน Narita นั่งรถไฟประมาณชม.นึงก็ถึง Asakusa ขนาดเป็นรถด่วนนะเนี่ย
19. ตอนนั่งรถไฟถ้าใครไม่ถนัดจำสถานีที่จะลงเป็นชื่อสถานีก็จำเป็นรหัสสถานีก็ได้ค่ะ เช่น A18
20. สำหรับตั๋วรถไฟจะซื้อเที่ยวๆ ไปหรือจะใช้บัตรเติมเงินแบบ Suica หรือ Pasmo ก็สะดวกดีค่ะ
21. ปกติแต่ละสถานีจะมีบันไดเลื่อนและลิฟต์ให้ใช้ค่ะ แต่ก็ไม่ได้มีทุกทางออกนะคะ อย่างทางออกที่เราใช้ไม่มีลิตฟ์และบันไดเลื่อน ต้องแบกกระเป๋าเดินทางเดินขึ้นบันไดเองค่ะ
22. ถ้าเดินทางพร้อมผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องการเดินตอนเลือกรร.อาจจะต้องเล็งดีๆ ว่ารร.อยู่ใกล้ทางออกที่มีลิตฟ์หรือเปล่านะคะ
23. วิวจาก lobby รร. ค่ะ เห็นวัด Sensoji, Tokyo Sky Tree, และตึก Asahi ค่ะ
24. หลังจากฝากกระเป๋าเรียบร้อยก็ไปหาอะไรกินแบบจริงๆ จังๆ ค่ะ ร้าน Unatoto แถว Asakusa
25. เรากินปลาไหลครั้งแรกที่ร้านนี้ค่ะ นั่งรถไฟถึง Asakusa ตอนมืดๆ มีร้านนี้เปิดอยู่ร้านเดียวเลยเข้าไปกิน ตอนนั้นไม่ได้คาดหวัง กะว่ากินเร็วๆ แล้วรีบกลับไปนอน ปรากฏว่าอร่อยแหะ
26. ติดใจมาก อยากกินอีก แต่วันรุ่งขึ้นต้องกลับแล้วเลยอดค่ะ ตอนนั้นยังนึกเสียดายอยู่เพราะเดินผ่านร้านนี้ทุกวันแต่ไม่ได้ลอง
27. คราวนี้เลยมากินอีกรอบค่ะ เดินมาถึงร้านแต่ร้านยังไม่เปิด แต่มีคนมาเข้าคิวรอแล้วค่ะ มีก่อนหน้าเรา 1 คิว สักพักก็มีคนมาต่อเราอีก 3 คิวค่ะ
28. ร้านไม่ได้ใหญ่มาก นั่งได้ประมาณ 15-20 ที่แบบอัดๆ กันค่ะ
29. หลังจากร้านเปิดพนง.จะเรียกเข้าไปทีละคิวค่ะ พนง.จะให้เราสั่งอาหารที่ตู้กดหน้าร้านแล้วค่อยพาไปที่โต๊ะค่ะ ถ้าคิวก่อนหน้าเรามากันหลายคนก็จะรอนานนิดนึงค่ะ
30. ตามรูปเลยค่ะ ไหนๆ ก็มาละ จัดไปคนละตัว ถ้าจำไม่ผิดราคาจะอยู่ที่ 2,500y ค่ะ
31. ปกติจานนี้เขาจะให้ข้าวมาประมาณ 300g ถ้าคิดว่าไม่พอซื้อข้าวเพิ่มได้ค่ะแต่ต้องแจ้งตั้งแต่ตอนกดสั่งอาหาร หรือถ้ารู้สึกว่าข้าวเยอะไปก็ขอเขาลดได้ค่ะ เราเน้นปลาเลยของข้าวเขาแค่ครึ่งเดียวค่ะ
32. กินเสร็จออกจากร้านมานี้ตกใจเลย คนมายืนรอคิวเพียบเลย
33. อิ่มแล้วก็ออกเที่ยวได้ค่ะ ภาระกิจแรกคือต้องแลก World Heritage Pass ที่จะใช้ที่ Nikko ก่อนค่ะ
34. หลังจากซื้อ Pass ทาง net เราจะได้ Voucher มาค่ะ ต้องเอา Voucher นี้มาแลก Pass ตัวจริงที่สนง.ท่องเที่ยวที่ สถานี Tobu Asakusa อีกทีค่ะ
35. จุดหมายแรก Odaiba ค่ะ จาก Asakusa นั่ง รถไฟ Ginza Line ไปลงสถานี Shimbashi เพื่อเปลี่ยนขบวนเป็นรถไฟสาย Yurikamome
36. ถ้าจะไปดู Rainbow Bridge, Statue of Liberty และ Gundam Base เราว่าสถานีปลายทางที่ใกล้สุดคือสถานี Daiba ค่ะ
37. จากสถานี Daiba เดินไป Aqua City ก็จะเจอ Rainbow Bridge กับ Statue of Liberty ค่ะ แถมด้วย Tokyo Tower แบบลิบๆ
38. ถ้ามาที่ Odaiba แล้วไม่ได้ไป Gundam Base ก็เหมือนขาดอะไรไปอย่างนึงค่ะ
39. Unicorn Gundam หรือ RX-0 หน้าห้าง DiverCity Tokyo Plaza ค่ะ Gundam Base จะอยู่ชั้นบนสุดของห้างนี้ค่ะ
40. ความพิเศษของ Unicorn Gundam ตัวนี้คือมันแปลงร่างได้ค่ะ ในรูปน้องกำลังอยู่ใน Destroy Mode ค่ะ
41. ก่อนไป Gundam Base ขอเพิ่มน้ำตาลในเลือดนิดนึงค่ะ
42. สายไหม + ไอติม กิ๊บเก๋ไม่เบา ราคาก็เช่นกันค่ะ
43. Gundam Base ที่นี่มีของให้เลือกเยอะแยะ ส่วนใหญ่จะเป็น SD RG HG และ MG ค่ะ มีตัวที่ต่อเสร็จแล้วให้ดูเพียบ พวก PG นี่น่าจะมีโชว์ครบทุกตัวเลยค่ะ ละลานตา เปิดโลกของเล่นเด็กผู้ชายสำหรับเรามาก
44. ส่วนแฟนนี่ไม่ต้องพูดถึง เดินส่องตู้โชว์ทุกตู้ เดินดูทุกหิ้ง...... แต่ไม่ได้ซื้ออะไรกลับมานะคะ
45. แฟนบอกมีแต่ตัวที่ไม่อยากได้.... T T ส่วนเราผู้ซึ่งเคยต่อแต่ SD และอยากจะลองต่อ MG ดูก็หาซื้อตัวที่อยากได้ไม่ได้เช่นกันค่ะ
46. ที่ Gundam Base เขาให้สิทธิ์ซื้อสินค้าได้วันละ 1 ครั้งต่อคนนะคะ อยากได้อะไรก็เลือกให้ครบแล้วค่อยไปจ่ายตัง
47. ขากลับ RX-0 แปลงร่างกลับเป็น Unicorn Mode ค่ะ
48. จาก Odaiba ไปต่อกันที่ Tokyo Tower ค่ะ นั่งรถไฟจากสถานี Odaiba ไปลงสถานี Akabanebashi แล้วเดินต่อค่ะ มีเดินขึ้นเนินนิดหน่อย
49. จากสถานีเดินไปอีกนิดนึงค่ะ ระหว่างทางเจอรถขายมันเผา และต้องเดินขึ้นเนินนิดนึงค่ะ
50. ถ้าจะขึ้น Tokyo Tower ชั้น Top Deck เขาจะให้ขึ้นเป็นรอบๆ นะคะ เราได้รอบที่ 172 ช่วงเวลา 17.15 - 17.35 ค่ะ
แชร์ประสบการณ์ : เที่ยว Tokyo, Kawaguchiko, Nikko
Day 1 Bangkok - Tokyo
1. ไม่ได้มาเที่ยวญี่ปุ่นนานนนนนนนนนมากกกกกกกกกค่ะ น่าจะ 10 ปีกว่าๆ เห็นใครๆ ก็ไป กระตุ้นต่อมเที่ยวมากกกกกกกกกกก.........ค่ะ ยังมีไมล์เหลือเลยรีบแลกเลยค่ะ เที่ยวแก้แค้นโควิทที่ทำให้ทุกคนเสียเวลาไป 3 ปี!!!!
2. งวดนี้ไปทั้งที่เคยไปแล้วและยังไม่ไม่เคยไปค่ะ มีเวลาเที่ยว 5 วัน ลาได้เท่านี้ ลามากกว่านี้ก็ได้แต่กลับมาอาจจะโดนเจ้านายและลูกน้องด่าได้ค่ะ
3. สำหรับ 5 วันนี้ วันแรกจะเดินเที่ยวใน Tokyo วันที่ 2 - 3 ไป Kawaguchiko วันที่ 4 ไป Nikko และวันสุดท้ายเที่ยว Tokyo แบบกรุบกริบๆ ก่อนกลับบ้านค่ะ
4. มีแค่ Kawaguchiko ที่ไม่เคยไป แผนเที่ยวงวดนี้เลยจะหลวมๆ สบายๆ ไม่รีบค่ะ
5. วันแรกที่สนามบินค่ะ งวดนี้บินกับการบินไทย check in counter เปืดให้ check in ก่อนเครื่องออกประมาณ 2.5 ชม. ค่ะ
6. แต่งวดนี้มีทางเลือกเพิ่มขึ้นคือเราสามารถ check in แบบ self-service ได้ที่เครื่องเหมือนหลายๆ ประเทศแล้วค่ะ
7. หลังจากยันตัวตนด้วย passport กรอกหรือ scan booking number แล้วตอบคำถามนิดหน่อย เครื่องก็ตะ print boarding pass กับ luggage tag ให้เราค่ะ
8. เอา luggage tag ไปติดที่หูกระเป๋า จากนั้นก็เอาไป drop ได้เลยค่ะ ขั้นตอนการ drop กระเป๋าก็ไม่ได้ยุ่งยากค่ะ ทำตามที่เครื่องบอก ยกกระเป๋าขึ้นสายพาน scan boarding pass และ luggage tag จากนั้นเครื่องก็จะจัดการให้ค่ะ
9. ถ้าติดปัญหาก็สามารถถามน้องจนท.แถวนั้นได้ค่ะ มีจนท.ดูแลอยู่
10. หลังจาก load กระเป๋าเราก็ไปกินข้าวที่ S&P ไป shopping ด้านในนิดหน่อยแล้วไปนั่ง Lougue ของ Miracle ค่ะ ได้บัตรฟรีมา 2 ใบพอดี
11. หมูกระเทียมไข่ข้นกับกระเพาะปลาเป็นเมนูประจำที่สั่งที่ S&P เลยค่ะ คือมันกำลังพอดีๆ ไม่อิ่มไปค่ะ จะได้ไปกินใน Miracle Louge ได้อีก 55555
12. ใน Louge ไม่ได้ถ่ายมาค่ะ เกรงใจคนอื่น วันที่ไปเขาเสริฟข้าวมันไก่แล้วก็เกี๊ยวน้ำ ข้าวมันไก่ก็ใช่ได้นะคะ ส่วนเกี๊ยวน้ำไม่ได้ลองค่ะ
13. ส่วนสลัด น้ำ เดินไปตักเองหยิบเองได้ตลอดเวลาค่ะ
14. นั่งหลับๆ ตื่นๆ ไปหลายรอบ จากนั้นก็เดินไปที่ gate ค่ะ ขึ้นเครื่องแล้วก็หลับยาวค่ะ
15. ถึง Tokyo ตอนเช้า ผ่านตม.แล้วก็นั่งรถไฟเข้าเมือง เอกากระเป่าไปฝากที่รร.ก่อนออกไปเที่ยวค่ะ รอบนี้เราพักแถวๆ Asakusa ค่ะ
16. เราซื้อตั๋วรถไฟเป็นเที่ยวๆ เอานะคะ ไม่ได้ใช้ Pass ลองคำนวนดูแล้วไม่น่าจะใช้คุ้มค่า Pass ค่ะ
17. ยกเว้นวันที่ไป Nikko ที่ซื้อ World Heritage Pass ซึ่งก็ เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดเพราะไม่คุ้มเช่นกันค่ะ
18. จากสนามบิน Narita นั่งรถไฟประมาณชม.นึงก็ถึง Asakusa ขนาดเป็นรถด่วนนะเนี่ย
19. ตอนนั่งรถไฟถ้าใครไม่ถนัดจำสถานีที่จะลงเป็นชื่อสถานีก็จำเป็นรหัสสถานีก็ได้ค่ะ เช่น A18
20. สำหรับตั๋วรถไฟจะซื้อเที่ยวๆ ไปหรือจะใช้บัตรเติมเงินแบบ Suica หรือ Pasmo ก็สะดวกดีค่ะ
21. ปกติแต่ละสถานีจะมีบันไดเลื่อนและลิฟต์ให้ใช้ค่ะ แต่ก็ไม่ได้มีทุกทางออกนะคะ อย่างทางออกที่เราใช้ไม่มีลิตฟ์และบันไดเลื่อน ต้องแบกกระเป๋าเดินทางเดินขึ้นบันไดเองค่ะ
22. ถ้าเดินทางพร้อมผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องการเดินตอนเลือกรร.อาจจะต้องเล็งดีๆ ว่ารร.อยู่ใกล้ทางออกที่มีลิตฟ์หรือเปล่านะคะ
23. วิวจาก lobby รร. ค่ะ เห็นวัด Sensoji, Tokyo Sky Tree, และตึก Asahi ค่ะ
24. หลังจากฝากกระเป๋าเรียบร้อยก็ไปหาอะไรกินแบบจริงๆ จังๆ ค่ะ ร้าน Unatoto แถว Asakusa
25. เรากินปลาไหลครั้งแรกที่ร้านนี้ค่ะ นั่งรถไฟถึง Asakusa ตอนมืดๆ มีร้านนี้เปิดอยู่ร้านเดียวเลยเข้าไปกิน ตอนนั้นไม่ได้คาดหวัง กะว่ากินเร็วๆ แล้วรีบกลับไปนอน ปรากฏว่าอร่อยแหะ
26. ติดใจมาก อยากกินอีก แต่วันรุ่งขึ้นต้องกลับแล้วเลยอดค่ะ ตอนนั้นยังนึกเสียดายอยู่เพราะเดินผ่านร้านนี้ทุกวันแต่ไม่ได้ลอง
27. คราวนี้เลยมากินอีกรอบค่ะ เดินมาถึงร้านแต่ร้านยังไม่เปิด แต่มีคนมาเข้าคิวรอแล้วค่ะ มีก่อนหน้าเรา 1 คิว สักพักก็มีคนมาต่อเราอีก 3 คิวค่ะ
28. ร้านไม่ได้ใหญ่มาก นั่งได้ประมาณ 15-20 ที่แบบอัดๆ กันค่ะ
29. หลังจากร้านเปิดพนง.จะเรียกเข้าไปทีละคิวค่ะ พนง.จะให้เราสั่งอาหารที่ตู้กดหน้าร้านแล้วค่อยพาไปที่โต๊ะค่ะ ถ้าคิวก่อนหน้าเรามากันหลายคนก็จะรอนานนิดนึงค่ะ
30. ตามรูปเลยค่ะ ไหนๆ ก็มาละ จัดไปคนละตัว ถ้าจำไม่ผิดราคาจะอยู่ที่ 2,500y ค่ะ
31. ปกติจานนี้เขาจะให้ข้าวมาประมาณ 300g ถ้าคิดว่าไม่พอซื้อข้าวเพิ่มได้ค่ะแต่ต้องแจ้งตั้งแต่ตอนกดสั่งอาหาร หรือถ้ารู้สึกว่าข้าวเยอะไปก็ขอเขาลดได้ค่ะ เราเน้นปลาเลยของข้าวเขาแค่ครึ่งเดียวค่ะ
32. กินเสร็จออกจากร้านมานี้ตกใจเลย คนมายืนรอคิวเพียบเลย
33. อิ่มแล้วก็ออกเที่ยวได้ค่ะ ภาระกิจแรกคือต้องแลก World Heritage Pass ที่จะใช้ที่ Nikko ก่อนค่ะ
34. หลังจากซื้อ Pass ทาง net เราจะได้ Voucher มาค่ะ ต้องเอา Voucher นี้มาแลก Pass ตัวจริงที่สนง.ท่องเที่ยวที่ สถานี Tobu Asakusa อีกทีค่ะ
35. จุดหมายแรก Odaiba ค่ะ จาก Asakusa นั่ง รถไฟ Ginza Line ไปลงสถานี Shimbashi เพื่อเปลี่ยนขบวนเป็นรถไฟสาย Yurikamome
36. ถ้าจะไปดู Rainbow Bridge, Statue of Liberty และ Gundam Base เราว่าสถานีปลายทางที่ใกล้สุดคือสถานี Daiba ค่ะ
37. จากสถานี Daiba เดินไป Aqua City ก็จะเจอ Rainbow Bridge กับ Statue of Liberty ค่ะ แถมด้วย Tokyo Tower แบบลิบๆ
38. ถ้ามาที่ Odaiba แล้วไม่ได้ไป Gundam Base ก็เหมือนขาดอะไรไปอย่างนึงค่ะ
39. Unicorn Gundam หรือ RX-0 หน้าห้าง DiverCity Tokyo Plaza ค่ะ Gundam Base จะอยู่ชั้นบนสุดของห้างนี้ค่ะ
40. ความพิเศษของ Unicorn Gundam ตัวนี้คือมันแปลงร่างได้ค่ะ ในรูปน้องกำลังอยู่ใน Destroy Mode ค่ะ
41. ก่อนไป Gundam Base ขอเพิ่มน้ำตาลในเลือดนิดนึงค่ะ
42. สายไหม + ไอติม กิ๊บเก๋ไม่เบา ราคาก็เช่นกันค่ะ
43. Gundam Base ที่นี่มีของให้เลือกเยอะแยะ ส่วนใหญ่จะเป็น SD RG HG และ MG ค่ะ มีตัวที่ต่อเสร็จแล้วให้ดูเพียบ พวก PG นี่น่าจะมีโชว์ครบทุกตัวเลยค่ะ ละลานตา เปิดโลกของเล่นเด็กผู้ชายสำหรับเรามาก
44. ส่วนแฟนนี่ไม่ต้องพูดถึง เดินส่องตู้โชว์ทุกตู้ เดินดูทุกหิ้ง...... แต่ไม่ได้ซื้ออะไรกลับมานะคะ
45. แฟนบอกมีแต่ตัวที่ไม่อยากได้.... T T ส่วนเราผู้ซึ่งเคยต่อแต่ SD และอยากจะลองต่อ MG ดูก็หาซื้อตัวที่อยากได้ไม่ได้เช่นกันค่ะ
46. ที่ Gundam Base เขาให้สิทธิ์ซื้อสินค้าได้วันละ 1 ครั้งต่อคนนะคะ อยากได้อะไรก็เลือกให้ครบแล้วค่อยไปจ่ายตัง
47. ขากลับ RX-0 แปลงร่างกลับเป็น Unicorn Mode ค่ะ
48. จาก Odaiba ไปต่อกันที่ Tokyo Tower ค่ะ นั่งรถไฟจากสถานี Odaiba ไปลงสถานี Akabanebashi แล้วเดินต่อค่ะ มีเดินขึ้นเนินนิดหน่อย
49. จากสถานีเดินไปอีกนิดนึงค่ะ ระหว่างทางเจอรถขายมันเผา และต้องเดินขึ้นเนินนิดนึงค่ะ
50. ถ้าจะขึ้น Tokyo Tower ชั้น Top Deck เขาจะให้ขึ้นเป็นรอบๆ นะคะ เราได้รอบที่ 172 ช่วงเวลา 17.15 - 17.35 ค่ะ