สวัสดีค่ะเพื่อนๆสมาชิก เรามีโอกาสได้ไปสัมผัสเมืองรองต้องมนต์ 2 จังหวัดเป็นระยะเวลา 3 วัน 2 คืน
ที่จังหวัดปราจีนบุรี และสระแก้ว จึงอยากมาเล่ามนต์เสน่ห์และความประทับใจจากการท่องเที่ยวในครั้งนี้ค่ะ
เริ่มกันที่แรก พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร
ที่นี่เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการถาวร มีหลายโซนมากเลยค่ะ ทั้งเกี่ยวข้องกับการแพทย์แผนไทย สมุนไพรไทย ประวัติศาสตร์ เป็นต้น
ได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลินในการเดินชมมากๆ
ซึ่งไฮไลต์ของการอยากมาที่นี่สำหรับเราคือตัวตึกนี่แหละค่ะ ก่อสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมยุคบาโรก (Baroque) ของยุโรป
มีความสวยงาม แปลกตา เหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่ในละครพีเรียดเลยค่ะ
ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2452 โดยท่านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) เพื่อใช้เป็นที่ประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์อีกหลายพระองค์ เมื่อครั้งเสด็จมณฑลปราจีนบุรี โดยที่ท่านเจ้าของตึกไม่เคยใช้ตึกหลังนี้เป็นที่พำนักส่วนตัวเลยตราบจนสิ้นอายุขัย
หลังจากเจ้าพระยาอภัยภูเบศรอสัญกรรม ตึกหลังนี้ตกเป็นของตระกูลอภัยวงศ์ และได้ถวายกรรมสิทธิ์ในตึกตลอดจนที่ดินรอบบริเวณให้กับพระนางเจ้าสุวัทนาฯ ซึ่งเมื่อพระองค์ไปประทับที่ประเทศอังกฤษ จึงประทานที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด เพื่อใช้เป็นสถานพยาบาลสำหรับทหารและประชาชนทั่วไป และภายหลังได้โอนมาเป็นของกรมสาธารณสุข จัดตั้งเป็นโรงพยาบาลปราจีนบุรี และได้เปลี่ยนชื่อเป็น โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งต่อมาโรงพยาบาลจึงจัดทำโครงการพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทย เพื่อให้เป็นแหล่งการศึกษา ค้นคว้า อ้างอิงรวบรวมการอนุรักษ์ตำรายาไทย การแพทย์ไทย การแพทย์พื้นบ้านของจังหวัดปราจีนบุรีค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวถัดมา วัดแก้วพิจิตร
ไฮไลท์ของวัดนี้อยู่ที่ พระอุโบสถ ที่สร้างด้วยอิฐสีแดงและสีชมพู ตกแต่งด้วยลวดลายสวยงามของ 4 วัฒนธรรมด้วยกัน ได้แก่ ไทย จีน ยุโรป และ เขมร รายละเอียดด้านบนหลังคาและบันไดจะเป็นศิลปะจีน คือมีลวดลายมังกร ส่วนศิลปะแบบไทยก็จะปรากฏให้เห็นบนผนังด้านนอก ซึ่งมีภาพปูนปั้นตัวละครในเรื่องรามเกียรติ์ รวมถึงรายละเอียดตามจุดต่างๆ เช่น ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ในขณะที่ตัวเสาที่ค้ำพระอุโบสถมีกลิ่นอายของศิลปะกรีกโครินเธียนส์ ส่วนซุ้มประตูแก้ว และกำแพงแก้วรอบอุโบสถจะเป็นศิลปะแบบเขมร ถือเป็นการผสมผสานศิลปะของแต่ละชาติได้อย่างลงตัว
เดินทางต่อไปยังจุดชมพระอาทิตย์ตก ผาเก็บตะวัน อุทยานแห่งชาติทับลาน
อากาศบนนี้ดีมาก มีหมอกสวยๆให้ชื่นใจด้วยค่ะ มีลานสำหรับกางเต้นท์ให้ด้วยนะคะ
ตกค่ำเข้าพักที่ The Farm resort & Restuarant ค่ะ ที่พักบรรยากาศดีร่มรื่น อาหารอร่อยทั้งมื้อเย็นและมื้อเช้าเลยค่ะ
ที่พักจะอยู่กลางบึงน้ำเลยนะคะ ตื่นมาเห็นวิวสวยๆ สดชื่นมากๆเลยค่ะ
เดินทางไปต่อกันที่จังหวัดสระแก้ว
จุดหมายแรก ละลุ หรือ ละลุดินแดนมหัศจรรย์
(ละลุ เป็นภาษาเขมร แปลว่าทะลุ)
เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากน้ำฝนกัดเซาะ ยุบตัวหรือพังทลายของดิน เมื่อถูกลมกัดกร่อนจึงมีลักษณะเป็นรูปต่างๆ คล้ายกำแพงเมืองหน้าผา
ที่มีความสวยงามและแปลกตาแตกต่างกันตามจินตนาการของแต่ละคนเลยค่ะ
ต้องนั่งรถอีแต๊กไป เนื่องจากรถยนต์เข้าไม่ได้ค่ะ อันนี้แหละคือความเก๋อีกอย่างของที่นี่ เนื่องจากอาจทำให้ดินยุบตัว และเกิดความเสียหายของละลุได้ค่ะ
สถานที่ถัดมาคือ ปราสาทสด๊กก๊อกธม ปราสาทขอมโบราณ
และโบราณสถานสำคัญของจังหวัดสระแก้ว สร้างขึ้นด้วยหินศิลาแลง ตามลักษณะศิลปะขอมแบบคลัง-บาปวน
สิ่งที่มีคุณค่าและสำคัญยิ่งของปราสาทสด๊กก๊อกธม คือ การพบหลักศิลาจารึกสด๊กก๊อกธม (หลักที่ 2) ซึ่งจดบันทึกเรื่องราว ประวัติศาสตร์ของชนชาติขอมเป็นช่วงระยะเวลานานถึง 200 ปี นับจากรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 (พ.ศ. 1345-1393) กษัตริย์ผู้สถาปนาอาณาจักรเมืองพระนคร (Angkor) และเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบเทวราชค่ะ
ปราสาทแห่งนี้ก่อสร้างด้วยหินและศิลาแลง แบบสถาปัตยกรรมเขมร ประกอบด้วยอาคารสำคัญ ได้แก่ ปราสาทประธาน บรรณาลัย 2 หลัง ล้อมรอบด้วยระเบียงคต กำแพงแก้ว และสระน้ำ รวมถึงบาราย หรือแหล่งเก็บน้ำขนาดใหญ่ บริเวณด้านนอกไม่ไกลจากพื้นที่ปราสาท
ซึ่งที่มาของชื่อสด๊กกีอกธม ภาษาเขมร สด๊ก หรือ “สด๊อก” แปลว่า รกทึบ, “ก๊อก” แปลว่า ต้นกก, “ธม” แปลว่า ใหญ่
สด๊กก๊อกธม จึงหมายถึง ปราสาทที่มีต้นกกขึ้นรกทึบบริเวณหนองน้ำใหญ่นั่นเองค่ะ
ซึ่งช่วงมีนาคมของทุกๆปี จะมีปรากฏการณ์พระอาทิตย์ลอดซุ้มประตูปราสาทสด๊กก๊อกธมทุกบานด้วยค่ะ
จากนั้นแวะสักการะ พระสยามเทวาธิราช
พระสยามเทวาธิราชจำลอง มีความสูง 1.29 เมตร สร้างโดยพระอุทัยธรรมธารี เจ้าอาวาสวัดป่ามะไฟ เมื่อพ.ศ. 2518 ต่อมาราษฎรได้ร่วมกันสร้างบุษบกเป็นที่ประทับ เนื่องจากเกิดสงครามในประเทศเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ติดกับชายแดนอรัญประเทศนานกว่า 7 ปี พระครูอุทัยธรรมธารีจึงได้มอบพระสยามเทวาธิราชจำลองให้ไปประดิษฐาน ณ ชายแดน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่ทหาร ตำรวจ พลเรือน และประชาชน พระสยามเทวาธิราชจึงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวอำเภออรัญประเทศและชาวจังหวัดใกล้เคียงค่ะ
จากนั้นแวะไปเติมความสดชื่นกันที่ น้ำใสเมล่อนฟาร์ม
เมล่อนหวานฉ่ำ มีหลายสายพันธุ์ให้เลือกชิม ปลูกในระบบโรงเรือนค่ะ
คืนนี้แวะนอนบ้านเพื่อนที่อรัญประเทศ เจอกันใหม่เช้าวันรุ่งขึ้นค่ะ
สวัสดีตอนเช้าจากสระแก้วค่ะ
เช้านี้เติมพลังกันด้วย ข้าวต้มดำ หรือข้าวต้มเลือดหมู หรือข้าวต้มเวียดนาม เป็นอาหารเช้าขึ้นชื่อของอรัญประเทศเลยนะคะ
เรียกได้ว่าถ้ามาแล้วไม่ได้ทาน เหมือนมาไม่ถึงอรัญฯเลยค่ะ
ตลาดมิตรภาพชายแดนเองก็คึกคักมากๆเลยค่ะ
อิ่มแล้วก็มาเดินย่อยขึ้นมาชมปราสาทเขาน้อยสีชมพู
ปราสาทหลังนี้เป็นอาคารก่ออิฐไม่สอปูน (ไม่ผสมปูน) เดิมทีมี 3 หลัง พังทลายลงคงเหลือแต่ปรางค์องค์กลางกับเนินดินอีก 2 เนิน ได้พบโบราณวัตถุหลายชิ้นบริเวณ โบราณสถานแห่งนี้ที่สำคัญ ได้แก่ ทับหลังเขาน้อย มีลักษณะศิลปเขมรแบบสมโบร์ไพกุก ติดอยู่เหนือกรอบประตูทางเข้าปรางค์องค์กลาง จารึกเขาน้อย (เป็นจารึกที่เก่าแก่ที่สุดในไทย)
ก่อนเดินทางกลับ แวะทานอาหารเวียดนามเจ๊เง็ก มีอาหารให้เลือกหลากหลาย
รสชาติอร่อยโดนใจทุกเมนูเลยค่ะ
จบกันไปแล้วค่ะสำหรับทริปเมืองรองต้องมนต์ ปราจีนบุรี สระแก้ว
เรียกได้ว่าเก็บความประทับใจกลับไปเต็มๆ ด้วยมนต์เสน่ห์แห่งวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ความสวยงามทางธรรมชาติ และวิถีชีวิตของผู้คน
รอให้นักท่องเที่ยวเดินทางออกไปสัมผัสด้วยตนเองค่ะ
ขอบคุณเพื่อนๆที่ติดตามรับชมกันจนจบทริปนะคะ เจอกันใหม่ทริปหน้านะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ
[CR] ปราจีนบุรี สระแก้ว สัมผัสเสน่ห์เมืองรองต้องมนต์
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้