เมื่อปีที่แล้วเราเลิกกับแฟนช่วงมิถุนายน เป็นแฟนที่คบกันมาหลายปีมากๆ เหตุผลหนึ่งที่บ้านเราไม่ปล่อยเราเรื่องแฟน มีกรอบ บังคับ ห้ามทำนู่นทำนี่ จนในที่สุดก็ต้องเลิกกัน ตอนนั้นร้องไห้เหมือนใจจะขาดอาการหนักแย่มากๆจนได้คุยกับจิตแพทย์และรู้ว่าเราเป็นโรคซึมเศร้าต้องกินยาทุกวันปรับเพิ่มเรื่อยๆจนกินทุกวัน วันละ 3 เม็ด มีอาการนอนไม่หลับต้องกินยานอนหลับ อารมณ์เราแปรปรวนมากๆทักไปหาแฟนเก่าว่าเราป่วย ซึ่งอาการป่วยส่วนหนึ่งมันมันจากเขาและความเครียดจากการสอบก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ของเราสองคนมันระหองระแหงกันตลอด พอถึงวันที่เขาขอบอกเลิกมาโลกทั้งใบเรามันสลายไปเลยค่ะเขาคอยทักมาถามอาการเรา คอยเป็นห่วง ไม่ไปไหน มาหาเราแม้อยู่ในสถานะที่ไม่ใช่แฟนกัน จนวันนึงเขาตกลงจะอยู่ข้างเราเหมือนเดิม โทรคุยกันทุกวัน ส่งข้อความหา มาหากันตลอดเท่าที่จะทำได้เป็นมาได้ 5 เดือน อาการเราดีขึ้นมาก หมอบอกกินยาอีกไม่กี่เดือนเราก็เลิกได้แล้วนะ ตอนนั้นคือดีใจค่ะ จากนั้นไม่นานเราสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงของเขาได้โทรไม่ค่อยรับ ตัดสาย คุยแป้บๆขอวางบอกไม่ว่าง มันชัดเจนว่าเขาเริ่มเบื่อ เหนื่อยหน่ายกับเราแล้ว สุดท้าย เราทักคุยกันอยู่ๆหายไป2 อาทิตย์ ตอนนั้นคือเรารู้ตัวแหละว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราเลือกจะทักหาเขาอีกรอบว่าเรามีอาการกลับมาซึ่งมันเป็นจริงๆเพราะความกังวลจากอาการของเขาแถมคนที่บ้านเราป่วย คำแรกที่เขาตอบกลับมาคือ “เธอต้องการอะไร?” เขาต้องการ move on ต้องการเริ่มต้นใหม่ ไม่อยากอยู่แบบนี้อีกแล้ว เขาบอกเราไม่รู้จักโต ไม่ออกไปใช้ชีวิตซักที เขาต้องการคนที่สามารถใช้ชีวิตกับเขาได้ตลอดเวลา ตลอดเวลาที่เรากลับมาคุยกับเขาเราพยายามเปลี่ยน พยายามให้เป็นอย่างที่เขาต้องการ ให้เขาเห็นว่าเราอยากมีเขาในชีวิตมันช้าแต่เราพยายามอยู่ เราอธิบายไปแต่เขาไม่อยากฟัง เขาเลือกแล้ว เราถึงขั้นอ้อนวอนให้เขาอย่าไป อย่าทิ้งเรา ความรู้สึกร้องแบบจะขาดใจตายมันวนกลับมาอีกครั้ง แต่เขาก็ยังเลือกจะไป เราเลยคิดว่าเราคงเห็นแก่ตัวจริงๆที่ขอให้อยู่กับเราตั้งแต่ป่วย ใช้ข้ออ้างการป่วยมาฉุดรั้งเขาไว้ เราอ่อนแอเกินไป ตอนนี้คือรับรู้ได้เลยว่าเราคงยังไม่หายจากอาการป่วยง่ายๆ ต้องได้กลับไปคุยกับหมอ อยากจะ move on ออกจากความรู้สึกตอนนี้มากๆค่ะ เราสงสารคนรอบข้างเรา สงสารตัวเอง สงสารหัวใจตัวเองมากๆเลย
เราจะออกไปจากความรู้สึกนี้ได้ยังไงคะ ทรมานมากๆ