รถผมครับ จอดรถหน้าบริษัทซึ่งดันต้องเจอแดดเที่ยงถึงบ่ายเต็มๆไปถึงเย็นครับ เรียกว่าร้อนโหดสุดๆ

ก็จอดมาประมาณ 16 ปีครับ

10 ปีแรกครับ รถยังสีสวยใสเลยครับ ดูผ่านๆเหมือนรถใหม่ 

คือผมแทบไม่เข้าร้านล้างรถเลยนะครับ

และโดยส่วนตัวแล้วผมก็ไม่ได้ขยันล้างรถ หรือเคลือบอะไรเลย ล้างแบบง่ายๆใช้น้ำ ผสมน้ำยาอ่อนๆ ล้างให้มันเสร็จเร็วๆไปอย่างงั้น

คิดดูสิครับ ผ่านไปตั้ง 10 ปี เจอแดดเต็มๆยังสวยอยู่เลย 

พอผ่านไปซัก 13 ปีมั่งครับ ผมเริ่มสังเกตว่าบางจุดสีรถมันดูด้านๆไม่เงา เป็นที่กระโปรงหน้ารถ แต่รถมันก็เก่าแล้ว ก็ไม่ได้คิดมาก

จนมีวันนึงเอารถไปเข้าศูนย์ แล้วเค้าล้างรถให้ซึ่งใช้น้ำแรงดันสูงฉีดใส่

พอมาดูที่รถก็พบว่า กระโปรงหน้า และหลังคา เริ่มเห็นสีด่างครับ แต่ไม่ใช่สีลอกนะครับ  แต่เหมือนชั้นแล็กเกอร์มันหลุดไปบางส่วนมากกว่าครับ

และหลังจากนั้นผมก็ไม่ให้ที่ไหนล้างรถอีกเลย

สรุป ก็คือจะเล่าให้ฟังว่า จริงๆแดดก็คงทำลายสีรถจริงแหละครับ แต่มันก็นานมากกว่าจะมีผล

แต่สิ่งนึงที่ผมว่ามีส่วนทำลายสีรถก็คือพวกที่ฉีดน้ำแรงๆใส่รถนะครับ เป็นไปได้นะครับ และการล้างรถบ่อยๆเกินไปก็อาจจะมีส่วนอันนี้เพราะผมล้างรถไม่บ่อยเลยคิดเอง

และมีอีกอย่างครับ ช่วงล่างครับ เต็นท์มาประเมินราคารถผม เค้าก้มดูเค้าบอกว่าดีครับ ไม่เป็นสนิม ทั้งๆที่ผมวิ่งอยู่โซน น้ำกร่อย

อันนี้ผมก็ไม่เคยเคยล้างอัดฉีดเลย

เพียงแต่ระวังเวลาเจอน้ำขึ้นท่วมผมจะขับหลบๆ และขับช้าๆ