เริ่มต้นจากการที่รถผมไปประสบอุบัติเหตุที่ชลบุรี วันที่28/5/66 วันนั้นตั้งใจยกรถกลับมาซ่อมที่กทม.กับอู่ที่เคยเป็นลูกค้ากันมาหลายครั้ง แต่ตอนนั้นต้องรอคิวซ่อมนานมาก จึงตัดสินใจไปอู่ที่อยู่ใกล้ที่พัก (แถวปิ่นเกล้า) รถเสียหายค่อนข้างหนักต้องใช้รถยกมาจากชลบุรี มาถึงอู่นี้วันที่ 29/5/66 ผมได้เข้าไปติดต่อในวันนั้น  ผ่านมา 2 สัปดาห์ (17/6/66) ผมได้เข้าไปดูความคืบหน้าปรากฎว่ายังไม่มีการซ่อมหรือขยับรถไปไหนแต่อย่างใด แต่ก็เข้าใจได้ว่าน่าจะอยู่ระหว่างประสานงาน เสนอราคากับประกัน รวมถึงรออะไหล่ (ประกันชั้น1) หลังจากนั้นอีก 2สัปดาห์ (1//7/66) ได้เข้าไปติดตามความคืบหน้าที่อู่อีกครั้ง พบว่ารถยังคงอยู่ที่เดิม ฝุ่นเริ่มเกาะหนา ทางอู่บอกว่าเนื่องจากอะไหล่ยังมาไม่ครบ ผมก็ยังใจเย็นไม่ได้ว่าอะไร ถัดมาอีก 2 สัปดาห์ (15/7/66) ผมก็เข้าไปติดตามความคืบหน้าอีกครั้ง ปรากฎว่ารถก็ยังคงจอดอยู่ที่เดิม โดยเจ้าของอู่อ้างว่าเนื่องจาก อะไหล่ยังมาไม่ครบ และช่างกลับต่างจังหวัดไปงานศพญาติ ผมเองเริ่มร้อนใจจึงยื่นข้อเสนอไปว่าหากเร่งให้รถเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม จะใส่ซองเพิ่มให้อีก นอกเหนือจากที่ประกันจ่าย อีก 1 สัปดาห์ (22/7/66) ผมจึงไปติดตามที่อู่อีกครั้งซึ่งก็พบภาพเดิมๆ คือรถยังอยู่ที่เดิม แต่ครั้งนี้เจ้าของอู่แจ้งว่าช่างที่กลับต่างจังหวัดไป ไม่มีเงินค่ารถกลับมากทม. หากผมต้องการให้ช่างกลับมาทำรถ จะให้ผมสำรองเงินจ่ายให้ช่างเบิกก่อน 10000 บาท และช่างจะเข้ามาลุยซ่อมให้เสร็จภายในวันที่ 31/7/66 หรืออย่างช้าไม่เกินวันที่ 4/8/66  เพราะรถผมน่าจะมีส่วนต่างในเรื่องของการทำสีเพิ่มอยู่แล้ว เอาไว้ค่อยมาหักลบกันวันที่รับรถ ซึ่งวันนั้นผมเองก็รู้แหละว่ามันไม่ปกติ แต่ก็ยอมจ่ายโดยต่อรองเหลือ 8000 บาท ต่อมาในวันที่ 26/7/66 ได้มีโอกาสผ่านไปที่อู่เลยแวะเข้าไปดู หวังในใจว่าน่าจะมีช่างกำลังทำรถ ปรากฎว่าไม่มี และรถก็ยังอยู่สภาพเดิม ฝุ่นหนามาก คำตอบที่ได้จากเจ้าของอู่คือพรุ่งนี้ (27/7/66) จะเริ่มทำแล้ว และยืนยันว่าจะเสร็จทันกำหนด นั่นหมายถึงอู่มีเวลาทำแค่ 5 วัน (ผมผู้ซึ่งไม่มีความรู้เรื่องการซ่อมรถ ก็ยังรู้ได้เองว่าไม่ทันแน่ๆ แต่ก็ทำใจเพราะอู่เคยบอกว่าช้าสุดไม่เกินวันที่ 4/8/66) แต่ในใจก็คิดว่าแล้วเงินที่เอาไปแล้วบอกจะเริ่มงานเลยล่ะ เอาไปทำอะไร คิดอยู่ 2 วัน ผมก็เข้าไปที่อู่อีกครั้ง (28/7/66) ทุกอย่างเหมือนเดิม ทั้งอู่มีแต่ความเงียบ  เจ้าของอู่บอกว่าช่างหยุด มันเป็นวันหยุดยาว อ้าว!!! วันที่จ่ายเงินให้ 8000 ผมก็ถามแล้วว่าสิ้นเดือนจะหยุดยาวนะ ช่างทำงานเหรอ เจ้าของอู่บอกว่าทำ และจะทำให้เสร็จตรงเวลา มาวันนี้เจ้าของอู่บอกว่าหมายถึงอู่ไม่หยุด แต่ช่างหยุด เท่านั้นแหละ ผมคงไม่ทนอีกต่อไป เพราะที่ผ่านมา 2 เดือนผมใจเย็น และพูดดี มาตลอด แถมใจดีเคยซื้อขนมไปฝากด้วยซ้ำ วันนี้ผมโวยวายหนัก และต้องการขอเงินที่จ่ายไปคืน ทีแรกอู่บอกให้ทิ้งเลขบัญชีไว้แล้วจะโอนให้ภายหลัง แต่ผมไม่ยอม และยืนยันว่าหากไม่โอนเดี๋ยวนี้ผมจะไม่หยุดโวยวาย ไม่กลับ และจะไปแจ้งความ เจ้าของอู่หายไปซักพักและไปขอให้ร้านขายยาข้างๆอู่โอนคืนให้ หลังจากได้เงินผมได้ประสานไปยังอู่ที่ทำประจำ โชคดีที่เค้าช่วยรับเคสต่อ และผมต้องดำเนินการประสางานกับประกันเพื่อขอย้ายอู่ แต่วันนั้นเป็นวันหยุดกว่าจะได้ยกรถไปอู่ใหม่ก็วันจันทร์ (31/7/66) ค่ารถยกก็ต้องจ่ายเอง แต่เป็นการจ่ายที่ผมสบายใจมาก ขอแค่ได้เอารถออกจากอู่สัปปะรังเคนี้ได้ผมก็พอใจแล้ว วันที่ไปยกรถเจ้าของอู่บอกผมว่าตั้งใจจะให้ช่างเข้ามาทำ 3 คน ใช้เวลาทำ 2 วันก็เสร็จ (รถผมตกถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ และไปฟาดกับเสาไฟฟ้า 2 ต้น พังรอบคัน นึกภาพไม่ออกเลยว่าระยะเวลาแค่ 2 วัน เค้าจะเนรมิตให้ผมแบบไหนได้)  ถึงแม้ว่าไปอู่ใหม่จะเหมือนเริ่มต้นใหม่ แต่ก็เป็นการเริ่มต้นที่มั่นใจได้ว่ารถเราจะเสร็จแน่ๆ...สุดท้ายผมขอขอบคุณ และให้เครดิต+++ กับอู่จรัญยนต์ เซอร์วิส มากๆ ที่รับเคสต่อครับ