การแต่งรถ หรือการดัดแปลงสภาพรถ จะยังคงได้รับประกันคุ้มครอง ตามที่ตกลงกันไว้กับบริษัทประกัน เพียงแต่มีข้อจำกัด ที่ชัดเจนว่า ดัดแปลงแบบไหน ยังคุ้มครอง และดัดแปลงแบบไหน ไม่ได้รับการคุ้มครอง โดยที่ยังคงได้รับการคุ้มครองจากประกัน จะต้องเป็นรถที่ดัดแปลงเพื่อความสวยงาม เช่น การติดตั้งอุปกรณ์แต่งรถ การเปลี่ยนยางเป็นล้อแม๊ก การเปลี่ยนไฟแต่งรถ การติดตั้งสเกิร์ทรถยนต์รอบคัน การติดสติ๊กเกอร์ การแต่งทั่วไป เพื่อความสวยงามของรถเหล่านี้ จะยังถือว่าได้รับความคุ้มครองจากประกันตามปกติ แต่ควรแจ้งกับบริษัทประกันให้รับทราบว่าเราตกแต่งส่วนไหนไปบ้าง โดยอาจจะถ่ายรูปพร้อมใบเสร็จ ไปให้บริษัทประกันพิจารณาดูก่อน ว่าการทำแบบนี้ ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อการคุ้มครอง
ส่วนกรณีที่ใครนำไปตกแต่งเพื่อความสวยงามแล้ว ไม่ได้แจ้งกับบริษัทประกันไว้ เพื่อให้พิจารณาตรวจสอบก่อน เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ประกันจะชดเชยให้เฉพาะค่าเสียหายตามอะไหล่เดิมที่ออกจากศูนย์ แต่หากแจ้งแล้ว และได้รับการพิจารณา ประกันจะคุ้มครองอุปกรณ์ที่ตกแต่งรถมูลค่าไม่เกิน 20,000 บาท หากเกินจากนี้ต้องเสียเบี้ยประกันเพิ่มเอง
ดัดแปลงสภาพรถยนต์ แบบไหนไม่ได้รับความคุ้มครอง
เมื่อดัดแปลงสภาพรถยนต์ มันก็มีหลายส่วน ที่จะไม่ได้รับความคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งมันเป็นการดัดแปลงที่ผิดกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ซึ่งที่จะไม่ได้รับความคุ้มครองเลย มีดังนี้
1.ดัดแปลงรถยนต์เพื่อเพิ่มความเร็ว
2.ดัดแปลงท่อไอเสียให้ดัง
3.การดัดแปลงแผ่นป้ายทะเบียน
4.ในกรณีติดตั้งก๊าซ LPG / NGV
5.กฎหมายรถกระบะเสริมข้าง หรือการดัดแปลงสภาพรถกระบะในรูปแบบต่างๆ
ทำอย่างไรไม่ให้ผิดกฎหมาย
สรุปจากที่อธิบายไปก่อนหน้า เราต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็น
-ไม่นำแผ่นป้ายทะเบียนมาดัดแปลงตัดต่ออัดกรอบใหม่เป็นป้ายยาว
-ไม่ติดป้ายทะเบียนที่ทำขึ้นเอง หรือป้ายปลอมซึ่งไม่ใช่เอกสารที่ทางราชการกำหนดให้
-ไม่ทำรถให้โหลดเตี้ยหรือสูงเกินไปตามกฎหมายกำหนด
-ไม่เปลี่ยนสีฝากระโปรงเป็นสีดำ หรือสีอื่น ที่ไม่ตรงกับสีตัวรถ โดยไม่แจ้งกรมการขนส่ง
-ไม่เปลี่ยนท่อไอเสียใหม่ ที่มีความดังเกิน 100 เดซิเบล
-ไม่ทำไฟหน้าหลากสี ที่ผิดเพี้ยนไปจากกำหนดกฎหมาย จนทำให้เกิดอุบัติเหตุต่อผู้อื่นได้ง่าย
-ไม่เปลี่ยนเครื่องยนต์ให้แรงเกินมาตรฐานของตัวเครื่องยนต์ทั่วไป
-ไม่เปลี่ยนเป็น เบาะแต่ง หรือเบาะไฟเบอร์ ที่มีขนาดเกินมาตรฐาน หรือถอดเบาะใดๆของเครื่องโดยสารออก
-ไม่ถอดกระจกมองข้าง หรือมองหลังออก แล้วใส่กระจกเล็กๆ ซึ่งเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ
สำหรับใครที่เคยแต่งรถ แล้วเกิดอุบัติเหตุมาแชร์กันได้เลยนะครับว่าประกันเคลมไหม?
ดัดแปลงสภาพรถ ประกันคุ้มครองมั้ย?
ส่วนกรณีที่ใครนำไปตกแต่งเพื่อความสวยงามแล้ว ไม่ได้แจ้งกับบริษัทประกันไว้ เพื่อให้พิจารณาตรวจสอบก่อน เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ประกันจะชดเชยให้เฉพาะค่าเสียหายตามอะไหล่เดิมที่ออกจากศูนย์ แต่หากแจ้งแล้ว และได้รับการพิจารณา ประกันจะคุ้มครองอุปกรณ์ที่ตกแต่งรถมูลค่าไม่เกิน 20,000 บาท หากเกินจากนี้ต้องเสียเบี้ยประกันเพิ่มเอง
ดัดแปลงสภาพรถยนต์ แบบไหนไม่ได้รับความคุ้มครอง
เมื่อดัดแปลงสภาพรถยนต์ มันก็มีหลายส่วน ที่จะไม่ได้รับความคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งมันเป็นการดัดแปลงที่ผิดกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ซึ่งที่จะไม่ได้รับความคุ้มครองเลย มีดังนี้
1.ดัดแปลงรถยนต์เพื่อเพิ่มความเร็ว
2.ดัดแปลงท่อไอเสียให้ดัง
3.การดัดแปลงแผ่นป้ายทะเบียน
4.ในกรณีติดตั้งก๊าซ LPG / NGV
5.กฎหมายรถกระบะเสริมข้าง หรือการดัดแปลงสภาพรถกระบะในรูปแบบต่างๆ
ทำอย่างไรไม่ให้ผิดกฎหมาย
สรุปจากที่อธิบายไปก่อนหน้า เราต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็น
-ไม่นำแผ่นป้ายทะเบียนมาดัดแปลงตัดต่ออัดกรอบใหม่เป็นป้ายยาว
-ไม่ติดป้ายทะเบียนที่ทำขึ้นเอง หรือป้ายปลอมซึ่งไม่ใช่เอกสารที่ทางราชการกำหนดให้
-ไม่ทำรถให้โหลดเตี้ยหรือสูงเกินไปตามกฎหมายกำหนด
-ไม่เปลี่ยนสีฝากระโปรงเป็นสีดำ หรือสีอื่น ที่ไม่ตรงกับสีตัวรถ โดยไม่แจ้งกรมการขนส่ง
-ไม่เปลี่ยนท่อไอเสียใหม่ ที่มีความดังเกิน 100 เดซิเบล
-ไม่ทำไฟหน้าหลากสี ที่ผิดเพี้ยนไปจากกำหนดกฎหมาย จนทำให้เกิดอุบัติเหตุต่อผู้อื่นได้ง่าย
-ไม่เปลี่ยนเครื่องยนต์ให้แรงเกินมาตรฐานของตัวเครื่องยนต์ทั่วไป
-ไม่เปลี่ยนเป็น เบาะแต่ง หรือเบาะไฟเบอร์ ที่มีขนาดเกินมาตรฐาน หรือถอดเบาะใดๆของเครื่องโดยสารออก
-ไม่ถอดกระจกมองข้าง หรือมองหลังออก แล้วใส่กระจกเล็กๆ ซึ่งเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ
สำหรับใครที่เคยแต่งรถ แล้วเกิดอุบัติเหตุมาแชร์กันได้เลยนะครับว่าประกันเคลมไหม?