วันอังคารที่ 23-5-23 เดินจากที่พักมาทำงานคามปกติ 
เปิดไลน์บริษัทเจอข้อความแจ้งการไปงานฌาปณกิจศพคุณพ่อ ของผู้จัดการแผนกหนึ่งในบริษัท
โดยรถจะออกจากบริษัทเวลา 10.00 น. มีเสื้อขาวทิ้งไว้ในบ้านพัก จึงแจ้งความประสงค์จะไปร่วมงานด้วย
งานจัดที่วัดเขารักษ์ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี โดยอยู่ติดกับชายแดนจังหวัดสุพรรณบุรี
ฤดูร้อนเป็นฤดูที่ไม้ใหญ่ออกดอกสวยงาม โดยเฉพาะต้นหางนกยูงดอกส้ม ซึ่งออกดอกเต็มต้นสองข้างทางไปวัด



12.20 น.วิ่งตามจีพีเอสวนไปวนมา ผ่านจังหวัดสุพรรณบุรีจนมาถึงวัดเขารักษ์





วัดเขารักษ์ เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย 
ตั้งอยู่ในตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี วัดเขารักษ์สร้างเมื่อ พ.ศ. 2429 
ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2461 วัดมีพระปรางค์บนยอดเขารักษ์ มีตำนานเล่าว่า 
ครั้งหนึ่งมีเศรษฐีคนหนึ่งมีลูกสาวแสนสวยจึงหวงแหนลูกสาวมาก ไม่ยอมให้ชายหนุ่มมาติดต่อ 
โดยขังลูกสาวไว้บนยอดเขา เจ้าชายเมืองต่าง ๆ ต้องการได้ลูกสาวเศรษฐีไปเป็นคู่ครอง 
จึงพากันยกกองทัพมาเพื่อจะแย่งชิงต่อสู้กัน ดังปรากฏเป็นชื่อเขาต่าง ๆ เช่น เขาคลุกคลี 
เขาธนู เขาคันหอก ท้ายสุดลูกสาวเศรษฐีตัดสินใจกระโดดลงจากเขาเสียชีวิต 
เศรษฐีคนนั้นมีความโศกเศร้าเสียใจมาก จึงได้ก่อสร้างพระปรางค์ขึ้นบนยอดเขา
และเรียกชื่อว่า เขารักษ์ หรือ เขาลูกรักษ์ พระปรางค์น่าจะสร้างขึ้นในสมัยก่อนอยุธยาถึงอยุธยาตอนต้น 
เป็นปรางค์ขนาดใหญ่ ศิลปะขอม สูง 15 เมตร ก่ออิฐฉาบปูน ยอดปรางค์เป็นกลีบขนุนมี 7 ชั้น 
มีซุ้มจตุรทิศประดิษฐานพระพุทธรูปประทับยืนแต่หักหายไป มีกำแพงแก้วล้อมรอบ 
ภายในกำแพงแก้วมีฐานโบราณสถาน ใบเสมาหินชนวนและเจดีย์รายทรงกลีบมะเฟือง 1 องค์
 องค์ปรางค์คล้ายกับพระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดสุพรรณบุรี 
ซึ่งมีอายุอยู่ในสมัยอยุธยาตอนต้น ส่วนเจดีย์รายทรงกลีบมะเฟืองนั้น
เป็นลักษณะสถาปัตยกรรมสมัยก่อนอยุธยา มีบันไดคอนกรีตเป็นทางเดินขึ้นเขาทั้งหมด 357 ขั้น 
เป็นพระปรางค์องค์เดียวที่สร้างบนยอดเขา (วิกิ)
วัดกว้างขวางมาก ไม่ได้หาข้อมูลวัดมาก่อน จึงไม่ได้แวะชมพระปรางค์บนยอดเขา
แต่ตรงไปศาลาประกอบพิธี ซึ่งเป็นเมรุฌาปณกิจด้วย







เลยเที่ยงแล้วไม่มีอะไรให้กิน ดีที่เตรียมของมา แบ่งให้พนักงานที่มาด้วยกินรองท้อง



13.20 น.เจ้าภาพเชิญให้เป็นประธานจุดเทียนหน้าธรรมาสน์เทศน์





14.20 น.เริ่มพิธีฌาปณกิจ





นอกจากงินส่วนตัวช่วยงานศพแล้ว 
ยังเป็นตัวแทนบริษัท มอบเงินช่วยงานหนึ่งหมื่นบาท



จบงานถามพนักงานว่าทนหิวไหวหรือไม่ 
จะพาไปกินกุ้งเผาที่บางเลน เพราะเป็นทางผ่านกลับบริษัท
ขากลับผ่านสองข้างทางที่เต็มไปด้วยนากุ้ง
หลายปีก่อนเคยมากับที่บริษัทเพื่อมาดูบ่อกุ้ง



รถวิ่งไปทางกำแพงแสนก่อนเลี้ยวไปเส้นบางเลน-ไทรน้อย-บางกรวย



16.10 น.ถึงร้านโจ้กุ้งเผา ซึ่งตั้งอยู่ที่ริมทางหลวงหมายเลข 346 ตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน นครปฐม
ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึงสองทุ่ม จอดรถได้ในปั๊มเชลล์ติดกัน
บริเวณนี้ ก่อนถึงสะพานข้ามคลองพระพิมลประมาณ 500 เมตร
มีร้านกุ้งผาเปิดสองข้างถนนหลายร้าน ร้านที่เคยมากินเมื่อ 5 ปีที่แล้ว คือ ร้านอ้อกุ้งเผา
"เที่ยวไปกินไป by laser @ ข้าวหมูแดงเฮียต๊ะบ้านโป่ง ชมพูพันธุ์ทิพย์กำแพงแสน อ้อกุ้งเผาบางเลน"
https://ppantip.com/topic/37558727
วันนี้ตั้งใจมาร้านโจ้กุ้งเผาที่อยู่เยื้องกันเพื่อเปรียบเทียบกับร้านอ้อ เพราะครั้งที่แล้วนั่งรถเลยร้าน





บรรยากาศร้านสู้ร้านอ้อกุ้งเผาไม่ได้เลย





ถังพักกุ้งว่างแบบนี้แสดงว่ากุ้งเป็นหมด



นั่งในห้องปรับอากาศ



รายการอาหาร



หน้านี้ถูกเหลือเชื่อ ณ ค.ศ.นี้ เกือบทั้งหมดจานละ 20 บาท



ต้องลองตบท้ายด้วยข้าวกะเพราเนื้อ



มากันหกคนและกำลังหิว จัดหนักไปเลย



กุ้งก้ามกรามเลี้ยงเหลือแต่ขนาด 16 ตัวหนึ่งกิโลฯ 450 บาท สั่งไปสองกิโลฯ



ขนาดกำลังกิน









ไม่สนใจน้ำจิ้ม สนใจแต่ความหวานของเนื้อกุ้ง



หัวโตอย่างนี้มันกุ้งมากแน่นอน



หัวกุ้งสุกกำลังดี 





เนื้อแน่นเด้งตึง



ถ้าสองกิโลฯ ยังไม่พอ เดี๋ยวจัดไปอีกหนึ่ง



หอยแตรงลวกพอดีไม่นองเลือด หนึ่งกิโลฯ 280 บาท



เดี๋ยวนี้จะหาหอยแครงขนาดที่เคยกินที่สามย่านเมื่อกว่าสี่สิบปีที่แล้วไม่มี
จะกินหอยแครงใหญ่ ต้องกินหอยแครงญี่ปุ่นตัวละหลายร้อย



ข้าวผัดปูจานใหญ่ 120 บาท



ยำรวมหมึกกุ้ง 100 บาท





ตำปูปลาร้านสองจาน ๆ ละ 20 บาท ราคานี้หาไม่ได้ในกรุงเทพฯ
ไม่กินปลาร้า จานนี้นั่งดูอย่างเดียว



เต็มโต๊ะแล้ว เพิ่มอะไรอีกสักอย่างดี?





"หนูขอกะพงนึ่งมะนาวค่ะ" 
"รับผิดชอบนะ กินไม่หมดไม่ห่อกลับ"
จัดไปหนึ่งตัว 240 บาท



ขอลองข้าวราดกะเพราเนื้อ 40 บาท
แม้เนื้อจะไม่นุ่ม แต่ราคานี้ถือว่าถูกมาก





มื้อนี้อยากดื่มเบียร์เพราะเลยเวลางานแล้ว 
แต่เบียร์ที่ร้านหมดและเซเว่นอยู่ใกล จึงต้องเปลี่ยนเป็นน้ำโซดาและโค้ก





พนักงานสนใจไอศครีม





ลองไอศครีมรสทุเรียน 30 บาท อร่อยหอมทุเรียน





กินหมดจดแบบนี้ใช้ได้ไม่เสียชื่อ



จ่ายไปสองพันไม่ต้องทอน
กลับถึงบริษัทหกโมงกว่าไม่มีโอที
ปรากฏว่ามีหนึ่งคนที่ไม่เคยแพ้กุ้ง วันนี้เกิดแพ้กุ้งคันปากบวม
ต้องไปฉีดยาที่โรงพยาบาลหนึ่งเข็ม ส่วนคนที่แพ้มันกุ้งกินแต่เนื้อกุ้งไม่มีอาการ 
กินกุ้งเลี้ยงเดี๋ยวนี้มีความเสี่ยง เพราะการเลี้ยงกุ้งมีการใช้ใช้ต้านจุลชีพและยาปฏิชีวนะมาก



ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ได้ที่เพจ "เที่ยวไปกินไป by laser"
https://th-th.facebook.com/เที่ยวไปกินไป-by-laser-458383970993701
ที่เอาไว้รวบรวมเรื่องเที่ยวเรื่องกิน ที่สั้นเกินกว่าจะนำมาลงเป็นบทความ
หรือ อยู่ระหว่างรวบรวมเป็นบทความที่สมบูรณ์ ที่อาจใช้เวลาหลายปี
#กินตามอาสาม #อร่อยกับอาสาม #ตามรอยอาสาม #เที่ยวกับอาสาม