ครอบครัวจมไม่ลง

เมื่อก่อนบ้านผมเป็นครอบครัวที่มีฐานะตั้งแต่สมัยปู่ทวด ชีวิตเมื่อก่อนค่อนข้างใช้ชีวิตสุขสบายพ่อผมในสมัยวัยรุ่นก็ใช้เงินสรุ่ยสร่ายกินเที่ยวกับเพื่อนฝูง พ่อผมเป็นคนหน้าใหญ่ชอบเลี้ยงเพื่อนฝูง ตอนผมเด็กประมาณ ป. 4 ป.5 พ่อเหมือนจะไปติดการพนัน และก็ยังคงนิสัยหน้าใหญ่เหมือนเดิมเริ่มเอาทอง เอาทรัพย์สินที่บ้านไปขาย แม่ผมเคยแอบไปดูบิลที่พ่อลืมไว้คืนเดียวพ่อใช้เงินไป 4 หมื่น แม่ผมเครียดมากช่วงนั้น

เหตุการณ์มันเริ่มบานปลายขึ้นตอนที่พ่อตัดสินใจซื้อรถยุโรป พ่อก็เอาที่บ้านไปจำนองเพื่อเอาเงินมาซื้อรถ แถมเอาไปประมูลป้ายทะเบียนมาใส่ด้วย หลังจากนั้นครอบครัวผมก็เริ่มตกต่ำลงเรื่อยๆ จนทางบ้านได้ให้พี่ชายไปกู้สหกรณ์เงินมา 1 ล้าน เพื่อเอาไปปิดหนี้บ้านสุดท้าย ก็ไมได้เอาปิดแค่เอาไปจ่ายบางส่วนที่เหลือเอากินไปใช้ไปหมุนจนหมด ทำให้พี่ชายผมต้องกลายเป็นหนี้ จนถึงปัจจุบันหนี้ทางบ้านปาไป 2 ล้านกว่า อาจะเกือบ 3 ล้าน น้องสาวคนเล็กก็เรียนโรงเรียนเอกชนซึ่งค่าเทอมแพงมาก

ปัจจุบันทางบ้านขาดสภาพคล่องกู้ตรงนั้นไปจ่ายตรงนี้หนี้ทับกันไปเรื่อยๆ ยืมเงินผมไปหมุนทุกเดือนๆ จนมีช่วงหนึ่งที่ผมทะเลาะทางบ้านก็เลยบ่นพ่อกับแม่ไปชุดใหญ่ ผมบอกว่าให้ขายรถขายป้ายทิ้งเพราะว่ามันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น พ่อก็ไม่ยอมเพราะเป็นหน้าเป็นตาแก ซึ่งตอนนี้แทบไม่มีจะกินกันแล้ว ส่วนแม่ก็ยอมพ่อทุกเรื่อง ซึ่งปัจจุบันพ่อกับแม่ก็อายุ 60 แล้วครับ พ่อเป็นข้าราชการบำนาญแต่คงโดนหักจนเหลือไม่กี่บาท ส่วนแม่ก็จะไม่มีรายได้อีกแล้วเมื่อพ้นปี 66

ผมก็บอกว่าให้ขายบ้านทิ้งเอาไปซื้อหลังใหม่นอกเมืองหน่อยก็ได้ราคาสัก 3 ล้าน เงินที่เหลือพ่อกับแม่ก็จะได้ใช้ชีวิตสบายๆ ปลดหนี้ให้พี่ชาย ส่งน้องเรียนต่อมหาลัยน้องกำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยครับ ทางบ้านก็ไม่ยอมขายเพราะบอกเสียดายที่ อายคนในชุมชน เมื่อก่อนช่วงก่อนโควิดมีคนมาเสนอซื้อ 14 ล้านแกก็ไม่ขายจะขาย 18 ล้าน  (บ้านผมอยู่ในย่านเศรษฐกิจ)  ผมก็เลยไม่รู้จะทำยังไงดีอยากให้พ่อแม่แกสบายบ้านจะได้ปลดหนี้สิน ชีวิตจะได้ Reset ใหม่ เพราะไม่งั้นทางบ้านผมก็จะสร้างหนี้แบบนี้วนไปเรื่อยๆไม่จบไม่สิ้นสักที ตอนนี้พ่อก็เลิกนิสัยกินเที่ยวหน้าใหญ่ไปเยอะบ้างแล้ว แต่ก็ต้องหมุนเงินเพื่อทำงานอื่นหลังเกษียณแต่ดูจากสภาพการณ์ดูแล้วคงประคองไม่ไหวแน่ๆ รายจ่ายเพิ่มขึ้นทุกวัน ล่าสุดจะซื้อ Iphone เครื่องใหม่ให้น้องสาวอีก น้องสาวก็ติดหรูมาจากเพื่อนในโรงเรียนเอกชนนั้นแหละครับ ต้องของ Apple เท่านั้นผมปวดหัวมาก

ต้องรอให้เขาคิดได้เองหรือยังไงครับบางที่ผมก็พูดจนท้อทั้งที่ปัญหาทุกอย่างมันก็จะจบ เคลียร์หนี้สินต่างคนต่างแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตบริหารจัดการตัวเองไม่เป็นภาระลูกหลานในอนาคต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่