🔥เผยเบื้องหลังมังงะดัง “ดราก้อนเควสได” หรือ “การผจญภัยอันยิ่งใหญ่ของได” โดย 2 คู่หู นักเขียนและบรรณาธิการของเค้า ซึ่งเป็นคนเดียวกับโทริยามะ อากิระ [ยาวหน่อย แต่น่าสนใจจริงๆนะ 💪]
อาจารย์โคจิ อินาดะ แห่งดราก้อนเควสได พูดคุยกับอดีตบรรณาธิการ คาซูฮิโกะ โทริชิมะ ในหนังสือเล่มใหม่ “เทคนิคมังงะที่ทรงพลังที่สุดของดร.มาชิริโตะ”
■ เช่นเดียวกับ ดร.มาชิริโตะจาก ดร.สลัมป์ “มาทรีฟ” ก็มีต้นแบบมาจากคุณโทริชิมะ นี่เป็นไอเดียของ ริคุ ซันโจ ผู้แต่ง โดยไม่ได้ขออนุญาตก่อน แต่โทริชิมะก็ตามน้ำไปซะเลย
■ โทริชิมะคิดว่า อินาดะ เหมาะสมที่สุดในการทำงานตามสคริปของผู้อื่น ในมุมมองของเขา อินาดะขาดการปล่อยวางแบบ 2 ปรมาจารย์อย่าง โทริยามะ อากิระ (ดราก้อนบอล) และมาซาคาซุ คัตสึระ (วิงแมน) สองท่านนี้จะทิ้งตัวละครที่พวกเขารู้สึกว่าใช้งานไม่ได้ในทันที ขณะที่ในงานโซโล่เดี่ยว อินาดะจะยึดติดกับตัวละครของเขามากเกินไป
■ วัยเด็ก อินาดะได้รับแรงบันดาลใจในการเป็นนักเขียนการ์ตูนจาก “โจ สิงห์สังเวียน” (เห็นได้จากฉากฮุนเคลนอนพัก) อีกเล่มก็คือหนังสือสอนการวาดการ์ตูนของอิชิโนโมริ โชทาโร่
■ อินาดะเข้าร่วมประกวดวาดการ์ตูนหลายครั้งที่โรงเรียน และเข้าเรียนวิศวกรรมตามคำแนะนำของพ่อแม่ แต่หลังจบการศึกษา เขาตัดสินใจว่าจะเป็นนักวาดการ์ตูน แต่เขาไม่สามารถติดต่อกอง บ.ก.ของจัมป์คนไหนได้เลย…นอกจาก โทริชิมะที่เป็นคนแรกที่รับสายเค้า
■ อินาดะรู้จักโทริชิมะมาจาก ดร.มาชิริโตะ เขาเริ่มต้นด้วยการส่งผลงานแนวโรแมนติกคอมเมดี้และนิยายวัยรุ่น คล้ายกับเรื่อง ฮิคารุ 750 ของ อิซามิ อิชิอิ ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้รับการรวมเล่มในเวลาต่อมา (รูปในเม้นท์)
■ โทริชิมะเผยอีกว่า ทักษะการวาดภาพของอินาดะไม่ได้อยู่ในระดับเทียบเท่ากับโทริยามะ หรือคัตสึระ แต่เขาชอบอารมณ์อบอุ่นและการจัดวางองค์ประกอบภาพของอินาดะ และเนื่องจากยังขาดประสบการณ์อยู่ จึงได้มาทำงานเป็นผู้ช่วยของคัตสึระ ซึ่งนั่นทำให้ได้เรียนรู้อะไรเยอะเลย
■ ถึงเวลาที่โทริชิมะต้องลาออกจากตำแหน่ง บ.ก.ของอินาดะเพื่อไปเป็นรองหัวหน้า บ.ก.ของนิตยสาร Jump แต่ก่อนไป เขาอยากให้อินาดะวาดร่างต้นฉบับการ์ตูนเรื่องใหม่ แต่ที่สุดแล้ว อินาดะไม่พอใจกับงานชิ้นนี้และได้ลบมันทิ้งไป จึงทำให้แผนการปั้นงานเดี่ยวของอินาดะต้องพับไป
■ ในช่วงเตรียมการสร้างเกม Dragon Quest IV โทริชิมะได้วางแผนที่จะทำมังงะจากเกม แต่ผู้สร้าง DQ คือ ยูจิ โฮริ งานยุ่งเกินจะเขียนสคริปต์ให้ เลยกลับมาขอความข่วยเหลือจาก ริกุ ซันโจ และถูกปฏิเสธ จึงหันไปหาอินาดะ... ซึ่งจริงๆอินาดะก็ปฏิเสธในครั้งแรกเช่นกัน
■ อินาดะยังอยากจะเขียนงานเดี่ยวของตัวเองอยู่ และกระอักกระอ่วนที่จะทำโปรเจค DQ โทริชิมะเริ่มจะหงุดหงิด (เพราะงานเดี่ยวแรกก่อนหน้าก็เหลวไปทีละ) และบอกไปตรงๆ ว่า ถ้าเขาปฏิเสธงานนี้ก็ไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก อินาดะจึงตกลงลุยโปรเจคนี้ในที่สุด
■ อินาดะรู้สึกว่าเขาสามารถจัดการกับเรื่องราวในซีรีส์นี้ได้ เขาเคยเล่น DQ มาก่อน ประสบการณ์งานเขียนแนวรอมคอมของเขาในช่วงแรก และเขายังได้เรียนรู้เทคนิคการวาดระเบิดในฐานะผู้ช่วยของคัตสึระมาแล้ว อย่างไรก็ตาม ในช่วงสองตอนแรกของดราก้อนเควสได อินาดะยุ่งมาก จนต้องเรียกเพื่อนๆ และครอบครัวมาช่วยงาน
(โทริชิมะหมายเหตุว่า หลายต่อหลายครั้ง โทริยามะ อากิระ ก็เอาครอบครัวมาช่วยงานพวกถมดำเหมือนกัน)
■ สองตอนแรกของ ดราก้อนเควสได (ตอนที่ช่วยชีวิตโกเมะจังจากฮีโร่ตัวปลอม) และอีกสามตอนถัดไป (เมื่อเจ้าหญิงเลโอน่าปรากฏกาย) ได้รับความนิยมอย่างดี จึงได้รับการอนุมัติให้เปิดตัวเป็นซีรีส์ยาวอย่างรวดเร็ว โทริชิมะตรวจสอบร่างของสามตอนต่อไป แล้วมอบงานให้บรรณาธิการคนอื่นดูแลต่อ…
■ ทั้งหมดดูเหมือนจะเร็วเกินไปหน่อยสำหรับอินาดะ แต่ฟีดแบคเชิงบวกได้กระตุ้นเขามาก สคริปต์ของ ริกุ ซันโจ เว้นที่ไว้มากพอที่จะทำให้เขาเพิ่มเติมจินตนาการความคิดของตัวเองลงไป นั่นทำให้ลดความอยากที่จะปั้นซีรี่ย์เดี่ยวของเขาไปได้ ฉากป็อปน้ำมูกยืดก็เป็นไอเดียของเขาเอง ทำให้ซันโจแอบเพลียไปเหมือนกัน 😂
■ เมื่อวาดฉากแอคชั่น อินาดะก็เริ่มคิดว่าสคริปต์ของซันโจ นั้น ทำให้เค้าวาดได้ง่ายขึ้น ฉากแอคชั่นของได จะดูมีสไตล์มากกว่า “หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ” เพราะอินาดะพยายามสุดๆ ให้ทุกอย่างดูเท่ดูคูลที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ซึ่งนั่นทำให้เค้าพัฒนาฝีมือจนถึงทุกวันนี้
■ เมื่อดราก้อนเควสไดจบลง อินาดะหมดแรงสุดๆ โทริชิมะกล่าวว่าถ้าเขายังคงเป็นบรรณาธิการของอินาดะ เขาคงจะให้อินาดะพักผ่อนแค่สองเดือน แล้วจึงค่อยเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับงานถัดไป
■ แต่อย่างที่เห็น โทริชิมะรู้สึกว่า อินาดะทิ้งช่วงพักนานเกินไป (ไดจบปี 1996 กว่าจะเขียนบีท ก็อีก 6 ปี) เขาเสียใจที่ไม่สามารถดึงความสามารถของอินาดะมาใช้ได้อย่างเต็มที่ และคิดว่าบางทีเขาควรจะเล่นบทโหดมากขึ้น เช่นเดียวกับที่เขาได้ทำกับโทริยามะและคัตสึระ
■ อินาดะไม่กลับเข้าสู่สังเวียนวาดการ์ตูนเรื่องยาวในทันที แต่ทว่าเขากลับวาดเรื่องสั้นๆ มาเรื่อยๆ ตลอดหลายปี จนเริ่มมีฟิลลิ่งว่าปล่อยไปไม่ดีแน่ บ.ก.ของเขาจึงแนะนำให้ทำงานร่วมกับซันโจอีกครั้ง จนกลายมาเป็นเรื่อง “Beet นักล่าอสูร” โดยในช่วงแรกที่เขียน เขารู้สึกสบายและคุ้นเคย แต่ตอนนี้เขาเริ่มติดขัดและใช้เวลามากขึ้นๆ
■ โทริชิมะเชื่อว่าคนสร้างสรรค์งานบางครั้งก็อาจติดอยู่กับภาพลักษณ์ของงานในหัวของเค้าและลืมไปว่าจริงๆ แล้วกำลังสร้างผลงานเพื่อใครกันแน่ “คุณต้องส่งต่อความคิดของคุณให้ถึงผู้อ่าน!” นั่นเป็นสิ่งที่โทริชิมะได้สอนอินาดะ และจำมาโดยตลอด
■ อินาดะสรุปว่าตอนนี้ ได ยังคงได้รับความนิยมและคำวิจารณ์ที่ดี และแม้ว่าการวาดการ์ตูนซีรีส์ยาวนี้จะเป็นงานที่บั่นทอนสุขภาพหลังของเขาอย่างแท้จริง แต่สิ่งนี้ทําให้เขายินดีที่ได้ใส่ความพยายามทั้งหมดที่มีในการสร้างมันขึ้นมา…
Respect และขอบคุณครับอาจารย์อินาดะ ที่รังสรรค์สุดยอดผลงานอย่าง…ดราก้อนเควสได…
รูปเพิ่มเติม
https://www.facebook.com/100044507627604/posts/pfbid02hvDYYBYDcAPGMVZcprxH785xu89zFJQM4DzbfEVwoUWWSaCiE9ectASUiTwGLZmil/?mibextid=cr9u03
เผยเบื้องหลังกว่าจะมาเป็นดราก้อนเควสได
🔥เผยเบื้องหลังมังงะดัง “ดราก้อนเควสได” หรือ “การผจญภัยอันยิ่งใหญ่ของได” โดย 2 คู่หู นักเขียนและบรรณาธิการของเค้า ซึ่งเป็นคนเดียวกับโทริยามะ อากิระ [ยาวหน่อย แต่น่าสนใจจริงๆนะ 💪]
อาจารย์โคจิ อินาดะ แห่งดราก้อนเควสได พูดคุยกับอดีตบรรณาธิการ คาซูฮิโกะ โทริชิมะ ในหนังสือเล่มใหม่ “เทคนิคมังงะที่ทรงพลังที่สุดของดร.มาชิริโตะ”
■ เช่นเดียวกับ ดร.มาชิริโตะจาก ดร.สลัมป์ “มาทรีฟ” ก็มีต้นแบบมาจากคุณโทริชิมะ นี่เป็นไอเดียของ ริคุ ซันโจ ผู้แต่ง โดยไม่ได้ขออนุญาตก่อน แต่โทริชิมะก็ตามน้ำไปซะเลย
■ โทริชิมะคิดว่า อินาดะ เหมาะสมที่สุดในการทำงานตามสคริปของผู้อื่น ในมุมมองของเขา อินาดะขาดการปล่อยวางแบบ 2 ปรมาจารย์อย่าง โทริยามะ อากิระ (ดราก้อนบอล) และมาซาคาซุ คัตสึระ (วิงแมน) สองท่านนี้จะทิ้งตัวละครที่พวกเขารู้สึกว่าใช้งานไม่ได้ในทันที ขณะที่ในงานโซโล่เดี่ยว อินาดะจะยึดติดกับตัวละครของเขามากเกินไป
■ วัยเด็ก อินาดะได้รับแรงบันดาลใจในการเป็นนักเขียนการ์ตูนจาก “โจ สิงห์สังเวียน” (เห็นได้จากฉากฮุนเคลนอนพัก) อีกเล่มก็คือหนังสือสอนการวาดการ์ตูนของอิชิโนโมริ โชทาโร่
■ อินาดะเข้าร่วมประกวดวาดการ์ตูนหลายครั้งที่โรงเรียน และเข้าเรียนวิศวกรรมตามคำแนะนำของพ่อแม่ แต่หลังจบการศึกษา เขาตัดสินใจว่าจะเป็นนักวาดการ์ตูน แต่เขาไม่สามารถติดต่อกอง บ.ก.ของจัมป์คนไหนได้เลย…นอกจาก โทริชิมะที่เป็นคนแรกที่รับสายเค้า
■ อินาดะรู้จักโทริชิมะมาจาก ดร.มาชิริโตะ เขาเริ่มต้นด้วยการส่งผลงานแนวโรแมนติกคอมเมดี้และนิยายวัยรุ่น คล้ายกับเรื่อง ฮิคารุ 750 ของ อิซามิ อิชิอิ ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้รับการรวมเล่มในเวลาต่อมา (รูปในเม้นท์)
■ โทริชิมะเผยอีกว่า ทักษะการวาดภาพของอินาดะไม่ได้อยู่ในระดับเทียบเท่ากับโทริยามะ หรือคัตสึระ แต่เขาชอบอารมณ์อบอุ่นและการจัดวางองค์ประกอบภาพของอินาดะ และเนื่องจากยังขาดประสบการณ์อยู่ จึงได้มาทำงานเป็นผู้ช่วยของคัตสึระ ซึ่งนั่นทำให้ได้เรียนรู้อะไรเยอะเลย
■ ถึงเวลาที่โทริชิมะต้องลาออกจากตำแหน่ง บ.ก.ของอินาดะเพื่อไปเป็นรองหัวหน้า บ.ก.ของนิตยสาร Jump แต่ก่อนไป เขาอยากให้อินาดะวาดร่างต้นฉบับการ์ตูนเรื่องใหม่ แต่ที่สุดแล้ว อินาดะไม่พอใจกับงานชิ้นนี้และได้ลบมันทิ้งไป จึงทำให้แผนการปั้นงานเดี่ยวของอินาดะต้องพับไป
■ ในช่วงเตรียมการสร้างเกม Dragon Quest IV โทริชิมะได้วางแผนที่จะทำมังงะจากเกม แต่ผู้สร้าง DQ คือ ยูจิ โฮริ งานยุ่งเกินจะเขียนสคริปต์ให้ เลยกลับมาขอความข่วยเหลือจาก ริกุ ซันโจ และถูกปฏิเสธ จึงหันไปหาอินาดะ... ซึ่งจริงๆอินาดะก็ปฏิเสธในครั้งแรกเช่นกัน
■ อินาดะยังอยากจะเขียนงานเดี่ยวของตัวเองอยู่ และกระอักกระอ่วนที่จะทำโปรเจค DQ โทริชิมะเริ่มจะหงุดหงิด (เพราะงานเดี่ยวแรกก่อนหน้าก็เหลวไปทีละ) และบอกไปตรงๆ ว่า ถ้าเขาปฏิเสธงานนี้ก็ไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก อินาดะจึงตกลงลุยโปรเจคนี้ในที่สุด
■ อินาดะรู้สึกว่าเขาสามารถจัดการกับเรื่องราวในซีรีส์นี้ได้ เขาเคยเล่น DQ มาก่อน ประสบการณ์งานเขียนแนวรอมคอมของเขาในช่วงแรก และเขายังได้เรียนรู้เทคนิคการวาดระเบิดในฐานะผู้ช่วยของคัตสึระมาแล้ว อย่างไรก็ตาม ในช่วงสองตอนแรกของดราก้อนเควสได อินาดะยุ่งมาก จนต้องเรียกเพื่อนๆ และครอบครัวมาช่วยงาน
(โทริชิมะหมายเหตุว่า หลายต่อหลายครั้ง โทริยามะ อากิระ ก็เอาครอบครัวมาช่วยงานพวกถมดำเหมือนกัน)
■ สองตอนแรกของ ดราก้อนเควสได (ตอนที่ช่วยชีวิตโกเมะจังจากฮีโร่ตัวปลอม) และอีกสามตอนถัดไป (เมื่อเจ้าหญิงเลโอน่าปรากฏกาย) ได้รับความนิยมอย่างดี จึงได้รับการอนุมัติให้เปิดตัวเป็นซีรีส์ยาวอย่างรวดเร็ว โทริชิมะตรวจสอบร่างของสามตอนต่อไป แล้วมอบงานให้บรรณาธิการคนอื่นดูแลต่อ…
■ ทั้งหมดดูเหมือนจะเร็วเกินไปหน่อยสำหรับอินาดะ แต่ฟีดแบคเชิงบวกได้กระตุ้นเขามาก สคริปต์ของ ริกุ ซันโจ เว้นที่ไว้มากพอที่จะทำให้เขาเพิ่มเติมจินตนาการความคิดของตัวเองลงไป นั่นทำให้ลดความอยากที่จะปั้นซีรี่ย์เดี่ยวของเขาไปได้ ฉากป็อปน้ำมูกยืดก็เป็นไอเดียของเขาเอง ทำให้ซันโจแอบเพลียไปเหมือนกัน 😂
■ เมื่อวาดฉากแอคชั่น อินาดะก็เริ่มคิดว่าสคริปต์ของซันโจ นั้น ทำให้เค้าวาดได้ง่ายขึ้น ฉากแอคชั่นของได จะดูมีสไตล์มากกว่า “หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ” เพราะอินาดะพยายามสุดๆ ให้ทุกอย่างดูเท่ดูคูลที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ซึ่งนั่นทำให้เค้าพัฒนาฝีมือจนถึงทุกวันนี้
■ เมื่อดราก้อนเควสไดจบลง อินาดะหมดแรงสุดๆ โทริชิมะกล่าวว่าถ้าเขายังคงเป็นบรรณาธิการของอินาดะ เขาคงจะให้อินาดะพักผ่อนแค่สองเดือน แล้วจึงค่อยเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับงานถัดไป
■ แต่อย่างที่เห็น โทริชิมะรู้สึกว่า อินาดะทิ้งช่วงพักนานเกินไป (ไดจบปี 1996 กว่าจะเขียนบีท ก็อีก 6 ปี) เขาเสียใจที่ไม่สามารถดึงความสามารถของอินาดะมาใช้ได้อย่างเต็มที่ และคิดว่าบางทีเขาควรจะเล่นบทโหดมากขึ้น เช่นเดียวกับที่เขาได้ทำกับโทริยามะและคัตสึระ
■ อินาดะไม่กลับเข้าสู่สังเวียนวาดการ์ตูนเรื่องยาวในทันที แต่ทว่าเขากลับวาดเรื่องสั้นๆ มาเรื่อยๆ ตลอดหลายปี จนเริ่มมีฟิลลิ่งว่าปล่อยไปไม่ดีแน่ บ.ก.ของเขาจึงแนะนำให้ทำงานร่วมกับซันโจอีกครั้ง จนกลายมาเป็นเรื่อง “Beet นักล่าอสูร” โดยในช่วงแรกที่เขียน เขารู้สึกสบายและคุ้นเคย แต่ตอนนี้เขาเริ่มติดขัดและใช้เวลามากขึ้นๆ
■ โทริชิมะเชื่อว่าคนสร้างสรรค์งานบางครั้งก็อาจติดอยู่กับภาพลักษณ์ของงานในหัวของเค้าและลืมไปว่าจริงๆ แล้วกำลังสร้างผลงานเพื่อใครกันแน่ “คุณต้องส่งต่อความคิดของคุณให้ถึงผู้อ่าน!” นั่นเป็นสิ่งที่โทริชิมะได้สอนอินาดะ และจำมาโดยตลอด
■ อินาดะสรุปว่าตอนนี้ ได ยังคงได้รับความนิยมและคำวิจารณ์ที่ดี และแม้ว่าการวาดการ์ตูนซีรีส์ยาวนี้จะเป็นงานที่บั่นทอนสุขภาพหลังของเขาอย่างแท้จริง แต่สิ่งนี้ทําให้เขายินดีที่ได้ใส่ความพยายามทั้งหมดที่มีในการสร้างมันขึ้นมา…
Respect และขอบคุณครับอาจารย์อินาดะ ที่รังสรรค์สุดยอดผลงานอย่าง…ดราก้อนเควสได…
รูปเพิ่มเติม
https://www.facebook.com/100044507627604/posts/pfbid02hvDYYBYDcAPGMVZcprxH785xu89zFJQM4DzbfEVwoUWWSaCiE9ectASUiTwGLZmil/?mibextid=cr9u03